4
แชะ!
กล้องหลังสมาร์ทโฟนตกรุ่นยี่ห้อดัง ทำการบันทึกภาพจนเกิดเสียงดังพื้นฐาน พร้อมด้วยแววตาเปล่งประกาย เมื่อได้เห็นว่าภาพที่ได้ ช่างถูกอกถูกใจเหลือแสน
“น่ารักมากเลย...มานี่มา มาหาแม่เร็วลูก” เมื่อถ่ายเสร็จ นายแบบสี่ขาที่วิ่งวนอยู่แถวๆ รองเท้าผ้าใบยี่ห้อดีคุณภาพเยี่ยมของผู้ที่ชอบถ่ายรูปในทุกที่ ก็วิ่งหนีไป จนเธอต้องรีบวิ่งตามและจับมันเอาไว้ หยิกหยอกตามประสา อย่างนึกหมั่นเขี้ยว
‘เจ้าตูบ’ สุนัขสายพันธ์ชิวาวา ที่หูกางไป 180 องศา แต่เธอก็อยากจะเรียกมันว่า ตูบ อยู่ดี
“หิวมั้ย...แอคชั่นสวยมากนะวันนี้ เดี๋ยวแม่เอาลูกชิ้นให้เป็นรางวัล” เธอว่าพร้อมล้วงถุงลูกชิ้นปิ้ง ไร้น้ำจิ้มออกมาจากถุงผ้าลายหมีใบเขื่อง ซึ่งมีลูกชิ้นหมูล้วน อุ่นๆ อยู่ 10 กว่าไม้
เธอซื้อจากร้านเด็ดเจ้าประจำตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น แต่ไม่เจอกับเจ้าตูบ ก็เลยอุ่นในไมโครเวฟมาให้มันแต่เช้าตรู่
เจ้าตูบเป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้าของอพาร์ทเมนต์ที่เธอเช่าอยู่ โดยมันก็ทำตัวป้วนเปี้ยนแผ่กระจายความน่ารักของตัวเองให้ผู้คนเห็น โดยที่ไม่ใช่แค่เธอหรอกที่ตกหลุม ความน่ารักของมัน
โดยที่เจ้าของก็ไม่ได้หวงเลยสักหน่อย ใครอยากจะเอาอะไรมาให้มันรับประทาน ก็ขอแค่ปลอดภัยและไม่ทำลายระบบลำไส้ก็พอ
“นั่นแน่...ชอบล่ะสิ มานี่ มานี่ มาเซลฟี่เป็นหลักฐานเดี๋ยวนี้ ว่าแม่เอาอะไรมาให้หนู...”
แชะ! และแน่นอนว่าความหอมฉุยของลูกชิ้นไม้โปรด ทำให้เจ้าตูบ วิ่งมาร่วมเฟรมอย่างให้ความร่วมมือ
ภาพหญิงสาวสดใส ที่ไร้การแต่งหน้าจัดเต็ม มีเพียงรอยดินสอเขียนคิ้วที่สวยโดดเด่นอยู่บนใบหน้า เป็นเส้นโค้งรับกับหน้าผากโค้งนูนเป็นเอกลักษณ์ แต่ก็ไม่ได้กว้างจนโดนเรียกว่าเหม่ง
จมูกโด่งเป็นสันพองาม ไม่ได้รับการไฮไลท์ใดๆ แต่กลับรับกับดวงตาใส ที่เปิดเปลือยความรู้สึกสุขสมชัด ไม่ได้หยีจนแทบปิดในครายิ้ม แต่ก็ไม่ได้กลมโตใหญ่เจิดจรัส
แต่ดันมีถุงใต้ตาเล็กๆ ที่โค้งขึ้นรับกับดวงตาสีดำสนิท ที่ดูใสกิ๊ง แวววาว ทำให้เธอดูอ่อนเยาว์ เข้ากับริมฝีปากสีชมพูระเรื่อ ปนสีส้มตามการแต่งแต้มเล็กน้อย จากลิปสติกเนื้อจุ่มชุ่มวาว
เคียงข้างใบหน้าที่มีเสน่ห์ในตัวเองนั้น ก็มีสุนัขพันธ์ชิวาวา ที่ถูกขนานนามว่าเจ้าตูบ ยิ้มแฉ่งตามอย่างแสนรู้
“แม่ยกให้หมดเลย ทานให้อร่อยนะลูก” เธอว่าพร้อมยีหัวมันเล็กน้อย ก่อนเดินไปล้างมือ เพื่อเตรียมเดินไปสมัครงานต่อ
เธอเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าที่ห่างจากตัวอพาร์ทเมนต์ไปราวๆ 1 กิโลเมตร พอได้ที่นั่งมั่นเหมาะ ก็ล้วงโทรศัพท์ขึ้นมาทำกิจวัตร ที่คนในสังคมก้มหน้าเขาทำกัน
เลือกรูปซะหน่อย
อภิศราระบายยิ้มออกมาเล็กน้อย หากแต่ดวงตาประกายไปด้วยความสุข เมื่อได้เห็นรูปคู่ระหว่างเธอกับเจ้าตูบ ผู้ยินดีที่จะถ่ายรูปด้วย อย่างให้ความร่วมมือมาเสมอ
แต่เธอต้องมีลูกชิ้นนะ!
‘ตูบ กับลูกชิ้นปิ้งของเขา...’
เธอโพสต์รูปพร้อมแคปชั่น ลงไปใน IP เจ้าเก่าเจ้าประจำ ที่มีหน้าที่เก็บความทรงจำของเธอมา 7 ปีกว่า ก่อนหย่อนโทรศัพท์เก็บไว้ในกระเป๋าครอสบอดี้สีน้ำเงินเข้ม
ได้มีความสุขแล้ว พลังมาแล้วว้อย!
เสี้ยวหน้าคมของสงคราม เด่นขึ้นเมื่อในครานั่งหันข้าง มองสองข้างทาง วิวตึก ที่มีรถวิ่งวุ่นผ่านกันอย่างคราครั่ง
วันนี้เขานั่งมาในรถเมอซิเดสสีดำด้านคันเก่า กับคนขับรถคนเก่า หากแต่มีความรู้สึกใหม่ เกิดขึ้นในใจเขา ที่ไม่ได้ปกติเหมือนเช่นทุกวัน
เขานั่งออกจากคอนโดมาได้สักพัก แต่ไร้วี่แววว่ารถด้านหน้าจะเคลื่อนขยับ
ถึงขยับ...ก็ขยับทีละนิด
ถ้าเป็นปกติเขาคงจะหงุดหงิดไปแล้ว แต่สภาพรถติดในวันนี้ มันเอื้อที่จะทำให้เขาหาข้ออ้างในการทำบางอย่าง แบบไม่น่าสงสัย
แม้ว่า...จะไม่มีใครกล้าสงสัยอะไรในตัวเขาอยู่แล้วก็ตาม
“ลุง” คนตั้งใจขับรถสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนเบือนหน้ามองไปยังกระจกมองหลัง ที่ได้พบกับแววตาคมเข้มของผู้เป็นเจ้านายมองอยู่ก่อน
“ครับคุณซุง”
“เล่นเกมส์กันไหม” อนันต์ วงสาก ขมวดคิ้วเข้า เอี้ยวหันมามองผู้เป็นเจ้านายแบบเต็มตา อย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ได้ยิน
“ผม...เล่นเกมส์ไม่เป็นหรอกครับคุณซุง”
“ไม่ได้หมายถึงเกมส์นั้น” เขาตอบอย่างตรงไปตรงมา เพราะรู้ดีว่า คนขับรถก็คือคนขับรถ ที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี แต่เรื่องอื่น ไม่อาจจะเปิดรับได้
“แล้ว...หมายถึงเกมส์อะไรเหรอครับ?”
สงครามยิ้มออกมาเล็กน้อย พร้อมหยิบขวดโหลแก้วขนาดเล็กออกมาจากกล่องไม้ที่ให้เลขาสาวใหญ่ หาให้ภายในไม่กี่ชั่วโมง
มืออีกข้าง ก็เอื้อมไปหยิบแก้วพลาสติกใส ที่มีกระดาษม้วนเล็กๆ สีขาวบรรจุอยู่
อุปกรณ์พวกนี้ ก็เลขาสาวใหญ่อีกนั่นแหละ ที่เป็นคนเตรียมให้
“เกมส์ฝึกภาษา” น้ำเสียงอันตื่นเต้นของเจ้านาย ที่พอจะเคยเห็นผ่านตามาบ้าง สร้างความประหลาดใจให้กับคนที่ขับรถมาให้เขาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ได้รับตำแหน่งประธานบริษัทในเครือ J&K group
“ภาษาอังกฤษน่ะเหรอครับ?” คนที่กลัวภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ไหน เอ่ยถามอย่างขยาด กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ นึกไปถึงตอนที่ถูกสั่งให้ท่องคำศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ตอนที่เข้ามาเป็นคนขับรถให้เขาใหม่ๆ
ซึ่งก็ถือว่านับจากวันนั้นอนันต์ก็สื่อสารได้แบบพอรู้เรื่องมาตลอด แต่พอมาได้ยินคำว่าเกมส์ เขากลัวว่ามันจะเกินความสามารถตัวเองไปหน่อยน่ะสิ!
“อือฮึ ง่ายๆ ไม่เห็นต้องทำหน้าเหมือนเด็กไม่อยากกินยาขมขนาดนั้น” ยิ่งเขาดูผ่อนคลาย ไร้คราบท่านประธานผู้ภูมิฐาน คนที่ทำงานกับเขามานาน ก็ยิ่งรู้สึกขยาด
“จริงเหรอครับ ง่ายแน่นะครับ”
“อือฮึ” ว่าพร้อมโยกตัว ยื่นใบหน้าคมคายไปทางด้านหน้า จนคนที่มองเขาจากกระจกหลัง กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ อีกรอบ
“ก็แค่จับฉลาก” ว่าพร้อมจับแก้วพลาสติกใสที่เตรียมมา เอามือครอบปากมันและเขย่าไปมา
อนันต์หันมามองหน้าเขาเต็มตาอีกครั้ง สลับกับมองแก้วที่ถูกเขย่าแล้วเสร็จ ก่อนตบท้ายด้วยการมองไปยังท้องถนนเบื้องหน้า ที่ยังไม่มีทีท่าว่ารถคันไหนจะเคลื่อนขยับ
“จับเฉยๆ เหรอครับ?”
“จับแล้วจะบอก” ว่าด้วยน้ำเสียงเข้มเชิงเร่ง จนบุคคลใต้อำนาจต้องรีบลนลาน และไม่ได้เห็นเลยว่า แววตาคนสนุกเปล่งความสุขแค่ไหน
ค่อยดีขึ้นหน่อย ชีวิตคงจะไม่น่าเบื่อไปสักพัก
“นะ...นี่ครับคุณซุง” ว่าพร้อมยื่นกระดาษม้วนที่หยิบมาได้ส่งให้
“อือฮึ เยี่ยม” พอได้รับกระดาษนั้นแล้ว เขาก็ขยับไปนั่งเอนหลังไปตามเบาะขนาดกว้าง ด้วยทีท่าสบายๆ พร้อมๆ กับที่รถด้านหน้าเริ่มขยับ คนหวาดหวั่นแต่ยังต้องทำหน้าที่ ก็รีบขยับเคลื่อนรถตาม
ทั้งที่ในใจก็ลุ้นจะแย่...ว่าตัวเองจะจับได้อะไร!
‘O’
ผลการจับฉลากอยู่ในมือเรียวยาวได้รูป ที่กระดิกอยู่เป็นนิจ ในคราที่พึงพอใจอะไรบางอย่าง
“ลองพูดคำศัพท์ตัวโอมาหนึ่งคำสิ ที่พอจะนึกได้” เอ่ยขึ้นอย่างสบายๆ ในคราที่รถ เคลื่อนได้คล่องตัวแล้ว
คนกังวลใจขมวดคิ้วไปมา คำศัพท์ในหัวที่ไม่ค่อยได้ท่อง พากันพร่องไปหมด
“เอ่อ...” ทีท่าพยายามคิดอย่างสุดจิตสุดใจของอนันต์ ยิ่งทำให้คนโรคจิตเพลิดเพลินใจ มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นนี่มันเยี่ยมยอดจริงๆ
“เร็วเข้า จะหมดเวลาแล้ว”
“เอ่อ...ตัวโอ...”
“หนึ่ง สอง...”
“ออเร้นจ์! ครับ...ออเร้นจ์!” สงครามพยายามกลั้นขำ หากแต่ก็รีบพยักหน้า
“Orange แปลว่าอะไร” ทำเป็นทำเสียงเข้ม เหมือนตอนทดสอบภาษาอังกฤษกับลูกน้องรอบกาย เพื่อให้ทุกคนได้ทักษะสำคัญ เผื่อจะเอาไปใช้ในการประกอบอาชีพในอนาคต
‘เผื่อลุงทำงานกับผมแล้วผมไม่ถูกใจ อยากไล่ออก ก็จะได้เอาภาษาอังกฤษ ไปขับแท็กซี่และคุยกับผู้โดยสารชาวต่างชาติได้’ เขาทำเป็นว่าไปอย่างนั้น จนอนันต์กลัวหัวหด กลัวว่าจะโดนไล่ออกง่ายๆ แต่สุดท้าย ก็ยังทำงานให้เขามาจนถึงทุกวันนี้
“แปลว่า...สะ ส้ม ครับ ส้มครับผม”
“ส้มสายพันธุ์อะไร”
“เอ่อ มันมีสายพันธุ์ด้วยเหรอครับ? ไม่ได้หมายถึงส้มทุกสายพันธ์เหรอครับ?” ทำเป็นถามด้วยแววตาฉงน โชคดีที่ติดไฟแดงอีกรอบ เลยจะสามารถตั้งใจตอบคำถามได้หน่อย
“หมายถึงว่าลุงน่ะ ชอบกินส้มสายพันธุ์อะไร” คนไม่เข้าใจ ยังคงทำทีท่าอึกอัก
“เกมส์ของผมคือ ลุงตอบคำศัพท์อะไรได้ ผมก็จะให้ของขวัญเป็นอันนั้น”
“อ้อ...” อนันต์ถึงบางอ้อพร้อมเกาหัวแกรก ไม่คิดว่าเจ้านายจะมามุกนี้ เพราะปกติ เขาจะไม่ชอบทำตัวใจดีโจ่งแจ้ง
“ถือว่าขอบคุณที่ร่วมสนุกด้วย ตกลงเอาพันธุ์อะไรดี”
“เอ่อ...สายน้ำผึ้งก็แล้วกันครับคุณซุง” ตอบไปอย่างนั้น เพราะปกติก็ไม่ได้รับประทานผลไม้ชนิดนี้สักเท่าไหร่ คนพึงพอใจในคำตอบมองกระดาษใบเล็กที่เขียนตัวอักษร ‘O’ ไว้อย่างชัดเจนด้วยรอยยิ้มที่ระคนไปด้วยความตื่นเต้น
ก่อนม้วนมันกลับเข้าที่และหย่อนไว้ในโถขวดแก้วที่เตรียมมาแบบเชื่องช้า... ด้วยแววตาสุขสม
แล้วพอถึงหน้าบริษัท ก็มีกล่องส้มพันธุ์สายน้ำผึ้ง 10 กล่อง กล่องละ 10 กิโลวางเรียงรออยู่
“โห หมดนี่เลยเหรอครับคุณซุง?”
“ใช่ อนุญาตให้เอารถฉันขนกลับไปไว้บ้านได้ วันนี้มีประชุมถึงเที่ยง ค่อยมารับ” ว่าอย่างเหมือนไม่ค่อยใส่ใจ ก่อนเดินเข้าไปในบริษัทด้วยทีท่าสง่า
ไร้คราบของหนุ่มมาดกวน โรคจิตเมื่อครู่ไปอย่างสิ้นเชิง
สงครามก็อย่างนี้ เขารักษาภาพลักษณ์ได้ดี แต่ไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อย เพราะตราบใดที่เขาคิดว่ามันคือเกมส์เกมส์หนึ่ง เขาก็พร้อมที่จะลงเล่นแบบไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย แม้จะไม่อินกับมันเลยก็เถอะ