Chapter 8 เป็นแค่พี่น้อง!
2 ชั่วโมงต่อมา...
"น้ำผึ้งตื่น น้ำผึ้งถ้าเธอยังไม่ตื่นฉันจะทิ้งให้นอนเฝ้าคลินิกคนเดียวนะคืนนี้" เสียงของไอ้พี่คิงดังมาพร้อมกับแรงเขย่าตัวฉัน ทำให้คนที่กำลังหลับฝันหวานจนน้ำลายจะไหลสะดุ้งตื่นขึ้นมา
"ไอ้พี่คิงปลุกดีๆ เป็นไหม ตกใจแทบช็อก!"ฉันลุกขึ้นนั่งเอามือขยี้ดวงตาเพราะยังตื่นไม่เต็มตา
"เหอะ! ฉันปลุกเธอจนคิดว่าถ้าเรียกอีกรอบยังไม่ยอมตื่นจะเอาน้ำเย็นมาสาดให้ตื่นแล้วนะ" เขาดึงมือของฉันที่กำลังขยี้ดวงตาอย่างแรงเพราะฉันยังเมาขี้ตาตัวเองจนมองอะไรก็เบลอๆ อยู่แถมยังกุมมือของฉันเอาไว้แน่นไม่ยอมให้ฉันยกมือขึ้นมาขยี้ดวงตาตัวเอง
"ไอ้พี่คิง!น้ำผึ้งเป็นคนนะไม่ใช่หมาจะได้เอาน้ำเย็นมาสาดแล้วจะตื่น" ฉันสะบัดมือของเขาออกจากข้อมือตัวเองอย่างแรงแล้วก้าวลงจากเตียง
"ก็ใครอยากใช้ให้เป็นคนปลุกยากนักวะน้ำผึ้ง" เขาเดินตามฉันออกมาจากคลินิกที่ตอนนี้ภายในคลินิกเหลือแค่ฉันกับเขาและพนักงานหนึ่งคนที่กำลังปิดคลินิกแล้วเธอก็เดินเข้าลิฟต์ตามเราสองคนมา
"ก็คนมันง่วง..." ฉันเถียงเขาเสียงเบาหวิวเพราะมีพี่พนักงานสาวที่กำลังมองเราสองคนแล้วยิ้มเขินๆ ให้กับไอ้พี่คิงเหอะ!จ๊ะพ่อคนปากหมาแต่เสน่ห์แรง
"มันไม่ใช่ห้องเรา จะนอนหลับก็ช่วยเลือกสถานที่หน่อยจำไว้ให้ขึ้นใจเพราะทุกที่มันไม่ได้ปลอดภัยเข้าใจไหมยัยเตี้ย" อยู่ๆ ไอ้พี่คิงก็ยกแขนขึ้นมาพาดบ่าของฉันแล้วกอดให้ร่างของฉันเข้าไปซุกอกเขาจนใบหน้าของฉันจมเข้าไปอยู่ใต้รักแร้ของเขา
"หายใจไม่ออกปล่อยนะไอ้พี่คิง ทำอะไรเนี้ย" ฉันพยายามดันร่างเขาออกเพื่อหาอากาศหายใจ ด้วยความตกใจเลยไม่ทันได้คิดอะไร
"ขอโทษนะครับพี่ พอดีแฟนผมยังเด็กอยู่พึ่งเรียนปี1 เลยชอบดื้อและเถียงเก่งไปหน่อย" ไอ้พี่คิงพูดกับพี่พนักงานสาวที่อยู่ในลิฟต์กับเรา พอฉันเอาหน้าออกมาจากใต้รักแร้ไอ้พี่คิงได้สำเร็จ ก็ยิ้มแก้เขินแต่เจ้แกกับมองฉันด้วยสายตาอาฆาตเหมือนจะฆ่าน้องหมกลิฟต์ สายตาประมาณเหมือนฉันไปแย่งผัวเจ้แกมาเลย แต่ในความเป็นจริงนั้นฉันคิดว่าไม่น่าจะไปรู้จักกับผัวเจ้นะ
ฉันพอเข้าใจแล้วว่าอยู่ๆ ทำไมไอ้พี่คิงถึงโอบบ่าแล้วก็กอดฉันให้ซุกอกเฮียแกเพราะว่าดูท่าแล้วพี่พนักงานจะเป็นสาวกผู้คลั่งในเสน่ห์อันป่าเถื่อนของไอ้พี่คิงแต่ดูเฮียแกจะไม่เล่นด้วยน้องเลยกลายเป็นไม้กันหมา
นับว่าเป็นโชคดีของน้องที่ประตูลิฟต์เปิดออกพอดีเลยไม่โดนฆ่าเป็นผีเฝ้าลิฟต์ในห้างดังนะจ๊ะ ฉันรีบเดินออกจากลิฟต์เดินนำหน้าไอ้พี่คิง
ภายในรถ
"ตายแล้ว!" ฉันเปิดโทรศัพท์มาดูเวลาตอนนี้เวลาเกือบจะห้าทุ่ม ฉันที่อยู่หอในแล้วหอมันก็ปิดสี่ทุ่มคืนนี้น้องจะนอนไหน ฮื่อจะร้องไห้ทำไมหน้ากลับมาเนียนใสหายโทรมแต่ฉันดันไม่มีที่นอนคืนนี้
"ใครตายวะ" พี่คิงที่กำลังขับรถหันมาถามฉันด้วยความงง ที่อยู่ๆ ฉันก็ตะโกนออกมาเสียงดังลั่นรถ
"หอในปิดแล้ว น้ำผึ้งไม่มีที่นอนแน่คืนนี้..." ฉันตอบเขาเสียงสั่นๆ อยากจะร้องไห้ฮื่อ วันนี้ทำไมมันถึงซวยขนาดนี้ เมื่อกี้ก็เกือบโดนยัยเจ้พนักงานจะฆ่าทางสายตา ตอนนี้ยังจะไม่มีที่ซุกหัวนอนอีก แล้วน้ำผึ้งจะทำยังไงดีล่ะงานนี้ คิดสิแกคิดสินอกจากสวยไม่พอต้องมีสมองด้วยนะน้ำผึ้ง
"โอ๊ยนึกว่าเรื่องอะไรยัยโง่ คอนโดฉันก็มีห้องโคตรกว้างเธอจะนอนตรงไหนก็ตามสบาย จะเครียดทำไมวะ" เขาพูดเหมือนรำคาญฉัน
"จะบ้าเหรอน้ำผึ้งไม่มีทางไปนอนห้องพี่คิง น้ำผึ้งไม่ไว้ใจ" ฉันขยับตัวจนติดประตูรถ คิดถึงเรื่องที่เขาทำลามกกับฉันมันยังเป็นภาพจำติดอยู่ในสมองคอยเตือนใจว่าไม่ควรจะไว้ใจไอ้พี่คิงมากจนเกินไป
"เรื่องมากจังเลยเธอเนี้ยแล้วถ้าเธอไม่ไปนอนที่คอนโดฉันแล้วจะไปนอนที่ไหน จะนั่งตบยุงรอหอเปิดตอนเช้าเหรอวะ" แค่คิดว่าต้องนั่งรอหอเปิดถึงเช้าฉันไม่เป็นไข้เลือดออกตายก่อนเหรอ
"เอ่อไม่เอา..." เอ่อเถียงมันไม่ออกงานนี้เพราะตอนนี้ไม่มีที่จะซุกหัวนอน แถมยังอยู่ในชุดนักศึกษา ไม่มีเสื้อผ้าจะเปลี่ยนด้วย
"เอาไงจะนอนไหน หรือจะเปิดโรงแรมแถวนี้นอนจะแวะให้"เขาพูดแล้วหันมามองฉัน เมื่อรถจอดติดไฟแดง
"นอนคอนโดพี่คิงก็ได้ แต่จอดรถซื้อเสื้อข้างทางหน่อยอยากอาบน้ำจะนอนสภาพนี้จนถึงเช้าก็ไม่ไหวนะ" ตอนนี้ยังมีเสื้อผ้าที่เป็นแผงขายตามข้างทางเป็นตลาดกลางคืนพอจะมีให้ฉันเปลี่ยนใส่หลังจากอาบน้ำบ้าง
"ซื้อทำไมเสื้อผ้าฉันก็มีเต็มตู้ไปเลือกเอาที่คอนโดฉันก็ได้ " เขาพูดเหมือนผู้หญิงกำลังปรามเด็กที่อยากได้ของเล่นแต่ที่บ้านหนูก็มีลูก แต่ฉันไม่ใช้เด็กแล้วนะทำอะไรก็คิดมาดีแล้วนะก่อนจะพูด
"เอ้าก็พี่คิงตัวใหญ่กว่าน้ำผึ้งมันใส่ไม่ได้คนละไซซ์..."
"ใส่ๆ ไปเถอะคืนเดียวเองอย่ามาเรื่องมาก" ไอ้พี่คิงเอามือผลักหัวฉัน แต่ไม่ได้แรงอะไรหรอกเหมือนเขาจะหยอกล้อ แต่วิธีก็รุนแรงตามความเถื่อนของพี่แก
คอนโด (พี่คิง)
23.40 นาที
ตอนนี้ผมอยู่ในคอนโดของตัวเองแล้ว ส่วนยัยน้องดาวยั่วก็กำลังนั่งดูซีรีส์จีนแนวย้อนยุคที่พระเอกผมยาวอย่างกับผู้หญิงแต่ยัยนี่ดันบอกว่าหล่ออย่างนั้นพ่อของลูกอย่างนี่เหอะประสาทมโนไปเรื่อย
"พี่คิงนั่นแหละมีตาหามีแววไม่ สามีน้ำผึ้งออกจะหล่อลากดินขนาดนี้มาว่าเขาเป็นกะเทยได้ยังไงหยาบคายที่สุด" พอคันโฆษณายัยน้องดาวยั่วก็หันมาต่อปากต่อคำกับผม
"เธอนั่นแหละมีตาหามีแววไม่ คนหล่อนั้นอยู่ข้างเธอมาจะเป็นชั่วโมงแล้วช่วยแหกตาดูบ้าง ไอ้ในซีรีส์เธอมันไม่แมน เปลี่ยนๆ ช่องให้ฉันดูบอลดีกว่า" ผมพยายามแย่งรีโมทกับน้ำผึ้ง แต่ยัยบ้านั้นดันกอดเอาไว้แนบหน้าอกที่ผมเคยบอกว่าขนาดมันใหญ่อย่างกับหัวเด็ก มองเห็นรีโมทมันก็แอบมีความคิดหื่นกับเธอเข้ามาในสมองแวบๆ แต่ทุกอย่างมันก็แค่คิดล่ะครับ ใครจะไปกล้าทำอะไรยัยเตี้ยแต่ดุยิ่งกว่าเสือ ผมยังจำรสชาติของความจุกเมื่อหลายชั่วโมงก่อนได้ บอกตามตรงว่ายังเข็ดอยู่
"หยาบคายมาว่าหยางหยางสามีได้ยังไงหะ ไอ้พี่คิง" เธอลุกขึ้นยืนเอามือเท้าใส่เอวของเธอทำท่าจะเดินเข้ามาเอาเรื่องผมเต็มที่
"หะอะไรนะสามี เธอนี่ชักจะบ้าดาราจนประสาทไปแล้ว อย่าคิดว่าจะได้มาทำร้ายลูกชายฉันนะน้ำผึ้ง" ผมชี้หน้าเธออย่างข่มขู่ แต่ทุกคนก็รู้ว่ายัยน้องดาวยั่วมันกลัวผมที่ไหน หมอนใบใหญ่ลอยมาปะทะเต็มใบหน้าของผมอย่างแรง ไม่เจ็บมากแต่เล่นเอามึนทีเดียว
"สมน้ำหน้ามาว่าสามีเขาไอ้พี่คิง" แล้วซีรีส์ก็มาพอดี ยัยน้องดาวยั่วก็นั่งลงอย่างสงบเสงี่ยมของนาง แต่ไม่ใช่ว่ากลัวผมเอาคืนหรอกนะแต่เธอกำลังตั้งใจดูซีรีส์จีนเฮ้อ...ไม่คิดจะสนใจเจ้าของห้องที่ต้องเจ็บตัวจากฝีมือของเธอ ยัยบ้าเอ๊ย
ตอนเช้า เวลา 7.20นาที
(น้ำผึ้ง)
"ฮัลโหลไอ้เจมส์ มึงมีไร" หลังจากออกมาจากคอนโดไอ้พี่คิงตั้งแต่เช้าเพราะเจ้าของคอนโดมันมีเรียนแปดโมงครึ่ง เลยปลุกฉันตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า ทั้งๆ ที่ฉันมีเรียนสิบโมงแล้วจะปลุกให้มามหาลัยแต่เช้าพร้อมเขาเพื่ออะไรน้องไม่เข้าใจไอ้พี่คิง หงุดหงิดเพราะนอนไม่เพียงพอ พอมาถึงมหาลัยก็เจอไอ้พี่บ้านี่บังคับให้กินข้าวเช้าอีก ซึ่งฉันเคยกินข้าวเช้าที่ไหนแล้วมันจะกินลงไหมล่ะบอกเลยว่าจะอ้วก คนที่ไม่เคยกินข้าวเช้าพอกินเข้าไปคงรู้ว่ามันพะอืดพะอมแค่ไหน
"เอ่อๆ กูอยู่โรงอาหารกลางเนี้ย หะจะมากินข้าวด้วยเหรอ เอ่อๆ ได้นั่งอยู่โซนซีนะโว้ย" โรงอาหารที่เงียบสงบเพราะนักศึกษาที่มากินข้าวเช้าน้อยมาก แต่เสียงคุยโทรศัพท์ของไอ้พี่คิงมันดังมากเหมือนติดลำโพงเอาไว้ในปาก คือไม่ได้อยากรับรู้ว่าเขาคุยอะไรกับใคร แต่เขามันพวกประเภทชอบแหกปากเสียงดังไว้ก่อน บางทีฉันยังอายแทนเขาเลย แต่อย่าไปถามเจ้าตัวว่าอายไหมคำตอบก็รู้ๆ กันอยู่ว่าเขามันหน้าหนาแค่ไหนโนสนโนแคร์ทุกอย่าง
"นี่เธอจะนั่งเขี่ยข้าวอีกนานไหมน้ำผึ้ง กินเข้าไปเยอะๆ เลย" พอไอ้พี่คิงวางสายจากเพื่อนของเขาก็หันมาสั่งให้ฉันกินข้าว ซึ่งฉันโตแล้วไม่ใช้เด็กห้าขวบที่พ่อแม่ต้องบังคับหยอกล้อให้กินข้าวเหอะ
"ก็บอกแล้วไงพี่คิงว่าน้ำผึ้งไม่กินข้าวเช้า ไม่เคยกินและจะไม่กินด้วยจบนะ" ฉันวางซ้อนลง แล้วดื่มน้ำเปล่าหลังพูดจบ
"ไม่จบโว้ย เธอรู้ไหมว่าการที่ไม่กินข้าวเช้ามันไม่ดีต่อสุภาพ แถมสมองน้อยๆ ของเธอมันก็จะขาดสารอาหารนั่นแหละมันจะส่งผลให้เธอนั่งเรียนไม่เข้าใจ เอาเป็นว่ากินๆ ไปเถอะ" ทำไมไอ้พี่คิงมันชอบบังคับฉันนักนะชักจะรำคาญจนอยากจะลุกหนีเขา แล้วกลับไปนอนที่หอพักแล้วนะ
"ไอ้คิง" เสียงตะโกนเรียกพี่คิงทำให้การโต้เถียงกันอย่างไม่มีใครคิดจะยอมแพ้ของฉันกับไอ้พี่คิงหยุดลงพร้อมกับการมาถึงของผู้ชายสองคนที่หล่อมาก ทำให้นักศึกษาที่นั่งกินข้าวเช้าอยู่ในโรงอาหารเพียงไม่กี่โต๊ะหันมามองทางโต๊ะของเรา
"ทำไมมาถึงกันเร็วจังวะไอ้เจมส์" ไอ้พี่คิงไม่วายสั่งฉันทางสายตาให้นั่งลงเพราะเขาเห็นฉันทำท่าจะลุกหนีเนื่องจากเพื่อนของเขามา
"ความจริงตอนกูโทรหามึง กูขับรถเข้ามาในมหาลัยแล้ว" พี่เจมส์ฉันเห็นไอ้พี่คิงเรียกชื่อพี่เขาหันมามองฉันแล้วยิ้มให้ ฉันที่กำลังมองเขาอยู่เลยยิ้มกับให้พี่เขา
"มึงหยุดมองเดี๋ยวนี้ไอ้เจมส์ มาแดกข้าวก็รีบไปซื้อ มองเหี้ยไร" หยาบคายต่ำตมที่สุดคำพูดคำจาไอ้พี่คิง ฉันใช้หางตามองจิกเขา
"หวงแฟนใหม่มึงเหรอไอ้คิง" พี่หมอเจมส์ถามอะไรแบบนั้นมันไม่ใช่อย่าเข้าใจผิดถ้าฉันเป็นแบบกับไอ้พี่คิงคงทะเลาะกันไม่หยุดแค่คิดก็สยองแล้วไม่ใช่นะพี่
"ไม่ใช่โว้ย!...เป็นแค่พี่น้องกันเสยๆ"ไอ้พี่คิงตอบเสียงดัง ทำไมฉันรู้สึกวูบไหวในใจ
"มึงแน่ใจนะไอ้คิง" อยู่ๆ พี่หล่อๆ อีกคนที่มาพร้อมกับพี่เจมส์ก็ถามพี่คิง พี่เขาหัวเราะในลำคอมองพี่คิงด้วยสายตาที่ฉันอ่านไม่ออก
"จริงสิวะไอ้พะนาย นี่น้ำผึ้งน้องรหัสกู เมื่อคืนเกิดเหตุสุวิสัยจนยัยนี่ที่พักอยู่หอในแล้วกลับเกินสี่ทุ่มเลยไม่มีที่ซุกหัวนอน กูที่เป็นพี่รหัสเลยสงสาร ให้ไปนอนที่คอนโดก็เลยมามหาลัยพร้อมกัน เรื่องมันก็มีแค่นี้โว้ย"พอเขาอธิบายชะยืดยาวกับเพื่อนๆ ของเขาจบ ก็นั่งลงกินข้าวแบบไม่คิดจะสนใจฉัน ที่ตอนนี้ได้แต่นั่งยิ้มให้เพื่อนของเขาทั้งสองคน ที่กำลังจ้องหน้าฉันจนรู้สึกอายกับสายตาทั้งสองคู่ของผู้ชายโคตรหล่อทั้งสองคน
"พวกมึงจะจ้องน้องกูอีกนานไหมครับ ถ้ายังไม่เลิกจ้องกูไปรอเรียนแล้วนะกินอิ่มล่ะ"ไอ้พี่คิงเงยหน้าขึ้นจากจานข้าวของเขาแล้วพูดเสียงเข้มกับเพื่อนของตัวเอง
"หึครับเพื่อนมึงพูดเองนะว่าเป็นแค่พี่น้อง พวกกูไม่เกี่ยวไปเคลียร์กันเอาเองนะ" พี่เจมส์หัวเราะแล้วเขาก็พูดประโยคที่ฉันฟังแล้วแปลกๆ
"กูว่าล่ะทำไมเมื่อคืนชวนมาผับเฮียพะนาแล้วหายเงียบไม่ตอบกู" พี่พะนายพูดกับพี่คิงอีกคนแล้วเดินไปซื้อข้าวพร้อมกับพี่เจมส์
"ไอ้พวกเหี้ย!ชอบเข้าใจอะไรยากกันจังวะ แต่เสือกเรียนหมอไอ้เพื่อนเวรเลิกแซวกูเลย" พอเพื่อนของเขาพูดประโยคที่ฉันฟังไม่เข้าใจความหมาย ไอ้พี่คิงก็ด่าเพื่อนตัวเองไล่หลัง ส่วนพี่เจมส์กับพี่พะนายไม่ได้ยืนรอรับคำด่าของไอ้พี่คิงหรอกนะ แต่คนที่นั่งฟังเต็มๆ คือน้ำผึ้งไงล่ะจะใครอื่น เหมือนเป็นคนโดนด่าเองเลยคำว่า 'เหี้ย' เต็มๆ หน้าเลยไอ้พี่คิง
