ดูแลคนป่วย -Ep.20-
Ep.20
เช้าวันต่อมา
"ผู้กองครับ เราทราบที่มาของเรือต้นเหตุแล้วครับ" เสียงไอ้คินดังขึ้นขณะที่ผมกำลังเดินดูลูกน้องในทีมวิดพื้นที่ลานกว้างรอบกองไฟ ไอ้คินมันรับหน้าที่ติดต่อประสานงานเรื่องเรือปริศนากับตำรวจชายฝั่ง เมื่อเช้ามันเลยออกไปเจอกับเจ้าหน้าที่ตรงที่เกิดเหตุมา
"เรือลำนั้นมาจากไหน?"
"เป็นเรือของคนร้ายสามคนที่เราจับกุมตัวได้เมื่อคืนก่อนครับผู้กอง แต่ยังไม่ทราบสาเหตุของการพลิกคว่ำ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบจะกลับไปสืบสวนเรื่องนี้ต่อแล้วพวกเขาจะแจ้งกลับมาที่หน่วยเราครับ"
"ดี แกช่วยดูทางนี้ให้ฉันหน่อย ฉันจะไปดูพระพายหน่อยว่าเป็นไงบ้าง"
"ครับผู้กองลักษณ์ ไปดูเธอหน่อยก็ดีครับ ปกติคุณพระพายจะตื่นมาสูดอากาศแต่เช้า นี่สายแล้วยังไม่เห็นเธอออกมาเลยครับ"
ฝากงานให้ไอ้คินเสร็จ ผมก็เดินตรงไปที่เต็นท์ของพระพาย แต่มันก็เงียบผิดปกติจริงๆ ลองเรียกเธอดูก่อนเพื่อเธอกำลังทำธุระส่วนตัว
"คุณพระพาย"
"......." เงียบ
"คุณพระพาย ผมเปิดเต็นท์คุณนะ" รออยู่ห้าวิไม่มีคนตอบผมก็รูดซิบเปิดเต็นท์เธอทันทีครับ
"คุณพระพาย" ผมลองเรียกเธออีกครั้งเพราะตอนนี้เธอยังนอนนิ่งอยู่ แถมยังห่มผ้าสองชั้นนอนขดจนน่าสงสัย ผมรีบคลานเข้าไปอังหน้าผากเธอดู จึงพบว่าเธอตัวร้อนมาก ทำไมผมไม่เอะใจตั้งแต่ทีแรก เธอจมน้ำเมื่อวานโอกาสที่จะเป็นไข้หรือเป็นหวัดมันมีสูงอยู่แล้ว
"อืมม...ฉันปวดหัว~" เธอปรือตาขึ้นมามองผม เสียงเล็กบอกแผ่วๆ ผ่านริมฝีปากอันน้อยนิด ถ้าไม่ตั้งใจฟังหรือหูดีจริงๆ คงไม่ได้ยินเธอพูด
"นอนพักไปก่อน ฉันจะไปหายาให้กิน" ผมรีบออกมาจากเต็นท์ของพระพายแล้วเลี้ยวตรงไปที่เต็นท์ของผม ก้มมองเท้าตัวเองไปก็ขมวดคิ้วให้มันไปด้วย เพราะมันก้าวไวผิดปกติ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมต้องร้อนใจขนาดนี้
"ผู้กองหาอะไรครับ?"
"เห็นกระปุกปฐมพยาบาลไหม ฉันว่าฉันเห็นมันอยู่ตรงนี้" ผมถามไอ้แดนโดยที่ไม่ได้หันไปมอง เพราะแค่ได้ยินเสียงก็จำได้ว่าใคร
"กล่องปฐมพยาบาลอยู่เต็นท์ด้านนอกครับผู้กอง ผมเป็นคนย้ายไปเก็บไว้ที่นั่น" สิ้นเสียงไอ้แดนผมก็ลุกขึ้นเดินออกมาจากเต็นท์ตัวเองทันที จนไอ้แดนมันทำหน้าเหวอที่ผมเดินเบียดไหล่มันออกมา
"เกิดเรื่องอะไรขึ้นครับผู้กองลักษณ์ มีคนได้รับบาดเจ็บเหรอครับ?"
"เปล่า พระพายมีไข้สูง"
"......"
เสียงไอ้แดนมันเงียบไป ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะผมกำลังเปิดกล่องปฐมพยาบาลเลือกยาไปให้พระพายกิน
"เดี๋ยวผมช่วยดูยาให้ครับ แหม...ใจร้อนอะไรขนาดนั้นครับผู้กอง มือระวิงเชียว" ไอ้แดนมันเดินยิ้มมาแย่งกล่องพยาบาลไปจากมือผม แล้วมันก็ช่วยดูยาให้ตามที่บอก นั่นสิ ผมแม่งร้อนรนอะไรขนาดนี้ ถึงกับต้องหยุดยืนเท้าเอวแล้วพ่นลมหายใจออกมาเพื่อผ่อนคลายร่างกายกันเลยทีเดียว
"ผู้กองไปต้มข้าวต้มหรือโจ๊กอย่างง่ายให้คุณพระพายดีกว่าครับ อย่าลืมว่ายามันกินตอนท้องว่างไม่ได้ ทางนี้ผมจัดการเอง"
ผมยืนคิดตามที่ไอ้แดนพูด นั่นสิ ยัยนักเขียนเจ้าปัญหานั่นยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยนี่นา แล้วผมจะเอายาไปให้เธอกินได้ยังไง เดี๋ยวก็กัดกระเพาะปวดท้องกันพอดี ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่อีกทีนี้
"อืม" ผมตอบแค่นั้นแล้วรีบเดินมาทางครัวทันที ต้มโจ๊กไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผมครับ ผมค่อนข้างทำอาหารเก่งพอตัวเพราะแยกจากบ้านมาอยู่คนเดียวตั้งแต่เริ่มเรียนตำรวจใหม่ๆ งานบ้านงานครัวผมเลยต้องทำเองหมด แรกๆ ก็ดูในอินเทอร์เน็ตนั่นแหละครับ ทำบ่อยๆ มันก็จำได้เอง รสชาติจัดได้ว่าอร่อยไม่แพ้ร้านอาหารดังๆ เลยครับ
ผมใช้เวลาแค่สิบนาทีโจ๊กธรรมดาที่มีแต่ข้าวก็เสร็จ ถึงหน้าตาจะดูไม่น่ากินเพราะวัตถุดิบไม่เอื้ออำนวยแต่รับรองรสชาติอร่อยแน่นอนครับ ผมเดินเข้ามานั่งในเต็นท์ของพระพายก่อนจะวางถ้วยโจ๊กไว้ข้างๆ
"คุณพระพาย" ผมเรียกพร้อมกับประคองพระพายขึ้นมานั่ง ใบหน้าเธอซีดมากครับ เธอปรือตามองผมและพยายามนั่งขดตัวอยู่ในผ้าห่ม
"ฉันปวดหัวจังเลยค่ะ~"
"คุณกินโจ๊กลองท้องก่อน แล้วเดี๋ยวผมไปเอายามาให้กิน"
"ผู้กองครับ" ผมหันไปมองไอ้แดนที่ยืนก้มหัวเข้ามาในเต็นท์แล้วยื่นยามาให้ ผมเลยละมือออกจากถ้วยโจ๊กก่อนแล้วเอื้อมไปรับยาที่มันจัดมาให้เป็นชุดมาตรวจดู
"กินโจ๊กแล้วก็กินยาที่ผมจัดไปให้ทั้งหมดสี่เม็ดเลยนะครับ"
"มียาอะไรบ้าง ทำไมเยอะอย่างนี้"
"แหมผู้กองครับ เชื่อผมเถอะ เมื่อก่อนน้องสาวผมไม่สบายบ่อย ผมก็เป็นคนจัดยาให้กินเอง ไม่ถึงวันไข้ก็ลดแล้วครับ"
ผมมองหน้าไอ้แดนแวบหนึ่ง ไม่ใช่ไม่เชื่อใจ แต่ยาเยอะขนาดนี้ผมขยาดแทนครับ เพราะผมไม่ชอบกินยาเม็ด มันขมคอ
"วันนี้ผู้กองอยู่ดูแลคุณพระพายเถอะครับ เดี๋ยวผม ไอ้คิน ไอ้ตาร์จะช่วยจัดการการฝึกของวันนี้เองครับ"
"แต่!..."
"ไม่มีแต่ครับ ถ้าปล่อยให้คุณพระพายอยู่คนเดียวเกิดเธอเป็นอะไรไปเราจะซวยกันทั้งหน่วยนะครับผู้กอง" นั่นสิ เอาตามที่ไอ้แดนมันว่าก็แล้วกัน เห็นแก่ทุกคนหรอกนะครับ งั้นผมจะเสียสละอยู่ดูแลเธอเอง
"อืม เอาตามแกว่าก็ได้"
"งั้นผมไปนะครับ" แล้วมันก็เอาหัวออกไปจากปากประตูเต็นท์ ข้องใจกับรอยยิ้มของมันนะ แต่จะเรียกมาถามหรือมาว่าก็ไม่ทันแล้วครับ เพราะไอ้แดนมันเดินหายไปไหนแล้วไม่รู้
"คุณกินโจ๊กก่อน" ผมยื่นถ้วยโจ๊กไปให้คนตรงหน้า แต่มือบางที่เอื้อมมารับกลับสั่นเป็นเจ้าเข้า เฮ้ออ! ให้กินเองคงไม่รอด
"อ้าปาก" ผมตักโจ๊กแล้วเป่าสองสามทีให้มันอุ่น จากนั้นก็จ่อไปที่ริมฝีปากบางซีด เธอจ้องผมตาปริบๆ เหมือนประหลาดใจกับการกระทำของผม ผมเองก็ยังแปลกๆ กับการกระทำของตัวเองเลย แต่ผมทำเพื่อหน่วยครับ หากเธอเป็นอะไรไปผมโดนลุงด่าแน่ แล้วหน่วยจู่โจมสีครามคลุมดินก็จะได้ขึ้นชื่อว่าไร้น้ำใจ ผู้หญิงคนเดียวยังปล่อยให้ตาย แล้วประชาชนตาดำๆ จะพึ่งพาได้ยังไง นั่นแหละเหตุผลที่ผมทำอยู่ตอนนี้ โอเค คิดแบบนี้แล้วผมสบายใจดี
ผมทำเพราะหน้าที่...เพราะหน้าที่...ผมไม่ได้ห่วงเธอเป็นการส่วนตัว...ไม่ได้ห่วง...ไม่ได้ห่วง โอ๊ยย! ผมหงุดหงิดกับความคิดตัวเองมากครับตอนนี้
"รีบกินสิคุณ จะได้กินยาแล้วนอนพักผ่อน" พอโดนผมดุเธอก็รีบสะบัดหางตาใส่ผม แล้วรีบอ้าปากกินโจ๊กที่ผมป้อนให้ ขนาดป่วยเธอยังดื้อใส่ผมได้ หลังจากพระพายกินโจ๊กเข้าไปแล้ว มือผมก็เอื้อมไปเช็ดมุมปากให้เธอโดยที่ผมเองก็ไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรลงไป เลยโดนเธอมองกลับมาด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจในตัวผมเอามากๆ
"รีบกินเถอะ ผมมีอย่างอื่นต้องทำต่อ" ผมรีบหลบตาเธอแล้วเปลี่ยนเรื่อง แล้วทำไมผมต้องทำตัวไม่ถูก? เฮ้ออ...ช่างเหอะๆ
"คุณไปทำอย่างอื่นเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันกินเอง"
"อย่ามาทำเก่ง แรงพูดยังจะไม่มี ตบยุงให้ตายก่อนเถอะตอนเนี๊ย" ผมเบี่ยงถ้วยโจ๊กหนีคนอวดเก่ง แค่ผมบอกมีอย่างอื่นต้องทำสายตาคู่นั้นก็แสดงความน้อยใจออกมาจนผมดูออก หลังจากถูกผมดุพระพายก็เงียบแล้วยอมกินโจ๊กที่ผมป้อนให้จนหมด จากนั้นผมก็เอายาให้เธอกิน แล้วเธอก็กินมันอย่างง่ายดายภายในครั้งเดียว ผมนี่ทำหน้าแขยงตามยาที่ไหลลงคอเธอลงไปเลยครับ
"นอนพักผ่อนเถอะ กินยาไปแล้วเดี๋ยวก็คงดีขึ้น" ไม่พูดเปล่า แต่ผมจับเธอให้นอนลงไปเลยครับ แล้วก็ห่มผ้าให้อย่างเรียบร้อยโดยมีสายตาคู่นั้นมองผมด้วยความไม่เข้าใจอยู่ตลอด เสร็จแล้วผมก็รีบออกมานอกเต็นท์ มายืนทบทวนตัวเองว่าหัวสมองผิดปกติอะไรหรือเปล่า แล้วก็ใช่ ผมว่าผมผิดปกติครับ เพราะผมกำลังเป็นห่วงเธอ
