บท
ตั้งค่า

บทที่ 9

ธัญญาธรนอนไม่หลับไม่ว่าพยายามจะทำยังไงตาก็ยังแข็ง เธอจึงออกมาเดินเล่นหน้าบ้าน วันนี้ได้พบกับอนวัฒน์ทำให้เธอคิดถึงพี่สาวของเขาด้วย ตั้งแต่เกิดเรื่องครั้งนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย ไม่รู้ว่าป่านนี้พัทธนันท์กับตะวันจะแต่งงานกันหรือยัง สิ่งที่พ่อเธอได้ก่อไว้มันเหมือนตราบาปที่ทำให้เธอไม่กล้าสู้หน้า

แม้จะเอ่ยขอโทษพัทธนันท์ตอนที่อยู่โรงพยาบาลแล้ว แต่ก็เหมือนพี่สาวอนวัฒน์จะไม่รับรู้เพราะตอนนั้นยังไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ

“พี่ฟ้า…แนนนี่ขอโทษแทนพ่อด้วยนะคะ” หญิงสาวเอ่ยคำพูดที่อยากพูดให้พัทธนันท์ได้ยินมานาน แต่ยังไม่มีโอกาสนั้นเสียที แต่ตอนนี้เธอกลับมาที่นี่แล้ว สักวันเธอจะไปพูดกับพัทธนันท์ด้วยตัวเธอเอง ธัญญาธรเดินไปนั่งบนชิงช้าไม้ใต้ต้นมะม่วงต้นใหญ่ในบ้าน

สมองกำลังคิดถึงเรื่องครอบครัวของเธอ ป่านนี้พ่อจะกลับบ้านหรือยัง แต่ถึงจะกลับไปพ่อกับแม่คงไม่พูดกันอยู่ดี หรือถ้าพูดแม่ก็คงเป็นฝ่ายด่าทอพ่อ ว่าพ่อเป็นต้นเหตุให้ตกอยู่ในสภาพมองหน้าใครไม่ติดแบบนั้น และในที่สุดพ่อกับแม่ก็จะทะเลาะกันจนกลายเป็นเรื่องซ้ำไปซ้ำมา

เธอไม่รู้ว่าพ่อออกจากคุกมาได้ยังไงทั้งๆ ที่โทษของพ่อที่จะได้รับจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นคือจำคุกตลอดชีวิต เพราะสิ่งที่พ่อได้ทำมันคือลอบวางเพลิง ค้ายา ผู้หญิงและอื่นๆ ที่ล้วนแต่เป็นการกระทำผิดที่ลดโทษไม่ได้ แม้จะไม่อยากคิดในแง่ลบแต่ก็พอจะรู้ว่าพ่อใช้วิธีไหนให้ออกจากคุกมาได้เร็วขนาดนี้ แต่หลังจากนั้นพ่อกับเธอก็ยิ่งห่างกันมากขึ้นเป็นเท่าตัว

“พ่อ แม่คะ แนนนี่จะทำยังไงให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม” ธัญญาธรถอนหายใจออกมาหนักๆ เพราะแม้พ่อเธอจะทำความผิดมากมาย แต่พ่อยังไงก็เป็นพ่อเธอมันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ การกลับบ้านครั้งแรกหลังจากออกจากคุก พ่อยื่นเงินสดให้แม่ซึ่งมากมายจนสามารถซื้อความสุขเหมือนเมื่อก่อนได้ไม่ยาก แต่แม่กลับปฏิเสธและบอกพ่อว่ามันคือเงินสกปรก ทั้งคู่จึงทะเลาะกันรุนแรง

หลังจากวันนั้นนานๆ พ่อถึงกลับมาบ้านที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือสักครั้ง แต่พ่อกับแม่ก็ทำเหมือนต่างฝ่ายต่างไม่มีตัวตนไปเสียแล้ว และแม่ก็ทำประชดพ่อด้วยการใช้เงินที่พ่อให้ทุกบาทซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ และเที่ยวต่างประเทศเป็นว่าเล่น แต่ลึกๆ เธอรู้ว่าแม่เองก็ทุกข์ไม่น้อย ส่วนคนที่เป็นลูกอย่างเธอก็ได้แต่ทำใจเท่านั้น ชีวิตในบ้านที่เคยอบอุ่นได้เปลี่ยนไปแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้นธัญญาธรขับรถตรงไปยังโรงแรม เพราะวันนี้เป็นวันแรกของการทำงาน ขณะที่กำลังเดินไปยังห้องอบรมเพื่อฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับที่นี่ก่อนทำงานจริง เธอก็มองหาพนักงานคนเก่าๆ ที่เคยทำงานที่นี่ว่ามีใครพอจะทำต่ออยู่บ้าง แต่กลับไม่มีเลยสักคน เพราะกว่าที่นันทภพจะมาซื้อกิจการทุกคนก็ชิงลาออกไปหมด แทบจะเป็นโรงแรมร้างเลยก็ว่าได้

หญิงสาวหย่อนตัวลงบนเก้าอี้แถวที่ยังว่าง มองไปรอบๆ ห้องก็พบหญิงชายหลายคน ซึ่งคนเหล่านี้คงมาเริ่มงานวันแรกเช่นเดียวกับเธอ เมื่อใกล้ถึงเวลานัดภายในห้องอบรมก็มีคนมาเพิ่มมากขึ้น นับไปนับมาก็เกือบยี่สิบคนได้ คนที่นั่งข้างๆ ธัญญาธรคือหญิงสาวน่าตาน่ารัก ถามไปถามมาจึงรู้ว่ามาทำหน้าที่เป็นพนักงานต้อนรับเช่นเดียวกับเธอ ชื่อวิภารัตน์

“ขอต้อนรับพนักงานใหม่ของโรงแรม...และขอกล่าวสวัสดีอย่างเป็นทางการ พี่ชื่อนฤมล เป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลของที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” เวลาประมาณแปดโมงครึ่งผู้จัดการฝ่ายบุคคลก็เอ่ยต้อนรับ การอบรมก่อนทำงานจริงจึงได้เริ่มขึ้นในตอนนั้น เอกสารตรงหน้าเหล่าพนักงานใหม่ค่อยๆ ถูกเปิดเรียนรู้ไปทีละหน้า รู้ขั้นตอนการทำงาน กฎระเบียบของที่นี่และอื่นๆ ที่ควรรู้เพื่อการทำงานด้านบริการที่มีประสิทธิภาพ

“เราจะกลับมาเจอกันเวลาบ่ายโมงตรงนะคะ” เสียงเจ้าหน้าที่อบรมเอ่ยบอกหลังจากเห็นว่าได้เวลาพักเที่ยงแล้ว

“แนนนี่...เราไปกินข้าวกันเถอะ” วิภารัตน์ที่นั่งอบรมข้างๆ ธัญญาธรเอ่ยชวน ความที่เป็นคนวัยเดียวกัน ทำให้ทั้งคู่ดูจะถูกคอแม้จะเพิ่งพบกันครั้งแรกก็ตาม ธัญญาธรไม่ปฏิเสธเพราะเธอเองก็ต้องการเพื่อนเช่นเดียวกัน

“ไปสิ” ทั้งคู่เดินออกจากห้องอบรมไปยังร้านอาหารของพนักงานที่อยู่ด้านหลัง ขณะที่กำลังจะเดินผ่านลิฟต์ ธัญญาธรก็ต้องสะดุ้งเมื่อมีมืออุ่นๆ ของใครบางคนมาจับที่ข้อมือเธอไว้

“แนนนี่มาทำอะไรที่นี่ครับ” นันทภพเอ่ยถามอย่างแปลกใจ พักนี้เขามีเรื่องให้ประหลาดใจบ่อยๆ โดยเฉพาะกับหญิงสาวตรงหน้า

“เอ่อ...เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังนะคะ แนนนี่ขอตัวก่อน” การพูดคุยของคนทั้งคู่เป็นจุดสนใจของเหล่าพนักงานทั้งใหม่และเก่า ธัญญาธรจึงเอ่ยเลี่ยงๆ ก่อนจะยื้อข้อมือตัวเองให้หลุดจากการจับของนันทภพ แล้วเดินเข้าไปในห้องอาหารพนักงาน

วิภารัตน์ทำท่าอึกอักอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและชายหนุ่มหน้าตาหล่อคนนี้เป็นใคร แต่ก็ไม่กล้าถาม ได้แต่เดินตามธัญญาธรไปเท่านั้น ส่วนนันทภพก็ได้แต่ยิ้มงง ไม่ว่ายังไงวันนี้เขาต้องรู้ให้ได้ว่าธัญญาธรมาทำอะไรที่นี่กันแน่ เมื่อเห็นว่าธัญญาธรทานอาหารเสร็จเรียบร้อย วิภารัตน์จึงเอ่ยถามในสิ่งที่เธอกำลังสงสัย

“ผู้ชายเมื่อครู่ใครเหรอแนนนี่ แฟนหรือไง หล้อหล่อ” ความที่บ้าผู้ชายหล่อเป็นทุนเดิมทำให้วิภารัตน์ยิงคำถามเสียตรง ธัญญาธรได้แต่ยิ้ม แม้จะรู้จักไม่ถึงวันแต่ก็ถือว่าเธอถูกชะตากับวิภารัตน์ไม่น้อย

“เดี๋ยวบ่ายนี้วิก็รู้เอง” หญิงสาวทิ้งคำตอบที่ดูจะไม่ตรงประเด็น ก่อนจะหยิบจานข้าวไปเก็บแล้วเดินเข้าไปในห้องอบรม ถ้าเธอคาดการณ์ไม่ผิดบ่ายนี้นันทภพน่าจะเข้าไปในห้องอบรมพนักงานใหม่อย่างแน่นอน ให้เขารู้ตอนนั้นว่าเธอมาทำงานอะไรที่นี่ก็คงไม่สาย เพราะเธอก็ไม่คิดจะปิดบังอยู่แล้ว

“บอกตอนนี้ก็ไม่ได้เหรอ เราอยากรู้” วิภารัตน์ยังคงถามต่อ ธัญญาธรจึงส่ายหน้าให้เป็นการปฏิเสธว่าไม่ได้ และสิ่งที่เธอคิดก็ถูกต้อง เพราะก่อนการอบรมจะจบลง ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเอ่ยขึ้นว่าผู้บริหารต้องการมากล่าวต้อนรับทั้งๆ ที่กำหนดการต้องเป็นช่วงเช้าแต่ติดประชุมด่วนลงมาไม่ได้ เมื่อนฤมลพูดจบนันทภพก็เดินเข้ามาในห้อง

“เอ๊ะ...คนเมื่อตอนเที่ยงนี่นา” เมื่อเห็นหน้าชายหนุ่ม วิภารัตน์ถึงกับตาค้างสะกิดแขนธัญญาธรทันที แต่หญิงสาวกลับนั่งนิ่ง

เมื่อกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องอบรมและสบตากับธัญญาธร นันทภพถึงกับแปลกใจเมื่อเห็นเธอนั่งรวมอยู่ในกลุ่มพนักงานใหม่ด้วย แต่ชายหนุ่มก็ตัดเธอออกไปก่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel