13 อ่านไม่รู้เรื่อง... nc
ดรัณจำต้องผละใบหน้าออกจากเนื้อนุ่มแสนหอมนั้น แต่ไม่วายจะสูดดมความหอมของแก้มนุ่มเข้าปอดฟอดใหญ่
“พี่เรียกแก้มมาเพราะไม่อยากนั่งกินเหล้าคนเดียว กินคนเดียวแล้วมันน่าเบื่อ”
ร่างสูงกดรีโมทเปิดทีวี สาวน้อยดิ้นรนลงจากตักกว้าง และดรัณก็ไม่หยุดที่จะรั้งตัวเธอไว้ เขาหันไปหยิบถุงขนมส่งให้หญิงสาว
“กินขนมมั้ย” เขารู้ว่าเธอคงไม่ดื่มเป็นเพื่อนเขาแน่ ๆ จริงให้เธอทานขนมเป็นเพื่อนก็ยังดี
ปรินดาแกะถุงขนมและหยิบส่งเข้าปากตัวเองไปเรื่อย ๆ จนคนข้าง ๆ ต้องสะกิดและอ้าปากรอ หญิงสาวจึงป้อนเข้าปากเขา
“แก้มว่าพี่รัญดื่มแค่นี้ก็พอนะคะ เดี๋ยวแก้มพาไปอาบน้ำ”
“จริงเหรอ..หึหึ”
“พาไปส่งอาบน้ำค่ะ อย่าคิดพิเรนทร์สิคะ”
ระหว่างรอดรัณอาบน้ำ ปรินดาก็หยิบนิยายที่อ่านติดพันขึ้นมาอ่านทันที นิยายรักหวาน ๆ เป็นแนวที่เธอชอบ ดรัณออกจากห้องน้ำมาตอนไหนก็ไม่รู้ ร่างหนาเอนตัวพิงร่างบางไว้ และวางศีรษะลงบนบ่าเล็กบาง มือน้อยช่วยจับท่าทางการนอนของเขาให้สบายยิ่งขึ้น แต่แล้ว...คนที่ทำท่าจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่กลับพลิกกายทาบทับร่างบางที่เสียหลักเอนราบไปกับโซฟานุ่ม เพราะไม่ทันตั้งตัว
“พี่รัณ! นอนดีๆ สิคะ แก้มขออ่านนิยายเรื่องนี้ต่อให้จบก่อน”
“ไม่ต้องอ่านแล้ว” มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อตัวโต สัมผัสเนื้อแท้ที่เนียนนุ่มและเย็นลื่น
“ขอแก้มอ่านก่อนนะคะ กำลังสนุกเลยค่ะ” สาวน้อยปัดป้องสุดแรง แต่แรงเท่ามดหรือจะสู้แรงช้างสารได้
“พี่ขอกอดหน่อยนะ” เสียงแหบพร่ากระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูเล็ก ๆ ก่อนงับติ่งหูนุ่มของคนดื้อรั้นเบา ๆ
“พี่รัญ...กอดเบา ๆ สิคะ”
“พี่จะกอดแน่นขึ้น จนกว่าพี่จะได้กินแก้ม นิยายน่ะ เอาไว้อ่านทีหลังก็ได้ เอาไว้ตอนที่พี่ไม่อยู่สิ นะ...นะ” เสียงออดอ้อนออเซาะที่แหบกระเส่าของดรัณไม่เป็นผล เมื่อปรินดาออกแรงผลักดรัณเต็มแรง ภาพของนางเอกสาวเมื่อกลางวันที่ตรงรี่เข้ามาจูบปากดรัณ ทำให้สาวน้อยมีแรงฮึดสู้
“คนเจ้าเล่ห์ ปล่อยแก้มเดี๋ยวนี้นะ”
“แก้ม...เป็นอะไรไป พี่จะรักแก้มก่อนไม่ได้เหรอ” เสียงทุ้มนุ่มเริ่มแหบพร่าเมื่อร่างบางอรชรแต่ทรวดทรงนั้นเต็มไม้เต็มมือในทุกสัดส่วน กำลังเบียดเสียดส่ายไปมาบนร่างกำยำ ปรินดาไม่รู้หรอกว่าการบิดร่างให้หลุดพ้นจากอ้อมกอด จะยิ่งเป็นการยั่วยุอารมณ์รักของดรัณให้โหมกระพือมากยิ่งขึ้น
“ไม่ได้ แก้มบอกว่าไม่ได้ไง อื้อ!!!” ปรินดาพยายามจะหยัดกายขึ้น แต่อ้อมแขนแข็งแรงที่รัดเธอแน่นก็ไม่ยอมปล่อย ดรัณลูบไล้สะโพกผายงอนงาม บีบเคล้นหนัก ๆ
“อย่า..อื้ย!!!” เสียงตอบนั้นยังฟังดูแข็ง ๆ เหมือนเดิม
“อย่าดื้อสิ” มือใหญ่สอดเข้าไปใต้ขอบกางเกงขาสั้น ลูบไล้ เนื้อแท้เต่งตึง การที่ปรินดาพยายามทรงตัวขึ้น เท่ากับเปิดทางให้มือหนาสอดเข้าหากลางร่าง เพราะต้นขาเรียวนั้นแยกห่างจากการคร่อมร่างใหญ่เอาไว้
“พี่รัญ...อื้ยย!!!!” เสียงร้องห้ามเปลี่ยนเป็นเสียงครางแผ่ว
เมื่อกุหลาบงามถูกปลายนิ้วรุกราน ปรินดาก็หมดแรงทรงตัวทิ้งร่างลงทาบทับร่างแกร่ง ดรัณยิ้มพรายเมื่อคนดื้อกำลังหมดพยศ ปลายคางมนถูกขบเม้มอย่างหมั่นเขี้ยว และอยากแกล้งสาวน้อยโทษฐานที่ไม่ยอมตั้งแต่ทีแรก นายหัวจึงใช้ลิ้นเลียตั้งแต่ปลายคางลงไปถึงลำคอระหง ก่อนลากไล้ขึ้นมาหาซอกหูหอมกรุ่น เรียวลิ้นอุ่นชื้นสอดเข้าไปในใบหู ตวัดปลายลิ้นเลียไล้ทุกซอกทุกมุม
“พี่ขอนะ...ที่รัก” เขากระซิบเสียงเซ็กซี่อยู่ข้างๆ หู
ปรินดาหัวหมุนคว้างเหมือนคนจะเป็นลม เธอจะหนีบต้นขาเข้าหากันก็ทำไม่ได้ เพราะติดกายแกร่งที่ขวางกั้นอยู่ กุหลาบงามจึงถูกรุกรานอย่างเสียเปรียบ
“พี่รัญ..ทำไมต้องจูบนางเอกละครคนนั้นด้วย” ปรินดาดึงสติที่มีเหลือเพียงน้อยนิดกลับคืนมา เธอถามสิ่งที่อยากรู้ออกไปด้วยน้ำเสียงขาดห้วง
ดรัณชะงักอวัยวะที่กำลังทรมานหญิงสาวอยู่ชั่วครู่ และคิดตามคำถามของเธอ ก่อนพลิกร่างบางให้เป็นฝ่ายนอนราบ และถลกชายเสื้อยืดขึ้นสูง กระตุกทีเดียวหลุดพ้นจากร่างระหง ชายหนุ่มไม่ได้ตอบคำถาม แต่ซุกซบใบหน้าเข้าหาอกอวบขาวผ่อง สองปทุมที่ซ่อนอยู่ใต้ชุดชั้นในตัวเก่าของเธอ เบียดชิดกันแน่นเหมือนอยากเป็นอิสระจากความรัดรึง
“พี่รัญ...ทำไมไม่ตอบคำถามแก้ม” หญิงสาวถามซ้ำ เมื่อมีสติมากกว่าเดิม
“ลินลี่เธอจู่โจมพี่เอง พี่ทันตั้งตัวซะที่ไหน” ดรัณหาข้ออ้างแก้ตัวไปเรื่อย
ปรินดาลืมไปว่าอยู่ในฐานะอะไร เธอไม่มีสิทธิ์ละลาบละล้วงเรื่องของดรัณ เพราะเธอเป็นแค่นางบำเรอไม่ใช่คนรัก แสดงว่าต่อไปถ้าเธอเห็นเรื่องแบบนี้อีก เธอคงต้องอดทนได้อย่างเดียวสินะ
“ขอโทษค่ะ ที่แก้มยุ่งมากเกินไป ต่อไปนี้แก้มจะไม่ยุ่งเรื่องของพี่รัณอีกอีก” ร่างบางน้อยใจพูดเสียงสะบัดใส่
“ไม่มีอะไรมากกว่านั้น..แก้มเชื่อใจพี่นะ” ดรัณแก้ตัว เขาไม่อยากให้ปรินดารู้เรื่องที่ทำให้เธอเสียใจ เขาไม่ได้คิดอะไรกับญาณิศาและไม่มีความสำคัญมากไปกว่านั้น
“อ๋อ...เหรอคะ!!! ถ้างั้นคราวหน้าแก้มคงต้องทักทายแบบนี้กับเพื่อนแก้มบ้าง”
“แก้ม! ไม่เอาน่ะคนดี อย่าโกรธพี่จนต้องประชดประชันกันเลย”
ดรัณปิดปากคนแสนงอนด้วยริมฝีปากร้อนผ่าว แต่พอจะสอดปลายลิ้นเข้าลิ้มรสความหวาน กลีบปากสวยกลับไม่ยอมเปิดออก
ดรัณซุกซบซอกคอระหง จูบไล้เรื่อยลงไปถึงแอ่งชีพจร มือหนาสอดเข้าไปใต้ร่างอิ่มปลดตะขอเสื้อชั้นในออกอย่างชำนาญ มืออีกข้างรั้งเสื้อชั้นในสีหวานขึ้นเหนือทรวงอก ดอกบัวคู่งามไหวระริกยั่วยวนให้ชายหนุ่มก้มลงไปชื่นชม
ปรินดาผลักบ่ากว้างของคนตัวโตออกห่าง แต่ดรัณก็ฝืนกายเอาไว้ และรัดร่างในอ้อมกอดให้แน่นขึ้น แต่หญิงสาวก็หาได้ยอมง่าย ๆ เธอดิ้นรน ขัดขืนเต็มกำลัง ดังนั้นสงครามย่อย ๆ ระหว่างคนรักกันแต่ยังปากแข็งก็เกิดขึ้น
“ปล่อยนะ พี่รัญ...” ปรินดาร้องห้ามเสียงดัง แต่คราวนี้ดรัณหูอื้อตาลายเสียแล้ว กลิ่นกายหอมละมุนทำให้ดรัณหลงใหลจนถอยห่างไม่ได้
“กรี๊ด...พี่รัญ...พี่รัญ...” ดรัณใช้ชั้นเชิงและประสบการณ์หลอกล่อให้หญิงสาวติดกับวังวนเสน่หา ปทุมถันคู่งามถูกคนที่ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของซุกไซ้ใบหน้าลงระหว่างอกอวบ สูดกลิ่นหอมละมุนเข้าปอดจนชื่นใจ
ดรัณครอบครองยอดทรวงสีสวยเข้าไป ปลายลิ้นสากตวัดไล้ดูดกลืนอย่างหิวกระหาย มือหนาโอบประคองก้อนเนื้อนุ่ม คลึงเคล้นหนักเบาสลับกันไป ร่างบางที่ดิ้นรนขัดขืนในคราแรก เริ่มอ่อนระทวยลงในเวลาต่อมา มือน้อยที่คอยผลักดันร่างหนา เปลี่ยนมาเป็นโอบกอดรอบต้นคอแกร่ง
“พี่รัญ...พี่รัญขา...”
นายหัวหนุ่มเงยหน้าขึ้นยิ้มใส่ดวงตากลมโตที่ตอนนี้หรี่ลงจวนจะปิดริมฝีปากอิ่มเผยอออกอย่างรอคอย และเมื่อรู้สึกว่าริมฝีปากแห้งผาก หญิงสาวก็ไล้ปลายลิ้นมอบความชุ่มชื้นให้กลีบปากของตน ดวงตาคมหรี่ลงมองปลายลิ้นสีชมพูเล็กๆ น่ารัก และเลื่อนตัวขึ้นมอบจุมพิตอ่อนโยนเรียกร้อง
“แก้ม” ดรัณถอนริมฝีปากออก และเรียกชื่อหญิงสาวที่เขาตั้งให้ มือหนาคลึงเคล้าสองอกอวบอีกครั้ง ก่อนลูบลงต่ำบีบคลึงสะโพกผายงอนงาม
กางเกงขาสั้นถูกถอดออกอย่างรีบเร่ง ตามด้วยซับในตัวจิ๋วสีขาว ร่างเปลือยเปล่าถูกสายตาคมลูบไล้ ดรัณหยัดตัวขึ้นเพื่อเปลื้องเสื้อผ้าของตนออก กายแกร่งเปลือยเปล่าช่างงดงามนักในสายตาของปรินดา หญิงสาวอดมองอย่างชื่นชมไม่ได้ ยิ่งมีแสงสะท้อนออกมาจากโคมไฟส่องร่างเปลือยของดรัณ ยิ่งทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นรัว
