บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 (4)

ฟองเทนได้แต่ครางในใจขณะเดินตามเฟรเดริกขึ้นไปยังชั้นสามของร้านที่เป็นที่อยู่อาศัยของคนทั้งบ้าน หญิงสาวมองตามแผ่นหลังของผู้ชายที่เดินนำหน้ามาตลอด แล้วก็นึกสงสัยเกี่ยวกับท่าทีที่เขาแสดงชัดว่าไม่ชอบลุงของหล่อน ถึงหล่อนจะรู้ว่าลุงฟร็องซัวร์ชอบทำอะไรตามเหตุผลของตัวเองเป็นหลักและถือเอาคำพูดของตัวเองเป็นใหญ่อยู่เสมอ

แต่ลุงฟร็องซัวร์ก็ไม่ใช่คนไม่ดีถึงขั้นที่จะเกลียดได้ แม้แต่หล่อนเองที่บ่อยครั้งต้องทนต่อคำสั่งและความเอาแต่ใจของลุงอยู่บ่อยครั้ง แต่ผู้เป็นลุงก็ไม่เคยทำให้หล่อนเกลียดหรือรู้สึกขยาดจนอยากจะหลีกลี้หนีไปไกลๆ สักหน่อย

“คุณเกลียดลุงฟร็องซัวร์หรือคะ” หล่อนเอ่ยถามเมื่อเข้ามาถึงห้องนอนห้องหนึ่ง

“ใช่” เขาตอบรับอย่างไม่ถนอมน้ำใจกันเลย “มากเสียด้วย มากจนบอกได้เลยว่าฉันไม่ยินดีต้อนรับเธอ”

“งั้นคุณก็ไล่ฉันกลับสิคะ” หล่อนเสนอนึกลิงโลดในใจกับทางออกของตัวเอง แต่คำตอบของเฟรเดริกทำให้หล่อนถึงกับกร่อยสนิท เมื่อรู้ตัวว่าก้าวเข้ามาในรังของเชฟเต็มตัวชนิดเต็มกลืนเข้าแล้ว

“ในเมื่อเธอมาเป็นเชฟ ถึงเธอจะไม่อยากเป็นเชฟและถึงแม้ว่าฉันจะไม่ชอบเธอ ไม่ชอบฟร็องซัวร์ แต่ฉันมีศักดิ์ศรีของการเป็นเชฟ ในเมื่อเธอมาเพื่อเรียนรู้ เธอก็จะได้เรียนจนสมใจ แล้วรับรองได้ว่าฉันจะทำให้เธอเป็นเชฟอย่างที่เธอจะลืมไม่ลงไปทั้งชีวิตแน่ แล้วหลังจากที่เธอเรียนรู้ได้พอที่จะเป็นเชฟ ก็กรุณาย้ายตัวเองกลับไปในที่ๆ เธอมา เพราะที่นี่ไม่ต้อนรับโวซิยง”

เฟรเดริกตอบแล้ววางกระเป๋าเดินทางของหล่อนไว้ที่หน้าตู้เสื้อผ้าที่เดิมเป็นของน้องสาว แล้วจึงหันกลับมาหาแม่สาวที่กำลังจะกลายเป็นเจ้าของห้องๆ นี้ชั่วคราว แต่เขาไม่คิดหรอกว่าหล่อนจะอยู่ได้พ้นหนึ่งอาทิตย์ เพราะระหว่างที่เดินขึ้นมาบนห้อง เขาก็คิดแล้วว่าจะทำให้หล่อนขยาดการเป็นเชฟจนขวัญบิน จะทำให้หล่อนพูดออกมาว่าทนไม่ไหว แล้วก็กลับบ้านหล่อนไปไวๆ

เขาไม่ใช่คนที่ปรานีคนอื่นเหมือนอย่างเกสตัน และหล่อนก็เป็นหลานสาวของคนที่เขาเกลียดด้วยดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะเมตตาปรานีอะไรหล่อนทั้งนั้น!

“ทำไมคะ?” หล่อนจี้ถามเขากลับทันที

“เพราะว่าเกลียด เข้าใจชัดหรือยัง”

ชายหนุ่มตอบแล้วเริ่มหงุดหงิดมากขึ้นกับท่าทางของหล่อนที่ตอนแรกก็ดูเหมือนยัยจืดทำตัวเป็นแม่ชีหลุดออกมาจากที่ไหนสักแห่ง แต่ยิ่งได้พูดคุยกันมากขึ้น ก็ยิ่งแน่ใจว่าแค่เปรียบหล่อนเป็นไฟเย็นเห็นจะไม่พอเสียแล้ว เพราะหล่อนดูเหมือนระเบิดเวลามากกว่า

ทว่า แม้จะคิดว่าหล่อนเป็นระเบิดเวลาที่ไม่ควรไปจุดชนวนอย่างเด็ดขาด แต่ในส่วนลึกของจิตใจและความเป็นเฟรเดริกผู้นำของสามพี่น้องสุดป่วนของบ้านเลอ บลองค์แล้ว การสะกิดให้ระเบิดทำงานมันก็น่าสนุกอยู่เหมือนกัน เพราะบางทีถ้า ‘ระเบิดเวลาเกิดตูมตาม’ ขึ้นมาจนทนไม่ไหว ก็อาจจะหนีกลับบ้านไปเร็วๆ ก็ได้

“อธิบายหน่อยได้ไหมคะ อะไรทำให้คุณเกลียดโวซิยง” หล่อนถามไม่มีท่าทีว่ากลัวเขาสักนิด แม้ว่าตอนนี้เขากำลังเข้าใกล้คำว่าระเบิดตูมตามมากกว่าหล่อนเสียอีก

“เธอไม่จำเป็นต้องรู้เหตุผล”

“เพราะคุณไม่มีเหตุผลน่ะสิ”

ฟองเทนว่ากลับพลางส่งยิ้มหวานท้าทายเขาอย่างไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย มันเป็นกรรมพันธุ์ของโวซิยงและเป็นการอบรมสั่งสอนของพ่อกับแม่ หล่อนเรียบร้อยเป็นกุลสตรีได้เมื่ออยากเรียบร้อย แต่หล่อนไม่ยอมให้เหตุผลของคนอื่นอยู่เหนือเหตุผลของสังคม เพราะพ่อของหล่อนเคยสอนไว้ว่า

‘ถ้าใครคนหนึ่งบอกว่าเกลียด จงถามเขากลับไปว่าอะไรคือเหตุผล แต่ถ้าเหตุผลนั้นเป็นแค่เหตุผลของตัวเขาเอง ลูกต้องทำให้เขารู้ว่าเหตุผลของเขาไม่ใช่เหตุผลของคนทั้งโลก’

แต่เฟรเดริกนั้นแทบหงายหลังกับคำพูดที่แสนมั่นใจของหล่อน ชายหนุ่มเคยคิดว่าการรับมือกับน้องสาวนิสัยระเบิดเพลิงและซุ่มซ่ามเอาแต่ใจก็ว่าแย่พอแรงแล้ว นี่ต้องมาเจอกับผู้หญิงที่ยิ้มได้ทั้งที่ถูกพูดใส่หน้าว่าเกลียดหรือนี่ ถ้าไม่เรียกว่าบ้า! ก็ต้องเรียกว่าความสงบสุขได้หายไปแล้วเมื่อหล่อนมายืนที่นี่

“ท่าทางจะไม่เคยเจอของจริงนะคุณแม่ชี” เขาขู่เสียงเย็นแล้วกระตุกยิ้มให้กับใบหน้าสวยที่มองเขาอย่างท้าทาย ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรถึงทำให้ถามออกไปอย่างนั้น

“ฟองเทนค่ะ แค่ฟองเทน ไม่ใช่แม่ชี” หล่อนบอกเพื่อให้เขาเรียกหล่อนใหม่ ไม่ยอมรับสรรพนามเรียกขานกึ่งดูถูกแบบนั้นเป็นอันขาด

“ก็ได้ครับผม คุณฟองเทน!” เขายอมเรียกชื่อหล่อนออกไป “แต่บอกไว้ก่อนนะว่าหลังจากนี้ฉันจะทำให้เธอลิ้มรสชาติของการเป็นเชฟชนิดที่ไม่เกินสามวันเป็นได้ร้องกลับบ้านแน่”

“ช่วยทำให้มันเป็นวันเดียวได้ไหมคะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel