บท
ตั้งค่า

ท่านแม่ข้าไม่ชอบท่าน

“เจ้า ช่างร้ายกาจ ตั้งใจให้เสด็จพ่อประทานงานแต่งงานให้ข้ากับเจ้า คิดว่าข้าจะหลงกลหรือไรเห็นได้ชัดๆ ว่าข้าเป็นถึงจิงหยางอ๋อง ไม่มีทางเอาตัวเองไปเกลือกกลั้วกับหญิงที่ผ่านการมีสามีมาแล้ว”ดูแคลน

“อย่ามายุ่งกับแม่ข้านะ ท่านแม่ข้าไม่มีสามีเสียหน่อย อย่ามาพูดแบบนี้นะพ่อข้าตายไปแล้ว ยังกล้ามาย้ำเรื่องพ่อของข้า”

จิวหลงสะอื้นอย่างหนักปากเล็กๆแดงระเรื่อน้ำตาเต็มสองตา เจิ้งชินย่อกายลงโอบกอดลูกน้อยในอ้อมแขน จิงหยางอ๋องหน้าเจื่อนด้วยเห็นหยาดน้ำตาของจิวหลง

“ไม่ร้องจิวจิวของแม่ เขาตายไปแล้วเขาไม่ใส่ใจเราเขาเห็นแก่ตัวตายทิ้งเราสองคนแม่ลูก เจ้าก็ไม่ต้องร้อง”

“ขอรับ”รับคำด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตา

จิวหลงว่าง่ายความจริงแค่เพียงเบี่ยงเบนความสนใจเพราะไม่ชอบใจหนักที่จิงหยางอ๋องกล่าวโทษมารดา แม้จะไม่เข้าใจเรื่องที่ทั้งสองคุยกันนักแต่ด้วยความอยากปกป้องมารดา

“ขะขะข้าขอโทษ เจ้าลูกหมูน้อยข้าไม่ได้ตั้งใจตอกย้ำเรื่องบิดาเจ้า เจ้าหมูน้อยมานี่ ให้ข้าได้ปลอบ”อ้าแขนออก

จิวหลงสบตามารดาที่ส่ายหน้าน้อยๆ

“ท่านแม่ข้าไม่ชอบท่านถึงข้าจะชอบท่านก็เถอะ ท่านหมูตัวใหญ่ไว้โอกาสหน้าเราค่อยพบกัน คราวนี้ท่านไปเสีย ท่านแม่ข้าไม่ชอบท่านอย่างเห็นได้ชัดในเมื่อข้ารักท่านแม่ข้าก็ต้องเชื่อฟังท่านแม่”

เสียงใสกับร่างอ้วนเลือกที่จะกอดมารดาไว้แน่นใครเห็นก็อดที่จะเอ็นดูไม่ได้

จินเทาปิดปากขำจิงหยางอ๋องทำหน้าเหวอรีบหดอ้อมแขนกลับ

“ฝากไว้ก่อน เจิ้งชิน จำไว้ว่าข้าจะทำทุกวิถีทางที่ไม่ต้องแต่งกับเจ้า และจำไว้ว่าแผนของเจ้าไม่ได้ผลแน่เพราะในใจข้ามีใครอีกคนอยู่ก่อนแล้ว ไม่ว่าเสด็จพ่อจะมีบัญชาหรือไม่หรือข้าจะขัดบัญชาเสด็จพ่อไม่ได้แต่จำไว้ว่าข้าไม่มีทางแต่งกับเจ้าแน่”

ร่ายยาวนึกโมโหตัวเองที่กลายเป็นคนพูดมาก เมื่ออยู่ต่อหน้าเจิ้งชิน

เจิ้งชินยิ้มน้อยๆ

“เมื่อครู่ข้าก็แสดงเจตจำนงกับฝ่าบาทไปแล้วว่าข้าไม่ต้องการสิ่งใด และข้าไม่ขอรับงานแต่งงานที่ฝ่าบาทประทานมาให้เช่นกัน”

คราวนี้เหวอกว่าเดิม จิงหยางอ๋องเหมือนถูกตบหน้า คิดไม่ถึงว่าด้วยคำแหน่งหร่วนจิงหยางอ๋องจะถูกปฏิเสธ จินเทาหลับตาปี๋นึกภาพต่อจากนั้นไม่ออกจริงๆว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหร่วนจิงหยางอ๋องโมโห

“ดีดี ดี ต่างคนต่างไม่อยากแต่งแยกย้าย แยกย้าย ท่านแม่มากับข้าเถอะ”

จิวหลงเขาขวางตรงกลางเมื่อจิวหยางมองเจิ้งชินที่จ้องตอบไม่ลดละเช่นกัน ภาพความทรงจำในคืนเดือนเยว่ผุดขึ้นมาในสมองจิงหยางอ๋องอ้าปากค้างเมื่อใบหน้าของเจิ้งซินซ้อนทับกับใบหน้าของจางหลี่ลี่

“ข้าไม่อยากแต่งและไม่ต้องมาคิดว่าข้าอยากจะแต่งกับท่านข้าจะกราบทุลฝ่าบาทเรื่อนี้ด้วยตัวเอง”

“นี่เจ้า”

เจ็บใจจนไร้คำพูดคนอย่างจิงหยางอ๋องกลับถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย จิวหลงดึงมือจิงหยางอ๋องให้ถอยออกไปวางมือจิงหยางอ๋องไว้ในมือของจินเทา แล้วหันมาดึงมือเจิ้งชิน

“ท่านแม่กลับบ้านเรากันเถอะ”

เจิ้งชินเหมือนจะได้สติ

คว้ามือน้อยมากำไว้หันหลังก้าวเดิน จิงหยางอ๋องกัดฟันจนเป็นสันนูน

“คนที่จะปฏิเสธต้องเป็นข้าก่อนเท่านั้น จินเทากลับจวนข้าก็ยังมีคนที่หมายปองรออยู่เช่นกัน”

จะพูดให้เจิ้งชินได้ยินทำไมกัน คิดว่านางจะขุ่นเคืองหรือว่าคิดว่านางจะต้องเสียใจอย่างนั้นหรือ แต่เปล่าเลยเจิ้งชินก็แค่เพียงยิ้มน้อยๆ ไม่ได้รู้สึกอะไรกับจิงหยางอ๋อง แค่เพียงภาพความทรงจำในค่ำคืนเดือนเยว่ที่เจ็บปวดคอยหล่อหลอนก็เท่านั้นเจิ้งชินบอกกับตัวเองแบบนั้น

“ข้าต้องการเจ้า… ข้าต้องการเจ้า”

เสียงแหบพร่าแผ่วเบา ราวสายลมแห่งยามรุ่งอรุณที่กระซิบอยู่ข้างหูซึมซาบเข้าใต้ผิวหนังแทนถ้อยคำปลอบประโลม แต่สำหรับเจิ้งชินแล้ว มันกลับหนาวเหน็บดุจน้ำค้างยามเหมันต์ที่หยดลงตรงกลางอก ไม่อาจหลีกหนีคำว่าข้าต้องการเจ้าไปได้

ในความเงียบสงบหลังพายุสวาทจางหาย ร่างกายบอบบางที่เคยต่อต้านจนหมดแรง บัดนี้นอนแนบอยู่ในอ้อมแขนแข็งแกร่งที่โอบไว้แน่นหนาราวโซ่ตรวนไม่ให้ขยับกาย ใบหน้าหล่อเหลาของหรวนจิงหยางอ๋องผู้เกรี้ยวกราด กลับหลับตาพริ้มราวบุรุษที่หลับไหลบนสวรรค์ คิ้วที่เคยขมวดตลอดเวลากับไม่มีแล้ว ริมฝีปากแย้มเล็กน้อยอย่างเป็นสุข

แต่สุขนั้น…เป็นเพียงของคนผู้หนึ่ง

ในขณะที่อีกคนกลับราวตกนรก

เจิ้งชินเบือนหน้าซบหมอน อ้อมแขนที่โอบไว้แน่นแนบแน่นกับเอวกิ่ว สอดทับไว้ใต้ท่อนกายร้อนผ่าวของอีกฝ่ายทำหน้าที่เสมือนหมอนนิ่มอุ่น แต่สำหรับเจิ้งซินมันคือพันธนาการ

ความร้อนรุ่มของเนื้อกายยังหลงเหลือเป็นประกายวูบวาบตามต้นขา รอบสะโพก และยอดอกที่มีรอยแดงชัดเจน เศษเสื้อผ้าถูกดึงทึ้งเกลื่นพื้น ราวกับศึกที่เพิ่งจบลงเจิ้งซินเป็นฝ่ายแพ้ที่ไร้สิทธิ์ร้องขอ

กลิ่นอายบุรุษของหรวนจิงหยางอ๋องยังคงซึมซาบทุกลมหายใจเข้าออก

หอบหายใจแรง ๆ ของเขาเมื่อครู่ยังดังก้องในโสตประสาท

เสียงกระซิบ…ข้าต้องการเจ้า ยังหลอกหลอน

เจิ้งชินหลับตาแน่น ไม่รู้ว่าทำไม…หัวใจจึงเต้นแรง

เพราะความกลัวหรือเพราะอะไรกันแน่

“เหตุใดข้าต้องเป็นคนที่ต้องอยู่ที่นี่กับท่านด้วย” เจิ้งซินถามในใจ เสียงนั้นไม่ดังพอจะเล็ดลอดริมฝีปากซีด ไม่มีคำตอบ มีเพียงอ้อมแขนที่กระชับแน่นขึ้นเล็กน้อย

ราวกับรู้ว่าคนในอ้อมกอดกำลังจะหายไปไม่ได้พบพานอีกแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel