บท
ตั้งค่า

Chapter 7 พี่รหัสสายเปร์ที่แท้หรู

คอนโด

(พี่คิง)

พอผมลากแขนยัยเด็กขี้งอนขึ้นรถมาได้ เธอก็ไม่ยอมที่จะคุยกับผม ถามอะไรก็ไม่ยอมตอบทำตัวเหมือนคนลืมเอาปากมาด้วย

"นี่น้องดาวยั่วครับลืมเอาปากมาด้วยเหรอ!" ผมพูดกวนประสาทเพื่อยั่วโมโหเธอให้มากสุด ให้เวลาห้าวินาทีเดี๋ยวยัยผู้หญิงที่นั่งหน้าเชิดมองตรงเหมือนตัวเองเป็นหุ่นตุ๊กตายางอยู่เบาะข้างๆ ผมก็สติแตกหันหน้ามาด่าผมฉอดใหญ่

“ปากเอามาค่ะ แต่พอดีเป็นคนคงคุยภาษาสุนัขไม่รู้เรื่อง” ยัยบ้านี่ผมเป็นรุ่นพี่เธอนะกล้าด่าผมว่าเป็นหมาเลยเหรอ

ผมกระชากแขนยัยตัวเล็กแต่ชอบต่อปากต่อคำเข้าหาตัว ด้วยความแข็งแรงของร่างกายผมที่ออกแรงกระชากเธอแรงไปหน่อย ทำให้ร่างของเราสองคนล้มลงไปนอนบนโซฟา โดยมีร่างผมคร่อมทับร่างเล็กเอาไว้แนบสนิทจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ทำไมผมรู้สึกเหมือนไฟช็อกร่างของเราสองคน ผมมองใบหน้าเล็กที่กำลังมองหน้าผมตาแป๋วเหมือนลูกแมวตัวน้อยๆ ความเงียบเข้าปกคลุมระหว่างเรา ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมามีเพียงเสียงหัวใจที่เต้นแรงผิดปกติของคนตัวเล็ก แต่ว่าทำไมนอกจากเสียงหัวใจที่เต้นแรงของเธอแล้วผมยังรู้สึกเหมือนมันสั่น!ตุบๆ อยู่ใกล้ๆ วะ

"ไอ้เหี้ย!!!" แร๊ง!ยัยตัวแสบกล้าด่าผมเป็นสัตว์โลกน่ารักถึงสองตัว ภายในเวลาห่างกันไม่ถึงหนึ่งนาทีเลยเหรอ ชักจะกล้าเกินไปแล้วนะโว้ย ผมที่กำลังอึ้งกับคำด่าของน้ำผึ้ง ไม่ทันได้ตั้งสติดีก็โดนยัยตัวแสบถีบเข้าที่ลูกชายอย่างแรงจนหงายหลังตกโซฟา ในท่ากางแขนกางขาชี้ฟ้าโคตรอุบาทว์ตา แต่เหนือความน่าอายคือความเจ็บจุกเจ้าลูกชายสุดที่รักของผม จุกจนขยับขาลงไม่ได้

"ไอ้โรคจิต แกขย้ำหน้าอกฉัน ตายซะเถอะนี่แน่ะ!" ไอ้เหี้ยกูจุกอยู่ยังจะเข้ามาแตะซ้ำอีก เห็นตัวเล็กๆ แต่ทำไมแรงเยอะจังวะ น้ำผึ้งเข้ามาทำร้ายร่างกายของผมเหมือนคนเสียสติไปแล้วร้องห้ามก็ไม่ฟัง

"โอ๊ยหยุดนะโว้ยเจ็บ!ถ้าลูกชายฉันใช้งานไม่ได้เธอจะรับผิดชอบไหวไหมยัยดาวยั่วหยุด" ผมพยายามเอามือจับฝ่าเท้าพิฆาตเอาไว้แน่นเพราะมันกำลังพยายามที่จะทำลายล้างปืนใหญ่ของผมให้เละ

"เอาให้มันเละไปเลย เพราะนายมันเป็นไอ้โรคจิตมาขย้ำหน้าอกฉัน ยิ่งพูดยิ่งของขึ้นอย่าอยู่เลยแกไอ้โรคจิต!” เหมือนยิ่งผมบอกให้เธอหยุด เหมือนไปพูดกระตุ้นต่อมความโกรธของยัยตัวแสบให้โกรธจนหน้าแดง พอเธอทำร้ายลูกชายสุดที่รักของผมไม่ได้ก็ใช้แรงทั้งหมดเหยียบลงมาที่มือทั้งสองข้างของผมที่กำฝ่าเท้าเธอเอาไว้แทน

"โอ๊ยหยุดนะโว้ยน้ำผึ้งข้อมือฉันจะหักแล้ว" ผมตะโกนลั่นห้อง ถ้าตอนนี้อยู่หอพักแถวมหาลัยเพื่อนห้องข้างๆ คงต้องรีบพากันวิ่งหน้าตื่นมาเคาะประตูห้องแล้วเพราะเสียงโหยหวนอย่างเจ็บปวดของผมเหมือนกำลังโดนฆาตกรรม

"เฮ้อเหนื่อย!" อยู่ๆ ยัยบ้านี่ก็หยุดเท้าที่กำลังเหยียบมือของผม ทำเอาผมถึงกับถอดหายใจอย่างโล่งอก อยากจะตะโกนดังๆ ว่าลูกชายสุดที่รักของพ่อรอดแล้วนะ มึงต้องเข้มแข็งเอาไว้เผื่อมีทายาทเอาไว้สืบทอดสกุลนะโว้ยไอ้ลูกชายสุดที่รัก

ผมได้แต่นั่งกุมลูกชายเอาไว้จนตัวงออยู่บนพื้นพรมใต้โซฟาจะลุกขึ้นก็ไม่ไหวได้แต่นั่งรอให้หายเจ็บก่อน แต่แล้วเสียงยัยตัวร้ายก็ดังขึ้นมา

"นี่พี่คิงในตู้เย็นมีน้ำเปล่าไหม ทำไมหาเจอแต่กระป๋องเบียร์เต็มตู้เลย เหนื่อยหิวน้ำมาก!" เธอยังมีหน้ามาขอน้ำเปล่าของผมดื่มทั้งที่พึ่งจะทำร้ายลูกชายสุดที่รักของผมเกือบจะสูญพันธุ์เนี้ยนะยัยบ้าเอ๊ย ความละอายใจมีไหมวะ

"เธอไม่คิดจะละอายใจบ้างหน่อยเหรอน้ำผึ้งที่ทำให้ฉันเจ็บขนาดนี้ ถ้าลูกชายฉันเป็นอะไรไปเธอต้องชดใช้เป็นร้อยเท่าเลยนะยัยมารร้าย!" ผมชี้หน้าน้ำผึ้งอย่างโกรธ โกรธมากจริงๆ ด้วยคราวนี้เธอเล่นแรงไปหน่อยแล้วนะ

"จะมาโทษฉันคนเดียวก็ไม่ได้นะเพราะนายมาขย้ำหน้าอกฉันก่อน มันก็สมควรจะโดนแบบนี้แหละ" เธอยังจะมาเชิดหน้าเถียงฉอดๆ อย่างไม่สำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำกับผมอีก

"ก็...ฉันไม่รู้นิว่ามันเป็นหน้าอกเธอ ฉันก็นึกว่าเป็น" ทีแรกผมจะแก้ตัว แต่ก็ไม่เชิงว่าแก้ตัวหรอกนะเพราะจังหวะที่ล้มลงไปคร่อมตัวเธอ ผมก็ไม่เห็นจริงๆ นิวะว่ามือตัวเองไปวางแหมะอยู่บนหน้าอกของเธอเต็มๆ พอวางไว้นานก็รู้สึกว่ามันนุ่มมือดีเลยลองขย้ำดู แล้วเผลอตัวไปหน่อยเอง

"นึกว่าเป็นอะไร" เธอถามผมกลับมองผมอย่างประเมิน

"ฉันก็นึกว่าเป็นหัวเด็กรู้สึกมันกลมๆ ใหญ่ๆ แถมเด้งสู้มือฉิบหาย” ผมตอบกวนประสาทเธอกลับ แล้วยังหยักไหล่เหมือนตัวเองใสซื่อไม่รู้อะไรจริงๆ

"ไอ้โรคจิต!!!”

"ขอบคุณครับที่ไม่ด่าผมเป็นชื่อสัตว์ตัวที่สาม”

(น้ำผึ้ง)

ฉันหมดคำพูดที่จะคิดหามาด่าเขาแล้วนะ ไอ้ผู้ชายปากปีจอเอ๊ยยังมาทำหน้าตากวนตีนใส่ฉันอีกโอ๊ยโกรธจนเส้นเลือดในสมองจะแตกแล้วโว้ย

"อ้าวเงียบทำไมครับน้องน้ำผึ้ง" ไอ้พี่คิงมันยังไม่หยุดพูดกวนประสาทฉันอีกสงสัยอยากจะโดนแม่ไม้มวยไทยแบบจัดเต็มทุกกระบวนท่า เดี๋ยวถ้ายังไม่หยุดพูดจากวนตีนน้ำผึ้งจะจัดให้จนไอ้นั่นมันใช้งานไม่ได้ตลอดชีวิตเลยไอ้พี่หน้าโจรป่า

"ถ้ายังไม่เลิกพูดจาส่อแววโรคจิต ฉันจะกลับแล้วนะไม่ทำมันแล้วโว้ยความสะอาด" ฉันเท้าใส่เอวจ้องเขม็งเขาอย่างคนจริงจังพร้อมกับทำท่าจะเดินไปทางประตูห้อง

"เดี๋ยวอย่าพึ่งไป" เขาตะโกนขึ้นเสียงดังห้ามฉัน แต่ใครกลัว คิดว่าทำนิสัยหื่นกามโรคจิตใส่ฉันขนาดนี้ แล้วน้ำผึ้งจะกล้าอยู่ภายในห้องสองต่อสองกับเขาเหรอ คิดว่าความไว้ใจที่ฉันมีให้เขามันยังคงมีเหลืออยู่เหรอวะ บอกเลยไม่มีเหลือแล้วไอ้พี่หน้าโจรป่า

"นี่โกรธจริงๆ เหรอวะ" เขาลุกขึ้นมาฉุดแขนฉันเอาไว้ไม่ให้เปิดประตูห้อง เมื่อกี้ยังนั่งกุมไอ้นั่นอยู่เลย นี่เขาหายเจ็บแล้วเหรอ

"ก็มันสมควรโกรธไหมล่ะ" ฉันดึงมือของเขาออกจากแขนของตัวเอง รู้สึกไม่ค่อยไว้ใจเขาเหมือนแต่ก่อน ภาพที่เขาจับนมฉันมันยังติดตาอยู่เลย ไม่อยากจะเล่าเลยว่าน้ำผึ้งคนนี้สวยระดับดาวโรงเรียนจนมาเรียนในมหาลัยก็ได้ตำแหน่งดาวคณะ แต่ฉันมันดันไม่เคยมีแฟนเลยในชีวิตเพราะงั้นฉันไม่มีประสบการณ์กับเรื่องที่ผู้ชายมาถึงเนื้อถึงตัวถึงขั้นจับหน้าอก! ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีคนมาจีบแต่ด้วยความที่เห็นพ่อแต่งงานใหม่ตอนแม่เสียไปไม่ถึงปี เหตุการณ์นั้นมันฝังใจทำให้ฉันกลัวที่จะมีความรักแบบวัยรุ่นทั่วไป เรียกง่ายๆ ว่าเป็นผู้หญิงมีปมเรื่องความรักก็ได้

"เอ่อๆ พี่ขอโทษที่ล่วงเกินน้ำผึ้งนะ" ไอ้พี่คิงพูดกับฉันเสียงดัง แต่สายตาของเขากับมองนู้นนี้นั้นไปเรื่อยเหมือนกับเขากำลังเขิน...หะไอ้พี่หน้าโจรป่ามันเขินจริงดิ๊

"เดี๋ยวนะทำไมหน้าแดงลามไปจนถึงใบหูแล้ว เขินอะไรเหรอ" ฉันแกล้งถามเขาแล้วขยับหน้าไปมองเขาอย่างล้อเลียน

"เขินบ้าอะไร เธออย่ามาพูดอะไรเพ้อเจ้อนะน้ำผึ้ง" อ้าวไอ้พี่คิงเมื่อกี้ยังมาพูดขอโทษฉันอยู่เลย ยังไม่ทันจะบอกเลยว่าจะยกโทษให้ อยู่ๆ มาด่าฉันว่าพูดเพ้อเจ้อโอ๊ยฉันไปทำเวรทำกรรมอะไรเอาไว้วะทำไมถึงได้มารู้จักกับผู้ชายแบบเขาเนี้ย

"ฉันไม่ได้พูดเพ้อเจ้อ ก็เห็นๆ อยู่ว่านายหน้าแดงขึ้นมาเอง จะไม่ให้ฉันคิดว่านายเขินแล้วจะให้คิดว่าเป็นอะไร" ถ้าเขายังพูดอะไรที่ไม่น่าฟังออกมาอีกฉันจะไปแล้วนะ ยิ่งอยู่ใกล้ไอ้พี่คิงยิ่งมีแต่เพิ่มความโกรธให้เป็นโรคประสาท

"เอ่อเขินก็เขินพอใจยัง กลับเข้าไปทำความสะอาดได้แล้ว" ฉันไม่ได้เถียงกับเขาเพื่อเอาชนะแต่ฉันพูดความจริงทำไมเขาต้องทำเหมือนฉันผิดด้วยไอ้ผู้ชายอารมณ์แปรปรวน

"จิกหัวใช้ยิ่งกว่าอะไรดี ค่อยดูนะหมดเทอมนี้เมื่อไหร่นายอย่าหวังจะได้เห็นแม้แต่เงาของฉันไอ้พี่คิง" ฉันบ่นพึมพำแล้วเดินไปเอาอุปกรณ์ทำความสะอาด จะรีบทำให้เสร็จแล้วกลับหอ

"หึบ่นอะไรอย่าคิดว่าไม่ได้ยิน เดี๋ยวเถอะ" ตอนนี้เขาเดินตามติดหลังฉันมาจนจะสิงร่างฉันอยู่แล้ว

"ไม่บ่นก็ได้ ถ้าอยากฟังจะด่าให้ฟังตรงๆ เอาไหม" ฉันถามเขาอย่างกวนประสาท

"กวนตีนไปแล้วนะเตี้ย คนอุตส่าห์หวังดีจะช่วยทำความสะอาดห้อง ดูจากสภาพร่างกายเธอดูโทรมๆ เลยอยากช่วยงานจะได้เสร็จเร็วๆ" ไอ้พี่คิงบอกว่าฉันดูโทรมๆ ตายแล้วจริงเหรอ

"เดี๋ยวนะพี่คิง! ผึ้งดูโทรมจริงดิ๊" ช็อกมากตอนนี้ไม่คิดว่าการอ่านหนังสือสอบได้นอนวันละไม่ถึงห้าชั่วโมงจะทำให้ร่างกายฉันโทรมจนโดนผู้ชายทัก ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ชายปากหมาก็ตามแต่ฉันก็อดที่จะกังวลไม่ได้ ผู้หญิงทุกคนไม่มีใครอยากได้ยินคำว่าโทรมจากปากผู้ชายหรอกเพราะนั้นคือสภาพเราคงดูแย่จริงๆ

"เลิกทำหน้ากังวลแบบนั้นได้แล้วน้ำผึ้ง รีบๆ ทำความสะอาดเถอะ เดี๋ยวทำความสะอาดเสร็จจะพาออกไปหาอะไรกิน" จะไม่ให้กังวลได้ยังไงวะฉันเป็นผู้หญิงเรื่องความสวยงามของรูปร่างภายนอกมันสำคัญสำหรับผู้หญิงมากนะเขาเป็นผู้ชายจะไปเข้าใจอะไร

แต่สุดท้ายเถียงไปก็ไร้ประโยชน์เพราะไอ้พี่คิงมันยัดเครื่องดูดฝุ่นใส่มือฉันเรียบร้อยตั้งแต่รู้จักเขามาบอกเลยว่าถึงเขาจะเป็นผู้ชายปากหมามากแต่เรื่องความรักสะอาดนั้นเรียกว่ายิ่งกว่ากุลสตรี

ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง

"ไปแล้วนะ" หลังจากที่ฉันกับไอ้พี่คิงทำความสะอาดเสร็จเขาก็พาฉันมากินข้าวที่ห้างชื่อดัง พอจ่ายค่าอาหารเสร็จ น้ำผึ้งก็คิดว่าตัวเองควรรีบกลับหอไปอาบน้ำมาสก์หน้าให้หน้ากลับมาขาวใสเนียนนุ่มหายโทรม

"เดี๋ยวนั้นเธอจะรีบไปไหนรอบัตรเคดิกก่อน" ไอ้พี่คิงเงยหน้าจากการแชทกับบรรดาสาวๆ ของเขา ทำไมฉันรู้นะเหรอเพราะว่าตั้งแต่ฉันทำควรสะอาดที่คอนโดของเขาจนมากินข้าวเย็นที่ห้างเสร็จ บรรดาสาวๆ ของเขาต่างโทรมาถี่จนเหมือนเจ้าหนี้โทรจิกลูกหนี้ ผู้ชายปากหมาขนาดนี้แต่มีผู้หญิงมาติดพันไม่ต่ำกว่าห้าคน ไอ้พี่คิงมันโคตรเจ้าชู้

"กลับหอค่ะ ไม่ต้องไปส่งนะจะกลับเอง" ฉันหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วลุกขึ้นเตรียมออกจากร้านอาหารเพื่อกลับหอพัก

"ไม่ได้บอกว่าจะไปส่ง แต่ฉันจะพาเธอไปหาหมอ" ไปหาหมอไปทำไมวะ ฉันไม่ได้ป่วยไข้ตรงไหนทำไมต้องไปหาหมอไอ้พี่คิงกำลังคิดอะไรอยู่ คิดจะแกล้งอะไรฉันอีกหรือเปล่าวะทำไมมันไม่น่าไว้ใจเลย

"ไปทำไมน้ำผึ้งไม่ได้ป่วยสบายดีทุกอย่าง พี่คิงเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า" ก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรพนักงานก็เอาบัตรเคดิกกับบิลค่าอาหารมาให้เขา

"ป่ะไปกันเถอะ" ฉันยังไม่ได้พูดอะไรก็โดนเขาลากให้เดินตามไป เขาพาฉันขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุดของห้าง ซึ่งถึงแม้ว่าฉันจะเคยมาห้างนี้ แต่ไม่รู้ว่าชั้นที่เขากำลังพาไปนั้นคือไปทำอะไร

"อ้าวสวัสดีค่ะคุณคิง" พอลิฟต์เปิดออก ตรงหน้าฉันเป็นเหมือนคลินิกสำหรับเสริมความงามแต่แตกต่างจากคลินิกทั่วๆ ไปเพราะที่นี้มันหรูหรามากไม่ต้องพูดถึงราคาว่าจะแพงหูฉีกขนาดไหนแค่คิดฉันก็จะร้องไห้แล้วไม่นะเขาจะแกล้งให้ฉันมาทำอะไรแล้วทิ้งให้ฉันเสียเงินจนหมดตัว

"สวัสดีครับ" เขายิ้มบางๆ ให้พนักงานที่ออกมาต้อนรับเหมือนจะเป็นคนคุ้นเคยกันดีสงสัยชอบพาผู้หญิงมาทำสวยที่นี่บ่อยสินะไอ้โรคจิตหื่นกาม

"วันนี้จะมาทำเองหรือพาแฟนมาทำคะ" พนักงานสาวถามพี่คิงพร้อมยิ้มหวานให้เขาแล้วเผลอแผ่รอยยิ้มมาให้ฉันด้วย

"ทำแค่น้องเขาครับ เอาคอร์สวีไอพีดูแลผิวหน้าฟื้นฟูผิวหน้าแบบเร่งด่วนแล้วก็วิตามินช่วยให้ผิวหายโทรมด้วยนะครับ" ฉันได้แต่ส่ายหัวปฏิเสธพนักงานที่จะพาฉันเข้าไปทำสวย

"ไม่พี่คิง น้ำผึ้งไม่ทำมันดูแพง น้ำผึ้งไม่มีเงินจ่ายหรอกนะ"ฉันดึงแขนไอ้พี่คิงเอาไว้ก่อนที่เขาจะเดินหนีแล้วทิ้งฉันเอาไว้คลินิกคนเดียว

"พี่จะไปเข้าห้องน้ำ ส่วนเรื่องเงินพี่จะจ่ายเองไม่ต้องห่วง" เขาตอบเหมือนมันเป็นเรื่องปกติแต่ฉันกับส่ายหน้าไม่ยอมปล่อยแขนเขา จะบ้าเหรอเขากับฉันเราไม่ได้เป็นอะไรกันเขาจะมาจ่ายเงินน่าจะหลักหมื่นขึ้นให้ฉันได้ยังไงมันแพงไป

"ไม่เอาเราไม่ได้เป็นอะไรกันพี่คิงจะมาจ่ายเงินเยอะๆ ให้น้ำผึ้งได้ยังไงเกรงใจ" ฉันพยายามเถียงแล้วจะเดินออกไปจากคลินิกแห่งนี้

"หะว่าไงนะไม่ได้เป็นอะไรกัน" เขาตะคอกเสียงดัง จนลูกค้าและพนักงานที่อยู่ภายในคลินิกต่างหันมามองทางเราสองคน

"ก็ไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ นี่น่าพูดผิดตรงไหน พี่คิงจะพูดเสียงดังทำไมเนี้ย" ฉันเริ่มจะโมโหเขาขึ้นมาอีกแล้วนะ

"โอเคงั้นเป็นพี่รหัสกับน้องรหัสกันเพราะฉะนั้นพี่รหัสจะเปย์น้องรหัสตัวเองช่วงรับน้องคงไม่เป็นอะไรหรอกนะครับ" เขาพูดเสียงดังขึ้นทำให้คนในคลินิกต่างหันมองมาที่ฉันอย่างอิจฉาแกมหมั่นไส้ฉัน ก่อนที่พวกเขาจะหันจะซุบซิบนินทาฉันกับไอ้พี่คิง

"เข้าไปข้างในกันเถอะค่ะน้อง คุณคิงไม่ต้องห่วงนะคะเดี๋ยวพี่จะดูแลน้องรหัสของคุณคิงให้ผิวกลับมาสวยเหมือนเดิมเลยนะคะ" มือของฉันถูกแกะออกจากแขนของไอ้พี่คิงแล้วก็โดนลากเข้าไปโดยพนักงานสาวสองคนที่ออกมาช่วยกันฉุดยัยผู้หญิงผิวโทรมอย่างฉันไปเข้าคอร์สดูแลผิวแบบเร่งด่วน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel