7
หญิงสาวร่างบอบบางในสุดเอี๊ยมกางเกงยีนเสื้อสีขาว กำลังรดน้ำต้นไม้อย่างตั้งใจ ทำให้คนที่ตื่นมาได้สักพักมองมาแล้วยิ้มกับภาพที่เห็นอย่างไม่รู้ตัว
ด้านภาคิณที่เขาตื่นมาได้สักพักแล้วออกมารับลมที่ระเบียงห้องทำให้ มองเห็นหญิงสาวที่กำลังตั้งใจทำงานที่เขาสั่งอย่างขะมักเขม้น
“หึ โดนไปขนาดนั้นยังมีแรงมาทำงานได้อีก เก่งไม่เบาหนิ” เขาพึมพำกับตัวเองด้วยไม่คิดว่าเธอจะมีแรกลุกมาทำงานที่เขาสั่งไหว
ชายหนุ่มเผลอยิ้มเมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ใครจะไปรู้ว่าเขาจะได้เป็นคนแรกของเธอ ใจจริงเขาก็อยากจะนอนกอดร่างบางจนถึงเช้า แต่เขากลัวว่าจะมีคนมาเห็นแล้วจะแย่เอา
หลังจากคิดอะไรเพลินๆ เล่นอีกสักหน่อย ชายหนุ่มก็พาตัวเองเข้าไปอาบน้ำแต่งตัว พอเสร็จก็ใกล้เวลาที่ต้องไปทำงานแล้วจึงรีบไปทานอาหารที่ห้องอาหารทันที
“อาหารเสร็จแล้วเชิญคุณหนูเลยค่ะ” ป้าสายกล่าวเชิญชายหนุ่มเมื่อเขามาถึง
“วันนี้มีกับข้าวอะไรให้ผมทานบ้างครับป้า” ภาคิณนั่งลงแล้วถามขึ้น
“วันนี้ป้าทำต้มจืด ลูกชิ้นหมูค่ะ ได้หนูมีนเป็นลูกมือ น่าทานใช่ไหมละคะ”
“หนูมีน?” ชายหนุ่มถามออกไป ใครกันหนูมีน เขาไม่ยักจะรู้
“ก็คนที่คุณหนูพามาไงละคะ เธอทำอาหารเก่งนะคะ ป้าดูท่าทางเธอก็น่ารักเรียบร้อยมารยาทดี แถมขยันด้วยค่ะ ตื่นมาช่วยงานป้าตั้งแต่เช้า” ได้ทีก็เอ่ยชมหญิงสาวไม่ขาดปาก ทำให้ชายหนุ่มแปลกใจไม่น้อย เธอพึ่งมาถึงก็ทำให้ป้าสายยอมรับและชื่นชมได้เธอคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะปกติป้าสายจะเป็นคนเจ้าระเบียบมาก คนใช้ที่มาใหม่ป้าก็จะเป็นคนหามาเอง หากเขาพามามิวายถูกไล่ออกไปกันหมด
“ครับ” เขาตอบเพียงเท่านั้นก็รับประทานอาหาร เพียงคำแรกที่ทานเข้าไปก็รู้สึกว่ามันอร่อยมาก
“เป็นอย่างไรบ้างค่ะ”
“ก็ดีครับ” ด้วยความปากแข็งทำให้ชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยชมหญิงสาวตามจริง อย่างที่ได้ทานไป
ภาคิณยังคงตักต้มจืดลูกชิ้นหมูของเธอทานเรื่อยๆ จนหมดข้าวถึงจานที่สอง เขาถึงได้ลุกไปทำงาน ป้าสายเห็นก็ได้เลแต่ส่ายหัวในความปากหนักของคุณหนูของเธอ
อีกฝั่งของบ้านก็มีร่างบอบบางกำลังตั้งใจนำต้นไม้ลงแปลง พร้อมกับมีอาการเวียนหัวเล็กน้อยแต่ก็พยายามทำต่อให้เสร็จ ชายหนุ่มที่เมื่อครูกำลังจะออกไปทำงานแต่เหลือบไปเห็นหญิงสาวที่กำลังตั้งใจปลูกต้นไม้อยู่ ก็คิดอะไรขึ้นได้แล้วรีบตรงดิ่งไปหาหญิงสาวทันที
“หึ เก่งดีหนิ ถ้ามีแรงทำงานก็ดีฉันจะได้ให้งานเธอเพิ่มสมกับเงินที่พ่อแม่เธอยืมไปหน่อย”
“คะ คุณภาคิณ มีอะไรรึเปล่าคะ” หญิงสาวลุกขึ้นยืนแล้วถามออกไปเพราะไปไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด
“ฉันบอกว่าเธอเก่งดีหนิ เมื่อคืนโดนไปขนาดนั้นยังอุตส่าห์มีแรงทำงาน แต่ก็ดี ฉันชอบนะที่เธอตั้งใจทำงาน”
“ค่ะ”
“เธอพูดเป็นแค่นี้ใช่ไหม ห๊ะ ฉันเคยบอกว่ายังไงทำไมไม่จำ สมองมีไว้ทำอะไร หรือมีไว้แต่คิดเรื่องชั่วๆ” ภาคิณกระชากข้อมือของเธอแล้วถามออกไปด้วยอารมณ์โมโห เขาเคยบอกไปแล้วเธอก็ยังทำอยู่อีก มันหน้าหงุดหงิดเสียจริง
“ฮึก ขอโทษค่ะ ทีหลังมีนจะไม่พูดอีก” เธอตอบพร้อมเสียงสะอื้น
“แค่นี้ก็ร้องไห้ มารยาท” ว่าเสร็จเขาก็สลัดข้อมือหญิงสาวออกทำให้เธอล้มลงไปกองกับดินที่กำลังเตรียมสำหรับปลูกต้นไม้
“ถ้าวันนี้เธอยังถอนหญ้าและลงต้นไม้ไม่เสร็จ ไม่ต้องทานข้าว แล้วก็ห้ามใครมาช่วยด้วย เข้าใจไหม” ชายหนุ่มพูดออกไปแล้วหันไปบอกคนสวนคนอื่นๆ ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่
“ค่ะ มีนเข้าใจแล้วค่ะ” เธอรีบตอบออกไปเพราะกลัวว่าจะทำให้เขาโมโหอีก
“หึ ดี” พูดเท่านั้น ภาคิณเดินจากไปปล่อยให้หญิงสาวที่มีอาการไม่สบายลุกขึ้นด้วยตัวเอง
เมื่อเขาเดินลับสายตาไปเสร็จเธอก็ปล่อยโฮออกมาทันที ทำไมเขาต้องใจร้ายกับเธอขนาดนี้ทั้งที่เธอไม่เคยทำอะไรให้เขาเลยสักครั้ง
ตอนนี้ก็เวลาใกล้จะเที่ยงแล้ว แดดที่เริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อย ทำให้ร่างบอบบางที่กำลังถอนหญ้าไปเช็ดเหงื่อไปอย่างเหนื่อยอ่อนตั้งแต่เช้าข้าวก็ยังไม่ตกถึงท้อง น้ำสักแก้วก็ยังไม่ได้ดื่ม ซ้ำยังต้องก้มๆ เงยๆ ถอนหญ้าอีก ทำให้เกิดอาการหน้ามืดและสติดับวูบไปในที่สุด
