บท
ตั้งค่า

12 เธอเป็นคนของผม

ปรินดาปลดมือหนาออก แต่รู้สึกเหมือนปลดคีมเหล็กที่ไม่มีทางถอยห่าง หากไม่หมุนตัวล็อกเสียก่อน และคิดว่าถ้าอยากจะพลอดรักกันกลางห้างทำไมไม่ปล่อยเธอซะก่อน

“ลินลี่คิดถึงคุณจัง คุณหายหน้าไปนานเลยนะคะ” ลินลี่หรือญาณิศาถามขึ้น เพียงแค่ถอยห่างจากริมฝีปากได้รูปเล็กน้อย แต่มือหนาอีกข้างที่ว่างอยู่กลับดันร่างระหงออกห่าง ทำให้ญาณิศาเหลือบมองร่างเล็กบางที่เตี้ยกว่าเธอ

“คุณมาทำอะไรที่นี่ ลินลี่” ดรัณไม่ตอบคำถาม เพราะเขาเห็นว่าไม่จำเป็นต้องตอบ และถามกลับเธอไปบ้าง

“ลินลี่นัดคุณวิกรมไว้น่ะค่ะ เราจะมีงานแจกปฏิทินดาราในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า ก็เลยนัดกันว่าจะมาคุยงานที่นี่ค่ะ ว่าแต่...เธอคนนี้คือใครเหรอคะ”

“เธอชื่อแก้มน่ะ” ดรัณบอก และหันไปส่งยิ้มหวานให้ปรินดา

“แก้ม นี่คุณลินลลี่ เป็นเพื่อนของพี่”

ปรินดางง ๆ กับคำว่าเพื่อนที่นายหัวหนุ่มบอก เธอรู้สึกว่าเขาใช้คำไม่ถูกอย่างแรงจึงไม่ได้ยิ้มตอบกลับไป แต่ก็ยอมยกมือขึ้นไหว้หญิงสาวร่างสูงโปร่งตรงหน้า ความสูงของญาณิศาที่เตี้ยกว่าดรัณไม่มากนัก ทำให้ปรินดาต้องแหงนหน้าขึ้นมอง และได้เห็นแววตาโกรธจากผู้หญิงตรงหน้าเข้าเต็มเปา สาวน้อยถอนใจเฮือกเพราะคิดว่า ญาณิศาคงเคยเป็นคู่ควงของดรัณก็ย่อมไม่พอใจที่เห็นเธออยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม

“เพิ่งมาจากเกาะเหรอคะ ลิลลี่ไม่รู้เลยว่ารัณจะมา” ญาณิศาถามขึ้นโดยไม่รอให้ดรัณพูดแนะนำปรินดา ชายหนุ่มจึงพูดสวนไปอย่างรวดเร็วหลังที่เธอพูดจบ

“ครับเธอเป็นคนของผม” ดรัณบอกยิ้ม ๆ และเขาก็อยากบอกเป็นนัย ๆ กับญาณิศาด้วยว่าอย่ายุ่งกับคนรักของเขา สาวน้อยข้างกายเขาจะต้องรู้จักเขาให้มากขึ้นกว่านี้ และต้องรับกับความเป็นดรัณให้ได้ทุกอย่าง

“น่าอิจฉาจริง ๆ เลยนะคะ ลินลี่ต้องไปแล้ว และจะโทร. หานะคะ” ญาณิศาจูบปากได้รูปอีกครั้ง ก่อนผละห่างและปรายตามองค้อนร่างบางอีกครั้ง ก่อนสะบัดเดินจากไปด้วยมาดของนางเอกเหมือนเดิม

ดรัณก้มลงมองคนในอ้อมแขนและยิ้มบางๆ แต่ไม่พูดอะไร มือหนาผลักเอวกิ่วให้ก้าวเดินตามไปอย่างเงียบๆ และปรินดาก็เงียบได้สนิทใจจริง ๆ

สาวน้อยเริ่มไม่แน่ใจกับอนาคตของตัวเองอีกครั้ง ภาพที่เห็นเมื่อครู่ยังติดตาและตรึงใจไม่จางหาย ภาพที่ทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นคลอน และรู้สึกหวิวๆ เหมือนคนจะเป็นลม แต่สำนึกของคำว่า ‘ผู้หญิงของผม’ ทำให้เธอต้องอดทนไม่อาจปริปากบ่นหรือแสดงอาการไม่พอใจออกมา

เมื่อมาถึงบ้านหลังงาม ปรินดาก็เปิดประตูลงจากรถและเดินนำขึ้นห้องไป โดยมีดวงตาคมมองตาม ก่อนหันไปบอกลูกน้องที่เดินออกมาต้อนรับ

“เอิบ..เดี๋ยวแกไปเตรียมเหล้ามาไว้ให้ฉันหน่อย”

“นายหัวทำไมไม่ซื้อเข้ามาจากข้างนอกเลยล่ะครับ เผื่อผมเลือกไม่ ถูกใจ”

“เฮ้ย...เดี๋ยวนี้แกเถียงฉันบ่อยเกินไปแล้วนะไอ้เอิบ หรือเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้แล้ว ฉันจะได้สงเคราะห์ให้” ดรัณกระชากเสียงห้าวห้วน จนไอ้เอิบไม่อยากเงยหน้าขึ้นสบตาพิฆาตของเจ้านายเลย เพราะกลัวถูกพิฆาตจริง ๆ เข้าสักวัน

“เอ่อ!!...ครับ ๆ ๆ ผมจะรีบไปซื้อให้เดี๋ยวนี้ล่ะครับนายหัว” เอิบรีบตอบรับ ก่อนกระโดดขึ้นรถคันเล็กของตนและรีบขับออกไปโดยเร็ว เอิบเป็นลูกน้องที่เกาะถ้ำ ติดตามมารับใช้นายของเขาถึงที่นี่

“ทำไมลูกน้องฉันแต่ละคน มันถึงต้องมีคำถามตลอดเวลาด้วยวะ ใครรู้หรืออยากบอกอะไรฉันบ้าง ช่วยบอกทีเถอะ” นายหัวหนุ่มหันไปถามลูกน้องที่ยืนเรียงแถว แต่ทุกคนกลับก้มหน้านิ่งไม่ยอมสบตาเขาเลยสักคน จนเขาเริ่มโกรธขึ้นมาอีกระลอก

“ฉันเพิ่งรู้ว่าพวกแกก็ใบ้กินกันทุกคน แล้วอย่างนี้พ่อจะเลี้ยงไว้ทำอะไรวะ ห๊า...”

“เอ่อ...นายหัวครับ” สินเป็นตัวแทนของการ์ดทุกคน ก้าวขึ้นมาข้างหน้าหนึ่งก้าว และเฉลยคำตอบให้เจ้านายหนุ่มได้รู้

“พวกเรา!...เอ่อ!...ไม่เคยเห็นนายหัวกินเหล้าน่ะครับ ปกตินายหัวจะแค่ดื่มชาไทยเท่านั้น หรือไม่ก็ชาชัก แต่นี่นายหัวจะมาดื่มเหล้า พวกเรา...ก็เลยแปลกใจเท่านั้นน่ะครับ”

“ทำไม ฉันก็อยากจะดื่มบ้าง ใครจะทำไม หรือพวกแกมีปัญหา”

“มะ...ไม่...ไม่มีครับ” เหล่าชายหนุ่มฉกรรจ์ลูกน้องที่ตามมาจากเกาะถ้ำ ตอนนี้อยู่ในชุดชาวเลที่ยืนเรียงแถวหน้ากระดาน รีบตอบพร้อมกันอย่างลนลาน

“ดี...ไม่มีก็ดีแล้ว อ้อ...แล้วถ้าไอ้เอิบมา บอกให้มันเอาเหล้าที่ให้ซื้อไปไว้ในที่บาร์เครื่องดื่มด้วย”

“ครับ” คำตอบรับที่พร้อมเพรียงกันของลูกน้อง ทำให้ดรัณตวัดดวงตาพิฆาตใส่ทุกคน ก่อนส่ายหน้าน้อย ๆ อย่างระอาใจ และหมุนตัวเดินเข้าไปในบ้าน เมื่ออาบน้ำเสร็จดรัณตรงไปที่บาร์เครื่องดื่มทันที

“ไม่รู้มันจะกลัวอะไรกันนักกันหนา ไอ้พวกนี้ เวลาอารมณ์ดี ๆ ชอบมาทำให้อารมณ์เสียอยู่เรื่อย” นายหัวบ่นเป็นหมีกินผึ้ง และตรงเข้าหาบาร์เครื่องดื่มของโปรด รินน้ำสีอำพันลงแก้วทรงสวยและคลึงแก้วใบนั้นไปมา

แล้วจู่ ๆ น้ำสีสวยก็สะท้อนออกมาเป็นดวงหน้าอ่อนเยาว์ของปรินดา นายหัวดรัณต้องสะบัดหน้าไปมาไล่ภาพนั้นออกไป พลางถามตัวเองว่าทำไมสาวน้อยคนนั้น ถึงมีความสำคัญมากขนาดที่เขาเก็บเอามาใส่ใจได้ตลอดเวลา ทุกอย่างที่เธอชอบหรือทุกอย่างที่เธออยากได้ ทำไมเขาจะไม่อยากเนรมิตให้ แต่...เขาจะไม่ยอมให้ความงามพิศุทธิ์ที่อยู่ในกำมือ ต้องถูกสายตาของคนอื่นจ้องมองราวกลืนกินเหมือนอย่างที่เขาได้มองเด็ดขาด

‘บ้าฉิบ...แค่ผู้หญิงคนเดียว ทำไมแกปล่อยให้เธอมามีอำนาจต่อหัวใจของแกได้วะ ไอ้ดรัณ แกเป็นนายหัวใหญ่เจ้าของเกาะแล้วจะต้องมาพ่ายแพ้ให้กับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนเดียวนี่นะหรือ’ ดรัณนึกในใจ ก่อนจะกระดกแก้วเหล้าเทลงคอรวดเดียวหมดแก้ว

“หึ หึ” เสียงหัวเราะเบา ๆ เหมือนจะเย้ยหยันให้กับบางสิ่งบางอย่างถูกเปล่งออกมาจากลำคอหนา เวลาผ่านไปหลายนาที เอิบก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาพร้อมของที่สั่งซื้อในมืออีกรอบ

“เจ้านายครับ ของที่สั่งซื้อได้แล้วครับ” เอิบยื่นถุงกระดาษในมือส่งให้เจ้านายหนุ่ม

“ขอบใจมากเอิบ แกขึ้นไปเรียกคุณแก้มให้มาหาฉันที่นี่ทีสิ”

“เอ่อ...แล้วทำไมเจ้านายไม่ไปเรียกเองล่ะครับ”

“ไอ้เอิบ...”

“ครับ ๆ ๆ ผมจะขึ้นไปเรียกเดี๋ยวนี้ล่ะครับ” เอิบบอก และตั้งท่าจะเดินขึ้นบันได

“เดี๋ยว...เคาะประตูเรียก และบอกแค่หน้าประตู ห้ามก้าวขาเข้าไปแม้แต่เซ็นเดียว ไม่งั้นแกตายแน่”

เอิบไม่ตอบ แต่วิ่งขึ้นไปเรียกปรินดาตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด

“พี่รัณเรียกแก้มมาทำไมคะ” สาวน้อยในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่ของเขายืนอยู่หน้าประตู ดวงตาคมกวาดมองดูการแต่งตัวของเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า เสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นที่เขาเป็นคนเลือกให้ ดูตลกแต่แฝงด้วยความน่าค้นหาอย่างบอกไม่ถูก

“มาใกล้ๆ พี่สิ ขี้เกียจตะโกนคุย”

ปรินดาจำต้องเดินเข้าไปหยุดยืนใกล้ ๆ และถูกมือใหญ่คว้าหมับเข้าที่ข้อมือบาง ก่อนกระตุกทีเดียวร่างบางก็ถลาลงไปบนตักกว้าง

“ทำไมไม่ใส่ชุดที่พี่ซื้อให้”

“ก็ยังไม่ได้ซักจะใส่ได้ยังไง” สาวน้อยตอบ และเบี่ยงหน้าหนีปลายจมูกโด่งที่ซุกไซ้ไปทั่วพวงแก้มนุ่ม

“นึกว่าอยากแต่งตัวให้มิดชิดซะอีก”

“ก็อยากอยู่หรอกค่ะ ไม่อยากเป็นเหยื่อของคนแถวนี้”

“หึ หึ เด็กโง่ รู้มั้ยว่ายิ่งแต่งตัวแบบนี้ มันยิ่งเป็นการยั่วยุอารมณ์ไหนๆ แต่...เอ!.แล้วอะไรซ่อนอยู่ใต้เสื้อตัวนี้น่า อยากรู้จัง” เสียงทุ้มเริ่มกระเส่าตามอารมณ์ที่เริ่มร้อนระอุของคนพูด

“พี่รัณ...เรียกแก้มมาทำไมคะ” ปรินดาถามซ้ำ เมื่อริมฝีปากร้อนๆ คลอเคลียอยู่ที่ใบหูหอมกรุ่น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel