บท
ตั้งค่า

๘ นกในกรง (๒)

“กลับบ้าน!” โกรธมากกว่าเดิมที่ลูกยอมทำตามความต้องการของคนอื่น มองไม่เห็นหัวเขาด้วยซ้ำ

ฌาร์มจูงกึ่งลากร่างแบบบางออกจากบ้านลิขิตสกุล เดินออกด้านหน้าแล้วกลับบ้านของตนเอง ความสูงค่อนข้างต่างทำให้ต้องรีบก้าวเท้าตามท่าน ไม่อย่างนั้นคงได้ล้มหัวคะมำแน่

“เฌอเจ็บนะคะคุณพ่อ” พยายามบอกท่านเพื่อให้ก้าวช้ากว่านี้อีกสักหน่อย แต่ฌาร์มก็ไม่ได้เดินช้าสักนิด เหลียวมามองบุตรสาวที่ยังคงร้องไห้เป็นเผาเต่าเพียงเพราะโดนชายคราวพ่อปฏิเสธ

“เจ็บสิดี จะได้รู้ว่าทำอะไรเอาไว้บ้าง หนีออกจากบ้านมาอยู่บ้านผู้ชายแก่คราวพ่อ” พาเธอเข้ามาในบ้านต้นตระการโดยมีต้นเดือนเดินตามหลัง หญิงสาวไม่อาจสะบัดมือบิดาหลุดเพราะถูกกำจนแน่น ถึงอยากหนีแค่ไหนก็ไม่อาจออกไปได้

“เฌอรักอาปราบ” บอกเสียงสั่นเครือด้วยความเจ็บปวด

“แล้วมันรักลูกไหม” ฌาร์มถามกลับ

“รัก! อาปราบรักเฌอ” ประกาศกร้าวราวกับอยากท้าทายบิดา ยิ่งทำให้ร่างสูงโกรธมากกว่าเดิม เขาพาลูกเดินขึ้นไปชั้นสองแล้วเปิดประตูห้องนอนของเฌอรีนา ผลักหล่อนเข้าไปข้างใน จากนั้นจึงผิดประตูเสียงดัง

“อยู่ในห้องแล้วทบทวนว่าตัวเองผิดตรงไหน” คนที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะถูกขังรีบดึงประตูหวังออกไป แต่คนข้างนอกก็จับไว้มั่น แล้วใช้สายตาบังคับต้นเดือนให้ไปหาแม่กุญแจเพื่อมาล็อคประตูเอาไว้ เป็นการขังเฌอรีนาเพื่อให้ได้อยู่กับตัวเอง เผื่อจะคิดได้ว่าทำอะไรผิด

“เฌอไม่ผิด! คุณพ่อเผด็จการ ปล่อยเฌอออกไปเดี๋ยวนี้นะ บอกให้ปล่อยไง”

ถึงลูกจะทั้งดึงทั้งทุบประตูจนเสียงดัง เล่นเอาปริณดาที่อยู่ห้องรับแขกต้องเดินออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า หล่อนเห็นสามีกำลังใส่แม่กุญแจที่หน้าห้องของบุตรสาว พร้อมเสียงดังโวยวายออกมาจากข้างใน

“อะไรคะพี่ฌาร์ม” พอหันมาเจอภรรยาของตนก็เลือกบอกความจริง เพื่อให้เธอได้เห็นว่ากองปราบเป็นแค่ผู้ชายกลับหรอก ต่อหน้าทำทีไม่สนใจ แต่ลับหลังกลับอยู่ในที่รโหฐานกับลูกเขาเพียงสองคน

ผู้ชายคนนี้ไม่เหมาะกับเฌอรีนาสักนิด!

“พี่เจอน้องเฌออยู่บ้านกองปราบ สองคนนั้นกำลังจูบกัน...มันสมควรไหม มันเหมาะสมเหรอที่ทำแบบนั้น” ยิ่งคิดถึงภาพนั้นก็ยิ่งโมโหมากกว่าเดิม

ลูกชายทั้งสามได้ยินเสียงดังเอะอะโวยวายก็ออกจากห้อง มองสถานการณ์อยู่ห่างๆ ไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย ถึงจะรู้สึกสงสารพี่สาวมากแค่ไหนก็ตาม ไม่คิดว่าบิดาจะขัดขวางความรักขนาดที่กล้าขังลูกสาวสุดที่รักไว้ในห้อง

“ต่อจากนี้ห้ามเปิดให้เฌอออกมาข้างนอก อนุญาตแค่แม่บ้านเอาอาหารมาให้สามมื้อ จนกว่าเฌอจะคิดได้” บอกเสียงดังเพื่อให้คนข้างในได้ฟัง พร้อมเดินเข้าห้องนอนทันทีไม่ขยายความหรือต่อปากต่อคำกับภรรยาที่เผยอปากค้าง

“แบบนี้มันเกินไปนะคะพี่ฌาร์ม พี่ฌาร์ม! เฮ้อ ปวดหัวกับพ่อลูกคู่นี้จริงๆ” เธอทกำเพียงพรูลมหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย โดยมีเสียงของเฌอรีนาดังออกมาจากห้องพร้อมทุบประตูเสียงดังไม่ยอมถูกขังเอาไว้ข้างใน

“ปล่อยเฌอนะ บอกให้ปล่อยเฌอไง”

แล้วอย่างนี้หล่อนจะช่วยอะไรลูกสาวได้บ้าง...

“พี่ฌอร์น...พี่เฌอกับอาปราบนี่เรื่องจริงเหรอ” ฌานินทร์กระซิบถามพี่ชายของตัวเอง ไม่ค่อยอยากเชื่อสักเท่าไหร่ ถึงจะเห็นกับตาได้ยินกับหูก็ตาม

“คิดว่าไงล่ะ”

“ห่างกันตั้งเยอะ แล้วผมจะเรียกพี่เขยว่ายังไงล่ะ อาพี่ปราบอย่างนี้เหรอ” คิดสะระตะในเรื่องไม่เป็นเรื่อง จนฌองส์ที่เงียบต้องส่ายศีรษะระอาพี่ชายตน

“ก่อนจะคิดไปไกลขนาดนั้น ดูสถานการณ์หน่อยไหมพี่ฌาว่าพ่อจะยอมหรือเปล่า” พูดจบก็ปิดปากหาวก่อนเดินกลับเข้าห้องนอน ปล่อยให้ฌานินทร์มองตามแล้วเผยอปากค้าง จะด่าก็ไม่ทันเมื่อน้องเดินหายลับไปแล้ว ทำได้เพียงเกาศีรษะกับเหตุการณ์ตรงหน้า

“เฮ้อ ปวดหัวว่ะ ไปนอนดีกว่า”

สุดท้ายก็เหลือเพียงคนที่ถูกทำร้ายคร่ำครวญอยู่ภายในห้องนอน เพื่อขอร้องให้บิดาปล่อยตนเองออกไปข้างนอก

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่กลับมีเสียงร้องไห้คร่ำครวญของเฌอรีนาดังออกมาตลอด จนช่วงเช้าของวันที่แม่บ้านนำอาหารมาเสิร์ฟตามคำสั่งของฌาร์ม นึกสงสารคุณหนูจับใจที่โดนกักขังบริเวณทั้งที่ปกติบิดาออกจะตามใจบุตรสาวคนโตเป็นอย่างมาก

“คุณพ่อปล่อยเฌอนะ ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้!” เธอพูดคำนี้มาหลายรอบ แต่ยังคงถูกขังเอาไว้โดยที่คนเป็นพ่อทำเพียงยืนละล้าละหลังอยู่หน้าห้องด้วยความเป็นห่วง คิดจะปล่อยแต่อีกใจก็อยากให้บทเรียนแก่บุตรสาว

ทั้งที่ความจริงเธอไม่ได้ทำผิดด้วยซ้ำ

แค่มีความรักเท่านั้นเอง...

“คุณหนูคะ ข้าวเช้า...” แม่บ้านนำอาหารเช้ามาให้ เธอเหลือบมองฌาร์มที่ยืนนิ่งไม่ไหวติง แล้วค่อยผินหน้ากลับมามองประตูดังเดิม

“ไม่กิน! เฌอไม่กินอะไรทั้งนั้น ถ้ากล้าขังแบบนี้ก็ไม่ต้องเอาอาหารมาให้สิ!”

“ดี งั้นก็ไม่ต้องกิน!!” คนเป็นพ่อโกรธที่ลูกสาวไม่ยอมอ่อนข้อทั้งที่ถูกขังเอาไว้ในห้อง พร้อมสั่งเสียงเข้มเมื่อเห็นว่าแต่ละคนเริ่มทยอยออกมาจากห้อง

“ต่อจากนี้ห้ามใครมาเปิดห้องของเฌออีก จนกว่าจะคิดได้ว่าทำผิดตรงไหน” เมื่อไม่อยากกินข้าวก็ไม่ต้องกิน เขาเดินลงไปข้างล่างเตรียมไปทำงาน โดยปริณดาถึงกับพ่นลมหายใจหนักไล่หลังสามี เธอไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรเขาถึงจะใจอ่อน

“เฌอไม่ผิด คุณพ่อใจแคบ!!” ส่วนลูกสาวก็แข็งข้อไม่แพ้กัน

แล้วแบบนี้คนกลางอย่างเธอจะทำอะไรได้บ้าง แต่อย่างน้อยก็ต้องลองทำสักทางเพื่อช่วยให้ความรักของเฌอรีนาสมหวัง

เธอยังคงถูกขังเอาไว้ไม่ยอมปล่อยให้ไปไหน เสียงอ้อนวอนดังเป็นระยะ พร้อมทั้งไม่ยอมรับอาหาร ต้องการอดเพื่อประท้วงบิดา แต่ดูเหมือนฌาร์มจะใจแข็ง ลูกสาวไม่ยอมกินก็ไม่ให้แม่บ้านเอาเข้ามา สุดท้ายฌอร์นทนไม่ไหวแอบนำอาหารมาเคาะหน้าห้องพี่สาว

“พี่เฌอ ไม่หิวเหรอ” น้องชายที่ยอมทำตามคำสั่งพี่ทุกอย่าง เชื่อฟังหญิงสาวเป็นอย่างมากมีสีหน้ากังวล เป็นห่วงว่าคนข้างในจะหิว

“ไม่” แต่คำตอบก็ยังเหมือนเดิม

“กินข้าวหน่อยเถอะนะ”

“ไม่กิน พี่จะไม่กินจนกว่าคุณพ่อจะยอมปล่อยให้พี่ไปหาอาปราบ” เธอยังคงยืนกรานความปรารถนาเดิมจนน้องชายไม่อาจพูดอะไรได้มากนัก เขาเพิ่งรู้เรื่องของคนทั้งสองแต่ดูเหมือนว่าคนเป็นพี่จะรักกองปราบอย่างมาก

“อาปราบคบซ้อนนะ พี่ไม่โกรธเหรอ” ทุกคนในห้องอาหารต่างรับรู้ว่ากองปราบกำลังคบกับเพื่อน แต่ทำไมเฌอรีนาถึงยังรักมั่นไม่เปลี่ยน แม้จะโดนหลอกก็ตาม

“อาปราบโกหก อาปราบไม่ได้คบซ้อน อาปราบรักแค่พี่” ตะโกนกลับเสียงดังไม่ยอมแพ้ ทั้งไม่ยอมเปิดประตูออกมากินข้าว สร้างความปวดหัวให้แก่คนที่ยืนรอข้างหน้าเป็นอย่างมาก เขาถึงกับเกาศีรษะแล้วพรูลมหายใจด้วยความเหนื่อยล้ากับการใจแข็งของคนในห้อง

“เฮ้อ...คุณแม่” เผลอก้าวถอยหลังจนชนมารดาที่ยืนกอดอกนิ่ง ท่านหยิบถาดอาหารมาถือไว้แล้วบอกลูกสาว

“ไปเถอะ เดี๋ยวแม่คุยกับพี่เขาเอง”

“น้องเฌอ รักอาปราบจริงหรือเปล่า เชื่อใจเขาใช่ไหม” ปริณดาขยับเข้ามาใกล้ประตูแล้วเอ่ยถามเสียงเบาพอให้ได้ยินกันสองคน เฌอรีนาที่เคยร้องตะโกนเสียงใจก็รีบเปลี่ยนน้ำเสียงทันที

“ค่ะ เฌอเชื่อใจอาปราบ” ตอบด้วยเสียงหนักแน่น เช่นเดียวกับคนเป็นแม่ที่พร้อมสนับสนุนความรักของบุตรสาวเต็มที่

“งั้นแม่จะช่วยเฌอเอง” ตัดสินใจแน่วแน่ไม่อาจมองครอบครัวของตนแตกแยกได้ คิดว่าฌาร์มคงไม่ยอมปล่อยผ่านเรื่องนี้จนกว่าจะเป็นไปตามที่เขาต้องการ เธอจึงต้องช่วยเหลือลูกสาวให้สมหวังกับความรัก

เพราะเธอไม่ผิดอะไรเลย...

“คุณแม่พูดจริงเหรอคะ!” ถามกลับเสียงใสด้วยความยินดี

“จริง” พูดจบก็ไขกุญแจแล้วเปิดประตูเข้าไปข้างในห้องของบุตรสาว ตอนนี้เฌอรีนาคงซูบตอบเพราะไม่ได้กินข้าวมาหลายมื้อ คงต้องกล่อมให้รับประทานอาหารเป็นอย่างแรก ค่อยคิดแผนเพื่อรับมือกับฌาร์ม

แอ๊ด

“นะ นี่อะไรกัน...” แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทำให้หล่อนตกใจพอสมควร

ทำไม...ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ

เช้าวันต่อมาเสียงร้องไห้คร่ำครวญยังดังออกมาจากห้องของเฌอรีนาอย่างต่อเนื่อง เพียงแค่เปลี่ยนประโยคจากร้องขอให้ปล่อยเป็นยอมจำนนต่อโชคชะตาของตนเอง จนคนที่หยุดยืนหน้าห้องต้องถามเพื่อความแน่ใจ

“คุณพ่อคะ คุณพ่อ ฮือ เฌอยอมแล้ว เฌอยอมแล้ว ปล่อยเฌอเถอะนะคะ” ครวญครางเสียงสะอื้น ไม่รู้ว่าร้องไห้ไปนานแค่ไหน แต่ได้ยินเสียงหญิงสาวร้องแทบทั้งคืนจนเป็นห่วง คิดจะยอมปล่อยลูกสาวออกมาข้างนอก

กระทั่งได้ยินว่าอีกฝ่ายยินยอมทำตามความต้องการของเขา...

“เฌอหมายความว่ายังไง”

“เฌอจะเลิกรักอาปราบ เฌอจะทำตามที่คุณพ่อบอกทุกอย่าง ปล่อยเฌอออกไปเถอะนะคะ ปล่อยเฌอ...” สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนต่อโชคชะตา เธอถูกขังมานานเกินไปแล้วจึงตัดสินใจทำตามที่บิดาสั่งทุกอย่าง

พอฌาร์มได้ยินอย่างนั้นก็รีบไขกุญแจปล่อยบุตรสาวของตัวเองทันที ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มยินดีที่คราวนี้เฌอรีนาจะตัดใจจากกองปราบอย่างเด็ดขาด กลับมาเป็นลูกสาวผู้น่ารักที่เชื่อฟังตนเหมือนเดิม สิ่งที่เขาให้มีแต่ความหวังดีทั้งนั้น

แอ๊ด

“คุณพ่อ” ประตูเปิดออกเธอก็โผเข้ากอดบิดาทันที

“คิดดีแล้วใช่ไหม” ลูบศีรษะลูกสาวด้วยความปลอบปะโลม จากนั้นจึงผละออกค่อยมองดวงหน้าหวานที่ขอบตาแดงก่ำ ถึงจะสงสารแต่ก็ต้องแข็งใจเพื่ออนาคตที่ดีของเฌอรีนา

“ค่ะ เฌอคิดดีแล้ว...เฌอจะเลิกรักอาปราบ เฌอจะเชื่อคุณพ่อทุกอย่าง” พยายามยิ้มหวานให้ท่าน กลับมาเป็นลูกสาวที่เชื่อฟังเหมือนอย่างเดิม

“ที่พ่อทำเพราะรักและหวังดีกับเฌอ”

“ค่ะ...แต่เฌอมีข้อแม้นะคะ” เขาเลิกคิ้วด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าเธอจะขออะไร แต่ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็ยอมทำให้ทุกอย่าง

“เฌอต้องการแต่งานให้เร็วที่สุด กับใครก็ได้ที่คุณพ่อเลือก...เฌออยากลืมอาปราบ”

คราวนี้ฌาร์มถึงกับตกใจกับคำขอนั้น ไม่น่าเชื่อว่าเฌอรีนาจะยอมแต่งงานเพียงเพื่อต้องการลืมกองปราบ แต่กระนั้นเขาก็ยิ้มยินดีพร้อมพยักหน้า สงสัยคงต้องเลือกเฟ้นหาคู่ที่ดีให้ลูกสาวสุดที่รักของตนซะแล้ว

อดีตที่ผ่านมาก็ปล่อยมันไป

สุดท้ายเขาก็ไม่ได้กองปราบเป็นลูกเขย...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel