บทที่ 5
มารตีกลับมาที่ห้องแต่งตัว นั่งลงพ่นลมหายใจอย่างพยายามระงับอารมณ์โกรธของตัวเอง สองปีแล้วที่เธอทำงานนี้ สองปีที่เธอพยายามทำให้คนที่บ้านรับรู้ถึงความอับอาย สองปีที่ยอมเป็นคนไร้ค่าใช้หน้าตาสวยๆ นี่แลกเงินเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง
"มาร์ เป็นอะไรหรือเปล่า ทะเลาะกันเรมี่อีกแล้วเหรอ" เสียงที่เอ่ยทักทายเป็นของพิมมาดา เพื่อนรุ่นเดียวกันที่เพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่และอยู่ในตำแหน่งพนักงานบาร์น้ำ ไม่ใช่เด็กดริ้งเช่นเธอ
"อื้ม เรื่องเดิมๆ เรมี่เริ่มจะหนักขึ้นทุกวัน" มารตีพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ด้วยความหน่ายใจ เธอเป็นคนดูแลเด็กนั่งดริ้งทั้งหมดแทนที่ยี่หวาซึ่งลาออกไปแต่งงานเมื่อปีก่อน ตอนนั้นเรมี่เข้ามาพอดี อยู่ได้ไม่นานก็กลายเป็นดาวเด่น แม้จะพยายามให้อยู่ในร่องในรอยแต่เรมี่มักใหญ่ใฝ่สูงหวังสบายทางลัด โชคยังดีที่ทางร้านมีกฎห้ามนอนกับลูกค้า ไม่อย่างนั้น เรมี่คงออกไปกับลูกค้าได้ทุกวันแน่ๆ
"เรมี่ยังเด็ก อย่าไปถือสาเลย"
"อือ ก็คงต้องปล่อยไป แต่ถ้าทำอะไรเกินเลย ฉันจะไม่ปล่อยหรอกนะ"
"แล้วนี่ พี่ชายแกว่ายังไงบ้าง" พิมมาดาถามถึงเรื่องพี่ชายที่มาหามารตีทุกสัปดาห์ตั้งแต่รู้ว่ามารตีทำงานที่นี่ เธอรับรู้เรื่องราวของมารตีเข้าโดยบังเอิญ เรื่องที่หญิงสาวหนีออกจากบ้านมาเรียนที่กรุงเทพฯ และทำงานเป็นเด็กดริ้งเพื่อประชดครอบครัว
"เรื่องเดิมๆ ให้กลับไปคุยที่บ้าน ฉันไม่อยากกลับ ฉันไม่เห็นจะสนใจเลยว่าเขาจะว่ายังไง"
"แต่เขาเป็นพ่อนะ" คนเป็นเพื่อนยื่นมือมาแตะที่ไหล่บาง ความจริงมารตีทำตัวเป็นคนไร้ญาติมาได้เกือบสามปี กระทั่งก่อนที่เธอกำลังจะเรียนจบ พี่ชายเธอก็ปรากฏตัวและขอให้กลับบ้าน เพราะพ่อรู้แล้วว่าเธอมาทำงานเป็นเด็กดริ้งของผับหรู จากการที่เพื่อนของพ่อมาใช้บริการและจำเธอได้ ถ่ายทั้งคลิปและรูปไปบอกกับพ่อเธอ บอกตามตรงว่าเธอค่อนข้างสะใจที่ในที่สุดพ่อเธอก็รู้เสียทีว่าเธอมาทำงานแบบนี้
ที่จริงเธอเลิกคิดเรื่องที่จะทำให้พ่อเสียใจไปนานมากแล้ว เพราะมันผ่านไปหลายปีพวกเขาก็ไม่เคยคิดจะติดตามหาตัวเธอ แต่เมื่อรู้ว่าพวกเขารู้ว่าเธออยู่ไหนแต่ทำนิ่งเฉย ในใจก็เกิดร้อนระอุขึ้นมาอีก พ่อไม่เคยรักเธอ รักแต่เมียใหม่และลูกใหม่ เพราะฉะนั้น เธอก็ไม่รักพ่อเหมือนกัน
"เขาไม่เคยเห็นฉันเป็นลูก นู่น เมียกับลูกใหม่ของเขาต่างหากที่เขาเทิดทูน พอเถอะพิม ฉันไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้ว จะกลับเลยไหม เดี๋ยวฉันไปส่ง"
"ไปส่งยังไง นั่งแท็กซี่เหรอ" พิมมาดายิ้มขำ ที่ว่าจะไปส่งใช่ว่าจะมีรถของตัวเอง ก็นั่งแท็กซี่กลับตามเคยนั่นแหละ
"อื้ม ไปเปลี่ยนชุดไป" มารตียิ้มหวานให้เพื่อน ตัวเองก็จะไปเปลี่ยนชุดบ้าง
มารตีเปิดล็อกเกอร์ของตัวเอง ในนั้นมีรูปที่เธอถ่ายกับเพื่อนๆ เด็กดริ้งด้วยกันรุ่นแรกเริ่ม ไม่ว่าจะ ยี่หวา ชบาและคนอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงรูปถ่ายของเธอกับมารดาที่ถูกติดเอาไว้ด้วยกัน
"หนูไม่ต้องมีพ่อก็ได้ค่ะ หนูมีแค่แม่คนเดียวก็ได้" มารตีหยิบรูปที่ถ่ายกับมารดาออกมาและพูดกับมันเบาๆ แม่เสียไปแล้ว พ่อพาเมียใหม่เข้าบ้าน ไม่สนใจเธอเลยสักนิด
หัวใจเธอแหลกสลายที่ต้องเสียแม่ไปยังไม่พอ เธอถูกทำร้ายจิตใจเพราะพ่อพาเมียใหม่เข้าบ้าน ซ้ำยังเอาใจกันออกนอกหน้า ไม่สนใจว่าเธอจะว่ายังไง หรือไม่สนใจว่าเมียใหม่ของเขาจะทำร้ายเธอแค่ไหน มารตีไม่เคยคิดว่าชีวิตเธอจะเหมือนกับในละคร มีแม่เลี้ยงใจร้าย ที่มีลูกติดขี้อิจฉา อยากได้ทุกอย่างที่เป็นของเธอ จนทำให้ทนไม่ไหวต้องหนีออกจากบ้านมาอยู่แบบคนไร้ญาติขาดมิตรแบบนี้
ตลอดเวลาที่เธอออกจากบ้านมา คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อไม่เคยไยดี ผ่านมาตั้งสี่ปี คิดจะให้เธอกลับไปงั้นเหรอ ไม่มีทาง
