ตอนที่4 : น่าเวทนา
ร่างเล็กของเอวาถูกจับแต่งตัวให้อยู่ในชุดสีขาวตัวบางแค่เพียงลมพัดก็พร้อมปลิดปลิวตลอดเวลา ดวงตาสวยเหม่อลอยราวกับคนไร้สติไม่รับรู้ว่าคนรอบข้างกำลังทำอะไร
"ให้ยามันแล้วใช่ไหม" เสียงทุ้มของชายอีกคนเอ่ยถามกับลูกน้องที่ทำหน้าที่ฉีดยากล่อมประสาทชนิดรุนแรงให้กับของที่จะนำขึ้นประมูลสำหรับคืนนี้
"ครับนาย เหลือแค่ให้ยาปลุกเซ็กซ์ครับ"
"ค่อยให้ก่อนส่งตัวขึ้นไป ราคาจะได้สูงๆ" เจ้าของงานประมูลที่ไร้จิตสำนึกไม่เป็นห่วงความปลอดภัยของเหยื่อสาวเหล่านี้ ทุกคนถูกให้ยากล่อมประสาททำให้เบลอไม่มีสติ ใครพูดอะไรก็ไม่รู้เรื่อง
"สาวเอเชียแม่งขาวเนียนฉิบหาย ถ้ากูมีเงินจะไปประมูลมาแก้ขัด" ชายฉกรรจ์ที่รับหน้าที่ค่อยให้ยาเหยื่อที่จะนำประมูลเอ่ยกับเพื่อนที่อยู่ข้างๆ พร้อมกับส่งมือลูบที่ต้นขาเนียนขาวของเอวา
"มึงอย่าจับมากเดี๋ยวช้ำขึ้นมาจะซวย" เพื่อนอีกคนรีบเตือนเพราะสินค้าในค่ำคืนนี้มูลค่าคงไม่น้อย ลำพังแค่เงินเดือนของพวกเขาคงไม่มีปัญญาใช้คืน
"น่าxxฉิบหาย คxยกูตั้งไปหมดแล้ว" พูดไปทั้งที่มือยังคงลูบไล้ที่ร่างกายของหญิงสาวที่ได้แต่นั่งนิ่งเหม่อลอย
"มึงใจเย็นก่อนเห็นอีเจ๊นั่นบอกว่าคนนี้ทีเด็ดเลยนะเว้ย กูว่าคืนนี้มีสิบล้านแน่" สองชายหนุ่มคุยกันถึงเรื่องราคาสินค้าชิ้นที่ดีจะขายได้ในค่ำคืนนี้
"ทีเด็ดเลยเหรอวะ แม่งเอ้ยกูน่าจะเจอก่อน"
"มึงเจอแล้วจะทำอะไรได้ อย่างพวกเราไม่มีเงินเหมือนพวกมาเฟียพวกนั้นหรอก" ชายหนุ่มทั้งสองคนถอดใจเมื่อมองไปด้านหน้าเวทีที่มีเหล่ามาเฟียและพวกคนมีอำนาจมารวมตัวกัน
แมทธิวมาถึงงานประมูลที่จัดยิ่งใหญ่ราวกับงานการกุศลแต่ที่จริงเป็นงานซื้อขายของผิดกฎหมายที่ตำรวจไม่กล้าเข้ามายุ่ง ชายหนุ่มมากับคนสนิทของตนเองก่อนจะถูกพาไปยังที่ด้านหน้าสำหรับแขกVIP
"ทำไมต้องนั่งหน้าด้วยมันลุกลำบาก" ชายหนุ่มบ่นอุบอิบ เขาแค่จะมาในตัวแทนของตระกูลเท่านั้นไม่ได้ตั้งใจจะมาประมูลอะไร เขาไม่สนใจของเหล่านี้อยู่แล้ว
"อดทนหน่อยนะครับบอสไม่นานงานก็เลิกแล้วครับ" มาร์โก้ที่นั่งข้างๆ ทำได้แค่ปลอบใจและอ้อนวอนให้ผู้เป็นนายใจเย็นอดทนอยู่ร่วมงานไปก่อน
"เฮ้อ! งานประมูลบ้าบออะไรก็ไม่รู้" แมทธิวบ่นอุบอิบจนมาร์โก้ได้แต่ส่ายหัวน้อยๆ
"สวัสดีครับคุณแมทธิว" ชายหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันที่นั่งข้างๆ หันมาทักทายผู้นำคนต่อไปของตระกูลคาเบร์ยสัน
"คนนี้ใคร?" แมทธิวส่งยิ้มให้คนตรงหน้าและทำกัดฟันหันไปถามมาร์โก้ที่คอยมีหน้าที่จำทุกคนที่เข้ามาทัก
"คามิล ราเกลครับ เป็นนักธุรกิจวงการสีเทา" มาร์โก้กระซิบข้างหูเบาๆ ทำให้แมทธิวพยักหน้ารับเข้าใจ
"ไม่คิดว่าจะมาเจอคุณคามิลที่นี่นะครับเนี่ย" แมทธิวทำตีเนียนพูดคุยอย่างสนิทสนมแต่ความจริงเขาแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนตรงหน้าเลย แม้แต่ชื่อยังต้องถามมาร์โก้ก่อน
"ได้ข่าวมาน่ะครับว่าวันนี้จะมาสาวเอเชียมาเป็นสินค้าประมูล ผมก็เลยอยากมาลองดูสักหน่อย" ชายตรงหน้าเอ่ยออกมาอย่างไม่มีปิดบัง เพราะสถานที่แห่งนี้ทุกคนมาเพราะมีจุดประสงค์เดียวกันทั้งนั้น
"งั้นเหรอครับ ผมคงต้องประมูลไว้สักชิ้นสองชิ้นแล้วแหละครับ" แมทธิวทำพูดโดยไม่ได้คิดอะไร เหล่าคนมีเงินและมีอำนาจในวันนี้จะมองทุกสิ่งที่อยู่บนเวทีประมูลเป็นสิ่งของแม้แต่ชีวิตคน
พรึ่บ! แสงไฟในห้องจัดงานถูกดับให้เหลือแค่ความมืดก่อนจะฉายแสงสปอตไลต์เพียงแค่บนเวทีการประมูลเท่านั้น
"สวัสดีครับทุกท่าน กลับมาพบกันอีกแล้วกับงานประมูลสินค้าจากทั่วโลกที่ทุกท่านรอคอย" เสียงพิธีกรประจำงานเริ่มทำหน้าที่ของตนเองซึ่งเรียกความสนใจแมทธิวให้หันไปมอง ชายหนุ่มนั่งหลังตรงวางมาดมาเฟียน่าเกรงขามไม่ให้เป็นที่ครหาของใครได้
"เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาขอเชิญพบกับสินค้าชิ้นแรกของเขา..." ของชิ้นแรกเป็นงานวาดของศิลปินชื่อดังที่มีข่าวว่าถูกขโมยไปเมื่อหลายปีก่อน แต่กลับมาอยู่ในงานประมูลนี้อย่างหน้าตาเฉย
"ทุกท่านคงทราบดีอยู่แล้วว่าภาพวาดนี้เป็นของหายาก มูลค่าคงเดากันไม่ยากใช่ไหมครับ สินค้าชิ้นนี้เริ่มเปิดประมูลที่หนึ่งแสนยูโรครับ"
"สองแสน" สิ้นสุดเสียงพิธีกรผู้คนที่นั่งด้านล่างก็เริ่มยกป้ายที่มีตัวเลขประจำตัวพร้อมกับบอกจำนวนที่ต้องการประมูล
"สี่แสนห้า" ภาพวาดงานหายากถูกตีราคาไปถึงสี่แสนห้าหมื่นยูโรแต่ดูเหมือนยังไม่เป็นที่พอใจมากนัก
"เจ็ดแสน"
"เจ็ดแสนครั้งที่หนึ่ง..ครั้งที่สะ.."
"แปดแสน" เสียงชายอีกคนไม่ยอมแพ้ เพราะหากขายต่อภาพนี้จะได้มากกว่าที่ประมูลเป็นแน่
ปึง! เสียงเคาะจบราคาที่แปดแสนยูโร หากเป็นคนอื่นอาจจะมองว่ามหาศาลแต่สำหรับคนเหล่านี้เงินที่จ่ายไปไม่ได้ทำให้ตัวเลขในบัญชีขยับเลยแม้แต่น้อย พวกเขาสามารถเอาของที่ประมูลไปต่อยอดได้มากกว่านี้อีกเยอะ
การประมูลดำเนินไปเรื่อยๆ ของที่นำมาประมูลเรียกได้ว่าถูกนำมาจากแทบทุกประเทศบนโลก มีทั้งของหายากและของบางอย่างก็ไม่สามารถหาที่ไหนได้อีก แมทธิวนั่งมองการประมูลอย่างเบื่อหน่ายเพราะเขาไม่มีของที่อยากได้
"บอสไม่ประมูลสักชิ้นเหรอครับ" มาร์โก้กระซิบถามเบาๆ เมื่อเห็นอีกคนทำหน้าราวกับเบื่อโลก
"ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ" เขานั่งมองมาตั้งแต่ชิ้นแรกจนเกือบถึงชิ้นสุดท้าย ของประมูลเริ่มเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตทั้งสัตว์สงวน สัตว์จากแถบหายากและมนุษย์ที่ทุกคนต่างรอคอย
"ต่อไปจะเป็นสิ่งที่สุภาพบุรุษทุกท่านรอคอย เครื่องระบายอารมณ์ที่สามารถทำได้ทุกอย่างตามคำสั่ง ฮ่าๆ" พิธีกรพูดไปหัวเราะไปอย่างกับชีวิตของคนไม่มีค่า ส่วนคนที่รอประมูลก็ตั้งใจรออย่างใจจดใจจ่อ
"ทำเหมือนชีวิตคนไม่มีค่า" แมทธิวบ่นอุบอิบไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่ทุกคนกำลังทำ คนพวกนี้พอประมูลไปแล้วไม่พอใจก็จะขายทิ้งไม่ก็จัดการไม่ให้เหลือรอดชีวิต เพราะมนุษย์ที่ถูกนำมาประมูลล้วนแต่เข้าประเทศมาอย่างผิดกฎหมาย ต่อให้ตายไปก็ไม่มีใครรู้
"ให้ยาพวกมันได้แล้ว" เสียงออกคำสั่งทำให้ชายฉกรรจ์สองคนจัดการจับเม็ดยากรอกใส่ปากของหญิงสาวแต่ละคนที่นั่งเหม่อลอยไร้สติ ดวงตาปรือราวกับว่าไม่มีวิญญาณหลงเหลืออยู่ในร่าง
หญิงสาวคนแรกถูกจับกระชากขึ้นมาบนเวทีกว้างพร้อมกับมีแสงสปอตไลต์สาดเข้ามา ชายที่อยู่เบื้องล่างต่างกันตาโตกับสินค้ามีชีวิตชิ้นแรกที่ถูกนำขึ้นมาประมูล
"เราต้องบอกไว้ก่อนเลยนะครับว่ารอบนี้เครื่องสนองตัณหาของพวกท่านมาไกลจากโซนเอเชียเลยนะครับเพราะฉะนั้นราคาค่อนข้างที่จะสูง"
"รีบเปิดราคามาสิจะลีลาทำไม!" เสียงตะโกนจากด้านล่างบ่งบอกถึงความต้องการที่อดกลั้นเอาไว้ พิธีกรแอบลอบยิ้มพอใจที่คืนนี้รายได้จะเข้ากระเป๋าเต็มๆ
"ชิ้นแรกเปิดที่ห้าแสนยูโรครับ"
"หกแสน"
"แปดแสนสอง"
"เก้าแสน" ยอดประมูลพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว
"หนึ่งล้าน"
ปึง! เสียงเคาะปิดการประมูลหญิงสาวคนแรกผ่านไปด้วยความรวดเร็วและไม่นานผู้หญิงเอเชียอีกหลายคนก็ถูกจับขึ้นมาประมูล
"ชิ้นสุดท้ายของค่ำคืนนี้ ชิ้นนี้ผมเชื่อว่าเป็นที่พอใจของใครหลายๆ คนในที่แห่งนี้แน่นอนครับ"
"ท่านใดกำลังหานางบำเรอวัยกระเตาะต้องไม่พลาดของชิ้นนี้นะครับ" สิ้นสุดเสียงพิธีกรร่างบอบบางของหญิงสาวคนหนึ่งถูกลากมาบนเวทีท่ามกลางสายตาของผู้คนนับร้อยที่จ้องมองมาที่เธอตาไม่กะพริบ
