ตอนที่ 6 การเริ่มต้น
หนึ่งปรารถนา
ตอนที่ ๖
การเริ่มต้นของบางอย่างที่ยังไม่มีชื่อ
หนึ่งปรารถนาเดินกลับบ้านด้วยก้าวที่มั่นคง แม้หัวใจจะยังเต้นแรงอยู่จากเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น เธอไม่คาดคิดว่าจะได้เจอเขาอีก และยิ่งไม่คาดคิดว่าเขาจะมาขอโทษด้วยสีหน้าที่ดูจริงใจ…แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเธอพร้อมจะให้อภัย
ไม่ใช่เพราะเธอโกรธ
แต่เพราะเธอยังจำได้ดีว่า ในสายตาของเขาเมื่อวันนั้น เธอไม่ใช่ “คน” แต่เป็นเพียงวัตถุที่ควรถูกกำจัดจากหน้ารถ เป็นใครก็ได้ที่พยายามจะ “ต้ม” เขา และความรู้สึกแบบนั้น…มันติดค้างอยู่ในใจยากเกินจะลบ
เมื่อกลับถึงบ้าน เธอวางตะกร้าลงบนโต๊ะในครัว ป้าหมวยที่กำลังเตรียมวัตถุดิบอยู่ก็แอบชำเลืองมอง
“กลับมาแล้วเหรอลูก วันนี้ซื้อเยอะเลยนะ ปลาทูตัวโต๊โต”
หนึ่งปรารถนายิ้มบาง ๆ ก่อนจะตอบ “ค่ะ ป้าหมวย หนูเห็นเขาเพิ่งยกมาจากเข่งเลยสดดี หนูอยากทำต้มยำปลาทูให้ยายกิน แล้วคุณยายอยู่ไหนคะ”
“ยายอยู่ในห้องหนังสือจ้ะ เดี๋ยวป้าช่วยทำให้นะลูก หนูไปพักก่อนก็ได้” ป้าหมวยเห็นเหงื่อที่ซึมตามไรผมหญิงสาวแล้วนึกเอ็นดูไม่ได้ นี่คงเดินไปตลาดเองสิท่า
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูอยากช่วย”
เธอช่วยป้าหมวยเด็ดผัก คั้นมะนาว และจัดจานข้าว ทุกอย่างเป็นกิจกรรมที่ดูเล็กน้อย แต่ทำให้ใจของเธอกลับมาอยู่กับปัจจุบัน ไม่ต้องคิดถึงแววตาเมื่อเช้าหรือเสียงตะคอกที่เคยเจ็บแสบ
ตลอดทั้งวันนั้น เธอพยายามไม่คิดถึงชายแปลกหน้าคนนั้นอีกเลย
แต่นั่นกลับเป็นเรื่องยากกว่าที่คิด...
ขณะเดียวกัน ที่อีกฟากหนึ่งของกรุงเทพฯ
โปรดปรานกลับถึงคอนโดหรูในซอยเงียบสงบย่านทองหล่อ เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ร่างสูงเดินมาทิ้งตัวลงบนโซฟา ก่อนจะเปิดโน้ตบุ๊กเพื่อเช็กอีเมลจากโรงพยาบาล
แต่สายตากลับเหลือบไปเห็นกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งที่เขาเคยเขียนไว้และติดไว้บนกระจกหน้าห้องน้ำ
“คนไข้ทุกคนมีเรื่องเล่าของตัวเอง อย่าเอาประสบการณ์ของเรามาเป็นบทสรุปของเขา”
เขาเคยเขียนมันในคืนหนึ่งที่สูญเสียผู้ป่วยไปเพราะอาการทรุดเฉียบพลัน แล้วรู้ตัวว่าตัวเอง “เฉยชาเกินไป” กับการเตือนของพยาบาล
และตอนนี้…
เขาเพิ่งทำผิดแบบเดียวกันอีกครั้ง กับคนที่ไม่ใช่คนไข้
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นเบอร์ของ “อรุณ” ผู้ช่วยส่วนตัวที่ทำงานอยู่กับเขามาหลายปี
“ครับพี่อรุณ?”
“คุณโปรดครับ ผมลองถามแม่ค้าในตลาดเพิ่ม เขาบอกว่าหนึ่งปรารถนาเป็นหลานของคุณนพมาศ ธรรมวรรณครับ”
โปรดปรานนิ่งไปชั่วครู่ “นพมาศ...คนที่ทำงานด้านมูลนิธิใหญ่ ๆ นั่นน่ะเหรอ?”
“ครับ คุณยายของเธอเป็นผู้หญิงที่คนในแวดวงผู้บริจาคทุนการศึกษารู้จักดีมาก ๆ”
โปรดปรานพ่นลมหายใจเบา ๆ “งั้นแปลว่าผม...ตัดสินผิดไปเยอะเลย”
“เยอะเลยครับ คุณโปรดต้องไปขอโทษให้ถูกวิธีหน่อยแล้วมั้งครับ”
โปรดปรานยิ้มแห้ง ๆ “ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไงเหมือนกัน...”
สามวันต่อมา
ในเช้าวันเสาร์ที่อากาศแจ่มใส หนึ่งปรารถนาแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงผ้าฝ้ายสีขาวสะอาดตา รวบผมมัดต่ำ เธอกำลังจะออกไปอ่านหนังสือที่ร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ริมสวนสาธารณะใกล้บ้าน ที่นั่นมีต้นกัลปพฤกษ์บานสะพรั่งพอดี เธออยากนั่งเงียบ ๆ ท่ามกลางดอกไม้และผู้คนที่ไม่รู้จักเธอเลยสักคน
แต่ทันทีที่เธอเดินออกจากประตูบ้านมา ก็เห็นชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงรั้ว
เขาใส่เชิ้ตสีครีม พับแขนถึงข้อศอก ใบหน้าสุภาพ แต่มีเงาอ่อนของความอ่อนเพลียใต้ตาทั้งสองข้าง
“คุณ...” หนึ่งปรารถนาชะงัก
“พี่ชื่อโปรดปรานครับ เป็นหมอที่...ขับรถเกือบชนน้องหนึ่งวันก่อน”
“ ค่ะ ฉันจำได้ค่ะ” น้ำเสียงของเธอเรียบ
“พี่มาที่นี่เพราะอยากขอโทษคุณอย่างเป็นทางการ และ...ขอโทษน้องหนึ่งืี่เสียมารยาทกล่าวหาว่าน้องหนึ่งเป็นนักต้มตุ๋น”
หนึ่งปรารถนาชะงักไปเล็กน้อย แต่เธอก็ยังรักษาระยะห่างระหว่างโปรดปรานอย่างดี
“แล้วคุณหมอรู้ได้ยังไงคะว่าบ้านของหนึ่งอยู่ที่นี่” คำถามที่คลางแคลงใจตั้งแต่เห็นหน้าเขาหลุดออกจากริมฝีปากบางแทบทันที
"บ้านพี่...หลังนั้น" โปรดปราณชี้ไปยังบ้านข้างๆที่รั้วติดกัน หนึ่งปรารถนาอดทำหน้าสงสัยไม่ได้ ตั้งแต่เธอมาอยู่นี่ เธอก็เห็นคุณหญิงอิศริยาภรณ์อยู่บ้านกับคนรับใช้ ไม่เคยได้เห็นหน้าค่าตาลูกหลานท่านเลยสักคน เขาแอบบอ้างหรือเปล่านะ
"ถ้าน้องหนึ่งรู้จักคุณย่าพี่ น้องหนึ่งจะร็ว่าท่านมีหลานชายคนเดียว และเป็นหมอ.." โปรดปรานยังคงอธิบายต่ออย่างใจเย็น หนึ่งปรารถนาไม่ไว้ใจเขาและแสดงออกอย่างชัดเจน
ในห้องรับแขก บรรยากาศอบอุ่นและสงบนิ่ง นพมาศนั่งจิบชาดอกไม้หน้าตาเรียบเฉย ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“โปรดปราน...ใช่ไหม? ไม่เจอกันไม่เท่าไหร่เป็นหนุ่มหล่อขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย”
“ครับคุณยาย ผมงานยุ่งเลยไม่มีโอกาสได้เข้ามากราบคุณยายสักที"
"ไม่เป็นไรหรอก ย่าของโปรดก็บ่นให้ยายฟังบ่อยๆ ว่าโปรดงานยุ่ง ว่าแต่ทำไมวันนี้ถึงมาได้ล่ะ"
"ผมมาขอโทษน้องหนึ่งครับ ขอโทษที่ผมตัดสินหลานคุณจากการพบกันไม่กี่วินาที ผม...ทำเกินไปมาก และไม่ทันได้คิดว่าการกระทำของผมอาจจะสร้างบาดแผลทางความรู้สึกให้น้องหนึ่งมากน้อยแค่ไหน”
นพมาศมองเขานิ่ง ๆ ก่อนจะกล่าวช้า ๆ
“หนูหนึ่งไม่โกรธคุณหมอหรอกค่ะ แต่ยายหวังว่าการขอโทษครั้งนี้จะไม่ใช่แค่เพื่อความรู้สึกผิดของคุณหมอเอง...แต่เพื่อให้หลานยายได้รู้ว่าโลกใบนี้ยังมีคนที่ยอมรับผิดจริง ๆ และพร้อมจะเปลี่ยนแปลง”
หนึ่งปรารถนานั่งฟังอยู่ข้าง ๆ เธอยังไม่พูดอะไร จนกระทั่งเขาลุกขึ้นยืนและโค้งให้เธอ
"พี่อยากขอโทษน้องหนึ่งอีกครั้ง ไม่ใช่แค่เรื่องที่เข้าใจผิด...แต่ที่ไม่เห็นน้องหนึ่งเป็น ‘คน’ ในวินาทีนั้น ผมหวังว่าผมจะได้พิสูจน์ให้คุณเห็นว่า ผมรู้สึกผิดจริง ๆ”
หนึ่งปรารถนาเงยหน้าขึ้น สีหน้าเธอนิ่ง แต่ไม่แข็งกระด้างเหมือนครั้งก่อน
“หนึ่งยังไม่ให้อภัยคุณค่ะ...”
โปรดปรานชะงัก
“...แต่หนึ่งจะให้โอกาสคุณหมอพิสูจน์ ว่าคุณหใอไม่ได้เป็นคนแบบวันนั้นจริง ๆ”
รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายหนุ่ม
“ขอบคุณครับ...มากจริง ๆ ครับ”
หลังจากวันนั้น โปรดปรานเริ่มแวะมาบ้านของนพมาศเป็นครั้งคราว เขานำเอกสารเกี่ยวกับทุนการศึกษามาให้ บางวันก็เอาผลไม้จากคลินิกมาให้แม่บ้าน
และบางวัน...เขาก็นั่งเล่นหมากรุกกับนพมาศบนระเบียง
หนึ่งปรารถนานั่งเงียบ ๆ ฟังพวกเขาคุยกันเรื่องการแพทย์ การช่วยเหลือสังคม และเรื่องเล็ก ๆ ในวงการโรงพยาบาล เธอไม่ได้ยิ้มมากนัก แต่ก็เริ่มมีสายตาอ่อนโยนขึ้น
เพราะในสายตาของเธอตอนนี้…
เขาไม่ใช่หมอที่ใจร้อนในตลาดวันนั้นอีกต่อไปแล้ว
