ชัดเจน
“ท่านแม่ ๆๆๆ จิวหลงชอบวังหลวงเสียแล้วมีคนแต่งกายสวยงาม แล้วยังมีองครักษ์ที่องอาจ”
หร่วนจิงหยางอ๋องสะดุดกึกด้วยคำว่าท่านแม่ เจ้าลูกหมูน้อยนั่นเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของหญิงงามที่เขาสะดุดตาสะดุดใจเชียวหรือ…ลูก…คิดไปถึงสามีของนางช่างน่าอิจฉายิ่งนักที่มีภรรยางดงามและเจ้าลูกหมูน้อยที่น่าเอ็นดู จนเขาอดที่จะหลงรักเสียไม่ได้
“เหอะคงจะมีสามีตั้งแต่ยังไม่สิบแปดด้วยซ้ำ”พึมพำเบาๆ
นางยังเด็กและดูเหมือนเพิ่งจะผ่านวัยเด็กไปได้ไม่นานอีกทั้งยังสวยยังสาวสะพรั่ง น่าเสียดาย
“หร่วนจิงหยางอ๋องถวายพระพรเสด็จพ่อทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆ ปี”
หร่วนหยางจิงหยงเหลือบตาขึ้นมองหร่วนจิงหยางอ๋อง
“พบนางหรือยัง”
“ใครกัน เสด็จพ่อหมายถึงใครกัน”
“ เจ้าเจิ้งชิน คหบดีหญิงที่ส่งวัตถุดิบต่างๆ เข้ามาในวังหลวงเจ้าเดียวในแคว้นของเรา”
“ลูกพบนางแล้ว”
“เจ้าคิดว่านาง เป็นเช่นไร”น้ำเสียงจริงจัง
“ลูก ไม่อาจออกความเห็นหญิงงามทว่ากลับมีลูกในวัยนี้อีกทั้งยังไม่รู้ว่านางฮูหยินบ้านไหน คงมีสามีตั้งแต่ยังไม่ทันสิบแปดด้วยซ้ำไป"หยางจิงหยงฮ่องเต้ยิ้ม
"ก่อนนั้นข้าพบแม่นางน้อยคนหนึ่ง ที่ไม่มีท่าทีลังเลแม้แต่น้อยที่จะยื่นมือเข้าช่วยข้าในยามที่ถูกมือสังหารรายล้อม มาบัดนี้คนที่เป็นสามีของนางที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ข้าเชื่อว่าต้องเป็นบุรุษที่ชั่วช้าบังอาจทอดทิ้งหญิงงามที่งามทั้งกิริยาและใบหน้าคนนี้ให้ต้องเลี้ยงดูลูกเพียงลำพัง"หรวนจิงหยางอ๋องกลับรู้สึกว่าทำไมรู้สึกขัดหู
"เสด็จพ่อบางทีสามีนางอาจไม่ได้เลวทรามเพียงนั้น"
หยางจิงหยงส่ายหน้า
"นางไร้ที่ติ ข้าไม่เห็นข้อบกพร่องของนาง หากไม่เลวทรามก็คงล้มหายตายจากแต่จากการมองท่าทีของนางข้าคิดว่าสามีชั่วของนางจะต้องทอดทิ้งจนนางต้องดิ้นรนเพียงลำพังน่าเวทนายิ่งนัก"
"เวทนาแล้วเช่นไร ลูกมิใช่โรงทาน อีกทั้งเสด็จพ่อบอกเองว่านางคือคหบดีผู้ยิ่งใหญ่ยังต้องให้ช่วยสิ่งใดอีก หรือว่ายังขาดคนร่วมแท่นนอน"
นี่คือจิงหยางอ๋องตัวจริงไร้เมตตาไร้ความเห็นใจพูดจาดูถูกหยามเหยียดทุกผู้คน
"ยังปากกล้าแม้กระทั่งกับหญิงงาม นกดีเลือกไม้เกาะ บรรดาหญิงงามที่อยู่ภายใต้การดูแลของจิงหยางอ๋อง มีใครน่าเวทนาเช่นนางบ้าง”ถอนหายใจยาว
“เสด็จพ่อลูกไม่ดูแลใครมานานมากแล้ว หญิงงามเหล่านั้นก็แค่เพียง อุ่นเตียงชั่วครั้งคราว”
หยางจิงหยงพยักหน้าขึ้นลง คนอย่างหรวนจิงหยางอ๋องใครจะทนอยู่ด้วยได้ แม้แต่เหล่าขุนนางยังกลัวหัวหดคนชังมากกว่าคนรัก
“เช่นนั้นหากจะต้องแต่งกับนางเจ้ามีสิ่งใดขัดข้องหรือไม่”หรวนจิงหยางอ๋องรีบประสานมือ
“เสด็จพ่อลูกมีหญิงในใจแล้ว”
คิ้วคมขมวดเข้าหากัน ตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมาจิงหยางอ๋องทำตัวดีขึ้นไม่เที่ยวเตร่ หรือเพราะมีหญิงงามในใจจึงงดการร่ำสุรานารี
“ใครกัน”
จิงหยางอ๋องกลืนน้ำลายลงคอยากเย็น
“ไม่ได้”หยางจิงหยงฮ่องเต้ทุบมือลงบนโต๊ะเสียงดังลั่น
“จะเป็นจะตายก็ต้องแต่ง เจ้าเจิ้งชิน ข้ามิได้เรียกตัวจิงหยางอ๋องมาเพื่อถามความเห็นแต่เรียกมาเพื่อให้รับบัญชาเรื่องงานแต่งนางช่วยชีวิตข้า ทางเดียวที่จะตอบแทนคือ ให้เจ้าแต่งกับนางเพื่อทดแทนบุญคุณของนางแทนข้าหรือว่าบัญชาฮ่องเต้และพ่ออย่างข้าไร้ความหมาย”
สีหน้าจริงจังน้ำเสียงดุดัน หร่วนจิงหยางอ๋องเหลือบตามองจิงหยงฮ่องเต้แต่ไม่กล้าที่จะคัดค้านพระบัญชา
หยางจิงอ๋องสาวเท้ายาวๆ แทบจะกลายเป็นวิ่ง มองเห็นร่างบางของเจิ้งชินกับจิวหลงที่กำมือมารดาเดินชมวังหลวงอย่างสบายใจ
“นี่เจ้า”
แผดเสียงเข้าใส่ทันทีแบบไม่ไว้หน้า
เจิ้งชินหยุดนิ่งไม่หันมอง กิตติศัพท์ที่เคยได้ยินของจิงหยางอ๋องเรื่องความกักขฬะและดุดัน อีกทั้งยังภาพจำในคืนเดือนเยว่ที่ถูกย่ำยีราวกับสัตว์ป่าบ้าเลือด เจิ้งชินจำได้ขึ้นใจ
“นี่เจ้า มานี่”ส่งเสียงดังเพราะก้าวตามจนเหนื่อย จินเทาเองก็วิ่งตามมาหอบอยู่ข้างๆ
เจิ้งชินยังยืนนิ่ง จิวหลงกระตุกมือมารดาเบาๆ
“ท่านแม่ไม่ต้องกลัว จิวหลงปกป้องท่านเอง”
เจิ้งชินหันใบหน้างามกลับไปช้าๆ
“ข้าบอกให้มานี่"
บอกให้มาแต่สาวเท้าเข้าไปแทบประชิดตัว
“ท่านอ๋อง”
เจิ้งชินแค่เอ่ยทักด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย จิวหลงขยับตัวเอามือมาขวางไว้
“อี๋เฟยพานายน้อยไปก่อน”อี๋เฟยรีบดึงมือจิวหลง
มือเรียวของจิงหยางอ๋องชี้ไปที่ใบหน้าของเจิ้งชินสั่นระริก
