บทที่ 1.5 ฉลองเรียนจบ
ณ แคว้นเบอร์กันดี ดินแดนแห่งไวน์ชั้นเลิศรสทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฝรั่งเศส
บูกัตติ เวย์รอน สีดำคันหรู รถยอดนิยมของคนมีฐานะกำลังแล่นผ่านประตูรั้วสูงด้วยความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ความเร็วนั้นเปรียบดั่งความใจร้อนของคนขับ ไม่กี่อึดใจเสียงเบรกห้ามล้อรถก็ดังสนั่นจนกลิ่นไหม้จากยางล้อคลุ้ง สาวใช้กุลีกุจอวิ่งออกมาต้อนรับเจ้านาย
ประตูรถเปิดออกอย่างแรงราวกับว่าคนที่เปิดกำลังฉุนเฉียว ร่างสูงสง่าราวหกฟุตยืนเต็มความสูง อกกว้างกำยำหนาด้วยมัดกล้าม แขนขาแข็งแรงดูน่ายำเกรง เขายักไหล่ขยับเสื้อเชิ้ตสีดำเข้ากับสีรถคู่ใจ ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปในคฤหาสน์ ชายหนุ่มตวัดสายตาคู่สีเขียวมรกตวาวโรจน์ดุจไฟที่โชนในจิตใจเขาไปทางคนสนิทที่ยืนค้อมหลังรอคำบัญชา
“งานที่สั่งให้ทำเป็นยังไงบ้าง” เสียงแข็งทรงพลังถามบอดี้การ์ดประจำตัว
“ผมส่งจดหมายไปทาบทามให้เธอมาทำงานกับเราตามที่บอสสั่งเรียบร้อยแล้วครับ”
“ดี อีกสองวันเธอคงได้รับจดหมายนั่น...แต่ทำไมไม่ส่งอีเมล มันรวดเร็วทันใจกว่านะ”
“บอสต้องการให้ดูเป็นทางการที่สุดไม่ใช่เหรอครับ”
เดนนิชเลิกคิ้วสูงมองหน้าชายที่กำลังตอบคำถาม “นี่แกยียวนฉันรึเปล่าอิวาน”
อิวานแอบยิ้มเมื่อเห็นเจ้านายเริ่มหงุดหงิด ก็เขาใจร้อนเกินไป แบบนี้แผนที่เขาเตรียมเอาไว้จะสำเร็จได้อย่างไร
“อย่าคิดมากสิครับ เอาเป็นว่าผมทำตามหน้าที่...อ้อ บอสจะไปที่ไหนต่อไหมครับ”
“ไปสนามบินดิชง ฉันจะไปประเทศไทย อดใจรอฟังข่าวดีแทบไม่ไหว ฮาๆ” เดนนิชหัวเราะอย่างสะใจ เขากำลังวางแผนให้ใครบางคนมาตกหลุมพรางของเขา ชายหนุ่มมั่นใจว่าแผนนี้แยบยลเกินกว่าที่ใครจะจับผิดเขาได้
เดนนิช เจฟ บรูนี หนุ่มลูกครึ่งอังกฤษ-ฝรั่งเศส วัยสามสิบสามปี หนุ่มโสดหน้าตาดี นักธุรกิจเจ้าของกิจการโรงบ่มไวน์ชั้นดีหลายแห่งในแถบยุโรป รวมทั้งไร่องุ่นและบริษัทส่งออกผลิตภัณฑ์แปรรูปในประเทศไทย เบอร์กันดีถิ่นฐานบ้านเกิดที่ปลูกฝังให้เขาเป็นคนเชี่ยวชาญเรื่องการบ่มไวน์องุ่น
ชายหนุ่มสุขุม เจ้าระเบียบ ออกจะเจ้าอารมณ์เมื่อเขาไม่ได้ดั่งใจ แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น หน้าตาคมคาย คิ้วดกหนา จมูกโด่งเป็นสัน ปากรูปกระจับแดงระเรื่อไม่ต่างกับสตรี ร่างกายที่สูงโปร่ง กำยำหนาไปด้วยมัดกล้ามแข็งของคนชอบออกกำลังกาย ทำให้สาวๆ ต่างหมายปองและแวะเวียนเข้ามาให้ท่าเขาเป็นประจำ ทว่าเดนนิชก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหน อย่างมากผู้หญิงเหล่านั้นก็เป็นได้เพียงเครื่องระบายความเหงาและเครื่องออกกำลังกายชั้นดี
เขากระหยิ่มอย่างพึงพอใจเมื่อรับรู้ความคืบหน้าจากงานที่สั่งให้ลูกน้องไปทำ การเดินทางไปประเทศไทยในครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นบทร้ายของพยัคฆ์ร้ายแห่งเบอร์กันดี เดนนิชต้องการสั่งสอนผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยทำให้ครอบครัวของเขาต้องร้าวฉาน
เธอสร้างความเจ็บปวดรวดร้าวและขมขื่นให้จอร์แดน พ่อของเขาเป็นอย่างมาก จนพ่อทนรับความสูญเสียไม่ได้ต้องตรอมใจตายในที่สุด ค่ำคืนที่พ่อเสียชีวิต เด็กหนุ่มในวันนั้นคุกเข่าต่อหน้าศพและบอกกับร่างอันไร้วิญญาณว่าเขาจะไม่ยอมให้พ่อจากไปอย่างสูญเปล่าเป็นอันขาด
หลังจากนั้นความสุขของเดนนิชก็หายไป เขามีแต่ความทุกข์ในใจ ความเงียบเหงาและโกรธแค้นถาโถมเข้ามาในความรู้สึกไม่หยุดหย่อน เดนนิชจำฝังใจและปฏิญาณเอาไว้ว่าเขาจะทำให้ นุชนารถ พิทักษ์ระพี ได้รับความเจ็บปวดเหมือนอย่างที่เขาเคยได้รับ
