เปิดตัว2
เหลือบตามองป้ายหยกบ่งบอกฐานะไม่ธรรมดาของบุรุษหนุ่มหน้าตาหมดจด
“ข้าอยากพบนางเดี๋ยวนี้ เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่านางงดงามดัง จันทรา เพลงบรรเลงกู้เจิ้งเพราะพริ้งดั่งนกปักษาสวรรค์” พยักหน้าให้คนข้างกายนำถุงทองยื่นส่งใส่มือให้กับเฉวียนเยว่ เปิดถุงทองออกดูทำตาโต ยิ้มหวานหยด
“คุณชาย สิ่งมีค่ายากยิ่งจะได้มา คุณชายอดทนรอให้ถึงยามค่ำ หวาหวานางจึงจะกลับมาที่หอโอชารส เฉวียนเยว่จะบอกว่า คุณชายเป็นแขกคนสำคัญ”
“ข้าต้องรออย่างนั้นหรือ ให้นางมาพบข้าตอนนี้เลยไม่ได้หรือไร ข้ายินดีมอบทองให้เจ้าอีกเท่าตัว”
“คุณชาย หวาหวานางคู่ควรแก่การรอคอย นางไม่ยอมรับแขกหลายคนในคืนเดียว เพียงหนึ่งคนในหนึ่งคืนแล้วอีกอย่างหวาหวา ...นางไม่ยอมที่จะขายร่างกายนางบอกว่าขายเพียงเสียงเพลงปลุกปลอบใจ”
“ได้ข้าจะคอยดูว่า บรรเลงเพลงกู้เจิ้งได้เพราะพริ้งเหมือนที่ผู้คนเล่าขานกันหรือไม่”
“รับรองไม่ผิดหวังเจ้าค่ะ” เป่ยชุนหวังอ๋องสาวเท้าไปทรุดกายลงบน เก้าอี้ ยกจอกสุราขึ้นกระดก
“ตอนนี้ยามไหนแล้ว”
“ยามอู่แล้วขอรับคุณชาย” (ยามอู่11.00-12.59น)
“ข้าต้องรอนางอีกกี่ชั่วยาม”
“คุณชายเจ้าขาไม่นานเจ้าค่ะ ยามซวีนางก็จะมาแล้ว” (ยามซวี19.00-20.59น)
เป่ยชุนหวังอ๋องยกจออกสุราขึ้นกระดกอีกครั้ง
ยามซวี หวาหวาเยื้องย่างเข้าไปในหอโอชารสจากด้านหลังของหอโอชารส ปิดบังใบหน้าด้วยผ้าแพรสีดำ เกี้ยวจากหอโอชารสที่อำนวยความสะดวกให้ได้เดินทางเพราะหวาหวาเป็นคนสำคัญ ที่ทำให้ที่นี่เป็นที่เล่าขานโด่งดังไปทั่วแคว้น ผู้คนล้วนอยากมาฟังนางบรรเลงเพลงกู้เจิ้งสักครั้งหนึ่ง แต่ไม่ทันจะก้าวพ้นประตูก็ถูกดึงมือเข้ามาข้างในโดย เฉวียนเยว่
“หวาหวา มาเสียทีโอ้ข้ารอเจ้าตั้งนาน มีแขกคนสำคัญรอเจ้าอยู่ เริ่มจะ ไม่พอใจที่ต้องรอเจ้าสหลายชั่วยามเจ้ารีบไปก่อนจะดีไหม” หวาหวายิ้มหวานเฉวียนเยว่ดึงมือหวาหวาเข้าไปข้างใน เสียงเอะอะโวยวาย คนของหอโอชารส ล้วนรายล้อมเป่ยซุนไว้ เพราะเขากำลังอาละวาดปัดถ้วยชามและจอกสุราแตกกระจายร่ำร้องอยากพบหวาหวา
"ไปพานางมาเดี๋ยวนี้ ข้ารอนานแสนนานแล้วไหนบอกว่านางกำลังมาป่านนี้ยังไม่เห็น"เสียงตวาดดังลั่น
“หวาหวาคารวะคุณชายเป่ยชุน”
ย่อกายลงอ่อนหวานไม่ยอมเงยหน้า มีพบว่าสายตาของอีกคนจ้องมองอยู่ก่อนแล้ว ดีที่มีผ้าแพรสีดำปิดบังใบหน้างดงามโผล่พ้นแค่ดวงตาหวานละมุน
“งดงาม งดงามยิ่งนัก จะว่าหนึ่งในใต้หล้าก็ไม่ผิด ถึงแม้ว่าจะไม่เห็นใบหน้าเจ้าชัดเจนแต่ทว่า ข้าอดที่จะหลงใหลเจ้ากับดวงตานี้เสียไม่ได้”
“ขอบคุณคุณชาย” น้ำเสียงยังหวานละมุน
“ข้าอยากฟังเจ้าบรรเลงเพลงกู้เจิ้ง ให้สมกับที่นั่งรอเจ้าหลายชั่วยามผ่านไป” เปลี่ยนท่าทีในทันที เป็นอ่อนหวาน เฉวียนเยว่ยิ้มโล่งอกพยักหน้าให้กับ หวาหวา
“คุณชายมอบถุงทองเป็นมัดจำจองตัวเจ้าสำหรับคืนนี้ หวาหวาดูแลคุณชายให้ดี ไม่มีใครให้มากกว่าคุณชายอีกแล้ว” หวาหวาย่อกายลงงดงาม
"หากข้าอยากจะให้เจ้า เปิดเผยใบหน้าจะต้องจ่ายมากน้อยเพียงใด"
"คุณชายเจ้าข้า ศิลปะการบรรเลงเพลงก็เพื่อให้จิตใจเศร้าหมองได้รื่นรมย์ เพียงแค่เห็นปลายนิ้วที่สัมผัสกู้เจิ้ง และเสียงอันไพเราะก็เหมาะสมกันแล้ว นึกวาดภาพจินตนาการ ตามเสียงบรรเลงเพลงจึงจะพบสุข"เสียงใสปานระฆังแก้ว เป่ยชุนย่อมคล้อยตาม ด้วยศิลปะการพูดที่ดึงดูดชักจูงให้คล้อยตาม
"คงต้องลงขัน กับเหล่าขุนนางหลายฝ่ายจึงจะได้ยลโฉมเจ้าสักครั้งใช่หรือไม่ หลายคนล้วนกล่าวขานว่าเจ้างดงาม หากแต่ไม่มีผู้ใดได้ยลโฉม"ย่อกายลงอีกครั้ง เป่ยชุนมองกิริยาอ่อนหวาน ลอบกลืนน้ำลายลงคอ หลงเสน่ห์นางแล้วไม่อาจถอนตัว หลายคนกล่าวขานทั้งขุนนางหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ หากได้พบนาง ใครห้ามใจมิให้ลุ่มหลงนางได้ คนผู้นั้นย่อมเป็นยอดคน คำพูดนี้เขาเคยคิดว่าเกินจริงเป็นการเสกสรรปั้นแต่งของผู้คนแต่เมื่อพบนางแล้วไม่ผิดอย่างที่คนพูดกัน
