บทที่ 1
สามเดือนต่อมา
แม้จะถูกตัดขาดการติดต่อทุกช่องทาง แต่เรื่องราวระหว่างอดีตเจ้านายหนุ่มกับอดีตคนรักที่เพิ่งจะกลับมาสานต่อกันอีกครั้งนั้น มันก็เป็นสิ่งที่พินทุอรไม่อาจหลีกพ้นได้อยู่ดี
มันเป็นช่วงเวลาถึงสามเดือนเต็มๆ แล้วที่เธอถูกส่งตัวมาทำงานกับพี่ชายของคนใจร้ายคนนั้น ซึ่งเป็นสามเดือนที่เธอต้องทนอยู่กับความทรมาน จนน้ำหนักลดลงไปเกือบห้าโล
“ไอ้ผิงโว้ย! ใจลอยไปถึงไหนแล้ว!” เสียงเรียกของกันต์ธีทำให้หญิงสาวได้สติ ก่อนจะจ้องมองคนตรงหน้าอย่างเอือมๆ
“คะ เมื่อกี้พี่กันต์ว่าอะไรนะคะ” กันต์ธีไม่ได้ตอบ แต่เลือกที่จะจ้องมองสายรหัสของตัวเองด้วยความเป็นห่วงจับใจ
“แกไหวไหมเนี่ย ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวฉันเข้าประชุมคนเดียวก็ได้” เพราะรู้ว่าการประชุมประจำปีในวันนี้จะเป็นวันที่ทำให้เธอต้องโคจรไปพบใครชายหนุ่มถึงได้เอ่ยถามออกมาตามตรง
ความจริงแล้วเขาเองก็ใช่ว่าจะชอบใจกับสิ่งที่ไอ้น้องเวรทำกับรุ่นน้องที่น่าสงสารของตัวเองเสียทีเดียว ที่ผ่านมาก็มีแต่เขานี่แหละที่เตือนมันอยู่ตลอดว่าให้ตัดใจ เพราะคนอย่างไอ้ชลมันคงไม่คิดรักใครคนไหนอีกแล้ว นอกจากผู้หญิงบ้านั่น!
คนที่ทิ้งน้องชายของเขาไป ทำให้มันเป็นบ้าอยู่นับเดือน
คนที่บทจะทิ้งก็ทิ้งไปดื้อๆ ครั้นอยากจะกลับมาก็กลับมาอย่างหน้าด้านๆ ไม่สนเลยสักนิดว่าการกลับมาของตัวเองนั้น มันจะทำให้ใครต่อใครต้องแตกสลายกันสักแค่ไหน!
“ผิงไหวค่ะ” ต่อให้วันนี้หลบพ้น วันข้างหน้าก็ต้องได้เจอกันอยู่ดี เพราะอย่างนั้นเธอจึงตัดสินใจแล้วว่าจะไม่หนีอีกแล้ว
เธอไม่ได้ทำอะไรผิดต่อใครเลยสักนิด คนที่สมควรต้องอยู่กับความอับอายมันควรจะเป็นพวกเขามากกว่า ไม่ใช่เธอ!
“แกแน่ใจนะ”
หากไม่ไหวก็ขอแค่บอกมาคำเดียวเลย เขาเองก็พร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธออย่างเต็มที่ ในทุกๆ ทางที่ทำได้
“ค่ะ นี่ใคร! ผิงๆ เชียวนะคะ แค่ถูกน้องชายพี่ทิ้งผิงไม่ตายหรอก!” เชื่อได้สักแค่ไหนกันเชียว เขายังจำได้ไม่ลืมถึงสภาพของมันตอนที่บุกเข้าไปหาที่ห้องเพราะติดต่อไม่ได้ กลัวว่าจะเสียใจจนคิดสั้น ซึ่งก็ต้องบอกตามตรงว่านั่นเป็นเพียงครั้งเดียวจริงๆ ที่เขาได้เห็นน้ำตาของน้องรหัส ซึ่งในวันนั้นเองที่มันทำให้เขาโกรธน้องชายจนไม่เผาผีกับสิ่งที่มันทำกับเธอ
“เออ เห็นแกยิ้มได้ฉันก็เบาใจ อย่าทำฉันขายหน้าเด็ดขาด! ถ้าทำดีคืนนี้จะพาไปเลี้ยงเหล้าที่ร้านไอ้ยศ สนไหม”
คนได้ยินยิ้มตาหยีก่อนจะตอบกลับไปอย่างร่าเริงสดใส
“ของฟรีน้องไม่พลาดอยู่แล้ว ดิลค่ะ!” แม้ภายนอกจะสดใส แต่ใครเลยจะรู้ว่าข้างในใจเธอนั้นมันเต็มไปด้วยบาดแผลซึ่งเรื่องนี้เธอไม่โทษใครเลยนอกจากตัวของเธอเอง
เป็นตัวของเธอเองที่ตัดสินใจพาตัวเองมาอยู่ในจุดนี้ เพราะแบบนั้นแล้วที่ผ่านมาเธอจึงไม่นึกโกรธ หรือโทษใครคนไหนทั้งนั้น ที่ท้ายที่สุดแล้วเธอจะต้องตกอยู่ในสภาพย่ำแย่
ทั้งๆ ที่ก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเจ็บ แต่ก็ยังพาตัวเองเข้าไปเสี่ยงด้วยความหวังโง่ๆ ว่าเขาจะรัก จะมองเห็นความภักดีที่มีให้ แต่สุดท้ายเป็นไง ก็กลายเป็นเธอเสียเองที่ถูกทิ้งราวกับเศษฝุ่นที่ไร้ค่า ยามเมื่อคนที่เขารักตัวจริงหวนคืนกลับมาขอโอกาส
คนคั่นเวลาอย่างเธอก็ต้องไสหัวออกไปจากชีวิตเขา!
เรื่องมันก็มีเท่านี้เอง!
กันต์ธีเกือบๆ เป็นคนสุดท้ายที่เดินเข้ามาในห้องประชุมใหญ่ และนั่นมันทำให้เขานึกชื่นชมรุ่นน้องของตัวเองที่เก็บความรู้สึกได้ดีเยี่ยม ต่างจากไอ้น้องเวร ที่แค่จะเก็บสายตาตัวเองไม่ให้เผลอหันไปแอบมองเลขาของเขา ยังทำไม่ได้เลย!
“ไอ้หนุ่มบัญชีนั่นมันแอบมองแกอีกแล้ววะไอ้ผิง ตานี่เป็นประกายเชียว หน่วยก้านไม่เลวทีเดียว สนไหม” คำพูดของรุ่นพี่ที่พวงด้วยตำแหน่งเจ้านายขาทำให้พินทุอรนึกอยากจะลุกขึ้นทุบเขาแรงๆ จะได้เลิกหาผัวใหม่ให้เธอสักที!
“ไม่เอาค่ะ ผิงถือคติว่าผัวใหม่ต้องดีกว่าผัวเก่า ถ้าหาได้ดีกว่าไม่ได้ ผิงขอเป็นโสดให้ผู้ชายเสียดายเล่นดีกว่า” จ๊ะ แม่คนสวยเลือกได้ ในเมื่อหาผัวดีๆ ให้ไม่ชอบ เขาก็ไม่ยุ่งด้วยแล้ว
