13
“ขอบคุณลุงหมายมากนะคะ ที่พามีนไปซื้อของวันนี้”
“ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ของลุงอยู่แล้ว”
“ค่ะ งั้นมีนไปก่อนนะคะ ถ้ามีอะไรให้มีนช่วยก็บอกได้นะคะ ไม่ต้องเกรงใจ” หญิงสาวผู้ที่มีจิตงามเอ่ยออกไปพร้อมกับรอยยิ้ม
หลังจากที่เมินตรานำของที่ซื้อมาวันนี้จัดเก็บไว้อย่างเรียบร้อย ก็ออกมาทำงานตามปกติเหมือนเดิม ตอนนี้ก็บ่ายคล้อยเกือบจะเย็นแล้วเธอจึงเลือกที่จะไปช่วยป้าสายทำอาหารให้เขาก่อน ส่วนคนใช้คนอื่นๆ นะหรือ เขาให้ลากลับไปเยี่ยมบ้านเกือบจะหมด จะเหลือก็เพียงคนเก่าคนแก่ที่อยู่ที่นี่มานานไม่มีครอบครัว จึงมีเพียงเธอป้าสาย ลุงหมาย แล้วก็คนรับใช้เก่าคนอื่นๆ อีกไม่ถึง 5 คน ส่วนที่เหลือก็มีบอดี้การ์ดของเขาที่รักษาความปลอดภัยอย่างหนาแน่น เขาคงอยากจะใช้งานเธอให้คุ้มกับหนี้ที่เสียไปสินะ ได้เมื่อเขาต้องการแบบนั้นเธอก็จะทำทุกอย่างจนกว่าเขาจะพอใจแล้วปล่อยเธอไป
“เสร็จแล้วให้มีนตั้งโต๊ะเลยไหมคะ ป้าสาย”
“ตั้งเลยก็ได้จ้ะ อีกสักพักคุณหนูก็คงจะมาแล้ว”
ร่างบางตั้งโต๊ะเตรียมอาหารให้ชายหนุ่มเรียบร้อยแล้ว เธอก็เตรียมอุปกรณ์เพื่อจะไปทำงานอื่นต่อ ซึ่งมันก็มีมากมายซะจนเธอเลือกไม่ถูกว่าจะทำอย่างไหนก่อนดี
“เก็บห้องเขาก่อนแล้วกัน” เมื่อคิดได้ว่าต้องไปเก็บห้องให้ชายหนุ่มก่อนหญิงสาวก็รีบวิ่งขึ้นไปทันที เพราะกลัวว่าเขาจะกลับมาก่อนที่ห้องจะถูกทำความสะอาด โดยลืมนึกไปว่าขาตัวเองนั้นยังคงมีอาการเจ็บอยู่จากการที่ไปชนกับชายสูงวัยที่ห้างสรรพสินค้า
“โอ๊ย” หญิงสาวร้องออกมาเสียงไม่ดังมากนัก แล้วก้าวเดินอย่างช้าๆ เพื่อไปให้ถึงห้องที่ต้องทำความสะอาดให้เขา
“ต่อไปก็ห้องทำงาน” ทำเสร็จจากห้องนี้ก็ย้ายไปห้องนู้น จากห้องนู้นก็ไปห้องนั้น ทำไปเรื่อยๆ แบบนี้จนครบหมดทุกห้องปีกซ้ายของคฤหาสน์ ส่วนปีกขวานั้นคนอื่นๆ ที่ยังอยู่เป็นคนทำความสะอาด
“เห้อ เสร็จสักที” หญิงสาวได้แต่เพียงถอนหายใจอย่างเหนื่อยหอบกับงานที่ทำ ถึงแม้ว่าตอนที่เธออยู่ที่บ้านเธอจะต้องเป็นคนทำความสะอาดบ้านทั้งหมดแต่เธอก็ยังไม่เหนื่อยเท่านี้ ซึ่งแค่บ้านฝั่งทางปีกซ้ายของเขาก็ใหญ่กว่าบ้านเธอถึงสองเท่าแล้ว
“จร๊อก จรอก” เสียงท้องร้องของคนที่ยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยง-เย็น และตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบที่จะหนึ่งทุ่มแล้ว
หญิงสาวเข้าครัวมาหาทำอะไรง่ายๆ ทาน ซึ่งตอนนี้ทุกคนคงเข้านอนกันหมดแล้วเพราะจะต้องตื่นแต่เช้ามาทำงาน
หลังจากทานอาหารเสร็จมินตราก็เข้าไปทำธุระส่วนตัวเพื่อเตรียมตัวที่จะไปหาเขาไปทำงานที่เธอไม่เคยมีความคิดที่อยากจะทำมันเลยสักนิด
“มาเร็วดีหนิ สงสัยคงจะคันมาก” ภาคิณพูดถากถางทันทีที่หญิงสาวมาถึง
“...” เธอไม่ตอบกลับอะไรกับคำพูดของเขาเพียงแต่เดินมาหยุดอยู่กลางห้องนอนกว้าง
“ทีฉันพูดด้วยทำเป็นไม่ตอบ ทีผู้ชายคราวพ่อที่ห้างระริกระรี้ดีจังเลยนะ ห๊ะ!!?” ชายหนุ่มที่พิงหัวเตียงดูงานในโทรศัพท์อยู่ตรงเข้าไปกระชากแขนร่างบางแล้วตะโกนถามด้วยอารมณ์เดือดพล่าน
“มะ มัน ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ”
“มันไม่อย่างนั้นแล้วมันยังไง ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ ฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร ตราบใดที่พ่อแม่ของเธอยังคงติดหนี้ฉันอยู่ เธอไม่มีสิทธิ์ ที่จะไปเสนอตัวให้ผู้ชายคนอื่น เข้าใจไหม ห้ะ” เขาบีบมือบางแน่น ถ้าเขาไม่ผ่อนแรงมีหวังมือเล็กๆ ของเธอได้หักเป็นแน่
“ฮึก อึก” มีเพียงแต่เสียงสะอื้นเท่านั้นที่ตอบเขา
“ฉันถามทำไมไม่ตอบ!!”
“ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ” เขาคงจะเห็นเธอเป็นแค่ที่ระบายความใคร่เพียงเท่านั้นสินะ ชีวิตและศักดิ์ศรีของเธอหมดสิ้นแล้วจริงๆ
“หึ ดี งั้นก็มาทำหน้าที่ของเธอซะ” ไม่พูดเปล่าปากหนาทาบทับริมฝีบางอย่างแต่ใจ รุนแรง พร้อมกับดันตัวของหญิงสาวให้ชิดติดผนังห้อง
“อื้อ” มินตราระดมกำลังทุบอกชายหนุ่มอย่างขัดขืนและไม่ยอมเปิดปากให้เขาได้ลุกล้ำเข้ามา
“อะไรนักหนาวะ!” เขาตะคอกใส่หน้าร่างบาง จนน้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ฮึก ฮือ อึก” หญิงสาวทำอะไรไม่ถูกกับอารมณ์ฉุนเฉียวของเขาตอนนี้ เธอทำได้เพื่อนยื่นตัวสั่นอยู่กับที่ไปกับความหวาดกลัวของเขาเท่านั้น
“ทำดีๆ ไม่ชอบใช่ไหม ได้” เขาเหวี่ยงร่างบางของหญิงสาวลงบนเตียงด้วยความแรง จนเธอนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
“อ๊ะ”
“สำออย”
“ฮึก อย่าทำฉัน ได้โปรด ฮือ”
ชายหนุ่มเมินคำพูดของคนใต้ร่าง ก่อนจะหันมาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองอย่างรวดเร็วและกระชากเสื้อของหญิงสาวจนขาดวิ่น รอยสีแดงช้ำขึ้นตามแขนขาวนวลของหญิงสาวอย่างรวดเร็วเนื่องด้วยเธอเป็นคนผิวขาวใส ฉะนั้นห่างโดนอะไรกระทบผิวนิดหน่อยมักจะปรากฏรอยแดงให้เห็นอยู่เสมอ
ซึ่งรอยเก่าที่เขาประทับไว้มันก็ยังไม่เลือนหายไปไหน มันยังคงอยู่เพียงแต่สีจางลงเท่านั้น หญิงสาวกลั้นสะอื้นแทบขาด ผู้ชายตรงหน้าเขาช่างใจร้ายเหลือเกิน การกระทำของเขาทำร้ายจิตใจของเธออย่างสาหัส
“อื้ม ปากหวานไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ” ภาคิณตะปมจูบปากบางจนบวมแดง มือเขาก็ไม่ปล่อยให้ว่างเปล่า ฟอนเฟ้นหน้าอกหน้าใจของหญิงสาวที่ขนาดพอดีมือ จนเธอส่งเสียงครวญคราง ออกมาอย่างเจ็บปวดปนเสียวซ่าน
“อ๊ะ อือ เบาๆ ค่ะ ฉันเจ็บ” ไหนๆ ก็ขัดขืนคนตัวใหญ่ไม่สำเร็จอยู่แล้ว เธอเลยเลือกที่จะให้เขาไม่ทำรุนแรงกับเธอ อย่างน้อยมันก็ไม่ทำให้เธอเจ็บปวดไปมากกว่าที่เป็นอยู่
“หึ ยอมฉันดีๆ แต่แรก ก็สิ้นเรื่อง” ชายหนุ่มเลื่อนมือมาที่กลางกายของหญิงสาว
“อ๊ะ เจ็บ” เขาสอดใส่เข้ามาทีเดียวถึงสามนิ้ว แล้วขยับเข้าออกจนหญิงสาวสุขสม
“อ๊ะ อาส์”
“หึ ตาฉันบ้าง” ภาคิณสาวแก่นกายสองสามที ก่อบค่อยๆ สอดใส่แก่นกายของเขาเข้าไปในดอกไม้งาม มังกรของเขาพร้อมแล้วสำหรับออกรบ ก่อนจะดันพรวดเขาไปทีเดียว ด้วยขนาดของเขาทำให้หญิงสาวร้องออกมาด้วยความเจ็บ ถึงจะมีน้ำหล่อเลี้ยงจากเมื่อกี้ มันก็ยังทำให้เธอเจ็บอยู่ดี และมันก็เบาอยู่มากหากเทียบกับครั้งแรกและครั้งที่ 2
“อ๊ะ ค คุณคิณ เบาๆ ค่ะ ฉันเจ็บ”
“อื้อ เธออย่าตอดแน่น อ๊าห์” เขาแช่ข้างไว้ให้เธอได้ปรับตัว
“อื้อ คุณคิณอึดอัด”
“โอ้ว อ๊ะ อ๊ะ ร่องเธอแน่นเป็นบ้า” เมื่อเห็นว่าเธอพร้อมแล้วเขาก็ขยับเอวสอบเขาออกร่างบางอย่างรวดเร็วและรุนแรงตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน
“อ๊ะๆ เบาๆ ค่ะ”
“ครางชื่อฉัน” ภาคินพูด ออกมาด้วยเสียงแหบพร่า
“คะคุณ” เขากระแทกเอวสอบใสร่างบางเมื่อเห็นว่าเธอยังคงไม่ยอมพูด
“อ๊ะ”
“คุณคิน มีนไม่ไหวแล้วค่ะ อ๊ะ”
“อืม พร้อมกันนะ อ๊ะ อ๊ะ”
“อาส์/อาส์” ชายหนุ่มครางอย่างสุขสมเมื่อปล่อยสายธารแห่งชีวิตเข้าไปในดอกไม้งามจนมันเอ่อล้นออกมา เขาแช่ไว้สักพักก่อนจะคอยๆ ดึงออก อย่างเสียดาย ร่องรักเธอทั้งนุ่ม ทั้งอ่อนนิ่ม ใครจะอยากเอาออกมากันเล่า
“หึ ยังไม่จบแค่นี้หรอก คืนนี้ยังอีกนาน” เขาบอกเธอที่หลับไปอย่างหมดแรงเพราะบทรักเมื่อสักครู่
ภาคิณยังคงมีดำเนินบทรักกับหญิงสาวไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าร่างบางจะหลับๆ ตื่นๆ เขาก็ไม่ได้สนใจเลยแม้แต่นิด เพียงเพื่อให้ร่างกายตนเองสุขสมเท่านั้น ไม่สนใจว่าเธอจะรับไหวรึเปล่ากับบทรักของเขา
“อาส์” สายธารครั้งสุดท้ายถูกปลดปล่อยออกมา พร้อมกับที่ชายหนุ่มล้มตัวลงกอดหญิงสาวข้างกายไว้ แล้วเข้าสู่ห้วงนิทราในที่สุด
