เรื่องราวอาถรรพ์
“ใช่เป็นสัญญาของคุณพ่อ และฉันจะส่งเธอไปแต่งงานกับคนในไร่ตามที่คุณพ่อสัญญาเอาไว้หวังว่าเธอคงจะไม่ขัดหรอกนะ”
พุดซ้อนเอ่ยจบก็กอดอกยิ้มอ่อนตอนนี้เป็นโอกาสดีที่เธอจะกำจัดกรองแก้วออกไปจากที่นี่ เพราะเธอไม่ได้ต้องการให้กรองแก้วอยู่ในคฤหาสน์ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้สามีเธอไปราชการยังไม่กลับเธอเองใช้จังหวะนี้ส่งตัวกรองแก้วไปก่อนที่สามีของเธอจะกลับมา
“แก้วทำได้ทุกอย่าเพื่อตอบแทนพระคุณคุณปู่ค่ะ”
กรองแก้วก้มหน้างุดมือน้อยทั้งสองบีบกันแน่นครุ่นคิดด้วยแววตาเป็นกังวลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเงยหน้ามองพุดซ้อนด้วยสายตาที่เศร้าหมองเปิดริมฝีปากบางจำใจตอบตกลงไปแต่โดยดีเพราะหากนี่เป็นคำมั่นสัญญาของคุณปู่ที่ให้ไว้กับใครบางคนมันเธอก็ขอรับผิดชอบคำสัญญานี้เองถือเป็นการตอบแทนบุญคุณที่คุณปู่ชุบเลี้ยงเธอมา
“ดีงั้นอีกสามวันฉันจะให้คนไปส่ง”
พุดซ้อนคิดเอาไว้แล้วไม่มีผิดว่ากรองแก้วจะต้องยอมไปแต่โดยดี เมื่อหญิงสาวตอบตกลงได้เธอก็จะเตรียมส่งหญิงสาวขึ้นเหนือไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
“ส สามวันหรอคะ”
กรองแก้วเบิกตาโพรงนัยน์ตาเริ่มร้อนผ่าวไหวระริกด้วยความตกใจ น้ำเสียงที่พูดออกมาค่อนข้างอึกอักด้วยไม่คิดว่าจะต้องจากที่นี่ไปเร็วขนาดนี้
“ใช่ฉันส่งจดหมายไปที่ไร่นั้นแล้วว่าฉันจะส่งตัวเธอไปเตรียมตัวไว้ให้พร้อมล่ะ”
ท่าทีของพุดซ้อนค่อนข้างยินดีกับเรื่องนี้อยู่มาก เธอไม่ได้มีอาการใจหายหรือเสียใจสักนิดที่กรองแก้วจะจากไป ด้วยรอเวลาที่จะกำจัดหญิงสาวให้ออกจากที่นี่ไปนานแล้ว
“ค่ะคุณแม่”
กรองแก้วเอ่ยเสียงสั่นเครือ ใบหน้าหวานก้มหน้างุดกลั้นข่มน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมาในตอนนี้
“คุณแม่จะส่งนังแก้วไปจริงๆหรอคะ”
หลังจากที่กรองแก้วกลับไปแล้วผกามาศก็รีบตามคนเป็นแม่ขึ้นไปบนห้องเพื่อที่จะถามให้แน่ใจอีกทีว่าจะส่งกรองแก้วไปสถานที่แห่งนั้นจริงหรือ เพราะเท่าที่เธอรู้มาจากสมุดบันทึกที่เคยแอบอ่านของพ่อเธอเหมือนว่าระหว่างทางที่จะไปที่ไร่สุเรนทรชิตนั้นหนทางยากลำบากทั้งยังมีอันตรายมากมายด้วย
“ใช่สิลูก คุณปู่ลูกไม่อยู่แล้วจะเลี้ยงมันให้เสียข้าวสุกทำไม”
พุดซ้อนรู้ดีว่าที่นั่นเป็นอย่างไรเพราะสามีเธอก็เคยเล่าให้ฟังคร่าวๆอยู่เหมือนกัน ทั้งที่ครั้งหนึ่งพ่อสามีเธอก็แทบเอาชีวิตไม่รอดกลับมาหลังจากเข้าไปในเขตป่าทางเหนือนั่นแต่เธอก็อยากจะส่งกรองแก้วเพื่อจะให้ไปให้พ้นๆที่นี่
“ว่ากันว่าที่ป่าแถวนั้นมีอาถรรพ์มากมายเลยนี่คะ เหมือนผกาเคยอ่านในสมุดบันทึกของคุณพ่อผ่านๆ แถมใครจิตไม่แข็งพอไม่รอดสักรายเลยนะคะ”
ผกามาศมีสีหน้าและแววตาที่ค่อนข้างจะเป็นห่วงกรองแก้วไม่น้อย แม้นเธอจะไม่ได้ชอบหน้ากรองแก้วนักแต่เมื่อนึกถึงคนที่เคยสนิทชิดใกล้กันทุกวันต้องมามีอันตรายเธอก็ใจไม่ดีอยู่เหมือนกัน
“ลูกว่าดีมั้ยล่ะที่ให้มันไปที่นั่น”
พุดซ้อนยกยิ้มแววตาพึงพอใจเป็นอย่างมาก
“นี่คุณแม่จะให้นังแก้วไปตายเลยหรอคะ”
“แม่ไม่ได้บอกว่ามันไปแล้วจะตายสักหน่อยมันเอาตัวรอดได้ก็ดีถ้าตายก็เป็นชะตาของมัน..ดีที่แม่เจอจดหมายฉบับนี้ไม่อย่างนั้นเราคงต้องเลี้ยงนังกรองแก้วอีกนาน หากมันตายสมบัติที่เป็นมรดกของมันก็เป็นของเราอย่างที่มันควรจะเป็น”
“นังกรองแก้วไปก็ดีแล้วค่ะพี่เพชรจะได้หันมาสนใจผกาบ้าง”
แม้ใจจะนึกห่วงกรองแก้วแต่เมื่อเห็นว่าหากกรองแก้วไปชายหนุ่มเศรษฐีหน้าใหม่ที่เธอรู้จักและหมายตาเอาไว้จะได้เลิกสนใจกรองแก้วและหันมาสนใจเธอเสียทีก็เห็นดีเห็นงามกับคนเป็นแม่ไปโดยปริยาย
“ว่าแต่พ่อเพชรอะไรนี่แม่ยังไม่รู้จักเทือกเขาเหล่ากอของเค้าเลยนะว่ามาจากไหน”
พุดซ้อนว่าจะถามลูกสาวของเธอถึงเรื่องเพชรรัตน์ชายหนุ่มรูปหล่อดูดีที่เจอกันในงานเลี้ยงวันเกิดของสามีเธอว่าเขาเป็นลูกเต้าเหล่าใครกันแน่
“แค่รู้ว่าเค้ามีสมบัติมากมายก็พอแล้วมั้งคะแม่”
ผกามาศยิ้มกริ่มเมื่อต้องพูดถึงเพชรรัตน์ เธอไม่สนใจว่าเขาเป็นลูกเต้าเหล่าใครสนแค่ว่าตอนนี้เขาเป็นที่ชอบพอของเธอและฐานะก็สูสีกันแค่นั้นก็พอแล้ว
“แต่แม่ก็ยังแปลกใจอยู่ดีว่ารวยมาจากอะไร”
พุดซ้อนมีสีหน้าที่ครุ่นคิดอยู่พอสมควร ยิ่งดูออกว่าลูกสาวของเธอสนใจชายหนุ่มคนนี้เป็นพิเศษเธอก็ยิ่งอยากรู้ เพราะคนที่จะมาเป็นลูกเขยของเธอต้องเพรียบพร้อมทุกอย่างจะไม่มีที่มาที่ไปไม่ได้
