บท
ตั้งค่า

บทที่10.จบตอน

“จริงหรือคะคุณพ่อที่คุณแม่ไม่ให้เข้าห้อง” อัจฉรียาพรเสียงสูงเมื่อโทรศัพท์มาหาคุณพ่อสุดที่รักซึ่งเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเธออยู่ไหน

“จริงสิ เพราะไอ้สิงโตตัวดีนั่นล่ะ ดูสิ ทำให้ลูกสาวพ่อเสียใจแล้วยังทำให้พ่อถูกแม่เราโกรธอีก” ทางด้านคุณอัคคีก็ฟ้องลูกสาวทันที

ด้วยความที่ไม่พอใจตั้งแต่วันที่สิงหราชบังอาจขโมยจูบลูกสาวคนสวยและนึกหมั่นไส้ชายหนุ่มที่มักล้อเลียนอัจฉรียาพรอยู่บ่อยๆ ตอนเด็กๆ แล้วภรรยาก็ดูจะชื่นชมสิงหราชมากทำให้คนขี้หวงไม่ค่อยพอใจและกลัวว่าสิงหราชจะมาแย่งความรักจากภรรยาและลูกสาวไปจนหมด เมื่ออัจฉรียาพรโทรศัพท์มาบอกเล่าเรื่องราวที่สิงหราชพาเพื่อนสาวคนสนิทกลับมาพร้อมกับลูกในท้อง คุณอัคคีจึงไม่พอใจและคิดว่าสิงหราชทำให้ลูกสาวของตนเสียใจ และพอมีโอกาสขึ้นมาก็จึงแก้เผ็ดสิงหราชเสียเลยด้วยการพาอัจฉรียาพรไปพักผ่อนในที่ที่ไม่มีใครคาดคิดและไม่มีใครรู้แน่นอนว่าอัจฉรียาพรอยู่ที่นั่น...

“แบบนี้คุณพ่อก็แย่สิคะ” ด้วยรู้ดีว่าคุณอัคคีนั้นติดมารดาของตนมากแค่ไหนเรียกได้ว่ารักมากแทบไม่ห่างจากกายเลยทีเดียว แต่คืนนี้จะต้องนอนคนเดียวในห้องเล็กคิดแล้วอัจฉรียาพรก็สงสารบิดาไม่น้อย

“ก็ช่วยไม่ได้ พ่ออยากให้นายสิงโตได้รับบทเรียนบ้าง”

“แต่คุณพ่อต้องนอนหนาวนะคะ”

“ไม่เป็นไรลูก พ่อจะอดทน..” คนบอกจะอดทนเสียงอ่อย อัจฉรียาพรถอนในเบาๆ

“อิ่มอุ่นรู้สึกผิดจังเลยค่ะ ความจริงพี่สิงโตก็ไม่ได้ทำอะไรผิด” เธอเองก็รู้ความจริงแล้วว่าสิงหราชต้องรีบไปช่วยปานชนกในคืนนั้นเพราะอะไร และพอความน้อยใจและทิฐิในใจลดลงเธอก็นึกเห็นใจสิงหราชที่ต้องเหนื่อยหลายอย่างและยังต้องมาล้มป่วยเพราะเธอด้วย ในใจของอัจฉรียาพรพรอยากจะไปหาสามีแทบขาดใจยิ่งรู้ว่าเขาไม่สบายก็ยิ่งห่วง แต่เพราะทิฐิเล็กน้อยในใจกับเรื่องปานชนกทำให้เธอยังลังเลอีกทั้งบิดาบอกให้เธอลองใจสามีดูก่อนว่าเขารักเธอมากแค่ไหนจึงทำให้อัจฉรียาพรยังไม่ติดต่อกลับไปตอนนี้

“แล้วคุณพ่อจะทำยังไงต่อไปคะ”

“ก็คงต้องไปง้อแม่เรา”

“แล้วพี่สิงโตล่ะคะ อิ่มอุ่นสงสารพี่สิงโต” หญิงสาวเสียงอ่อย

“จริงๆ แล้วพ่อก็สงสารนะ แต่พ่อเองก็อยากรู้ว่าสิงโตรักลูกสาวพ่อจริงไหม แล้วผู้หญิงคนนั้นมีความสำคัญกับเขายังไงพ่อไม่อยากให้ลูกเสียใจ ไม่อยากให้ชีวิตคู่มันเต็มไปด้วยความหวาดระแวง”

“อิ่มอุ่นเข้าใจค่ะ”

“พ่อรักหนูนะลูก อีกไม่นานทุกอย่างจะชัดเจน เอาล่ะพักผ่อนเถอะ ดูแลตัวเองและเจ้าตัวน้อยของตาดีๆ ล่ะ”

“ค่ะคุณพ่อ..รักคุณพ่อนะคะ”

“พ่อก็รักลูกจ้ะ” อัจฉรียาพรมองโทรศัพท์ในมือแล้วก็ถอนใจออกมาเบาๆ ทั้งคิดถึงทั้งห่วงคนที่กำลังป่วย

“ทำไมพี่สิงโตไม่บอกเหตุผลล่ะคะว่าพาปานชนกมาทำไม และเธอท้องกับใคร” แม้สิงหราชจะบอกทุกคนว่าเขามีความจำเป็นต้องพาปานชนกมาอยู่ด้วย แต่เขาไม่ได้บอกเหตุผลและไม่บอกว่าปานชนกท้องกับใคร ปานชนกเองก็นิ่งเงียบแล้วยังพูดให้เธอคิดอีกว่าเจ้าหล่อนอาจจะท้องกับสิงหราช ข้อนี้เองทำให้อัจฉรียาพรไม่อาจจะทำใจได้ จึงขอหลบมาพักอยู่ที่บ้านของครูฉกาจ

“ดึกแล้วทำไมไม่นอนอีกล่ะลูก”

“คุณปู่..” แม้คุณปู่ฉกาจจะอายุล่วงเลยมากว่าเจ็ดสิบปีแล้วแต่ท่านยังคงแข็งแรงเดินเหินได้คล่องแคล่ว ซึ่งตั้งแต่เธอมาที่นี่เธอก็เห็นคุณปู่คนเก่งเดินสำรวจไปทั่วทั้งคายมวยทั้งยังรดน้ำพรวนดินดูแลต้นไม้ดอกไม้ในบ้านอย่างเพลิดเพลินซึ่งทำให้เธอพลอยสนุกเพลิดเพลินไปด้วย

“ไปนอนได้แล้วเด็กดื้อ ปู่เองก็จะนอนแล้ว”

“ค่ะ เดี๋ยวอิ่มอุ่นไปส่งนะคะ” หญิงสาวเกาะแขนชายชราผู้ใจดีอย่างออดอ้อน ครูฉกาจยิ้มให้หลานสาวที่รักอย่างเอ็นดู และได้แต่หวังว่าตนจะได้อยู่ดูหน้าเหลน...

สิงหราชนอนซมอยู่สามวันเพราะร่างกายของเขาอ่อนเพลียมาก อีกทั้งความเสียใจที่ถูกเมียหนีไปทำให้ชายหนุ่มดูเศร้าหมองจนน่าสงสาร ครั้นจะออกไปตามหาลูกเมียก็ไม่มีแรง คุณอัคคีเฝ้ามองอาการของสิงหราชจนเห็นว่าอาการของชายหนุ่มดีขึ้นจึงเข้ามาเยี่ยมเยียนลูกเขยเพียงลำพังซึ่งทำให้สิงหราชค่อนข้างแปลกใจไม่น้อย เพราะปกติตนกับพ่อตานั้นไม่ค่อยลงรอยกันนักมักมีอะไรเขม่นกันอยู่เสมอ

“สวัสดีครับคุณพ่อ”

“อื้ม หวัดดี”คุณอัคคีรับไหว้ลูกเขยแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง สิงหราชถูกคำสั่งขั้นเด็ดขาดจากคุณอโนมาว่าให้นอนพักให้น้ำเกลือและพักผ่อนให้ร่างกายแข็งแรงก่อนค่อยออกจากโรงพยาบาลซึ่งสิงหราชนั้นเกรงใจแม่ยายเป็นที่สุด แต่ไม่ใช่แค่สิงหราชหรอกที่เกรงใจแม่ยาย ตัวคุณอัคคีเองทั้งเกรงทั้งกลัวภรรยาคนสวยมากกว่าใคร แม้คุณอโนมาไม่เคยบ่นไม่เคยด่าว่าใคร แต่สายตาดุๆ บวกกับการพูดคำไหนคำนั้นทำให้ทุกคนในบ้านต่างเกรงใจคุณอโนมาเป็นที่สุด เรียกได้ว่าผู้บัญชาการสูงสุดภายในบ้านก็ไม่ผิดนัก

“คุณแม่ไม่มาด้วยเหรอครับ” ชายหนุ่มถามแต่สายตาจดจ้องอยู่ที่กระปุกน้ำเกลือเหมือนเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่มันจะหมดเสียทีเขาจะได้กลับบ้านออกไปตามหาเมียต่อ...

“ก็วันนี้แม่อ้อนของเราใช้ให้ฉัน เอ่อ พ่อ มาเยี่ยมสิงโต” คุณอัคคีพูดออกมาด้วยท่าทางกระดากอาย สิงหราชหันมามองพ่อตาอย่างแปลกใจ

“มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“เอ่อ อิ่มอุ่นติดต่อมา..”

“จริงเหรอครับคุณพ่อ.. อิ่มอุ่นอยู่ไหน เป็นไงบ้าน ปลอดภัยดีรึเปล่าแล้วอิ่มอุ่นถามถึงผมไหม อิ่มอุ่นคิดถึงผมเหมือนที่ผมคิดถึงอิ่มอุ่นรึเปล่า” ยังไม่ทันที่คุณอัคคีจะพูดจบสิงหราชก็เคลื่อนกายอย่างรวดเร็วมาตรงมาพร้อมทั้งจับพ่อตาเขย่าเสียจนหัวสั่นหัวคอน

“โอ๊ยๆ เบาๆๆ หยุดก่อน โอ๊ยย บอกให้หยุด..” เมื่อถูกลูกเขยจับเขย่าเสียจนเวียนหัวคุณอัคคีก็ร้องขึ้น สิงหราชรู้ตัวว่าเขย่าพ่อตาแรงไปหยุดกึกแล้วไว้ขอโทษพร้อมทั้งยิ้มแหยๆ ให้พ่อตา

“ฉันล่ะเบื่อพวกหนุ่มเลือดร้อนจริงๆ พูดยังไม่ทันจบแทรกมาแบบนี้ไม่พูดแล้ว” คุณอัคคีทำทีงอนลูกเขย สิงหราชนั่งพับเพียบพนมมือแต้ทันที

“คุณพ่อตาที่รักครับ สิงโตขอโทษ สิงโตแค่ตื่นเต้นดีใจที่เมียติดต่อมา คุณพ่อตาอย่าโกรธสิงโตนะครับ” ชายหนุ่มพูดเสียงนุ่มทำตาปริบๆ ดูน่าสงสาร ถ้าเด็กทำก็คงน่าเอ็นดู แต่ผู้ชายวัยสามสิบตัวโตๆ ทำนี่มันน่าหมั่นไส้เสียมากกว่า คุณอัคคีปรายตามองลูกเขยแล้วเชิดหน้าขึ้นน้อยๆ ด้วยท่าทางที่เหนือกว่า แม้เมียรักจะสั่งมาว่าให้สารภาพความจริงกับลูกเขยว่าเอาลูกสาวไปซ่อนไว้ไหนเพราะคุณอโนมาจับได้ว่าตนซ่อนอัจฉรียาพรไว้เพราะต้องการแกล้งสิงหราช ซึ่งคุณอัคคีก็จำนนด้วยหลักฐานเพราะคุณอโนมาซ่อนกล้องไว้ในห้องเล็กและยังจับผิดจากการโทรศัพท์ของเขา คุณอัคคีคิดว่าตนเองจะหลอกภรรยาได้สำเร็จแต่ที่ไหนได้คุณอโนมานั้นเหนือกว่าทุกที...

เมื่อถูกจับได้คุณอโนมาก็สั่งให้เขามาสารภาพผิดและให้บอกสิงหราชว่าอัจฉรียาพรอยู่ที่ไหนเพื่อผัวเมียเขาจะได้ไปปรับความเข้าใจกัน แต่เมียไม่ได้บอกว่าห้ามแกล้งลูกเขยนี่หว่า ไม่วายอดีตเสือร้ายจะแอบยิ้มย่องในใจ...

ทุกคนต่างแปลกใจและกังวลใจไม่น้อยที่สิงหราชบอกว่าจะ วิ่งเพื่อง้อเมีย สิงหราชตั้งใจจะพิสูจน์ความรักที่เขามีต่ออัจฉรียาพร ด้วยการวิ่งจากเชียงใหม่ไปง้อเธอที่บ้านสวนของครูฉกาจซึ่งอยู่พิษณุโลก

“เอาจริงหรือนี่” พ่อเลี้ยงอินคำมองหน้าลูกชายที่กำลังออกกำลังเตรียมความพร้อมของร่างกายเพื่อภารกิจอันสำคัญ

“ครับ ผมอยากให้อิ่มอุ่นรู้ว่าผมรักเธอจริงๆ ไม่ใช่แค่รักตอนที่อิ่มอุ่นสวยแล้วแต่รักมาตั้งแต่เป็นยายอิ่มอุ่นตุ่มแตก”

“เรื่องนั้นแม่ว่าน้องเข้าใจแล้วนะลูกไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้ระยะทางไม่ใช่ใกล้ๆ” แม่เลี้ยงเกศราหน้ายุ่งเพราะระยะทางจากเชียงใหม่พิษณุโลกก็ประมาณสามร้อยกว่ากิโลเมตร แล้วยังเป็นเส้นทางขึ้นลงเขาอีก มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะวิ่งไปให้ถึง...

“นั่นสิ แม่ว่า ง้ออย่างอื่นดีไหมลูก ป่านนี้แม่ว่าอิ่มอุ่นก็คงหายงอนแล้วล่ะ เว้นเสียแต่คนบางคนสร้างเงื่อนไขนี้ขึ้นมา จริงไหมคะพี่ไฟ..” คุณอโนมาหันมามองสามีตาเขียวคุณอัคคีหลบตาภรรยาขยับตัวอย่างอึดอัด

“คุณพ่อไม่ได้บังคับหรือสร้างเงื่อนไขอะไรหรอกครับคุณแม่ ผมอยากทำเองอยากพิสูจน์ตัวเองให้อิ่มอุ่นได้เห็นความตั้งใจและความจริงใจของผม และเมื่อสำเร็จผมจะบริจาคให้ โครงการก้าวคนละก้าว ของพี่ตูนด้วยยี่สิบล้าน พี่ตูนยังวิ่งจากยะลามาเชียงรายได้ แล้วทำไมผมจะวิ่งจากเชียงใหม่ไปพิษณุโลกไม่ได้..” สิงหราชบอกทุกคนด้วยน้ำเสียงจริงจังแววตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น อีกทั้งเขายังต้องใจจะบริจาคเงินเพื่อการกุศลสมทบกับโครงการก้าวคนละก้าวที่ พี่ตูน หรือ นายอาทิวราห์ คงมาลัย นักร้องชื่อดังกำลังวิ่งเพื่อระดมทุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้โรงพยาบาลที่ขาดแคลน11 แห่งทั่วประเทศด้วยซึ่งปรากฏการณ์นี้ทำให้เกิดกระแสตอบรับที่ดีมากมาย คนไทยทั้งประเทศต่างลุกขึ้นมาออกกำลังกายออกมาวิ่งเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการและเพื่อสุขภาพของตนเองมากขึ้น มีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นในระหว่างการวิ่งทำให้ทุกคนทั่วประเทศได้เห็นความรักของคนไทยที่มีให้แก่กันว่ามากมายแค่ไหน ได้เห็นความอ่อนน้อมถ่อมตนและความใส่ใจต่อคนอื่นๆ ของพี่ตูนและเรื่องราวน่าประทับใจมากมายตลอดเส้นทางการวิ่ง และนอกจากสิงหราชจะได้ง้อเมียแล้วยังได้ทำบุญร่วมกับนักร้องหนุ่มไอดอลในดวงใจอีกด้วย

(โครงการก้าวคนละก้าว : สำหรับเงินทั้งหมดที่ได้จากการรับบริจาคในครั้งนี้จะนำไปซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้ 11 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลยะลา, โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี, โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี, โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี, โรงพยาบาลสระบุรี, โรงพยาบาลขอนแก่น, โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศ จ.ปราจีนบุรี, โรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่, โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์, โรงพยาบาลน่าน ซึ่งไม่ใช่โรงพยาบาลศูนย์ แต่อยู่ในพื้นที่พิเศษห่างไกลจากตัวเมือง และ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า)

“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจ เอาเป็นว่าเดี๋ยวพวกเราช่วยเตรียมความพร้อมและดูเส้นทางการวิ่งง้อเมียให้ก็แล้วกัน ไปอัคคี..” พ่อเลี้ยงอินคำเองก็ไม่อาจจะทัดทานความต้องการของลูกชายได้จึงไปเตรียมการอย่างอื่นแทนและติดต่อเพื่อนๆ ในหน่วยงานต่างๆ ให้มาช่วยเหลือแนะนำเส้นทางตลอดการวิ่งไปตามจุดต่างๆ

“สิงโต นกขอโทษนะที่ทำให้ทุกอย่างมันยุ่งยากไปหมด..” ปานชนกซึ่งนั่งอยู่ด้วยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้นดวงตางามมีน้ำตาคลอๆ

“โธ่ นก อย่าคิดมากสิ ผมต้องการทำแบบนี้เองไม่เกี่ยวกับนกเลย อย่าคิดมากสิ เจ้าตัวเล็กจะพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย”

“นั่นสิหนูนก ไม่เอาอย่าคิดมากลูก” ปานชนกยิ่งร้องไห้หนักขึ้นเมื่อทุกคนดีกับเธอจนรู้สึกละอายใจ

“นกไม่รู้จะตอบแทนน้ำใจของทุกคนยังไง”

“ก็อยู่ที่นี่และเป็นลูกของเราอีกคนก็ได้นี่จ๊ะ” แม่เลี้ยงเกศราบอกยิ้มๆ และหมายความตามนั้นจริงๆ เรื่องราวของปานชนกที่สิงหราชบอกเล่ามาทำให้นางเห็นใจและสงสารหญิงสาวตรงหน้าไม่น้อย นอกจากสิงหราชกับชัชและศศิแล้วก็มีเพียงนางกับคุณอโนมาเท่านั้นที่รู้เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมปานชนกจึงมาอยู่ที่นี่และทุกคนต่างก็ไม่พูดถึงเพื่อให้ปานชนกรู้สึกสบายใจและไม่อยากให้เธออับอายกับเรื่องราวที่ผ่านมา

“ขอบคุณค่ะที่เมตตานกกับลูก”

“ไม่เป็นไรจ้ะ ทำใจให้สบายนะ” หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วหันไปยิ้มให้สิงหราช

“สู้ๆ นะสิงโต”

“แน่นอนอยู่แล้ว” ชายหนุ่มยิ้มกว้างแล้ววิ่งเหยาะๆ ไปทั่วสนามหญ้าเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อม โดยที่ทุกคนต่างเอาใจช่วยชายหนุ่มให้ปฏิบัติการสำเร็จด้วยดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel