พาไปอาบน้ำ -Ep.14-
Ep.14
ตกเย็น
หลังจากฝึกทดสอบฐานที่สามเสร็จแล้ว ทุกคนก็กลับมาที่เต็นท์เพื่อที่จะเตรียมไปอาบน้ำ กลุ่มผมไปอาบรอบแรกกันมาแล้วครับ ตอนนี้ยังเหลือคนที่สระอยู่ รอให้ทุกคนกลับมาผมค่อยพาพระพายไปอาบต่อ คราวนี้ต้องเฝ้าอย่างใกล้ชิดครับ ประมาทไม่ได้ มันอาจไม่โชคดีเหมือนครั้งแรกก็ได้
“ผมจะพาคุณไปอาบน้ำที่สระเดียวกับที่ทุกคนอาบ ตอนนี้ต้องรอให้บางส่วนที่เหลือกลับมาก่อน คุณเตรียมของเลย เดี๋ยวผมจะกลับมาเรียก” ผมเดินมาบอกพระพายที่เต็นท์ เธอนั่งอยู่ในเต็นท์ด้านหน้า กำลังเขียนบางอย่างใส่สมุดโน้ตอยู่ พูดจบผมก็หันหลังกลับเพราะจะไปเร่งคนอื่นๆ ที่เล่นน้ำอยู่ในสระ ช้ากว่านี้มันจะมืดเอาน่ะครับ
“เดี๋ยวค่ะ!”
ผมหันกลับไปมองเธอที่เรียกผมท่าทางเหมือนมีบางอย่างอยากจะพูด เลยเลิกคิ้วถามว่ามีอะไร
“เห็นพวกคุณได้ของสดมา ฉันช่วยทำอาหารมื้อเย็นได้ไหมคะ?”
ของสดเหรอ? นั่นสิ เมื่อกลางวันคนที่หน่วยเอาไข่กับพวกผักมาให้เพราะไม่ได้มาส่งมื้อเย็น ถ้าเธอทำอาหารเป็นก็น่าจะดีกว่าพวกไอ้คินทำ เพราะผมเคยกินฝีมือมันแล้ว ทอดไข่ยังเค็มเลยครับ มีแค่ไอ้ตาร์คนเดียวที่พอจะกินฝีมือมันได้
“งั้นคุณไปช่วยพวกไอ้คินทำก่อนก็ได้ เสร็จแล้วผมจะพาไปอาบน้ำ” ไม่จำเป็นต้องห้ามเธอนี่ครับ ทำอะไรที่มีประโยชน์ได้ก็ควรจะปล่อยให้ทำ ดีกว่าสร้างปัญหาเหมือนที่ผ่านมา
“ค่ะ” เธอรีบเก็บของ แล้วลุกออกจากเต็นท์ไปด้วยรอยยิ้ม จะดีใจอะไรขนาดนั้นครับ ผมไม่ได้สนใจอะไรเธออีก รีบเดินไปที่สระเพื่อเร่งให้พวกนั้นรีบอาบรีบขึ้น ผมไม่อยากให้มันมืด
(Phraphai talk)
“คุณคินคะ”
“ครับคุณพระพาย”
ฉันรีบวิ่งมาหาคุณคินที่กำลังล้างผักอยู่ เอิ่ม...ลุคพ่อครัวไม่ค่อยเหมาะกับเขาเลยแฮะ
“คุณคินจะทำอะไรเป็นมื้อเย็นเหรอคะ?”
“เฮ้ออ~ อย่าถามเลยครับ เพราะผมเองก็ยังไม่รู้เลย ล้างไปงั้นแหละครับผักน่ะ รอไอ้ตาร์มาทำอีกที คนทำอาหารเก่งๆ ก็ไม่ได้มาฝึกสักคน” คุณคินหันมาทำหน้างอแงแล้วทิ้งผักลงในกะละมัง ก่อนจะนั่งลงบนขอนไม้อย่างคนหมดอาลัยตายอยาก
“แล้วนี่คุณตาร์ไปไหนเหรอคะ?” ฉันถามเพราะคุณตาร์ไม่ได้อยู่ตรงนี้ หรือว่าไปอาบน้ำ
“มันไปหาสมุดเมนูอาหารในเต็นท์น่ะครับ มันก็ไม่รู้จะทำอะไร มีแค่ผัก ไข่ เต้าหู้ไข่ แล้วก็อะไรอีกก็ไม่รู้ ที่ผมคิดได้ก็มีแค่ผัดผักกับทอดไข่เท่านั้นแหละครับ”
“ฉันขอดูวัตถุดิบหน่อยได้ไหมคะ?”
“ตามสบายเลยครับคุณพระพาย ช่วยพวกผมคิดเมนูด้วยก็ได้นะครับ จะขอบคุณเป็นอย่างมากเลย”
“อย่าพูดอย่างนั้นเลยค่ะ ฉันเองก็ต้องกินเหมือนกัน ถือว่าช่วยๆ กันทำค่ะ” ฉันเดินมาดูวัตถุดิบในถุงรวมถึงเครื่องปรุงที่ทางหน่วยให้มา เอ...เหมือนคนที่เอาวัตถุดิบมาให้จะตั้งใจให้เราทำสุกี้กินกันนะ ดูสิ มีวุ้นเส้น เต้าหู้ ไข่ไก่ แล้วก็น้ำจิ้มสุกี้เยอะเลย
“เป็นไงครับ พอจะคิดอะไรออกบ้างไหมครับ”
“ฉันว่าของพวกนี้มันทำสุกี้ได้นะคะ เหมือนคนที่เอาวัตถุดิบมาให้อยากให้เราทำอาหารง่ายๆ เสร็จไวๆ แถมยังไม่ต้องปรุงอะไรมากแค่ใส่น้ำจิ้มสุกี้ก็ได้รสชาติอร่อยเหมือนๆ กัน”
“เฮ้ย! นั่นสิ ทำไมผมคิดไม่ออกนะ โอ้โหพูดแล้วหิวเลยครับ”
“อ้าวคุณพระพาย มาช่วยทำอาหารใช่ไหมครับ พอดีเมื่อกี๊เจอผู้กองลักษณ์ เขาบอกว่าคุณพระพายอยู่ที่นี่”
“เฮ่ยไอ้ตาร์ๆ! คุณพระพายบอกว่าทำสุกี้ได้” คุณคินรีบลุกขึ้นไปเขย่าแขนคุณตาร์อย่างตื่นเต้น อ่าๆ ฉันเชื่อละว่าเขาคิดเมนูมื้อเย็นไม่ออกจริงๆ พอฉันเสนอไปหน้าคุณคินก็บานเชียว
“เออว่ะไอ้คิน ทำไมคิดไม่ออกวะ ขอบคุณมากนะครับคุณพระพาย”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเองก็ต้องกินเหมือนกัน ช่วยๆ กันค่ะ ให้ฉันช่วยอะไรไหมคะ” จริงๆ ฉันแอบเห็นวัตถุดิบตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วค่ะ มองปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าอาหารมื้อนี้ควรเป็นอะไร และฉันเองก็อยากกินสุกี้มากๆ ด้วย ไม่มีเนื้อสัตว์ก็ไม่เป็นไร ฉันก็ชอบกินผักอยู่แล้ว แต่ต้องเป็นผักที่ต้มนิ่มๆ แบบสุกี้หรือไม่ก็ราดหน้านะคะ ผักสดกรอบอะไรแบบนั้นขอบายค่ะ
“อย่าดีกว่าครับ คุณพระพายรีบไปอาบน้ำดีกว่า เดี๋ยวจะมืดเอานะครับ ไม่ต้องห่วงทางนี้ ผมจัดการได้ เมนูง่ายๆ ครับ”
“นั่นน่ะสิครับ ถ้าไปตอนมืดระวัง....” คุณคินแกล้งทำมือขย้ำมาใกล้ฉันเรื่อยๆ ฉันรู้ว่าเขากำลังพูดถึงอะไร เล่นเอาฉันขนลุกไปหมดแล้วค่ะ ไม่อาบน้ำได้ไหม คงไม่ได้สินะ
“อย่าไปแกล้งคุณพระพายเขา มึงดูด้วย มีสายตาอาฆาตจ้องมึงอยู่ไอ้คิน”
“สายตาอาฆาตอะไรวะ?”
ฉันกับคุณคินหันไปมองตามคุณตาร์ก็เห็นว่าคุณผู้กองน้ำแข็งกำลังเดินมา ว่าแต่...ทำไมต้องจ้องมาที่ฉันด้วยล่ะ แล้วทำไมฉันต้องหลบตาเขาด้วยเนี่ย
“เอ่อผู้กองครับ ผมพึ่งคิดเมนูออก ขออนุญาตไปทำมื้อเย็นก่อนนะครับ” คุณคินโค้งคำนับอีตาผู้กองน้ำแข็งแล้วเผ่นแนบไปเลยค่ะ ส่วนคุณตาร์ก็ตีเนียนถือกะละมังผักไป เหลือแต่ฉันคนเดียวที่ยืนเผชิญหน้ากับหมอนี่
“ไปอาบน้ำ หรือจะรอให้มืดกว่านี้ครับ?”
“ค่ะ” ฉันตอบไปไม่ได้สบตากับหมอนี่ตรงๆ หรอกค่ะ ก่อนจะรีบวิ่งกลับมาที่เต็นท์เอาเสื้อผ้ากับของใช้ส่วนตัว แล้วก็วิ่งมาที่ทางไปสระซึ่งหมอนั่นยืนรอฉันอยู่ก่อนแล้ว พอฉันมาถึงเราก็เดินไปด้วยกัน ต่างคนก็ต่างไม่มีใครพูดอะไร จนมาถึงสระที่พวกผู้ชายใช้อาบน้ำกัน
“ผมจะยืนหันหลังให้อยู่หลังต้นไม้ คุณก็รีบอาบจะได้รีบกลับกัน” พูดจบเขาก็ไปยืนกอดอกอยู่หลังต้นไม้ ฉันเลยค่อยๆ เดินไปที่ขอบสระ มันไม่ไกลกันเท่าไหร่ค่ะ
เอิ่ม...ทำไงดีฉันไม่กล้าเปลี่ยนใส่กระโจมอกเลย ฉันรู้ว่าเขาไม่มีทางแอบมองฉัน แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ไม่กล้าอยู่ดี
“ผมให้เวลาคุณห้านาทีนะคุณพระพาย! หมดเวลาผมจะกลับเต็นท์ทันทีนะครับ” เสียงเข้มตะโกนมาจากหลังต้นไม้ อะไรนะ! จะบ้าหรือไง
“ทำไมให้เวลาฉันน้อยจังล่ะ ฉันยังไม่ได้เปลี่ยนชุดเลยนะ” ฉันตะโกนถามกลับพร้อมกับรีบเปลี่ยนชุด ไม่รีบไม่ได้ค่ะ เกิดเขาทิ้งฉันแล้วกลับไปก่อนจริงๆ ฉันก็แย่น่ะสิ
“ผมไม่สน คุณต้องจัดการตัวคุณเองแล้วล่ะ”
อีตาบ้า! เมื่อกลางวันยังทำท่าจะจูบฉันอยู่เลย อร๊ายยย! ฉันจะนึกถึงทำไมเนี่ย เสียการควบคุมตัวเองหมด พอฉันใส่กระโจมอกเรียบร้อยฉันก็ลงไปในสระ น้ำแค่เอวฉันค่ะ ฉันรีบตักน้ำราดหัวแล้วสระผมอย่างรวดเร็ว เกลียดหมอนั่นจริงๆ เลย มาขู่จะทิ้งฉันเนี่ยนะ!
“เหลืออีกสามนาทีแล้วนะคุณ!”
“นี่คุณ!! ฉันก็พยายามรีบอยู่ คุณอย่ากดดันฉันนักสิ แล้วก็ห้ามไปด้วย!” กรี๊ดดด!! อยากจะกรี๊ดใส่หูหมอนั่นให้แก้วหูระเบิดไปเลย เชื่อไหมว่าฉันอาบไประแวงขาไป กลัวจะโดนแบบเมื่อวานอีก โอ๊ย..ไหนครีมอาบน้ำ อ๋ออยู่นี่...ฉันรีบบีบครีมอาบน้ำถูตัวให้ทั่ว ก่อนจะนั่งยองๆ ลงไปให้น้ำมันท่วมไปถึงคอแล้วล้างตัว ก่อนจะลุกขึ้นมาทีเดียวแล้ววิ่งขึ้นขอบสระไป
“เหลืออีกนาทีเดียว”
“นี่คุณ!! ใจเย็นๆ สิ ฉันกำลังใส่เสื้อผ้าแล้ว” ฉันรีบเช็ดเนื้อเช็ดตัวแล้วใส่ชุดชั้นใน จากนั้นก็รีบใส่ชุดนอนที่เป็นแบบแขนยาวขายาว มันก็จะเปียกหน่อยๆ น่ะนะ เพราะว่าฉันไม่สามารถเช็ดตัวให้แห้งสนิทก่อนใส่เสื้อผ้าได้ สถานที่มันไม่เอื้ออำนวยน่ะค่ะ
“หมดเวลาแล้วนะคุณ! ผมจะไปแล้วนะ”
“ฉันเสร็จแล้วๆ!!” ฉันเอาผ้าขนหนูคลุมหัวเพราะว่าผมฉันยังเปียกอยู่แล้ววิ่งไปหาหมอนั่นที่ยังยืนอยู่หลังต้นไม้ แน่นอนว่าฉันต้องเดินไปเช็ดหัวไปด้วย ก็เขาขู่ว่าจะกลับแล้วนี่นา
พอเห็นฉันวิ่งมาดวงตาคมก็ปรายตามองฉันเหมือนอยากจะบอกว่าเสร็จสักทีนะอะไรประมาณนี้ ถ้าไม่อยากมาเฝ้าให้คนอื่นมาแทนก็ได้นี่นา ฉันยังไงก็ได้ขอแค่มีเพื่อนมาด้วย แต่ก็นะ จะมีใครไว้ใจได้เท่าหมอนี่ล่ะ ฉันก็ไม่ได้รู้จักสนิทสนมกับทุกคนจึงไม่รู้ว่าใครเป็นไง
แล้วฉันกับเขาก็เดินกลับด้วยกันค่ะ อีกมือฉันถือของ ส่วนอีกมือฉันก็ถือผ้ายีหัว ผู้ชายอะไรไม่มีน้ำใจ!...
พรึบ!
ฉันหันไปมองใบหน้าหล่อเรียบนิ่งที่ไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ หลังจากที่แย่งตะกร้าฉันไปถือเหมือนรู้เลยว่าฉันกำลังนินทาในใจ จริงๆ ฉันก็ไม่ได้อยากให้เขาถือเท่าไหร่หรอกนะ คือมันมีชุดชั้นในฉันด้วย แต่ฉันเอากระโจมอกที่บิดจนหมาดแล้วคลุมอยู่ ฉันล่ะเดาใจเขาไม่ออกจริงๆ นึกอะไรคิดอะไรอยู่บางทีก็ชอบแสดงมาทางสายตา ฉันไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวนะที่จะมีพลังวิเศษมีความสามารถไปซะทุกอย่าง ชอบไม่ชอบอะไรก็น่าจะบอกกันตรงๆ ฉะ..ฉันจะได้ไม่ทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบ
“ผู้กองครับ! ผู้กอง!!”
มือฉันที่กำลังถือผ้ายีหัวอยู่หยุดชะงักเมื่อคุณแดนวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาฉันกับคุณผู้กองน้ำแข็ง ก่อนที่เขาจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกฉันแล้วหอบหายใจ
“เกิดอะไรขึ้น?” หมอนี่ถามด้วยท่าทีแปลกใจ ฉันเองก็แปลกใจค่ะ ดูเหมือนจะเกิดเรื่องไม่ดี
“ตำรวจชายฝั่งวอมาแจ้งว่ามีคนร้ายลักพาตัวเด็กขึ้นมาที่เกาะนี้ครับ!!”
“ว่าไงนะ! แกแจ้งทุกคนหรือยัง?”
“แจ้งแล้วครับ ผู้กอง...เราคงต้องออกปฏิบัติหน้าที่แล้วนะครับ มันมีกันสามคน มีเอ็มสิบหก และคาดว่าน่าจะมีระเบิดอยู่ที่ตัวมันด้วย”
“ไปบอกทุกคนให้เตรียมพร้อม!”
“ครับ!!”
“มากับผม!!”
“ห๊ะๆ นี่คุณ!...” ตัวฉันเซไปตามแรงดึงของอีตาผู้กองน้ำแข็ง เขาจับมือฉันให้วิ่งตามเขากลับไปทางที่พัก ฉะ..ฉันได้ยินว่ามีระเบิดด้วย ฮือออ จะได้กลับไปเขียนนิยายส่งสำนักพิมพ์เอสทีทีไหมเนี่ย
