บทที่ 1.2 ฉลองเรียนจบ
ร่างระหงสาวเท้าที่สวมรองเท้าส้นหักเดินไปยังที่หมายอย่างรวดเร็ว เธอยิ้มกริ่มด้วยความดีใจที่จะได้พบคนรักซึ่งเป็นรุ่นพี่จากมหาวิทยาลัยเดียวกันและบอกข่าวดีกับเขา
มุมทางเลี้ยวเข้าห้องทำงานของรุจกวี หญิงสาวหยุดยืนมองถุงขนมในมือที่ตั้งใจซื้อมาฝาก ก่อนจะหยิบตลับแป้งที่ขายตามท้องตลาดขึ้นมาส่องพร้อมเสริมแต่งใบหน้าให้ดูสวยขึ้น แล้วรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อจะบอก-เรื่องสำคัญให้ชายหนุ่มรับรู้
“พี่รุจ” เธอส่งเสียงขณะเปิดประตูห้องทำงานของรุจกวี
“พริกหวาน...จะมาหาพี่ทำไมไม่โทร.มาบอกก่อนครับ” สีหน้าตกใจของชายหนุ่มทำให้หญิงสาวอดขำไม่ได้ เขาคงตื่นเต้นที่เธอมาหาโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า
“เซอร์ไพรส์ค่ะ” มนสิชาตอบระคนเขินอาย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะทำอะไรเช่นนี้
“แหม แต่ก็น่าจะบอกพี่ก่อน พี่ไม่ได้เตรียมต้อนรับพริกหวานเลย”
“ไม่เป็นไรค่ะ พริกหวานแค่มีเรื่องสำคัญมาบอกพี่รุจ” หญิงสาวกำลังจะก้าวเข้าไปหาคนรัก แต่เท้าเล็กก็ต้องชะงักเมื่อสายตาคู่งามเหลือบไปเห็นร่องรอยบางอย่างบนเสื้อผ้าของเขา รอยปื้นแดงคล้ายลิปสติก คิ้วเรียวขมวดเป็นปมพร้อมกับเม้มปากแน่น
“นั่นเสื้อพี่รุจเปื้อนอะไรคะ”
มือหนาลูบตรงรอยเปื้อน ตอบอย่างอึกอัก “มะ...ไม่มีอะไรหรอกครับ...อย่าสนใจเลย”
“รุจขา” ประตูห้องทำงานเปิดออกพร้อมเสียงหวานของหญิงสาวคนหนึ่ง “พีชลืมเอกสารไว้ในห้องคุณค่ะ” พูดจบเธอถึงหันหน้าไปมองอีกคนที่ยืนอยู่
ร่างสูงเพรียวอรชรในชุดเดรสสีดำสั้นจู๋รัดรูปอวดเรียวขาที่ขาวนวล อกอวบอิ่มโผล่ล้นออกมาเกือบครึ่งเต้าจากคอเสื้อที่ลึกพอดู แถมตรงคอเสื้อนั้นยับยู่ยี่ราวกับมีใครขยำขยี้ ใบหน้าสวยเปรี้ยวแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดี เครื่องประดับบนร่างกายประเมินราคาแล้วคงมากกว่าเงินเดือนพนักงานของที่นี่ครึ่งปี สายตาคู่คมกริบตวัดมองหญิงสาวที่ยืนเก้กังครู่หนึ่ง
“ใครกันคะรุจ” สายตาตั้งคำถามของทั้งสองสาวหันมองรุจกวี เขาอึกอักลังเลครู่หนึ่ง
“เอ่อ...นี่พริกหวาน รุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยผมเองครับ...แล้วนี่ก็คุณพีช” พิมพ์พรลูกสาวผู้บริหารอาวุโสเบ้ปากอย่างเย่อหยิ่งไปทางหญิงสาวที่ยืนตัวแข็งทื่อ
“ไม่ต้องแนะนำค่ะ พีชไม่ได้อยากรู้จักยายเฉิ่มบ้านๆ...แค่สงสัยว่ามายืนเอ๋ออยู่ทำไมในห้องทำงานของคุณ” สายตาเหยียดหยามมองดูหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
“รุ่นน้อง” เสียงแผ่วเบาทวนคำพูดของรุจกวี หญิงสาวมองดูเขากับบุคคลที่เรียกตัวเองว่าพีช ชื่อนั้นช่างคุ้นหูแต่สมองทุกส่วนของเธอกำลังชาวาบ กลีบปากที่เคยชุ่มฉ่ำแห้งผากจากรอยฟันที่เธอขบเอาไว้
“มีอะไรจะบอกพี่เหรอครับ พริกหวาน”
“เปล่าค่ะ แค่แวะเข้ามาทักทาย”
“ไม่มีอะไรก็ออกไปได้แล้ว รบกวนเวลาทำงานของรุจ” สายตาเหยียดหยามจิกมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า “ไปสิ”
“พริกหวานไปก่อนนะคะพี่รุจ” เสียงเอื่อยหวังจะให้ชายหนุ่มรั้งเธอไว้บ้าง แต่เขาก็ไม่ทำอย่างที่ใจเธอปรารถนา หญิงสาวจึงจำใจออกจากห้องทำงานของคนที่เธอเรียกว่าแฟนด้วยความเจ็บปวด
