บทที่ 4
เจ้าของร่างสูงเดินผ่านบาร์น้ำและหยุดนั่งลงที่หน้าบาร์
"รับอะไรดีครับบอส" มาโนช พนักงานประจำบาร์น้ำรีบถามเมื่อเห็นเจ้านายนั่งลง
"ขอแรงๆ แก้ว" มาโนชพยักหน้ารับและจัดการทำเครื่องดื่มให้ทันที
ไม่นานนัก ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินถือแก้วเข้ามาหา แน่นอนว่าเป้าหมายคือชัชชล เพราะบริเวณนี้ไม่มีใครแล้ว สาวสวยก้าวเดินมั่นคงเข้ามาตรงหน้า และยื่นแก้วออกมารอ ชัชชลเองก็ไม่อยากเสียมารยาทแตะแก้วตัวเองเข้าหาเสียงดังก่อนจะจรดริมฝีปากตัวเอง
"ริสาค่ะ คุณ..."
"ชัดครับ" เขาตอบพร้อมยกยิ้ม
"มาที่นี่บ่อยเหรอคะ" เธอเป็นฝ่ายตั้งคำถามเมื่อเขาเงียบใส่
"ครับ ก็บ่อยครับ"
"ริสาเพิ่งเคยมาสองครั้งเองค่ะ ที่นี่ดีนะคะ คนเยอะแต่ไม่วุ่นวาย" เธอชายตามองอย่างมีจริต ไม่ได้เปิดเผยแต่ก็ชัดเจนว่าอ่อย
"มาคนเดียวเหรอครับ" ชัชชลวางแก้วลงแล้วหันไปจ้องตา
"มากับเพื่อนค่ะ แต่ว่าเพื่อนเมาแล้ว ริสาหาคนดื่มเป็นเพื่อน" เธอวนแก้วเหล้าในมือ ปากบอกหาเพื่อนแต่ตาหวานฉ่ำ
"อ่อ ยินดีครับ เชิญ" เขายกยิ้มอีกครั้งและยกแก้วชนกับอีกคน ไม่ได้มีท่าทีสนใจ แม้ว่าอีกฝ่ายจะดูร้อนแรงก็ตาม
ที่มุมหนึ่ง มารตียืนกอดอกมองชัชชลกับสาวปริศนาอยู่นานด้วยใบหน้านิ่งๆ
"อุ้ยๆ อุ๊ย! แหม...ระวังจะตกกระป๋องนะคะคุณพี่" เสียงของคนที่ไม่ชอบหน้าดังมาแต่ไกล เรมี่ทำเสียงตกใจแบบมีจริตใส่มารตี
"พูดเรื่องอะไร" มารตีเหยียดริมฝีปากแสดงออกว่ารำคาญเด็กรุ่นน้องเต็มทน
"เอ๊า! ก็นั่นไงคะ พี่อย่าคิดนะว่าบอสจะสนใจพี่จริงจัง เขาก็แค่...." เรมี่มองคนเป็นรุ่นพี่ตั้งแต่หัวจรดเท้า "อยากได้ เดี๋ยวถ้าเขาได้ เขาก็ทิ้ง พี่อย่าลำพองว่าบอสชอบแล้วเย่อหยิ่งนักเลย เล่นตัวมากๆ เขาจะทิ้งไปหาคนอื่นนะคะ"
"เรมี่ ฉันถามเธอจริงๆ นะ อะไรที่ทำให้เธอมั่นใจว่าฉันอยากได้เจ้านายเธอนักหนางั้นเหรอ" มารตีกลอกตาไปมา
"พี่อย่ามาทำเป็นคนดี ทำงานแบบนี้พี่จะบอกว่าพี่ไม่คิดอะไรงั้นเหรอ ไม่มีคนดีๆ ที่ไหนเขาอยากมาทำงานเป็นเด็กดริ้งหรอกถ้าไม่อยากสบายทางลัด ทำมาเป็นคนดีไม่รับของจากลูกค้า ที่แท้ก็หวังน้ำบ่อใหญ่ คิดจะอ่อยเจ้าของผับ หึ! โอ้ย!" ยังไม่ทันพูดจบ เรมี่ก็ถูกจู่โจมจากมารตีทันที มือเล็กบีบที่ปลายคางของเด็กสาวรุ่นน้องแน่น
"เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแบบเธอ อย่ามาหาเรื่องดูถูกคนอื่นเขาจะดีกว่านะ ฉันทำงานนี้เพราะฉันไม่มีทางเลือก ฉันไม่เคยคิดจะใช้เต้าไต่เหมือนเธอ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าเธอพยายามอ่อยบอสมากี่ครั้งแล้ว พอไม่สำเร็จก็พุ่งเป้าไปที่เพื่อนเขา ขอบอกไว้เลยนะ ถ้ายังพอจะมีจิตสำนึกอยู่บ้าง อย่ายุ่งกับสามีคนอื่น แล้วจะหาว่าไม่เตือน..." มารตีสะบัดมือออกอย่างแรงทำให้ใบหน้าของเรมี่สะบัดไปอีกทาง เธอกัดฟันแน่นอย่างคนที่โกรธจัด
"แก....อิ...."
"หยุด!" มารตีชี้หน้าอย่างเหลืออด "เธอรู้ใช่ไหม ว่าฉันไม่ใช่คนที่เธอจะมาต่อปากต่อคำ ถ้ายังอยากทำงานที่นี่ อย่ามาหาเรื่องฉันอีก แล้วก็อยู่ห่างๆ เพื่อนบอสด้วย ไม่งั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน เก็บปากของเธอไว้ออดอ้อนลูกค้าเถอะ จำไว้ว่าเรามันกระดูกคนละเบอร์กัน" มารตีเหลือกตาใส่พร้อมข่มขู่ ก่อนจะสะบัดตัวเดินเข้าไปด้านใน ทิ้งให้เรมี่หน้าซีดตัวสั่นอยู่ตรงนั้น
ใช่ มารตีน่ะกระดูกใหญ่กว่าอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าปกติจะไม่เคยยอมรับสิทธิ์ความพิเศษที่ชัชชลมอบให้ แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้ เธอก็เลือกจะใช้มันเพื่อไม่ให้ตัวเองถูกเอาเปรียบ
"ฝากไว้ก่อนเถอะ ฉันจะเขี่ยแกออกไปให้ได้ อีมารตี" เรมี่กัดฟันกำหมัดแน่น ไม่มีทางไหนเลยที่เธอจะสู้ได้ มารตีไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนปวกเปียกและยอมให้คนอื่นรังแก แน่นอนว่าเรมี่ทำได้มากสุดก็จิกกัดทั่วไป เอาเข้าจริงๆ เธอก็กลัวถูกมารตีเล่นงานเช่นกัน
