บท
ตั้งค่า

บทที่ 11. ก้าวคนละก้าว.. เพื่อเมียรัก..

ทางด้านอัจฉรียาพรที่รู้ข่าวภารกิจการวิ่งเพื่อง้อเมียของสิงหราชก็ได้แต่อ่อนอกอ่อนใจกับความคิดของสามีทั้งอยากจะยิ้มด้วยความปลาบปลื้มใจและทั้งอยากจะหาอะไรทุบหัวคนดื้อรั้นสักที

“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะ”

“แหม คุณปู่อย่าล้ออิ่มอุ่นสิคะ” หญิงสาวหน้าแดงก่ำ ตอนนี้ใครๆ ต่างก็ตื่นเต้นกับภารกิจของสิงหราชทั้งยังเป็นข่าวโด่งดังว่าอดีตคาสโนว่าตัวพ่อนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงจะวิ่งเพื่อไปง้อเมียที่พิษณุโลกแล้วยังจะสมทบทุนกับโครงการก้าวคนละก้าวอีกด้วย ทำให้มีหลายคนเฝ้ารอต้อนรับและให้กำลังใจสิงหราชเช่นกัน และตั้งแต่เขาวิ่งออกจากคุ้มอินจำปามาก็มีผู้คนมากมายมารอคอยให้กำลังใจเขาตลอดเส้นทางที่สิงหราชวิ่งผ่านและมีการรับบริจาคด้วย

แม้จะเห็นภาพข่าวว่ามีสาวๆ ต่างรอคอยรุมล้อมขอถ่ายรูปและกอดหอมสิงหราชตลอดเส้นทางการวิ่งและจุดเช็กพ้อยต์แต่อัจฉรียาพรไม่รู้สึกหึวงหวงสามีสุดหล่อของตนแต่อย่างใด กลับรู้สึกปลื้มปริ่มตื้นตันที่เห็นสามีมุ่งมั่นในสิ่งที่กำลังทำและได้เห็นว่าเขาเป็นที่รักของคนอื่นๆ มากแค่ไหน และแม้ว่าในอดีตสิงหราชกับปานชนกจะมีความสัมพันธ์กันอย่างไร หรือตอนนี้ปานชนกจะยังอยู่ที่คุ้มเธอก็ไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองในใจอีกต่อไป เมื่อความรักที่สิงหราชมีนั้นมันเป็นของเธอเพียงคนเดียว และเธอเชื่อว่าที่สิงหราชทำเช่นนั้นต้องมีเหตุผลสำคัญอย่างแน่นอน...

“ยิ้มแก้มปริเลยนะเรา..” คุณอโนมาล้อบุตรสาวที่นั่งมองจอสมาร์ตโฟนที่กำลังถ่ายทอดสดการวิ่งของสิงหราช

“คุณแม่ล้ออิ่มอุ่นอีกแล้ว” หญิงสาวหน้าแดงแต่สายตายังจดจ้องที่ภาพของสิงหราชที่กำลังวิ่งอย่างตั้งอกตั้งใจโดยมีชัชกับเพื่อนๆ นักธุรกิจอีกหลายคนร่วมวิ่งด้วยและน้องโอมน้องชายของเธอก็ร่วมวิ่งกับสิงหราชตั้งแต่จุดเริ่มต้นเลยทีเดียว บางจุดที่วิ่งผ่านก็จะมีชาวบ้านนักเรียนนักศึกษามาร่วมวิ่งด้วยในระยะทางสั้นๆ

“คราวนี้คงไม่มีใครมาว่าลูกเขยแม่อีกแล้วว่าไม่ได้รักจริง จริงไหมคะพี่ไฟ” คุณอโนมาหันมามองสามีตาขุ่นยังนึกเคืองไม่หายที่สามีตัวร้ายแกล้งลูกเขยที่รักของตน

“ครับ เชื่อแล้วครับต่อไปจะดูแลลูกเขยดีๆ นี่ก็เตรียมการรอต้อนรับอย่างดีเลยครับเมียจ๋า” คุณอัคคีรีบเข้ามากอดภรรยาอย่างเอาใจ เพราะขืนขัดใจเมียอีกคราวนี้มีหวังโดนตัดหางปล่อยวัด

“ก็ดีค่ะ ให้มันรู้เสียบ้างว่าที่บ้านใครใหญ่และไม่ควรทำให้ขัดใจ คราวนี้ถือว่าผิดครั้งแรกให้อภัย แต่ถ้ามีครั้งต่อไป หย่าอย่างเดียว”

“โธ่ อ้อนจ๋า พี่ไม่กล้าขัดใจอ้อนอีกแล้ว เชื่อพี่นะคนดี พี่แค่ห่วงลูกกลัวว่าเจ้าสิงโตจะไม่จริงใจ” คุณอัคคีเสียงอ่อยหน้าม่อยลงอย่างน่าสงสาร อัจฉรียาพรหันมามองบิดามารดาเง้างอดกันก็หัวเราะเบาๆ ตั้งแต่เล็กจนโตเธอก็ได้เห็นความรักที่ทั้งสองมีให้กัน และบิดานั้นรักและเกรงใจมารดาเป็นที่สุด

“คุณแม่ขา อย่าโกรธคุณพ่อเลยค่ะ อิ่มอุ่นเองก็ผิดที่เอาแต่ใจและไม่เชื่อใจพี่สิงโต คิดระแวงไปเอง”

“จริงๆ แล้วนกเขาก็น่าสงสารนะลูก เขาเองก็เจอเรื่องร้ายๆ และไร้ที่พึ่ง แม่เห็นด้วยที่สิงโตพานกกลับมาที่คุ้มอย่างน้อยๆ ก็มีคนดูแลทั้งแม่ทั้งลูก หากสิงโตดูดายสิ น่าคิด.. เพราะคนเป็นเพื่อนกันมาจะมาทิ้งกันตอนตกทุกข์ได้ยากก็กระไรอยู่” คุณอโนมาพูดให้ได้คิด หญิงสาวโอกอดมารดาแล้วซบหน้าลงกับอกนุ่มและอบอุ่นเสมอ

“อิ่มอุ่นขอโทษค่ะที่คิดมาก เอาแต่ใจตัวเองและทำอะไรงี่เง่าแบบนี้”

“แม่ไม่โกรธหรอกลูกและคนที่ลูกควรจะขอโทษก็คือพี่สิงโต พี่เขาทำงานหนักและเหนื่อยไหนจะปัญหาที่เข้ามารุมเร้าต่างๆ แล้วยังมาเจอเมียแสนงอนอีก หนูลองคิดดูสิว่าพี่เขาจะเหนื่อยล้าและเจ็บปวดแค่ไหน จำไว้นะลูก การจะใช้ชีวิตคู่กันให้ตลอดรอดฝั่ง ลูกควรหนักแน่นและมีเหตุผลให้มากๆ ใช้สติไตร่ตรองและพูดคุยกันด้วยเหตุผลอย่าเอาแต่คิดเองเออเอง น้อยใจไปเองเพราะผลที่ไดมันก็จะมีแต่เจ็บปวดและมีปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกไม่สิ้นสุด..” คุณอโนมาลูบเรือนผมสลวยของบุตรสาวเบาๆ ทั้งสอนสั่งด้วยความรักไม่เสื่อมคลาย ลูกอย่างไรก็คือต่อให้โตเป็นหนุ่มสาวมีครอบครัวแล้วก็ยังคงเป็นเด็กตัวน้อยเสมอในสายตาของผู้เป็นพ่อแม่

“ค่ะ ต่อไปนี้อิ่มอุ่นจะหนักแน่นและใช้เหตุผลให้มากๆ”

“ที่สำคัญ อย่าเชื่อพ่อเรามากนัก คนขี้อิจฉานี่น่าตีกว่าใคร” ไม่วายที่คุณอโนมาจะหันมาแขวะสามี

“โธ่ เมียจ๋า..”

คุณอัคคีรีบเข้ามาโอบกอดทั้งแม่ทั้งลูกไว้อย่างแสนรัก ครูฉกาจมองสามคนพ่อลูกที่โอบกอดกันแล้วก็หัวเราะเบาๆ อย่างขบขันเอ็นดูในความรักที่ลูกหลานมีให้แก่กัน...

แล้ววันที่สิงหราชเฝ้ารอก็มาถึงเมื่อเขาวิ่งมาถึงหน้าบ้านของครูฉกาจซึ่งเป็นค่ายมวยไชยา แม้ตอนนี้คุณปู่ฉกาจจะวางมือไปแล้วเพราะอายุมากขึ้นแต่ลูกหลานก็ได้สืบทอดศิลปะแขนงนี้ไว้และยังรวบรวมศิลปะป้องกันตัวแบบอื่นไว้เพื่อถ่ายทอดให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้อีกด้วย ที่นี่จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์คงวิถีการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายพอเพียงแล้วยังจำลองการแต่งตัวและบรรยากาศให้เหมือนอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 5 อีกด้วย

หน้าบ้านเรือนไทยหลังงามถูกประดับตกต่างอย่างงดงาม คนในค่ายแต่งตัวย้อนยุคนุ่งผ้าแถบห่มสไบนุ่งโจงกะเบน ทั้งยังมีการจัดการแสดงต่างๆ ไว้ต้อนรับคณะนักวิ่งอีกด้วย ผู้คนต่างก็ให้ความสนใจและร่วมกิจกรรมแต่งกายย้อนยุคด้วยและมาเฝ้ารอบริจาคกันอย่างคับคั่งเลยทีเดียว บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความสนุกสนานมีดารานักร้องมาร่วมสร้างความบันเทิงสร้างความสุขให้กับทุกๆ คนด้วย

อัจฉรียาพรในชุดไทยห่มสไบสีชมพูหวานแหว๋วงดงามมายืนรอสิงหราชอยู่หน้าบันไดเรือนไทยหลังงามด้วยความตื่นเต้นดีใจ โดยคนในครอบครัวทั้งสองตระกูลก็มายืนรอต้อนรับสิงหราชกับคณะรวมไปถึงฉัตรกับวาริสด้วย คนที่มาร่วมรอรับคณะของสิงหราชเมื่อเห็นอัจฉรียาพรมาต่างก็มายืนรอ ก็พลอยลุ้นด้วยว่าเมื่อสิงหราชมาถึงแล้วชายหนุ่มจะมีอะไรเซอร์ไพรส์ภรรยาคนสวยเจ้าของเครื่องสำอางแบรนด์ดังหรือไม่

“คุณสิงโตมาแล้วๆๆ” เสียงของใครคนหนึ่งอุทานขึ้นด้วยความตื่นเต้นแล้วเสียโห่ร้องด้วยความดีใจและเสียงปรบมือเสียงเชียร์ก็ดังกึกก้องขึ้น ทุกคนเปิดทางให้สิงหราชวิ่งเข้ามาช้าๆ ชายหนุ่มวิ่งตรงไปยังบันไดเรือนไทยที่ภรรยาคนสวยยืนรออยู่...

อัจฉรียาพรใจเต้นระทึกทั้งตื่นเต้นดีใจปลาบปลื้มอิ่มเอม หญิงสาวยิ้มกว้างดวงตางามคลอด้วยน้ำตาแห่งความตื้นตันเมื่อเห็นสิงหราชวิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วเมื่อสิงหราชวิ่งมาหยุดตรงหน้าเธอเสียงต่างๆ ก็เงียบลงโดยอัตโนมัติ หนุ่มสาวหยุดมองหน้ากันนิ่งนานโดยไม่มีใครพูดอะไรแล้วสิงหราชก็ค่อยๆ ย่อตัวลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าหญิงสาว ทุกคนต่างจดจ้องอยู่ที่หนุ่มสาวหล่อสวยเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยกอย่างลุ้นไปด้วย

“นางสาวอัจฉรียาพร เดชาวัชราครับ ผม นายสิงหราช อภิปัญญา ขอปฏิญาณตนว่าจะรักและจะเป็นสามีที่ดีต่อคุณตลอดไป ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนผมจะรักแค่คุณ จะมีแค่คุณ.. ผมจะรักและดูแลคุณกับลูกอย่างดีด้วยชีวิตและจิตวิญญาณของผม..” สิงหราชหยุดพูดชั่วขณะในขณะที่อัจฉรียาพรน้ำตานองหน้าด้วยความตื้นตัน

“อิ่มอุ่นจ๋า พี่สิงโตรักอิ่มอุ่นมาตลอด ไม่ใช่รักแค่ตอนที่ยายตุ่มแตกกลายเป็นหงส์แสนสวย แต่รักอิ่มอุ่นมาตั้งแต่เริ่มเป็นสาวอ้วนตุ้ยนุ้ยแล้ว แต่ที่คอยแกล้งเย้าแหย่เพราะพี่ไม่รู้จะหาทางพูดคุยกับอิ่มอุ่นแบบไหนจึงได้แกล้งพูดไม่ดีกับอิ่มอุ่นแบบนั้น..” ชายหนุ่มสารภาพความในใจด้วยน้ำเสียงและแววตาที่มั่นคง

“ไม่สำคัญแล้วค่ะพี่สิงโตว่าพี่จะรักอิ่มอุ่นตอนไหน แค่ตอนนี้พี่สิงโตรักอิ่มอุ่น รักลูกของเราก็พอแล้ว อิ่มอุ่นรักพี่สิงโตนะคะ และก็รักมานานแล้วเหมือนกัน..” หญิงสาวสารภาพแก้มแดงเรื่อ

“ยายเด็กแก่แดด..” สิงหราชเงยหน้ามองภรรยาอย่างแสนรัก

“ลุกขึ้นได้แล้วค่ะ อายเขา” หญิงสาวบอกสามีพลางมองรอบๆ กายด้วยความขัดเขิน

“เจ้าหญิงอิ่มอุ่นจะไม่ให้รางวัลพี่สิงโตหน่อยเหรอครับ” ชายหนุ่มได้ทีก็ออดอ้อนภรรยาอัจฉรียาพรหน้าแดงก่ำรู้ได้ทันทีว่าเขาอยากได้รางวัลแบบไหน แต่เมื่อเห็นเขาทุ่มเททำเพื่อตนมากขนาดนี้รางวัลเล็กน้อยเพียงเท่านี้เธอเต็มใจให้อยู่แล้ว หญิงสาวโน้มใบหน้าลงหอมแก้มของเขาฟอดใหญ่แล้วโอบกอดเข้าไว้อย่างแสนรัก สิงหราชลุกขึ้นอุ้มภรรยาหมุนไปรอบๆ เบาๆ เสียงปรบมือโห่ร้องด้วยความยินดีก็ดังกึกก้องไปทั้งบ้านหลังงาม บรรดาพ่อแม่ญาติมิตรต่างก็ตื้นตันกับความรักของทั้งสอง

“พี่มีของจะให้อิ่มอุ่นกับลูก” สิงหราชวางร่างระหงลงบนพื้นแล้วหยิบถุงกำมะหยี่สีแดงออกมา มือแกร่งค่อยๆ หยิบสิ่งของในถุงนั้นออกมาวางบนมือบาง...

กำไลข้อเท้าเด็กทำจากทองคำขาวฝังพลอยเม็ดเล็กน่ารักงดงาม ส่องประกายระยับจากแสงแดดอ่อนๆ ที่ทอดมากระทบ อัจฉรียาพรน้ำตาไหลพรากด้วยความตื้นตันอีกครั้งแล้วโอบกอดสามีแน่น สองสามีภรรยาโอบกอดกันอย่างแสนรักด้วยความสุขท่ามกลางความยินดีปลื้มปริ่มของทุกคน...

“หมดเรื่องหมดราวกันเสียทีนะคะพี่เกด”

“ต่อไปเราก็เตรียมตัวเลี้ยงหลาน..” ผู้เป็นแม่ทั้งสองเช็ดน้ำตาแห่งความตื้นตันแล้วยิ้มให้กันอย่างมีความสุข

“เก่งมากไอ้ลูกเขย..” คุณอัคคีเดินไปตบบ่าลูกเขยคนเก่งเบาๆ แล้วโอบกอดทั้งสองไว้ด้วยความรักโดยไม่มีอคติใดๆ ขวางกั้นอีกต่อไป

แล้วสิงหราชก็บริจาคเงินเพื่อโครงการที่เขาตั้งใจไว้ว่าจะทำตั้งแต่แรกเป็นจำนวนยี่สิบล้านอย่างที่เคยพูดไว้และรวมกับเงินที่ประชาชนบริจาคร่วมด้วยก็เป็นจำนวนกว่าสองร้อยล้านบาทเลยทีเดียว

ปานชนกลุกขึ้นเมื่อเห็นสิงหราชกับอัจฉรียาพรเดินขึ้นมาบนเรือน หญิงสาวรีบเดินมาหาทั้งสองด้วยความยินดี

“ยินดีด้วยนะสิงโต อิ่มอุ่น.. เอ่อ คือ.. ฉัน..” หญิงสาวอึกอักท่าทางกระดากกระเดื่อง

“ไม่เป็นไรค่ะ อิ่มอุ่นก็ต้องขอโทษพี่ด้วยเหมือนกันที่เคยทำไม่ดีด้วย” อัจฉรียาพรเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน

“มะ ไม่เป็นไร พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษอิ่มอุ่น..” สองสาวยิ้มให้กันด้วยความจริงใจ สิงหราชเห็นเช่นนี้แล้วก็รู้สึกดีที่ทั้งสองเข้าใจกันได้ง่าย จึงเปิดโอกาสให้ทั้งสองคุยกัน

“เดี๋ยวพี่ไปบอกแม่บัวให้ทำของโปรดให้อิ่มอุ่นดีกว่านะครับ คุยกันไปก่อนนะสาวๆ”

“เอ่อ เราไปคุยกันตรงโน้นดีกว่าค่ะ..” อัจฉรียาพรจูงมือปานชนกไปนั่งเล่นใต้ร่มไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขามาปกคลุมให้ร่มเงาที่ชานกว้างซึ่งมีม้านั่งแสนสบายให้นั่งพักผ่อน สิงหราชเยี่ยมหน้าออกมาแอบมองทั้งสองแล้วก็ถอนใจเมื่อเห็นว่าอัจฉรียาพรกับปานชนกกำลังยิ้มหัวให้กันโดยไม่มีเหตุการณ์ที่เขากังวล

“แม่บัวว่าคุณนกเองก็ได้บทเรียนหนักหนาสาหัสมา ทำให้เธอเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ส่วนคุณหนูอิ่มอุ่นก็เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเพราะโดยพื้นฐานเป็นคนจิตใจดี” แม่บัวเอ่ยขึ้นซึ่งสิงหราชก็พยักหน้าเห็นด้วย

“ผมเองก็อดห่วงนกไม่ได้นะครับ เพราะบางทีเขาก็คงมีอะไรในใจที่ไม่ยอมบอกใคร”

“ใช่ค่ะ บางวันแม่บัวเห็นเธอนั่งเหม่อแล้วก็แอบร้องไห้”

“ผมไม่อาจจะก้าวก่ายเรื่องของเธอมากไปกว่านี้ถ้านกไม่อนุญาต”

“แต่บางทีเราก็อาจจะสะกิดให้ใครบางคนรู้ตัวได้นี่คะ”

“จริงสินะ..” สิงหราชทำท่าคิดเมื่อแม่บัวพูดชี้ทาง

“ทำไมแม่บัวของสิงโตเป็นหญิงสาวที่ฉลาดปราดเปรื่องขนาดนี้นะ” ชายหนุ่มหันมากอดแม่นมของตัวเองแล้วหอมแก้มเหี่ยวย่นหนักๆ อย่างรักใคร่และอยากจะแกล้งเพราะวันนี้เขายังไม่ได้โกนหนวดทำให้ตอหนวดแข็งๆ ครูดกับแก้มขาวนวลของแม่บัวเป็นรอยแดง

“คุณหนูนี่น่าตีจริงๆ รู้ทั้งรู้ว่าแม่บัวจะแก้มแดงเพราะแพ้หนวดนี่” แม่บัวตีแขนแกร่งเบาๆ แล้วค้อนเหมือนสาวๆ สิงหราชหัวเราะชอบใจ...

สิงหราชมองภรรยาที่กำลังนั่งแปรงผมอยู่หน้ากระจกแล้วก็ได้แต่เฝ้ารอคอยเวลาที่คนสวยจะกลับมาที่เตียงแต่ผ่านไปครึ่งชั่วโมง อัจฉรียาพรก็ไม่มีทีท่าว่าจะกลับมานอนเสียที เดือดร้อนให้คนที่อยากจะเชยชิดภรรยาด้วยความเสน่หาเริ่มทนไม่ไหวจนต้องลุกไปหาคนที่เล่นตัวอยู่

“ใครนะบอกจะให้รางวัลพี่” สิงหราชทวงของรางวัลทันทีพลางคว้าแปรงผมจากมือเล็กมาแปรงผมให้สาวเจ้าเสียเอง ดวงตาคมสบกับดวงตางามวาวหวานเอียงอายในกระจก ผิวแก้มใสแดงก่ำ ยิ่งทำให้อารมณ์หนุ่มคุกรุ่นอยากจะอุ้มเมียรักไปที่เตียงเสียเดี๋ยวนี้

“ตะ แต่ อิ่มอุ่นยัง เอ่อ ยังไม่พร้อมนี่คะ รอให้อิ่มอุ่นคลอดก่อนได้ไหม” รู้ดีว่ารางวัลที่สามีพูดถึงนั้นคืออะไรหญิงสาวก็ต่อรองไปหน้าแดงไป ตอนบอกจะให้รางวัลลืมคิดไปนี่นาว่าตัวเองกำลังท้องอยู่ ภรรยาแสนซื่อคิดในใจอย่างกังวล

“แต่เรามีอะไรกันได้แม้อิ่มอุ่นจะต้องโตใกล้คลอด พี่ถามหมอปรึกษาหมอแล้วทุกกระบวนท่า” สิงหราชยิ้มแป้นดวงตาพราวระยับ อัจฉรียาพรหน้าแดงก่ำเมื่อรู้ดีว่าอย่างไรเสียคืนนี้เธอไม่พ้นมือเขาแน่ๆ แววตามุ่งมั่นเสียขนาดนั้น...

“พี่สิงโตบ้าจังไปถามหมอแบบนั้นอิ่มอุ่นก็อายหมอสิคะ” หญิงสาวหยิกสามีเบาๆ สิงหราชหัวเราะเบาๆ แล้วรวบร่างที่ยังคงบางระหงงดงามอยู่ขึ้นยืนหันมาสบตา

“อายทำไม ใครๆ เขาก็ทำกัน ผัวรักเมียมากก็แบบนี้ล่ะ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับคลอเคลียปลายจมูกกับแก้มใสเบาๆ

“บ้าจังพี่สิงโต”

“แล้วตกลงจะได้ไหมรางวัล”

“กะ ก็ได้ค่ะ.. แต่พี่สิงโตหลับตาก่อนสิคะ”

“หลับทำไมครับคนสวย”

“บอกให้หลับตาก็หลับสิคะ จะเอาไหมรางวัลน่ะ” หญิงสาวบอกสามีหน้าสวยเริ่มตึงนิดๆ

“โอเคๆ หลับตาแล้วจ้ะหลับตาแล้ว” สิงหราชละล่ำละลักบอกแล้วหลับตาลงทันทีแต่รอยยิ้มยังคงระบายอยู่เต็มดวงหน้าหล่อเหลา อัจฉรียาพรค้อนสามีหน้าแดงก่ำแล้วก็ค่อยๆ สูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อจะทำการให้รางวัลแก่เขาแม้จะผ่านบทรักเร่าร้อนด้วยกันมาแต่เธอก็ยังรู้สึกขัดเขินเสมอเมื่อจะแสดงความรักต่อเขา

อัจฉรียาพรค่อยๆ จรดริมฝีปากนุ่มกับปากหยักสวยของเขาเบาๆ แล้วขยับช้าๆ และคิดว่าจะพอเพียงเท่านั้นเพราะขัดเขิน แต่เธอไม่สามารถทำเช่นนั้นได้เมื่อมือใหญ่เลื่อนมาตรึงท้ายทอยเธอไว้แล้วบดจุมพิตเร่าร้อนเสียเอง ด้วยความอ่อนเดียงสาอัจฉรียาพรก็หลงเพริดไปกับเขาอย่างง่ายดาย แล้วความรุ่มร้อนก็แล่นพล่านไปทั้งกายสาวเมื่อมือร้อนผ่าวของเขาลูบไล้ไปทั้งกายงามทั้งยังเลื่อนไปกอบกุมก้นงามงอนเต็มตึงแล้วกระชับดึงเข้าหาตัวให้ร่างสาวแนบชิดกับกายแกร่งที่ร้อนระอุของเขา ร่างสาวระทดระทวยอิงแอบอยู่กับร่างแกร่งอย่างไร้แรงต้านทานกระแสสวาทที่เชี่ยวกรากขึ้นเรื่อยๆ ใจสาวหวามไหวสะท้านด้วยความรัญจวน เหมือนร่างล่องลอยอยู่บนยอดคลื่นทะเลที่บ้าคลั่งเพราะพายุกระหน่ำแต่กลับไม่รู้สึกเหน็บหนาวหรือเจ็บปวด แต่เธอกำลังรู้สึกวาบหวามในอกอุ่นซ่านไปทั้งกายอย่างไม่อาจจะบรรยายความรู้สึกออกได้ถูก ในตอนนี้อัจฉรียาพรรับรู้แต่เพียงว่าเธอมีความสุขที่ได้อยู่ในวงแขนแกร่งของคนที่รัก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel