15
“มีอะไรกันรึเปล่าคะ” มินตราถามขึ้นหลังจากเอาของไปเก็บไว้เรียบร้อยก็เดินลงมายังห้องข้างล่างเพื่อจะไปช่วยป้าสายเตรียมของหวาน แต่เมื่อมาเจอเหตุการณ์ที่เหมือนจะตึงเครียดตรงหน้า หญิงสาวจึงรวบรวมความกล้าแล้วถามขึ้น
“หึ มาก็ดี” ชายหนุ่มยืนขึ้นเต็มความสูงก้าวอย่างรวดเร็วเข้าไปจับข้อมือของร่างบางไว้แน่น
“ฮึก คุณคิน มีนเจ็บค่ะ”
“เจ็บหรอ แล้วที่เธอเอาอาหารเผ็ดให้ฟ้ากินล่ะ ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าน้องฟ้าไม่ทานเผ็ด เธอยังจะทำให้เผ็ดอีก ที่ฉันบอกเธอไม่ฟังเลยใช่ไหม ห๊ะ!” ชายหนุ่มตะคอกใส่เธออย่างเดือดดาล อย่างกับเธอไปฆ่าคนรักของเขาอย่างไงอย่างนั้น
“พี่คิณคะ อย่าว่าเธอเลยค่ะ เธออาจจะไม่ได้ตั้งใจ อีกอย่างตอนนี้ฟ้าก็ไม่ได้เป็นไรแล้วด้วย”
“ฟ้าขึ้นไปพักก่อนเถอะเดินทางมาเหนื่อยๆ ส่วนทางนี้พี่จัดการเอง
เธอมานี่” เขาหันไปพูดกับฟ้าลดา แล้วฉุดกระชากร่างบางให้ตาม
“ฮึก โอ๊ย คุณคิณปล่อยฉันค่ะ ฉันเจ็บ” ด้วยความที่ชายหนุ่มมีรูปร่างใหญ่ และเธอก็ตัวเล็กทำให้ถูกเขาฉุดกระชากให้ตามมาได้อย่างง่ายดายโดยที่เขาแทบไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อย เพื่อต่อสู้กับแรงมดของเธอ ที่พยายามจะสลัดมือให้ออกจากการกอบกุม เขาบีบมือเธอจนห้อเลือด ซ้ำเขายังขายาวจนเธอเดินก้าวตามไม่ทันแล้วสะดุดล้มไปในที่สุด แต่ก็ไม่ได้ล้มแรงมาก ทำให้เธอแล้วหัวเข่าถลอกเท่านั้น หญิงสาวถึงกับน้ำตาซึมในทันที
“สำออย” ชายหนุ่มเพียงแต่ยืนมองด้วยสีหน้าแววตาสะใจ ไม่คิดที่จะเข้าไปพยุงร่างบางเลยสักนิด
“...ฮึก ฮือ...” มินตรามองเขาด้วยสายตาตัดพ้อ เธอไปทำอะไรให้เขานักหนากัน เขาถึงได้ทำรุนแรงกับเธอไม่หยุดแบบนี้
“คุณหนูคะ ปล่อยหนูมีนเถอะค่ะ เข่าและมือเธอแดง ถลอกหมดแล้ว” ป้าสายที่เห็นว่าสถานการณ์ไม่ดี จึงเดินตามชายหนุ่มไปที่สนามหน้าบ้าน เพื่อที่จะห้ามชายหนุ่ม ไม่ให้ทำอะไรไปมากกว่านี้
“แค่นี้หนูมีนของป้าไม่เป็นอะไรหรอกครับ จริงไหม หึ ทำคนอื่นได้
พอโดนตัวเองเป็นไงละ” เขาย่อตัวนั่งชันเข่าแล้วยื่นมือไปบีบคางเล็ก จนเธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด
“อึก โอ๊ย อ่อย อัน เอ็บ”
“คุณหนูคะ พอเถอะค่ะ เธออาจจะไม่ได้ตั้งใจก็ได้”
“ป้าสายมีอะไรก็ไปทำเถอะครับ ผมจะตกลงอะไรกับเธออีกสักหน่อย” พูดชายหนุ่มก็ลุกขึ้น ส่งมือให้ร่างบางจับแล้วพยุงตัวเธอขึ้น
“หึ” หฺญิงสาวปฏิเสธความช่วยเหลือของเขาแล้วค่อยๆ พยายามลุกด้วยตนเองอย่างลำบาก
“รีบๆ นะคะ นี่ก็ค่ำแล้วข้างนอกยุงเยอะ” เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มกับหญิงสาวลุกขึ้นแล้วคงน่าจะพูดคุยกันดี สายใจจึงเดินออกมาจากตรงนั้น เพื่อที่จะรีบไปเตรียมตัวเข้านอน พรุ่งนี้คุณคิณมีงานแต่เช้าเธอต้องรีบตื่น มาเตรียมอาหารให้เขากับคุณฟ้าลดา
“มานี่ คืนนี้เธอต้องถอนหญ้าที่นี่ให้เสร็จ แล้วอย่าให้ฉันรู้นะ ว่าเธอแอบอู้งานเข้าไปนอนข้างใน” ภาคิณดึงตัวมินตรามาที่ม้านั่งยาวตรงสนามหญ้าหน้าบ้าน
“ฮึก ... ค่ะ” เมื่อไม่สามารถที่จะปฏิเสธอะไรเขาได้ เธอก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับอย่างเคย
“หึ ดี”
“ฉันขอถามอะไรคุณสักอย่างได้ไหมคะ ทำไมคุณต้องทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจฉันขนาดนี้ ทั้งที่คุณพ่อคุณแม่ แค่เป็นหนี้คุณเท่านั้น” เธอถามเขาออกไป เธอสงสัยมาตลอดว่าเหตุใดเขาต้องโหดร้ายกับเธอขนาดนี้ ทั้งที่ครอบครัวของเธอแค่เป็นหนีเขาเท่านั้น
“เพราะฉันไม่ชอบผู้หญิงอย่างเธอ ยอมแลกศักดิ์ศรีเพื่อเงิน น่าสมเพช ไหนจะมารยาของเธอที่ทำให้ป้าสายเข้าใจว่าเธอเป็นคนดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ และฉันจะทำให้เธอเผยธาตุแท้ของเธอออกมาให้ได้” จริงๆ เขาก็ให้คำตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้ทำร้ายเธอนัก และนี้เหตุผลที่เขาให้กับตัวเองเพื่อที่จะได้ไม่รู้สึกกับการกระทำของตัวเอง
“...”
“ฉันพูดความจริงถึงกับรับไม่ได้เลยหรอ” เขาเห็นเธอนิ่งเงียบไปหลังจากได้รับคำตอบ ตาคู่สวยที่คลอไปด้วยน้ำตาในคราแรก จ้องมองเขาด้วยสายตานิ่งเรียบ ก่อนจะเอ่ยถามต่อ
“แล้วเมื่อไหร่คะ เมื่อไหร่ที่คุณจะปล่อยฉันไป!” เธอรวบรวมพลังมั้งหมดที่หลงเหลืออยู่ตอนนี้ ถามเขาออกไปในสิ่งตนเองอยากรู้ ว่าเมื่อไหร่ที่เขาจะปล่อยให้เธอได้หลุดพ้นจากนรกขุมนี้สักที
ด้านชายหนุ่มที่เห็นแววตานิ่งเรียบ มีแต่ความเจ็บปวดในแววตานั้น
ใจแกร่งก็วูบไวทันที แต่เพียงไม่นานเขาก็สลัดความคิดบ้าๆ นี้ทิ้ง ก่อนจะเอ่ยคำพูดเสียดแทงจิตใจ ให้เธอเจ็บช้ำมากขึ้นอีก
“ก็จนกว่าฉันจะพอใจ ทำไมหรอ จะรีบไปเสนอตัวให้ไอ้รุ่นราวคราวเดียวพ่อวันนั้น...”
~เพี้ยะ~ เมื่อได้ยินคำพูดแสนดูถูกของเขา มือบางก็ตวัดฟาดไปที่แก้มสากทัน อย่างไม่คิดจะห้ามการกระทำของตัวเอง
“คุณภาคิณ มันจะมากไปแล้วนะ ถึงฉันจะทำงานใช้หนี้คุณอยู่ เป็นลูกน้องของคุณ แต่คุณก็ไม่มีสิทธิ์มาดูถูกฉันแบบนี้” เธอกล่าวว่าเขาด้วยอารมณ์เดือดดาล จนชายหนุ่มนิ่งอึ้งกับการกระทำของเธอ ปกติเธอจะยอมมาตลอด ไม่เคยโต้เถียง เพียงก้มหน้ายอมรับมัน พร้อมกับหยาดน้ำตาเท่านั้น
“นี่เธอกล้าตบฉันหรอ มินตรา หึ กล้านักใช่ไหม กล้านักคืนนี้ก็นอนอยู่ตรงนี้ และถ้าพรุ่งนี้ฉันตื่นมาแล้วงานยังไม่เสร็จเราได้เห็นดีกันแน่มินตรา
“ค่ะ” เธอตอบรับเขาเสียงอ่อนแรง ด้วยความที่เธอมีอาการเวียนหัวอยู่ก่อนหน้าทำให้เธอไปอยากจะมีปากมีเสียงกับเขาไปมากกว่านี้แล้ว แค่นี้เธอก็เหนื่อยที่จะรับมือไหว
“เข้าใจไหม ห๊ะ!”
“อึก เข้าใจแล้วค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว” จากที่ใจกล้ากล่าวว่าเขาในคราแรก เมื่อขึ้นเสียงใส่ อารมณ์อ่อนไหวเธอก็ตีตื้นขึ้นมาทันที เธอแพ้ให้เขาอีกแล้วสินะ
“หึดี ฝันดีนะที่รัก” เขาพูดกระซิบบอกฝันดีหญิงสาวตรงหน้า แต่ค่ำพูดของเขากลับทำให้หญิงสาวยิ้มไม่ออก
“ฮึก เมื่อไร เราจะหลุดพ้นจากที่บ้าๆ นี้สักทีนะ” มินตราพูดออกมาหลังจากที่ชายหนุ่มเดินออกไปแล้ว เหนื่อย เธอเหนื่อยเหลือเกิน
“แม่คะ มีนเหนื่อย มีนทนไม่ไหวแล้วค่ะ มารับมีนไปอยู่ด้วยที ฮือ ฮึก”
“หึ ถ้าแกคิดจะแย่งพี่คิณไปจากฉัน แกต้องโดนแบบนี้” เสียงของใครคนหนึ่งที่ยืนมองดูเหตุการณ์จากด้านบนพูดพร้อมแสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว
ส่วนคนที่ถูกพูดถึงเธอก็ก้มหน้าก้มตาถอนหญ้าต่อไป ข้าวเย็นก็ยังไม่ตกถึงท้อง ไหนจะอาการเวียนหัวตอนเช้าอีก ด้วยความที่เธอต้องก้มๆ เงยๆ เพื่อที่จะถอนหญ้า ทำให้เธอเป็นล้มไปในที่สุด
“มินตรา เธอเป็นอะไร ฟื้นสิ” ภาคิณที่ลงมาเธอทำงานเนื่องจากเขานอนไม่หลับที่ไม่มีร่างบางข้างกาย มันรู้สึกหว่าเหว่แปลกๆ รีบเข้ามาพยุงเธอไว้ เขย่าตัวคนในอ้อมแขนพร้อมกับตบหน้าเธอเบาๆ
“ใครอยู่แถวนี้ เอารถออกที โถ่เว้ย! ไอนนท์ ไอนนท์ เอารถออก กูจะไปโรงบาล” เขาอุ้มรางบางแนบอกแล้วเดินไปที่บ้านพักของธนนนท์ ลูกน้องหรือคนใช้เขาจะมีที่พักให้เป็นสัดส่วน แต่ธนนนท์จะมีบ้านพักหลังเล็กเป็นของตัวเองแยกออกมา เนื่องจากเขามีตำแหน่งเป็น เลขา บอดี้การ์ด และเพื่อนในวัยเด็กของเขา พ่อของคุณภาคิณรับเขามาเลี้ยงดูตั้งแต่ยังเด็ก ดูแลเขาดีเปรียบเสมือนลูกอีกคนเลยก็ว่าได้ ไม่เคยปฏิบัติกับเขาเป็นคนใช้เลย ทำให้เขายินดีและเต็มใจที่จะช่วยเหลือภาคิณ เรียกได้ว่าเขายอมตายแทนเลยก็ว่าได้
“ครับนาย เอ่อ แล้วคุณมีนเธอเป็นไร ทำไมถึงได้เป็นแบบนั้นละครับ” ธนนนท์เปิดประตูออกมาก็พบเจ้านายหนุ่มที่มีสาวงามอยู่แบบอก เขาจึงเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย
“มึงไม่ต้องถามมาก เอารถออก” ตอนนี้ไม่มีเวลามาอธิบายมาอธิบายอะไรกับใครทั้งนั้น คนตัวเล็กในอ้อมกอดของเขาสำคัญที่สุด
“ครับ ครับ”
-ณ โรงพยาบาลเอกชนxxx-
“หมอครับ หมอ!”
“คุณผู้ชายช่วยวางคนไข้ลงก่อนนะคะ หมอจะได้ตรวจดูว่าเธอเป็นอะไร” คุณหมอสาวรีบเดินหืดหอบมาหาชายหนุ่มที่โวยวายอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน
“ครับ”
“เชิญญาติคนไข้รอด้านนอกนะคะ”
“เอ่อ ครับ” ใจจริงเขาอยากจะอยู่ด้วยกับเธอ เขาไม่น่าให้เธอทำงานหนักเลยทั้งที่รู้ว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอคงทนไม่ไหวกับงานหนักขนาดนั้นแน่ ความไม่ชอบความเกลียดเธอมันหายไปในชั่วพริบตาตั้งแต่เห็นร่างบางเป็นลมล้มพับไป มีแต่ความเป็นห่วงที่เข้ามาแทนที่
“นายครับหยุดเดินก่อนครับ ผมเวียนหัว”
“ก็กู ...” ‘เป็นห่วงเธอหนิวะ’ ภาคิณได้แต่พูดประโยคนี้ต่อในใจ
“ก็ อะไรครับ คุณมีนเธอไม่เป็นอะไรมากหรอกครับนาย เธออาจจะแค่เป็นลมไปเฉยๆ ก็ได้ นายอย่าเครียดไปเลยครับ” ธนนท์ที่รู้ว่าเจ้านายเขารู้สึกอย่างไรกับหญิงสาวแกล้งถามออกไป เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนกับคนอื่น เจ้านายของเขาไม่เคยที่จะกลับไปนอนบ้านทุกวัน ไหนจะอารมณ์ดีขึ้นอีกเวลาทำงาน แถมยังเป็นห่วงเธอจนโวยวายใหญ่โตแต่ก็ยังปากแข็ง เขาคงจะได้นายหญิงเร็วๆ นี้
ผลัก ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออก ตามมาด้วยร่างเล็กๆ ของคุณหมอสาวที่หายเข้าไปเมื่อสักครู่ แต่มันช่างยาวนานสำหรับเขาเหลือเกิน
“หมอครับภรรยาผมเป็นไงบ้างครับ” เขารีบตรงดิ่งไปหาคุณหมอสาวทันทีที่ประตูเปิดออก
“คนไข้ปลอดภัยดีค่ะแค่มีอาการอ่อนเพลีย ตอนนี้หมอให้น้ำเกลือเธออยู่นะคะ ถ้าน้ำเกลือหมดก็กลับได้เลยค่ะ แล้วก็คนไข้ควรที่จะพักผ่อนให้เพียงพอไม่ควรที่จะงานอะไรหนักๆ มันจะไม่ดีต่อ... ต่อตัวคนไข้เอง”
“ครับ”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วหมอขอตัวนะคะ”
“เห็นไหมครับนายผมบอกแล้วว่าเธอไม่เป็นอะไรมาก”
“ใครจะไปรู้วะ ก็เห็นอยู่ๆ ก็สลบไป ถ้ากูเดินไปไม่ทันก็คงล้มอยู่กับพื้นไม่มีคนมาเห็น”
“ครับๆ ผมว่าเข้าไปดูเธอก่อนดีกว่า”
“มึงเข้าไปก่อน กูขอไปเข้าห้องน้ำก่อน”
“คนไข้ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ นะคะพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ทำงานหนักจนเกินไปอายุครรภ์ของคุณแม่ยังน้อย มันจะไม่ดีต่อน้องแล้วก็ตัวคุณแม่เอง” นางพยาบาลกล่าวบอกคนไข้ของตัวเองด้วยน้ำเสียงใจดี
“ค่ะ แล้วเขาจะไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหมคะ” เธอถามออกไปอย่างกังวลใจ เขาจะต้องไม่รู้เด็ดขาดว่าเธอท้องลูกของเขาอยู่ ถ้าเขารู้ว่ามีลูกที่เกิดจากผู้หญิงที่ตัวเองเกลียดเขาต้องสั่งให้เธอทำแท้งเป็นแน่ แค่คิดใจเธอก็เจ็บปวดแล้ว
“ไม่น่าจะรู้นะคะ คุณหมอคงจะไม่บอกอะไร คุณแม่ทำใจให้ผ่อนคลายเถอะค่ะ” พยาบาลตอบกลับออกมาอย่างเห็นใจ เธอเห็นใจคนตรงหน้าพอสมควรหลังจากได้ฟังเรื่องราวที่หญิงสาวเล่าให้ฟัง ท้องกับคนที่สมควรที่จะตั้งท้องด้วย ใครจะไม่รู้จักชายหนุ่มที่มาส่งเธอมาโรงพยาบาลที่เป็นทั้งมาเฟียเป็นทั้งนักธุรกิจชื่อดัง แต่เธอก็ไม่คิดว่าเขาจะใจร้ายใจดำถึงขนาดสั่งฆ่าลูกตัวเอง ยังไงก็เป็นเรื่องของครอบครัวเธอก็ทำได้แค่ทำตามที่เธอขอร้องเท่านั้น
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ ที่เข้าใจฉัน”
“ค่ะ งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะต้องไปดูคนไข้คนอื่นต่ออีก ยังไงก็ดูแลตัวเองดีๆ นะคะ”
“ค่ะ”
เมื่อพยาบาลสาวเดินออกไปแล้ว คนที่แอบฟังอยู่ก็เดินเข้ามา
ผลัก
“อ่าว คุณนนท์” มินตรามองหาคนตัวโตที่สั่งให้เธอทำงานหนักจนเป็นลมไป แต่ก็ไม่เห็นสงสัยเขาคงจะไม่ชอบเธอมากสินะ เธอเจ็บป่วยขนาดนี้ยังไม่คิดที่จะเข้ามาเยี่ยมเยียน แต่มันก็ดีแล้ว เธอจะได้ไม่ต้องมานั่งฟังคำพูดของเขาให้ปวดใจ
“ครับ คุณมีนค่อยยังชั่วแล้วใช่ไหมครับ เอ่อ แล้วเรื่อง...” ธนนนท์ชี้ไปที่ท้องของหญิงสาวเพื่อเป็นการบอกว่าเขารู้เรื่องทีเธอท้องแล้ว
“คะ คุณรู้” ธนนนท์ไม่ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้ารับ เมื่อกี้เขาได้ยินประโยคที่พยาบาลพูดกับเธอทั้งหมด หญิงสาวตรงหน้าเขาท้อง และคนที่เป็นพ่อของเด็กจะเป็นใครไม่ไม่ได้นอกจากเจ้านายของเขา
“ใช่ค่ะ คุณนนท์อย่าบอกเรื่องนี้กับคุณคิณนะคะ ถ้าคุณคิณรู้เรื่องนี้ ต้องให้ฉันเอาเด็กคนนี้ออกแน่ ฮึก ฮือ” มินตราพูดออกมาทั้งน้ำตาเธอกลัวเขาจะทำอย่างที่เธอคิดจริงๆ
“นายคงไม่ใจร้าย ใจดำขนาดนั้นหรอกครับคุณมีน” เขาเห็นใจหญิงสาวตรงเหลือเกิน นายเขาคงทำไม่ดีกับเธอไว้เยอะสินะ เธอถึงได้กลัวขนาดนี้
