บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 หญิงเสียสติ (2/2)

ผู้ใด!? ปล่อยข้า ปล่อยข้า ข้าจะไปหาท่านแม่และท่านพี่ ปล่อยข้า!

ชายผู้นั้นรัดเอวคอดเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ผู้คนล้วนแตกฮือด้วยความงุนงง

นางเป็นใครงั้นหรือ ไยมาเอะอะอยู่ตรงนี้

คงมิใช่ญาติตระกูลจ้าวกระมัง หากนางเข้าไปมีหวังคอขาดอีกคนแน่

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังอึงอลไปหมด บุรุษซึ่งยืนอยู่หน้าประตูผินหน้ากลับเชื่องช้า จ้าวหลิงหลิงสบดวงตาของเขาผ่านช่องว่างระหว่างผ้าแพรครู่หนึ่ง นางลดสายตามองของบางอย่างที่อยู่ในมืออีกฝ่าย พลางแดดิ้นดุจปลาขาดน้ำ ร่างระหงพยายามดิ้นรนทว่าไม่เป็นผล

ของสิ่งนั้น ของนั่น! คือของแม่ข้า ของพี่สาวข้า พี่ใหญ่ ๆ ท่านอยู่ที่ใด ฮื่อ สวรรค์ได้โปรดอย่าล้อเล่นกับข้า!...

จ้าวหลิงหลิงทำได้เพียงตะโกนร่ำร้องภายในใจ เพราะริมฝีปากของนางถูกปิดเอาไว้ อยู่ ๆ ท้ายทอยของนางก็เกิดอาการเจ็บแปลบดั่งถูกตีกระหน่ำ

ฮึก!...ทะ...ท่านแม่ ท่านพี่ นี่มันเกิดเรื่องอะไรกัน

ภาพที่นางเห็นคือแววตาเย็นชาของบุรุษผู้นั้น เขาสวมกวานทองคำลายมังกรไว้บนศีรษะ ใบหน้าเกลี้ยงเกลาทว่าแววตาช่างเศร้าหมอง จ้าวหลิงหลิงกลับไม่คิดเช่นนั้น ประกายตาของเขาช่างเย็นชายิ่ง! นางจดจำใบหน้าหล่อเหลานี้ไว้ในก้นบึ้งของจิตใจ จู่ ๆ สติสัมปชัญญะจ้าวหลิงหลิงพลันดับวูบลงในที่สุด

"จิ้งเหยา เกิดอันใดงั้นหรือ" เสียงทุ้มเอ่ยถามพลางเขม้นมองความโกลาหลซึ่งอยู่ห่างจากเขาไม่มากนัก

"องค์ชายรอง ชาวบ้านต่างบอกว่านางเป็นคนเสียสติ คงเกิดอาการคลุ้มคลั่งชั่วขณะ ยามนี้ญาติของนางกำลังช่วยกันนำตัวกลับพ่ะย่ะค่ะ"

เวินเยี่ยนเฉินพยักหน้า เขาลดสายตามองสาสน์ที่อยู่ในมือสลับกับเครื่องประดับสตรีในมือซ้าย จากนั้นผินหน้าไปยังร่างของสตรีทั้งสอง รวมถึงลานแสดงที่เคยไว้จัดงานรื่นเริงของสกุลจ้าวที่ยามนี้ล้วนเจิ่งนองไปด้วยโลหิตสีชาด

ข้าผิดเอง เป็นข้าที่ผิด ข้าขอโทษ...

.

.

"คะ...คุณชายซาง ท่านมาได้อย่างไรเจ้าคะ" เริ่นเหมยเบิกตากว้าง

"แม่นม ไว้ข้าจะเล่าให้ท่านฟัง ยามนี้ออกไปจากที่นี่ก่อน หากทางการจับได้ว่ายังหลงเหลือคนอยู่ แม้มีเก้าชีวิตก็มิอาจหลีกพ้นโทษทัณฑ์"

ซางจี้หยวนคือสหายรักของจ้าวเฉินหลิน และมักมาเที่ยวเล่นกับสามพี่น้องสกุลจ้าวเสมอ เขาเห็นทุกอย่างด้วยตาตนเองว่ายามนี้เกิดสิ่งใดขึ้นกับตระกูลจ้าว น้ำตาลูกผู้ชายหลั่งรินแทบเป็นสายเลือด เขาอยากเข้าไปอุ้มกายสตรีสองนางออกมาเดี๋ยวนั้น แต่เขามิอาจทำอันใดได้ เขาเฝ้าร่ำไห้โทษตัวเองมิขาดปาก กระทั่งสายตาเหลือบเห็นสตรีร่างระหงสวมหมวกสานบดบังใบหน้ายืนไหล่ไหวสะท้าน อาละวาดเจียนบ้าท่ามกลางสายฝน แม้ใบหน้าของนางถูกปกปิดด้วยผ้าแพรผืนบาง กระนั้นเขายังจดจำนางได้เป็นอย่างดี

ซางจี้หยวนอุ้มจ้าวหลิงหลิงไว้บนอ้อมแขน ทั้งสามคนขึ้นมายังรถม้าแล้ว ชายผู้บังคับบังเหียนล้วนแตกตื่นไม่ต่างกัน รถม้าเคลื่อนออกไปท่ามกลางความงุนงงของบรรดาคนนับสิบ

นะ...นั่นมิใช่รถม้าตระกูลจ้าวหรือ

คงไม่ใช่กระมัง เจ้าตาฝาดแล้ว กลับเถอะฝนตกเพียงนี้ ก่อนเข้าบ้านต้องล้างเนื้อล้างตัวเสียหน่อย มายืนมองความไม่เป็นมงคลนานเพียงนี้เกรงจะซวยไปทั้งชาติ คนขายบ้านเมืองกินก็สมควรได้รับผลกรรมอย่างสาสมมิใช่หรือ ไป! กลับ

ผู้เป็นสามีเกาศีรษะมองตามรถม้าที่แล่นฉิวออกไป เขาละความสนใจแล้ว จากนั้นถอนหายใจแผ่ว ส่วนภรรยาจูงมือของผู้เป็นสามีออกจากบริเวณนั้นด้วยความรวดเร็วดั่งเกรงว่าจะถูกสาปส่งร่วมด้วย

ล้อไม้เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างทุลักทุเล เริ่นเหมยร่ำไห้ปิ่มขาดใจ มือของนางเฝ้าปัดป่ายเส้นผมที่ปรกระใบหน้าเกลี้ยงเกลาและซีดขาวออกด้วยใจรวดร้าว จ้าวหลิงหลิงยังคงนอนไม่ได้สติ

"ฮื่อ...โถ คุณหนู ท่านช่างน่าเวทนายิ่งนัก"

ซางจี้หยวนมองภาพความเศร้าโศกสองนายบ่าวด้วยความเวทนา ความผิดหวังและเสียใจเกาะกินพลังชีวิตของเขา จิตใจของซางจี้หยวนเหี่ยวแห้งไม่ต่างจากพวกนางเลย มือหยาบระคายกำหมัดแน่นด้วยความเคียดแค้น เหตุใดเขาจึงมิอาจช่วยเหลือสหายรักของตนและจ้าวหลิงหวินรวมถึงฮูหยินจ้าวได้

บัดซบ! ข้ามันไม่เอาไหนจริง ๆ หลิงหลิง เจ้าจะต้องเข้มแข็งเข้าไว้ อย่าเป็นอะไรไปอีกคนเล่า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel