ตอนที่ 1 [2]
“ขอบคุณคุณพริมามากนะครับที่ให้เกียรติมารับประทานอาหารกับผม”
ดิเรก... ประธานกรรมการบริษัทซัปพลายที่หล่อนติดต่อไป พร่ำบอกเป็นครั้งที่สิบนับตั้งแต่หล่อนปรากฏกายมาถึง หญิงสาวยิ้ม... รับประทานอาหารอย่างใจเย็น ไม่ได้แจ้งเขาหรอกว่า ที่หล่อนต้องมาเพราะพ่อของหล่อนเป็นคนจัดแจงแบ่งหน้าที่มาแล้ว
“พอดีจะคุยเรื่องความเป็นไปได้ที่เราจะร่วมมือกัน ก็เลยอยากคุยกับคุณโดยตรง ไม่อยากนัดคนอื่น เดี๋ยวจะยืดเยื้อเสียเวลา”
“ยินดีมากเลยครับ”
ดวงตาสีเข้มของคู่ค้าเป็นประกาย ความสวยสง่าของพริมาทำให้เลือดในกายของเขาไหลวูบวาบ เหมือนจะตอบสนองกับผิวขาวนวลละเอียดและริมฝีปากสีแดงสดเป็นกระจับนั้น
“ที่นี่อาหารอร่อยดีมากเลยนะครับ ผมชอบอาหารสเปน ซี่โครงแกะนี่ใช้ได้เลย”
“ดีใจที่คุณชอบค่ะ ฉันก็ชอบเหมือนกัน”
บทสนทนาดำเนินไปอย่างเรียบๆ ไม่กดดันมากนัก แตกต่างกับยามที่คู่ค้าเจรจากับพ่อของหล่อน ที่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าดุและน่ากลัว แต่พิพัฒน์เป็นคนชอบเสี่ยง กล้าได้กล้าเสียกับคนรอบข้าง ทำให้คู่ค้าทุกคนของเขาติดสไตล์การทำงาน และเหนียวแน่นไม่ห่างกันไปไหน
พริมาคุยเรื่องทั่วไปหลังจากได้ข้อสรุปโดยรวมของงานที่ต้องการ ดวงตาสีนิลงามมองแลเลยผ่านไปด้านหลัง ก่อนจะเห็นใครคนหนึ่งเดินผ่านไปด้วยความคุ้นชิน ใบหน้าสวยหวานจิ้มลิ้มนั้นหล่อนจำได้
มินตรา...
คนรักของศรุต... คนที่หล่อนเห็นไปไหนมาไหนกับเขามานานจนใครๆ ต่างก็รู้ มินตราอยู่ที่นี่ แสดงว่าอาจจะมากับศรุต... หล่อนคิดในใจพลางเหลียวมองหา
“คุณมองหาใครครับ”
“อ้อ” ร่างบางหันกลับมาเมื่อได้สติจากเสียงเรียกของคนที่นั่งอยู่ร่วมโต๊ะ “เปล่าหรอกค่ะ ฉันแค่มองหาเพื่อน แต่ยังไม่เจอ”
“ผมช่วยหาให้ไหม”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ได้นัดกันมา อาจจะค่อยเจอกันวันหลังก็ได้”
“ครับ”
พริมาหันกลับมาให้ความสนใจกับคนตรงหน้า จนกระทั่งรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วหล่อนจึงเรียกบริกรมาจัดการค่าใช้จ่ายทั้งหมด คนขับรถของที่บ้านมารับหล่อนตามคำสั่งของบิดาที่ไม่อยากให้ลูกสาวของตัวเองต้องออกไปไหนมาไหนเพียงลำพัง
หญิงสาวมองกลับไปในห้องอาหาร... นิ่วคิ้วเมื่อไม่พบคนที่ต้องการเจอ ตรงกันข้ามกลับเพิ่งสังเกตเห็นว่ามินตรามากับใครอีกคนหนึ่งซึ่งหล่อนคุ้นหน้าพอสมควร อาจจะเป็นนักธุรกิจคนใดคนหนึ่งที่พ่อของหล่อนเคยแนะนำให้มารู้จักกัน
มินตรากำลังเป็นดาราหน้าใหม่ ก็คงไม่แปลกใจที่หล่อนอาจจะมีเพื่อนในวงการอยู่ด้วยเหมือนกัน หรืออาจจะต้องหาคอนเน็กชัน พริมาไม่เห็นจำเป็นต้องใส่ใจเลย
“ได้ข่าวเอสเคชิปปิ้ง ถึงกับต้องรีบกลับมาเมืองไทย”
เสียงห้าวๆ ของคนเป็นบิดานั้น ดูน่ากลัวในความรู้สึกของคนอื่น ตรงกันข้ามกับหล่อนที่ชินเสียแล้ว การถูกวางอำนาจใส่ในบ้านของนักธุรกิจหมื่นล้านนั้นเหมือนกลายเป็นเรื่องปกติ
ใครทนได้... ก็ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากลับไป ทั้งเงินตรา ลาภยศ สรรเสริญ
“ศรุตไม่มีทางเอาอยู่” คนเป็นเสือในวงการพึมพำ ดวงตาวาววับครุ่นคิด “มันอาจจะตาย ในวงการธุรกิจ เหมือนเดินบนถนนแล้วหินมาหล่นกระแทกหัว”
“คุณพ่อ”
หล่อนมองบิดา แว่บหนึ่งที่สายตาหวาดหวั่นฉายออกมาอย่างที่ไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อนบนใบหน้างามเยือกเย็นของหญิงสาว
“รุ่นพี่ของแกไม่ใช่เหรอ”
“เขาเป็นคนดีนะคะ”
“ฉันรู้” พิพัฒน์เม้มริมฝีปาก สายตาทอดมองลูกสาวที่เหมือนเป็นคนสืบทอดทุกสิ่งทุกอย่างต่อจากเขา
โดยเนื้อแท้พริมาเป็นคนอ่อนแอ หล่อนยังเข้มแข็งได้ไม่ถึงหนึ่งในเสี้ยวของเขาเลย กว่าจะเทรนให้ได้ถึงขั้นนี้ต้องใช้เวลา แต่สุดท้ายก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ
“น่าจะสลับกัน ให้ศรุตมาเป็นลูกฉัน มันน่าจะทำให้ธุรกิจเราเจริญได้ดีกว่าแกคนเดียว”
“คุณพ่อ”
คนฟังกลืนน้ำลาย แต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หล่อนได้ยินคำพูดที่ไม่ค่อยถนอมน้ำใจคนจากพ่อของตัวเอง สิ่งเหล่านี้สอนให้หล่อนกลายเป็นคนอดทน เพราะอย่างน้อย พ่อก็คือพ่อ ไม่สามารถเปลี่ยนสถานะไปเป็นอย่างอื่นได้จริงๆ
ถ้ามาตาทราบเรื่องนี้คงจะไม่พอใจ แต่หล่อนเบื่อความขัดแย้งเต็มที ไม่อยากให้ใครต้องมาทะเลาะกันอีก
พ่อไม่เคยพอใจผู้ชายคนไหน ไม่เคยเอ่ยชม ทำให้หล่อนไม่สามารถมีใครในชีวิตได้ แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรมากนัก อาจจะเพราะหล่อนอยู่กับพ่อจนคุ้นชิน ถึงมองผู้ชายคนอื่นง่อยเง่าไปหมดทุกคนโดยปริยาย
ถึงแม้ไม่ชอบนิสัยของพ่อตัวเองมากเพียงใด แต่พริมาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า สุดท้ายหล่อนก็มีความเป็นพ่ออยู่ในตัวมากเลยทีเดียว
