บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8 พระชายารอง

เมื่อเห็นว่าใช้เวลานั่งอาบแสงแดดได้พอสมควรแล้ว อู๋เสี่ยวหรันจำต้องย้ายเข้าไปอยู่ในห้องอุ่นอีกครั้ง

“เหลียนฮวาเล่าเรื่องให้ข้าฟังได้หรือไม่”

“พระชายาอยากฟังเรื่องใดหรือเจ้าคะ”

“เรื่องอะไรก็ได้ทั้งนั้น ข่าวของแคว้นเราข่าวของแคว้นเพื่อนบ้าน หรือเรื่องซุบซิบนินทาในเมืองหลวง ช่วงระหว่างที่ข้านอนไม่ได้สติอยู่ก็ได้”

“อืม...ถ้าเช่นนั้นบ่าวจะเล่าเรื่องเมืองหลวงให้ฟังก่อนก็แล้วกันเจ้าค่ะ ส่วนเรื่องนอกเมืองหลวงคงต้องให้เหลียนฮวาเป็นผู้เล่า เห็นนางเป็นเช่นนี้แต่เหลียนฮวาชอบออกไปท่องเที่ยวเพื่อหาสมุนไพรมาปรุงยาพิษอยู่บ่อย ๆ เจ้าค่ะ”

เหมยฮวาพูดไปก็อมยิ้มไปด้วย

“ได้เลยเจ้าค่ะระหว่างที่บ่าวออกไปสืบเสาะหาพวกสมุนไพรอยู่ด้านนอกมีข่าวลือจากพวกพ่อค้าสมุนไพรและพวกชาวยุทธ์มากมาย”

เหลียนฮวายืดอกพูดอย่างภูมิใจ

หลังจากนั้นก็เป็นเสียงการเล่าเรื่องต่าง ๆ ของสาวใช้ทั้งสองให้กับอู๋เสี่ยวหรันพี่กำลังนอนฟังอย่างสงบ

วันเวลาผ่านไปจนครบหนึ่งเดือนเต็ม ๆ หลังจากที่อู๋เสี่ยวหรันฟื้นขึ้นมา ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา นางใช้เวลานี้กับการกินและนอนและกินวนเวียนอยู่เช่นนี้

และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้นางตกตะกอนความคิดได้ นั่นก็คือความสัมพันธ์ระหว่างนางและเฉิงอ๋อง นางเลือกที่จะนำความสัมพันธ์เฉกเช่นเดียวกันกับอู๋เสี่ยวหรัน ในฐานะพี่ชายและน้องสาวมาใช้ เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของนางนับจากนี้ไปง่ายดายยิ่งขึ้น

ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเรื่องกินกลายเป็นเรื่องใหญ่สำหรับนางไปแล้ว ทำให้วันนี้เมื่อนางตื่นขึ้นมาตอนเช้า นั่งมองตนเองผ่านกระจกทองแดงทำให้เห็นว่าผิวหนังที่เคยหุ้มกระดูกนั้น เริ่มกลับมามีน้ำมีนวลมากขึ้น กระดูกที่เคยปูดโปนตามข้อมือข้อเท้าและใบหน้า ตอนนี้พวกมันเริ่มที่จะหายไป ถูกแทนที่ด้วยเนื้อหนังมังสาอย่างที่ควรจะเป็น

เมื่อพินิจพิจารณาใบหน้านี้ให้ถ้วนถี่ นางเป็นผู้หญิงเหมือนกันยังรู้สึกว่าใบหน้านี้งดงามเป็นอย่างมาก เหตุใดชื่อเสียงในความงดงามของนางมิได้โด่งดังเป็นที่รู้จักกันนะ อาจจะเป็นเพราะว่านางเอาแต่เก็บตัวอยู่ในเรือนเช่นนี้ก็เป็นได้

หลังจากที่ได้รับยาสมุนไพรบำรุงกระเพาะและลำไส้ให้กลับมาแข็งแรง นางก็กินแต่อาหารขึ้นชื่อและอาหารรสเลิศ อาหารชนิดใดที่เป็นที่นิยมในเมืองหลวงเหล่าสาวใช้ ก็จะสรรหามาเพื่อให้เจ้านายได้ลิ้มชิมรส อย่างเช่นวันนี้ไป๋หลานได้ออกไปต่อแถวแต่เช้า เพื่อซื้อเป็ดย่างชั้นดีจากภัตตาคารหม่านเยว่มาให้นางได้ลิ้มลอง

“เหตุใดไป๋หลานไม่ส่งคนไปแจ้งเถ้าแก่หรือผู้จัดการของภัตตาคารแห่งนั้น ว่าเป็นของตำหนักเฉิงอ๋องเล่ามันมิง่ายกว่าหรือ เหตุใดต้องเสียเวลาไปยืนเข้าแถวนานขนาดนั้น”

อู๋เสี่ยวหรันคีบเป็ดชิ้นพอดีคำเข้าปากและลิ้มชิมรสเรียบร้อยแล้ว นางก็ถามขึ้น

“ปกติตำหนักอ๋องจะมีพ่อครัวแม่ครัวที่คอยทำอาหารประเภทนี้อยู่แล้วเจ้าค่ะ หากบอกใครต่อใครว่ามาจากตำหนักเฉิงอ๋อง มีหวังจะต้องโดนซุบซิบนินทาว่าพ่อครัวของเรานั้นฝีมืออ่อนด้อยเป็นแน่”

“เป็นเช่นนี้นี่เอง เช่นนั้นแบ่งอีกครึ่งตัวแล้วก็นำไปส่งให้ท่านอ๋องด้วย”

อู๋เสี่ยวหรันใช้ตะเกียบเคาะไปยังขอบจานของเป็ดย่าง ซึ่งนี่เป็นท่าทางที่ดูไม่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้เป็นถึงเฉิงอ๋องเฟย แต่บรรดาสาวใช้ก็เพียงมองหน้ากันเท่านั้นไม่ได้พูดอะไร

เพราะระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ลักษณะนิสัยของพระชายานั้นก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน ไม่เพียงแค่บุคลิกภาพที่ดูอกผายไหล่ผึ่งมากขึ้น นิสัยใจคอยังเด็ดขาดมากขึ้นอีกด้วย พูดจาฉะฉานเสียงดัง

แต่ที่ต่างออกไปมากที่สุด คงจะเป็นเรื่องของกิริยามารยาทตามขนบธรรมเนียมของหญิงชาววัง คล้ายกับว่าพระชายาเอกอู๋ตอนนี้ ได้ทิ้งมันไปทั้งหมดเสียแล้ว ยิ่งนานวันนิสัยของพระชายาก็ดูเหมือนกับทหารมากกว่า

วันนี้อู๋เสี่ยวหรันให้เหมยฮวา ตามช่างตัดเย็บที่ดีที่สุดในเมืองหลวงสองสามร้านมาพบ นางต้องการเปลี่ยนชุดใหม่ทั้งหมด และยังต้องการร้านขายเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหลวง ให้พวกเขาขนของมาให้นางเลือกที่จวนอ๋อง

ด้วยชื่อเสียงของเฉิงอ๋องความจริงก็เพียงพอ ให้พวกเขายกทั้งร้านเข้ามาในจวนอ๋องก็ยังได้ แต่ครั้งนี้พวกเขาต้องตกใจ เพราะคนที่ต้องการให้เข้าพบนั้น เป็นถึงพระชายาเอกที่เก็บเนื้อเก็บตัวมาตลอด น้อยคนนักในเมืองหลวงที่จะเคยได้ยลโฉม พวกเขาจึงไม่รอช้าที่จะสานสัมพันธ์ในครั้งนี้ หลังจากที่ได้รับการติดต่อจากสาวใช้ประจำตัวในตอนเช้า หลังเที่ยงพวกเขาก็มารอเพื่อเข้าพบเฉิงอ๋องเฟยกันหมดแล้ว

อู๋เสี่ยวหรันเริ่มจากเลือกเครื่องประดับก่อน นางเลือกชุดที่มีสีสันสดใส ทั้งชิ้นใหญ่ ชิ้นเล็ก และที่นางโปรดปรานมากที่สุด ก็คือลวดลายดอกเหมยกุ้ยฮวาและผีเสื้อ นางเลือกที่จะรับเครื่องประดับจากทั้งสามร้านที่มาวันนี้ โดยเลือกชิ้นที่โดดเด่นและมีมูลค่ามากที่สุด เมื่อเรียบร้อยแล้วจึงส่งพวกเขาให้กับพ่อบ้านเพื่อรับเงิน

“พระชายาช่างตาถึงยิ่งนักเพคะ แต่ละชิ้นที่ทรงเลือกนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเพชรน้ำหนึ่งในร้านของพวกเราทั้งสิ้น ตัวหม่อมฉันเองได้รับมอบหมายจากเถ้าแก่มาว่า หากพระชายาชื่นชอบชิ้นไหนก็จะขอมอบแด่พระองค์เลยเพคะ ไม่ขอรับเงินแม้แต่ตำลึงเดียว”

หญิงสาววัยกลางคนแต่งกายดูสุภาพเรียบร้อย ยิ้มเล็กน้อยบุคลิกดูเป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะ นางช่างเจรจาอย่างยิ่ง นางเป็นตัวแทนจากหอยู่เยว่ที่แปลว่าหยกแห่งดวงจันทร์ กล่าวขึ้นพร้อมกับส่งหีบเครื่องประดับที่อู๋เสี่ยวหรันได้เลือกไว้ให้กับสาวใช้

หลังจากที่หญิงคนนี้กล่าวจบอีกสองคน ยืนกรานว่าได้รับมอบหมายจากเถ้าแก่และเจ้าของร้านว่า หากพระชายาเอกแห่งเฉิงอ๋องชื่นชอบผลงานชิ้นใดก็จะขอมอบให้โดยไม่คิดเงินแม้แต่ตำลึงเดียว

อู๋เสี่ยวหรันได้ฟังดังนั้นก็ไม่ได้ผิดจากที่นางคาดไว้สักเท่าไรนัก เพราะเมื่อชีวิตก่อนนางเป็นแม่ทัพหญิงเพียงคนเดียวและยังเป็นว่าที่ฮองเฮา แต่ละร้านค้าก็เพียรพยายามจะมอบของเหล่านี้ให้กับนางอยู่แล้ว พวกเขาจะได้นำไปอวดอ้างและโพนทะนาได้ว่า ร้านของตนมีชื่อเสียงและเป็นที่ชื่นชอบของชนชั้นสูง ถึงแม้ว่ามูลค่าของสิ่งของเหล่านั้นจะสูงมาก แต่เมื่อเทียบกับชื่อเสียงและลูกค้าที่จะเข้ามาใหม่นั้น ยังคงทำให้ร้านค้าพวกนี้มีกำไรมากโขอยู่ดี

“เอาล่ะข้าเข้าใจในความปรารถนาดีของทุกท่านแล้ว ฝากคำขอบคุณสำหรับน้ำใจอันงดงามไปยังเจ้าของและเถ้าแก่ของทุก ๆ ท่านด้วย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ข้านั้นได้เรียกใช้บริการจากพวกท่าน ดังนั้นหากพวกท่านไม่รับเงินจากตำหนักเฉิงอ๋อง ต่อไปข้าคงมิเรียกใช้งานพวกท่านอีกแล้ว”

“มิกล้า ๆ เพคะ”

ในที่สุดตัวแทนจัดการเครื่องประดับทั้งสามก็ยอมแพ้ และติดตามบ่าวไพร่ไปเพื่อพบกับพ่อบ้านแต่โดยดี

แม้พ่อบ้านจะไม่เต็มใจจ่ายเงินส่วนนี้ แต่เพื่อไม่ให้จวนอ๋องเสียหน้าจึงได้ยอมจ่ายออกไปและเก็บเรื่องนี้ไปรายงานพระชายารองโจวเพ่ยเพ่ยทันที

อู๋เสี่ยวหรันไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้หากไม่ยอมจ่ายนางก็มีวิธีให้ต้องจ่าย ส่วนพระชายารองนั้นนางก็อยากจะพบหน้าสักครั้งเช่นกัน

เมื่อตัวแทนจากร้านเครื่องประดับออกไปหมดแล้ว อู๋เสี่ยวหรันจึงให้ร้านผ้าเข้ามาพบนางพร้อม ๆ กัน หลังจากเลือกพับผ้าจากทุกร้านแล้ว นางให้โจทย์กับทุกร้านว่าขอแบบที่เป็นที่นิยม แต่ไม่เอาแบบเทอะทะ น้ำหนักเบา เดินเหินต้องคล่องตัว สิ่งที่จะปักลงบนผ้าของให้ปักแต่พอดี ส่วนที่เหลือทางร้านออกแบบมาได้เลยทั้งหมด

“ขอบคุณทุกท่านมากที่วันนี้สละเวลามาพบเปิ่นหวางเฟยผู้นี้”

อู๋เสี่ยวหรันกล่าวกับช่างตัดเย็บที่แต่ละร้านส่งตัวแทนมา

“พระชายาอย่าได้กล่าวเช่นนั้นเลยเพคะ เป็นเกียรติของพวกเรามากกว่าที่ได้รับใช้” หญิงสูงวัยจากร้านผ้าเล่อหร่งกล่าวขึ้น คนอื่น ๆ ก็พยักหน้ารับเช่นกัน

“ขอบใจเจากูเหนียงมาก”

อู๋เสี่ยวหรันยิ้มอย่างอ่อนหวานแก่นาง ทำเอาหญิงแซ่เจาและคนอื่น ๆ เหม่อลอยไปทันที

พวกเขาเคยได้ยินชื่อเสียงความงดงามของพระชายาอ๋องผู้นี้มาบ้าง แต่ไม่มีใครเคยเห็นตัวจริง วันนี้พวกนางน่าจะเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้เข้ามาพบแบบใกล้ชิดเช่นนี้

หญิงงามคนใดที่มีชื่อเสียงโด่งดัง คุณหนูในห้องหับที่ว่ากันว่างามนักงามหนา หากมานั่งเคียงข้างพระชายาเฉิงอ๋อง ล้วนแต่กลายเป็นดอกไม้ประดับแจกัน

“พวกเราจะทำสุดฝีมือเพคะ ขอพระชายาโปรดวางใจ” เป็นหญิงแซ่เจาคนเดิมที่กล่าว

อู๋เสี่ยวหรันยังคงส่งยิ้มงดงามให้แก่พวกเขาและส่งทุกคนออกไป ไม่นานหลังจากนี้เรื่องของความงดงามล่มเมืองของพระชายาเฉิงอ๋องร่ำลือไปเป็นวงกว้าง

เย็นวันเดียวกันอู๋เสี่ยวหรันก็ได้ต้อนรับแขกอีกครั้ง

“พระชายารองโจวมาขอพบเจ้าค่ะ” เหมยฮวาเข้ามารายงาน

อู๋เสี่ยวหรันที่กำลังวาดภาพบางอย่างอยู่ที่ศาลาท้ายตำหนัก เงยหน้าขึ้นจากกระดานวาดภาพตรงหน้าและบอก

“ได้สิให้นางมาที่นี่ก็แล้วกัน”

รอไม่นานนักหญิงสาวใส่ชุดสีฟ้าอ่อน เดินกรุยกรายมองแต่ไกลก็เห็นว่าน่าจะเป็นสาวงามคนหนึ่ง ท่าทางในการเดินถูกต้องตามระเบียบทุกประการ มีสาวใช้เดินตามอีกโขยงดูยิ่งใหญ่กว่านางที่เป็นพระชายาเอกเสียอีก อู๋เสี่ยวหรันมองเพียงหางตาจากนั้นก็ก้มลงวาดภาพนั้นต่อไป

“พระชายา พระชายารองมาถึงแล้วเพคะ”

ยังไม่ทันได้เห็นตัวคนเสียงที่ถูกบีบจนแหลมเล็กส่งมาก่อนตัวแล้ว

“โอ้ พระชายาช่างอารมณ์ดียิ่งนักเพคะ วันนี้ออกมาวาดภาพหาความสำราญได้”

พระชายารองโจวนางมีชื่อเต็มว่าโจวเพ่ยเพ่ยเป็นบุตรีสายตรงของจวนโจวกั๋วกง ทำให้นางมีความเหมาะสมที่จะได้รับตำแหน่งพระชายารอง ตามจริงแล้วนางสามารถขึ้นเป็นอ๋องเฟยได้เลย หากเทียบเรื่องฐานะกับอู๋เสี่ยวหรันที่เป็นเด็กกำพร้าไม่มีครอบครัวคอยหนุนหลัง ในขณะที่อนุคนอื่น ๆ มีเพียงตำแหน่งอนุต่ำต้อยเท่านั้น

“ขอบใจพระชายารองมากที่เป็นห่วงเปิ่นหวางเฟย”

อู๋เสี่ยวหรันเงยหน้าขึ้นมองโจวเพ่ยเพ่ย ที่ไม่แม้แต่จะทำความเคารพนาง นางยื่นมือให้เหลียนฮวาเช็ดคราบสีออกให้อย่างอ่อนโยน มือของอู๋เสี่ยวหรันขาวมากและยังเรียวยาว เหมือนคำกล่าวว่าผู้มีนิ้วมือสวยงามดั่งลำเทียน นับเป็นผู้มีบุญวาสนาได้อยู่อย่างสุขสบาย ยิ่งมองยิ่งน่าหลงใหล เพียงเห็นแค่มือนี้ก็แทบทำคนใจละลายได้เลย

อู๋เสี่ยวหรันคลี่ยิ้มเฉิดฉายออกมา วันนี้นางแต่งหน้าด้วยตัวเองเพราะเป็นคนงามอยู่แล้ว ยิ่งนางเพิ่มชาดสีแดงกรีดหางตาให้ยกขึ้น ยิ่งทำให้นางงดงามขึ้นอีกหลายเท่า
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel