ตอนที่ 5 ไม่ควรเกิดขึ้น
“.......ฉันเมารู้ใช่ไหมว่ามันจะรุนแรง” นัยน์ตาคมผละมองดวงหน้าสวยด้วยความหลงใหล
“ค่ะ” เธอตอบรับสั้น ๆ สายตายังคงหม่นเศร้า อคิระเริ่มมีความลังเลในแววตา
“ครางดัง ๆ ถ้าไม่ดังฉันจะทำแรงขึ้นเข้าใจนะ”
“เข้าใจค่ะ” พราวฟ้าก้มหน้าลงทำใจเป็นที่รองรับอารมณ์หากเขาดื่มแอลกอฮอล์จะเสพสุขกับเธอหนักและแรงทุกครั้ง หน้าหล่อโน้มลงจะจูบปากเธอนัยน์ตาคมยังมองหน้าสวยที่เศร้าหมองเลยชะงักผละออกอย่างหงุดหงิด
“ทำหน้าแบบนี้ใครจะไปมีอารมณ์”
“ขอโทษค่ะ” คิ้วเรียวขมวดขอบตาร้อนผ่าวจะร้องไห้
“จะไปไหนก็ไป!” น้ำเสียงเข้มตวาดดัง ร่างบางสะดุ้งน้ำตาหยดรีบหยิบเสื้อยืดตัวใหญ่มาสวมใส่ก้าวเท้าลงพื้นพรมของห้องนอน อยู่ ๆ ท้องฟ้าก็สว่างวาบผ่านหน้าต่างกระจกที่ยังไม่ได้ปิดผ้าม่านเป็นเส้นสายฟ้าแลบบนท้องฟ้ามืดครึ้มคล้ายว่าฝนกำลังจะตกหนัก
“หึ้ย!” พราวฟ้ารีบงอตัวกดคอตามสัญชาตญาณตกใจหน้าซีดขาสั่น อคิระหันไปมองสายฟ้าที่สว่างวาบหน้ากระจกบานใหญ่แล้วเสียงฟ้าผ่าเสียงดัง “เปรี้ยง!”
“กรี๊ด!” เธอกรีดร้องเสียงหลงย่อตัวนั่งยอง ๆ สองมือแนบปิดหูทั้งสองข้างสีหน้าหวาดกลัวตัวสั่นเป็นลูกนก อคิระเขยิบตัวลงจากเตียงมาจับตัวเธอด้วยอาการมึนเมา
“รีบกลับไปห้อง!”
“...ก้าว.......ขา........ไม่..........ออก....” เสียงหวานสั่นเทาหัวใจเต้นแรงมือเย็นเฉียบแขนขาเปลี้ยไร้แรงลุกยืน
“เปรี้ยง!”
“กรี๊ด กรี๊ด!” เธอหมอบลงหวาดกลัวสุดขีด อคิระเห็นท่าไม่ดีช้อนแขนแกร่งโอบตัวและขาเรียวอุ้มเธอมาไว้ในอ้อมรีบออกจากห้องนอนของเขาแล้วลงบันไดกึ่งเดินกึ่งวิ่งก่อนที่จะมีเสียงฟ้าร้องอีกครั้งเขาพาเธอมาส่งที่ห้องเก็บของที่เป็นห้องทึบล้อมด้วยปูนทั้งหมดเก็บเสียงได้ดีและไม่เห็นแสงสายฟ้าแลบบนท้องฟ้า พราวฟ้าน้ำตาไหลซุกหน้าเกี่ยวแขนโอบลำคอแกร่งแน่นเนื้อตัวสั่นเทา
เมื่อเข้ามาในห้องเก็บของ อคิระย่อตัววางเธอลงบนที่นอนลูกฟูกแต่เธอกลับคล้องกอดเขาไว้แน่นไม่ยอมลง อคิระที่ยังอาการเมาค้างตั้งตัวไม่ค่อยได้เลยล้มตัวทับเธอที่อยู่ในอ้อมกอดแล้วพยายามลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล
“ถ้าไม่ปล่อยจะโมโหแล้วนะ!” หน้าหล่อบูดบึ้งไม่สบอารมณ์ที่เธอรั้งจนเขาเสียหลัก
“ขอกอดอีกนิดได้ไหมพราวกลัว” เสียงหวานออดอ้อนซุกหน้ากระชับแขนรวบลำคอหนาแน่น
“มันไม่ถนัด ร้อนก็ร้อนจะไปเปิดแอร์”
“อย่าพึ่งไปพราวกลัว”
“โธ่เว้ย! ร้อน! รำคาญ!” เขาตวาดใส่ทั้งร้อนทั้งหงุดหงิดจนหัวเสีย
“ฮึก ๆ ........” พราวฟ้ายอมคลายแขนออกหน้าเศร้าอคิระออกห่างลุกขึ้นฉุนเฉียวไปเปิดแอร์แล้วจะเดินออกไปจากห้องแคบแต่ไม่วายหันมองร่างบางที่ซุกอยู่ใต้ผ้าห่มตัวสั่น เขากลอกตาอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะเดินกลับมานั่งข้าง ๆ แล้วนอนตะแคงบนฟูกยกแขนโอบกอดหญิงสาวใต้ผ้าห่มร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน
“ไม่ต้องกลัวฉันอยู่นี่ ถ้าฉันยังอยู่ไม่มีอะไรทำร้ายได้......” เสียงเข้มอบอุ่นพร้อมจะปกป้องทั้งที่ไม่มีอะไรคุ้มค่า ตัวเขาเองต้องเสี่ยงมีปัญหาหลายด้านหากช่วยเหลือเธอ ทว่าเขาก็ยังเลือกที่จะช่วยแม้ตัวเองต้องเดือดร้อนวุ่นวายมากแค่ไหนก็ตาม เสียงสะอื้นไห้ค่อย ๆ เบาลงไปเรื่อย ๆ
กายหนาเขยิบเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอและหูฟังแบบครอบหูมาเปิดเพลงแล้วค่อย ๆ เปิดผ้าห่มออกสวมหูฟังให้เธอที่น้ำตานองหน้าขอบตาและแก้มแดงช้ำ เธอมองสบตาเขาด้วยความซาบซึ้งมีเพียงเขาคนเดียวที่อยู่กับเธอในยามว่างเปล่าไร้ที่พึ่ง สิ่งที่เขาต้องการคือเรือนร่างของเธอซึ่งน้อยนิดมากสำหรับการช่วยชีวิตทั้งที่เขาไม่จำเป็นต้องช่วยตนเหลือแต่ตัวและยังมีปัญหาติดหลัง น้ำใส ๆ ไหลเอ่อล้นไม่ใช่เพราะกลัวเสียงฟ้าร้องแต่ตื้นตันในความโอบอ้อมของชายตรงหน้าที่เหมือนจะดุดันแต่ความจริงนั้นไม่ใช่เลย
“ขอบคุณนะคะ......” เสียงหวานปนสะอื้นมองสบตาผสานกันหวานซึ้งหน้าสวยยื่นเข้าใกล้ประกบริมฝีปากบวมเจ่อแตะสัมผัสริมฝีปากอุ่นแผ่วเบาแล้วเหลือบมองสบตานัยน์ตาคมมีเสน่ห์คู่นั้นด้วยหัวใจที่สั่นไหว
อคิระกระตุกยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะกอดจูบประกบริมฝีปากแน่นราวกับกลัวจะหายไป ลิ้นหนาสอดแทรกเข้ากวาดเลียความหวานล้ำในโพรงปากนุ่มกอดรัดเบียดเสียดซึมซับความปรารถนาของกันและกัน เพียงไม่นานอุณหภูมิภายในห้องร้อนฉ่าไปด้วยไฟราคะอันรุ่มร้อนเผลอใจหลงใหลซึ่งกันอย่างไม่ควรเกิดขึ้นมันควรเป็นแค่ความใคร่เท่านั้นแต่ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะถลำลึกในความรู้สึกที่มากกว่าข้อแลกเปลี่ยนตามที่ตกลงกันไว้ในคราแรก...............
เช้าวันรุ่งขึ้น
ฟ้าตื่นมาเตรียมอาหารเช้าไข่ดาว ไส้กรอก กาแฟอย่างเช่นทุกวัน หน้าสวยสดใสขึ้นหลังจากเมื่อคืนมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกว่าครั้งไหน แม้ว่าเขาจะรุนแรงก็สัมผัสได้ว่ามีบางอย่างที่มากกว่าเซ็กซ์
อคิระสวมเชิ้ตสีดำผูกเนกไทเดินลงจากบันไดตรงมายังโต๊ะอาหารด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นทุกวัน พราวฟ้ารีบยกจานอาหารเช้าและกาแฟไปวางเสิร์ฟให้อย่างอารมณ์ดี
“ทำหน้าแบบนี้แสดงว่ามั่นใจว่าทำดี” เขามองเธอเพียงหางตาแล้วหยิบส้อมเขี่ยไส้กรอกกับไข่ดาวเช็กดูว่าไม่มีรอยไหม้
“ค่ะ พราวมีความสุขตั้งใจทำสุดฝีมือ”
“อยู่ ๆ ก็มีความสุขเมื่อคืนยังร้องไห้กลัวฟ้าร้องอยู่เลย”
“ก็....คุณทำให้มีความสุข” ริมฝีปากบางแย้มยิ้มเขินอาย
“มันก็แค่เซ็กซ์ ........หรือว่าเดี๋ยวนี้ติดเซ็กซ์?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นเหลือบมองเธอเล็กน้อยก่อนจะหยิบมีดมาเตรียมตัดไส้กรอก
“ไม่แน่ใจว่าติดเซ็กซ์หรือติดคุณ” สายตาหวานมองเขาอย่างประหม่าก่อนจะรีบหลบตาลงเมื่อเห็นสีหน้าเขาคล้ายไม่พอใจ
“อย่าฝากชีวิตไว้กับใคร หัดมีความสุขด้วยตัวเองให้เป็น เธอรู้ดีว่าไม่มีใครอยู่ด้วยไปจนตาย”
