บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 (2)

แต่สองปีหลังจากหล่อนสาบานว่าจะไม่เข้าใกล้เตา พ่อของหล่อนก็ล้มป่วยกะทันหันและจากไป ชีวิตของหล่อนไม่ได้จมปลักอยู่กับความทุกข์แต่อย่างใด หล่อนมีความสุขกับมารดาและอาศัยอยู่ที่เมืองกราสส์ที่อยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส แม่ของหล่อนมีร้านขายดอกไม้และรับจัดดอกไม้ไว้สำหรับงานต่างๆ

ทุกอย่างเป็นปกติสุขดีสำหรับสองแม่ลูก ยกเว้นแต่เพียงฟร็องซัวร์ โวซิยงคือคนที่คอยส่งเงินมาให้ทุกๆ ปีเพื่อช่วยเรื่องการศึกษาของหล่อนและหวังอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่า จะต้องทำให้หล่อนสานต่อการเป็นเชฟของพ่อให้ได้ อีกทั้งมารดาของหล่อนก็เกรงใจต่อฟร็องซัวร์มากและมันมากถึงขั้นบอกให้หล่อนตามใจฟร็องซัวร์ ด้วยการยอมมาเรียนเป็นเชฟถึงดีน็องนี่ยังไงล่ะ!

เนื่องจากการที่หล่อนเป็นหลานของฟร็องซัวร์ แต่ไม่สามารถสานต่อเจตนารมณ์หรือแม้แต่สูตรดีๆ ของผู้เป็นลุงได้ มันถือเป็นเรื่องน่าอับอายสำหรับเชฟระดับโลกอย่างเขา ฟร็องซัวร์จึงยื่นคำขาดให้หล่อนเดินทางมาถึงดีน็อง เพื่อเรียนการทำอาหารจากเชฟที่ท่านไว้ใจที่สุด

แต่ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างหล่อนเสียเลย เมื่อเชฟคนที่ลุงตั้งใจส่งหล่อนให้มาเรียนรู้ด้วยนั้น ตกที่นั่งลำบากต่อการรับมือกับภรรยาที่กลายเป็นคุณแม่มือใหม่ ซึ่งหล่อนก็เข้าใจว่ามันออกจะวุ่นวาย ถ้าเขาต้องคอยดูแลทั้งภรรยาและลูก แล้วยังพ่วงหล่อนที่เหมือนแขกไม่ได้รับเชิญของบ้านเข้าไปอีกคน

ฟองเทนจึงถูกส่งตัวมาให้เพื่อนของเขาแทน หล่อนได้รู้เรื่องคร่าวๆ ระหว่างที่เดินคุยกับเกสตันมาก่อนจะถึงที่ร้านของเฟรเดริกว่า คนที่เกสตันตั้งใจจะพาหล่อนมาฝากเพื่อเรียนการทำอาหารและเคยเรียนที่สถาบันการอาหารมาด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นมือวางอันดับสองของรุ่นเลยทีเดียว!

หญิงสาวฟังตอนนั้นก็อุตส่าห์ตั้งความหวังไว้ว่าจะได้เจอผู้ชายที่คล้ายๆ กับเกสตัน หล่อเนี้ยบไม่มีที่ติ สุขุม เยือกเย็นน่าค้นหาและดูอบอุ่น ที่ไหนได้กลับมาเจอผู้ชายหล่อเหลาหน้าตาดีแต่ดันทำหน้าบอกบุญไม่รับใส่ตั้งแต่แวบแรกที่รู้ว่าหล่อนเป็นใคร แถมยังขู่จะโยนหล่อนออกจากร้านเสียด้วย

‘ตาบ้านี่เป็นผู้ชายที่แย่ชะมัด!’

หล่อนคิดระหว่างแอบพิจารณาเขาไปพลางๆ ถึงเขาจะหล่อดูคมคาย จมูกโด่งรับกับริมฝีปากที่ชวนให้อยากลองจูบดูสักครั้ง แต่อะไรบางอย่างในตัวเขามันทำให้อารมณ์ความรู้สึกที่สัมผัสได้ต่างจากเกสตัน มันคงเป็นเพราะไรหนวดบางๆ เหนือริมฝีปากผสมกับท่าทีโผงผางวางอำนาจที่ทำให้เขาดูมีเสน่ห์แบบเถื่อนๆ ผิดกับเกสตันที่มีเสน่ห์แบบผู้ชายชวนฝัน

“อยากเป็นเชฟเหรอ?”

จู่ๆ เฟรเดริกก็เอ่ยถามออกไปอย่างไม่มีการเกริ่นอะไรทั้งสิ้น เพราะต้องการดูปฏิกิริยาตอบสนองของหล่อน ซึ่งเขาเชื่อเสมอว่าคนเราจะตอบสนองความเป็นจริงออกมาหรือแสดงตัวตนออกมาให้ได้เห็น ถ้าคำถามที่ถูกถามออกไปไม่ได้อยู่ในการเตรียมตัวเตรียมใจจะตอบตั้งแต่แรก

“เปล่าค่ะ” หล่อนตอบกลับทันที

ชายหนุ่มฟังคำตอบแล้วแทบตกเก้าอี้ เขารู้สึกเหมือนตนเองได้ยินอะไรผิดไปหรือไม่หล่อนก็ต้องเพี้ยนแน่ๆ ที่บอกว่าไม่อยากเป็นเชฟ ในเมื่อตาแก่ฟร็องซัวร์เป็นคนโยนหล่อนมาให้เกสตัน แล้วเกสตันก็โยนหล่อนมาให้เขาอีกที แล้วมันมีความเข้าใจผิดตรงไหนไม่ทราบ ที่สมควรกับคำว่า ‘ไม่อยากเป็นเชฟ’ แล้วถ้าไม่อยากเป็นเชฟจริงจะมายืนตรงนี้เพื่ออะไรกัน?

“แล้วเธอมาที่นี่ทำไม” เขาจี้ถามกลับทีนที

“มาเป็นเชฟค่ะ” ฟองเทนตอบอีกครั้งและย้ำอีกหนด้วยใบหน้าซื่อๆ ท่าทางไม่น่าจะกวนประสาทใครได้ แต่คำตอบของหล่อนกับเจตนารมณ์ที่บอกว่าไม่อยากเป็นเชฟ มันดูจะขัดกันจนกลายเป็นการกวนโมโหย่อมๆ เสียแล้ว อีกอย่างถ้าหล่อนคิดจะกวนโทสะเขาเล่นล่ะก็ ขอให้คิดใหม่จะดีกว่า!

“ฉันไม่ใช่ลูกล่อลูกชนตาลุงของเธอนะ ถ้าเธอคิดว่าการเป็นหลานของตาแก่จะทำให้ถือไพ่เหนือกว่าคนอื่นๆ แล้วมายืนแผลงฤทธิ์ต่อหน้าฉันได้ล่ะก็ คิดผิดแล้วคุณแม่ชี”

หญิงสาวนิ่วหน้ากับคำขานเรียกของเขา แล้วเพิ่งนึกได้ว่าเขามองแค่การแต่งตัวของหล่อนก็ตัดสินทุกอย่างแล้ว ทั้งที่ไม่รู้จักหล่อนเลยสักนิดยังจะมีหน้ามาเรียกหล่อนว่าแม่ชีอีกเหรอ!

“คุณเคยอ่านหนังสือพิมพ์หรือฟังพยากรณ์อากาศบ้างไหมคะ” หล่อนถามกลับ

“ถามทำไม?” เขาถามกลับเสียงงงๆ ยังตามคุณแม่ชีคนสวยไม่ทัน

“ท่าทางจะไม่ได้ฟังนะคะ” หล่อนสรุปกึ่งแขวะนิดๆ แล้วส่งยิ้มให้ก่อนจะเฉลย “ในช่วงสองสามวันนี้จะเป็นวันที่อากาศเข้าสู่การร้อนที่สุด ต้องขอโทษด้วยที่ฉันแต่งตัวเป็นแม่ชีเพราะรู้จักดูแลตัวเองไม่ให้ผิวไหม้แล้วมาร้องกรี๊ดๆ แสบผิวจนต้องไปหาหมอทีหลัง ฉันยอมเป็นแม่ชีดีกว่าเป็นขนมอบเดินได้ค่ะ”

เฟรเดริกฟังแล้วก็เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งด้วยความแปลกใจกับการถูก ‘ยัยแม่ชี’ สวนกลับหมัดแรกด้วยคำพูดที่เล่นเอาจุกไปเลย ถึงหล่อนจะยังไม่เข้าขั้นน้องสาวของเขา ที่พ่นทุกอย่างออกมาได้ชนิดหูดับตับไหม้ แต่สงสัยว่าเขาต้องมองหล่อนใหม่เสียแล้วล่ะมั้ง!

เจ็ดคะแนน…สำหรับฝีปากคม

แต่ศูนย์คะแนน…สำหรับทุกนัย!

โดยเฉพาะเมื่อเขาเริ่มคิดได้ว่าหล่อนอาจจะไม่ใช่ระเบิดเพลิงคนที่สอง แต่ภายใต้ภาพลักษณ์ที่เขาเรียกว่าแม่ชี หล่อนน่าจะเป็น...ไฟเย็นมากกว่า!

การก้าวเข้ามามีตัวตนของฟองเทนกลายเป็นปัญหาเล็กๆ ที่ก่อกวนใจเฟรเดริก ชายหนุ่มไม่ชอบใจอย่างยิ่งและไม่มีทางยอมต้อนรับหลานสาวของฟร็องซัวร์ได้ง่ายๆ ซ้ำร้ายยังคิดจะให้หล่อนออกไปจากร้านด้วย ถ้าไม่ใช่ว่ามารดาของเขาห้ามเอาไว้

ภายในห้องนั่งเล่นของบ้านที่ปกติจะมีแต่เสียงหัวเราะ ความสนุกสนานของครอบครัว ยามนี้กลับเงียบเป็นป่าช้าเมื่อการพูดคุยจริงจังเริ่มขึ้นกับหัวข้อสนทนาที่ยังคงยืนรอการตัดสินใจของ ‘บ้านเลอ บลองค์’ อยู่ข้างล่างด้วยความหวังน้อยนิดที่มีอยู่

“ทำไมแม่ถึงคิดว่าผมควรจะรับผู้หญิงคนนั้นล่ะครับ”

เฟรเดริกถามเครียดพอๆ กับสีหน้าที่เครียดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ด้วยไม่เข้าใจเลยว่าทำไมมารดาถึงใจอ่อนยอมให้หลานสาวของฟร็องซัวร์เหยียบย่างเข้ามาในเขตพื้นที่ความสุขของบ้านเลอ บลองค์!

“งั้นแม่ขอถามกลับกัน ทำไมเฟรดถึงจะกีดกันเธอออกไป ในเมื่อเธอมาเพื่อเรียนทำอาหารและเกสตันก็ขอให้เฟรดดูแลเธอแทน แม่เชื่อนะว่าถ้าน้องสาวของเราไม่ได้กำลังวุ่นวายกับลูกแฝดแล้วอะไรๆ ลงตัวมากขึ้น เกสตันคงรับ ฟองเทนไว้และเต็มใจสอนการทำอาหารเธอแน่”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel