บทที่ 7. ความสุขมักอยู่กับเราไม่นาน ความทุกข์ก็เช่นกัน
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วชีวิตของสิงหราชกับอัจฉรียาพรก็ดำเนินไปอย่างราบรื่นแม้จะมีเรื่องราวระหว่างพ่อตากับลูกเขยที่ยังไม่ค่อยลงรอยกันสนิทนักยังคงชิงดีชิงเด่นกันอยู่ประสาผู้ชายที่พ่ายไม่เป็น จนทั้งคุณอโนมาและอัจฉรียาพรต่างอ่อนใจกับสองหนุ่มที่เจอหน้ากันทีไรก็มักเขม่นกันทุกที
“อิ่มอุ่นจ๋า..” เสียงสามีดังมาจากห้องน้ำทำให้คนที่กำลังแต่งตัวอยู่ชะงักแล้วร้องถาม
“มีอะไรคะพี่สิงโต”
“แปรงสีฟันพี่อยู่ไหน..”
“อยู่หน้ากระจกไงคะอิ่มอุ่นเตรียมให้แล้ว” หญิงสาวบอกพลางรวบผมอย่างงดงามเตรียมจะไปหาฉัตรกับวาริสซึ่งตอนนี้ทั้งสองสามารถเปิดตัวว่าเป็นคนรักกันกับครอบครัวได้แล้วและเธอก็จะไปแสดงความยินดีกับทั้งที่เพราะวันนี้พวกเขาจัดงานแต่งงานกันที่โบสถ์ท่ามกลางครอบครับของทั้งสองฝ่าย แม้จะเป็นงานแต่งงานเล็กๆ แต่ก็อบอวลด้วยความรัก...
“ไม่เห็นมีเลย..” อัจฉรียาพรส่ายหน้าช้าๆ กับคนตัวโตที่ทำเสียงงอแงเหมือนเด็กๆ ร่างระหงในชุดเสื้อคลุมตัวใหญ่เดินเข้าไปในห้องน้ำก็พบว่าสามียืนหน้ามุ่ยอยู่หน้ากระจกร่างสูงมีเพียงผ้าขนหนูผืนใหญ่พันกายแกร่งไว้ แม้จะเคยเห็นร่างเปลือยเปล่าของสิงหราชมาหลายครั้งแต่เธอก็ยังอดขัดเขินหน้าร้อนผ่าวไม่ได้
“หาแปรงสีฟันไม่เจอเหรอคะ อ้าว.. ก็พี่สิงโคแปรงฟันแล้วนี่คะ” อัจฉรียาพรขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าแปรงที่เธอบีบยาสีฟันไว้นั้นมันถูกใช้ไปแล้ว หญิงสาวหันมามองหน้าสามีแล้วก็ต้องถอยหลังโดยอัตโนมัติแต่ช้าไปเสียแล้ว..
“อุ๊ย พี่สิงโตปล่อยนะคะ เราต้องรีบไปงานแต่งงานของฉัตรนะคะ” หญิงสาวยกมือดันอกกว้างเปล่าเปลือยของเขาไว้ใบหน้านวลแดงก่ำด้วยรู้ดีว่าสามีต้องการอะไร
“อิ่มอุ่นจ๋า..” สิงหราชเสียงพร่าโน้มใบหน้าลงมาใกล้แก้มนวล
“ไม่ต้องมาจ๋งมาจ๋า ปล่อยค่ะ อิ่มอุ่นจะแต่งตัวแล้ว” บอกเขาเสียงสั่นร่างสาวก็สั่นสะท้านหวามไหวขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามได้
“ไม่ปล่อย.. พี่อยากรักอิ่มอุ่นอีกแล้ว..”
“ไม่เอาค่ะเดี๋ยวสาย..”
“ไม่เอาไม่ได้แล้วคนสวย.. เพราะพี่ร้อนไปหมดแล้ว..” สิงหราชเสียงแหบพร่าด้วยแรงปรารถนาอันแรงกล้า มือร้ายจัดการชุดคลุมแสนแกะกะสายตาออกไปอย่างรวดเร็วแล้วแทรกกายเข้ามาระหว่างเรียวขาเสลาของคนที่ถูกเขายักขึ้นให้ไปนั่งบนเคาน์เตอร์หน้ากระจกอันแสนกว้างขวาง แล้วเชยคางมนขึ้นให้เธอรับจุมพิตเร่าร้อนจากเขาทันที
อัจฉรียาพรมึนเมาไปกับจูบรับอรุณของสามีจอมพลังหญิงสาวหอบกระเส่าเมื่อเขาละเรียวปากร้ายออกไป ใบหน้าหล่อเหลายังคงเคลียคลออยู่กับแก้มแดงก่ำของเธอปลายจมูกคมปัดเบาๆ กับปลายจมูกรั้นอย่างหยอกเย้า หญิงสาวปรือตาสบกับดวงตาคมที่พร่าพรายด้วยเพลิงเสน่หา แขนเรียวเสลาโอบรอบลำคอแกร่งไว้แล้วโน้มใบหน้าหล่อเหลาลงมาแล้วเป็นฝ่ายจูบเขาเองบ้างซึ่งสิงหราชก็จูบตอบเมียรักอย่างเร่าร้อนพอใจที่เธอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
มือเล็กๆ ลูบไล้ไปตามแผงอกแกร่งเปล่าเปลือยอย่างหลงใหลไปกับกล้ามเนื้อตึงแน่นของเขา นิ้วเล็กหยอกเย้ายอดอกแกร่งสีน้ำตาลแข็งขึงอย่างนึกสนุกจนสิงหราชครางกระเส่ารัญจวนใจ ก่อนที่มือบางจะซุกซนไปถึงหน้าท้องตึงแน่น...
“อื้ม.. จอมซน เมียใครนะร้ายกาจจริง..” สิงหราชถอนจูบอ้อยอิ่งคลอเคลียปลายจมูกกับแก้มแดงปลั่งของภรรยาอย่างหลงใหลสบตาหวานฉ่ำปรือปรอยอย่างแสนรัก... เขารักอัจฉรียาพรหมดหัวใจและพยายามบอกรักเธอด้วยการกระทำเสมอมา...
“อิ่มอุ่นจะทำโทษพี่สิงโตที่หลอกให้อิ่มอุ่นมาติดกับ” หญิงสาวบอกเสียงพร่านัยน์พราวระยับน่าหลงใหล
“ลงโทษแบบไหนหรือทูนหัว..” สิงหราชใจเต้นระส่ำรอคอยการลงโทษอันแสนหวานจากเมียรักใจจดใจจ่อเลยทีเดียว
“พี่สิงโตยืนอยู่เฉยๆ ห้ามขยับห้ามขัดขืน..” หญิงสาวทำเสียงเข้มใบงามหน้าขึงขังแต่นัยน์ตาพราวพรายซุกซน สิงหราชแทบลืมหายใจเมื่อใบหน้าสาวเคลื่อนเข้ามาใกล้อกกว้างของตนแล้วค่อยๆ ยื่นปลายลิ้นน้อยๆ มาแตะที่ยอดอกของเขา...
“โอ.. อิ่มอุ่นจ๋า เมียจ๋า..” แล้วสิงหราชก็ครางลั่นห้องน้ำเมื่อแม่เมียจอมซนที่ยังอ่อนด้อยในเกมสวาทโจมตีเขาด้วยปากและมือน้อยๆ ของเธออย่างเงอะงะแต่ก็สร้างความปั่นป่วนซ่านเสียวแก่เขาอย่างมากมาย
เหมือนว่าลาวาร้อนระอุจากปล่องภูเขาไฟพุ่งเข้าชนเขาอย่างแรงจนไฟลุกท่วมตัว สิงหราชครางอย่างพ่ายแพ้หลับตาแน่นซึมซับความหวามไหวจากเมียตัวน้อย ในขณะที่อัจฉรียาพรเห็นสามีครางกระเส่าก็ยิ่งแกล้งดูดดึงร่างแกร่งอย่างร้อนแรงทำให้เขาเสียวซ่านแทบแดดิ้นด้วยมือและปากของตน เพลิงสวาทลุกไหม้ร้อนแรงไปทั้งห้องน้ำกว้าง แต่สิงหราชกลับรู้สึกเหมือนว่าวันนี้ห้องน้ำจะคับแคบลงจนแทบไม่มีที่ว่างและไม่มีอากาศพอจะหายใจจนเขาต้องอ้าปากกว้างเพื่อหอบเอาอากาศเข้าปอดเพราะรู้สึกว่าหายใจทางจมูกเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ...
“พะ พอแล้วครับคนเก่ง โอ.. พี่สิงโตจะขาดใจตายอยู่แล้วเมียจ๋า ที่รักจ๋า พี่สิงโตรักอิ่มอุ่นเหลือเกิน....” สิงหราชจำใจดึงร่างสาวให้ลุกขึ้นแล้วจูบเรียวปากระเรื่อที่มีคราบรักของตนอยู่อย่างเร่าร้อนก่อนจะสอดประสานกายเข้าสู่ความอ่อนนุ่มแสนหวานของเมียรักด้วยความร้อนแรง สิงหราชปรนเปรอเมียรักอย่างเอาอกเอาใจและพยายามจะสร้างสายใยน้อยๆ ให้ก่อเกิดในกายสาวแสนหวาน ให้มันรู้ไปว่าขยันขนาดนี้แล้วเขาจะไม่ได้ลูกสิงโตไว้เชยชม...
และกว่าทั้งสองจะได้แต่งตัวใหม่และออกจากบ้านก็เกือบจะไม่ทันเวลาเข้าโบสถ์อัจฉรียาพรค้อนสามีจอมหื่นตาขุ่นใบหน้านวลแดงเรื่อจนคนมองแทบจะอดใจไม่ไหว
“ไม่ต้องมาทำสายตาแบบนี้กับอิ่มอุ่นนะคะคนบ้า..” ว่าพลางหยิกต้นแขนแกร่งอย่างหมั่นไส้และขัดเขินกับสายตาเปิดเผยความรู้สึกของสามี
“ก็ได้ๆ แต่คืนนี้ไม่รอดแน่..” สิงหราชหัวเราะอารมณ์ดีแล้วลงจากรถเดินอ้อมมาเปิดประตูให้ภรรยาที่รัก ก่อนจะควงแขนกันเดินเข้าไปในงานแต่งงานอันเรียบง่ายของฉัตรกับวาริส...
งานเลี้ยงภายในครอบครัวของทั้งสองฝ่ายเต็มไปด้วยความอบอุ่นทั้งฉัตรและวาริสดูจะมีความสุขมากกว่าใครๆ อัจฉรียาพรมองเพื่อนรักทั้งสองอย่างภูมิใจที่พวกเขาพากันฝ่าฟันความยากลำบากมาได้ มันไม่ใช่การลำบากกาย แต่เป็นการลำบากใจและต้องมีทัศนคติที่แข็งกล้าพอที่จะเผชิญกับการต่อต้านของครอบครัวที่มีลูกชายเพียงคนเดียว และพวกเขาต่างก็ต่อต้านความรักระหว่างชายกับชาย
ก่อนหน้านี้วาริสถูกห้ามไม่ให้คบกับฉัตรและถูกครอบครัวกักบริเวณตัดขาดทุกอย่างจากโลกภายนอกทำให้ฉัตรเป็นทุกข์ทรมานใจ แม้ว่าครอบครัวของฉัตรจะพยายามทำใจรับความเป็นจริงว่าฉัตรไม่มีใจรักชอบพอหญิงสาวแต่กระแสสังคมรอบข้างและญาติๆ บางคนต่อต้านล้อเลียนและพูดจาถากถางสร้างความเสียใจอับอายให้กับครอบครัวของฉัตร แต่ฉัตรไม่ยอมแพ้เขาพยายามสร้างรากฐานของตน สร้างรายได้และทำให้ทุกคนเห็นคุณค่าของเขาจากความสามารถ จากตัวตันที่แท้จริงไม่ใช่เห็นแค่เพศ ชายหรือหญิง
ฉัตรเดินทางไปหาวาริสและพยายามทำให้ครอบครัวของวาวิสเห็นใจและเข้าใจพวกเขา ทางด้านครอบครัวของวาริสเองก็ให้ทั้งพิสูจน์ความจริงใจต่อกัน พวกเขาตัดขาดวาริสออกจากกองมรดกและไล่วาริส ออกจากบ้านทั้งสองจึงกลับมาประเทศไทยแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน
ในระยะเวลาสามเดือนฉัตรกับวาริสซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของอัจฉรียาพรบุกเบิกตลาดสินค้ากลุ่มความงามจนประสบความสำเร็จในประเทศจีน และประเทศเพื่อนบ้านแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พวกเขาทำงานหนักชนิดที่ไม่สนใจเสียงคนรอบข้าง จนพ่อแม่ของเขาเห็นใจลูกชายของตน และค่อยๆ ยอมรับตัวตนที่แท้จริงของฉัตร พวกเขาไม่ใส่ใจเสียงนกเสียงกาที่พูดถากถางล้อเลียน แต่เดินหน้าทำงานทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุดจนตอนนี้พวกเขาแข็งแกร่งและบริษัทของพวกเธอมั่นคง จะเรียกว่าพวกเขาเป็นนักธุรกิจอายุน้อยร้อยล้านก็ไม่ผิดนักและด้วยเหตุนี้เองพวกญาติๆ ที่เคยดูถูกถากถางฉัตรก็หันมาชื่นชมและยอมรับตัวตนที่แท้จริงของฉัตร อีกทั้งฉัตรก็ไม่เคยละเลยที่จะช่วยบิดาบริหารงานส่งออกอาหารแช่แข็ง วาริสช่วยครอบครัวของฉัตรในด้านการตลาดโซนยุโรปจนประสบความสำเร็จ ตอนนี้เรียกได้ว่าฉัตรกับวาริสคือที่รักของทุกคนในครอบครัวและทั้งสองก็สามารถเอาชนะใจคนในครอบครัวให้ยอมรับได้
วาริสส่งข่าวไปให้ครอบครัวของตนได้รับรู้และเมื่อครอบครัวของเขาเห็นสิ่งที่เขากับฉัตรทำจนประสบความสำเร็จทางพ่อแม่ของวาริสก็ยอมรับว่า ความรักมันไม่จำเป็นจะต้องมีเฉพาะชายกับหญิงและเพศชายหญิงก็ไม่ใช่ข้อจำกัดในการที่จะประสบความสำเร็จ เมื่อทั้งสองรักกันพวกเขาควรจะสนับสนุนและส่งเสริมให้เป็นไปในทางที่ถูกที่ควร...
“ดีใจด้วยนะฉัตร วาริส”
“ขอบคุณอิ่มอุ่นด้วยนะที่อยู่เคียงข้างพวกเรามาเสมอ”
“แน่นอนอยู่แล้วเพราะฉัตรกับวาริสเป็นเพื่อนรักของอิ่มอุ่นนี่นา”
“ขอบคุณเพื่อนรัก..” แล้วทั้งสามก็โอบกอดกันด้วยความซาบซึ้ง
“อะ แฮ่ม..” เสียงกระแอมของสิงหราชดังขึ้นพร้อมทั้งใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึง ฉัตรกับวาริสหัวเราะเบาๆ รู้ดีว่าเหตุใดสิงหราชจึงหน้าบึ้งเหมือนกินรังแตนมาแบบนี้
“คนอะไรขี้หึงชะมัด” อัจฉรียาพรหันมาค้อนสามีที่รีบเข้ามาโอบกอดตนอย่างหวงแหน
“ก็รักเมีย”
“บ้า.. มาพูดอะไรตรงนี้” หัวใจของเธอพองโตกับคำว่ารักของเขา
“ก็คนมันรักจะอยู่ที่ไหนก็รัก..”
“แหวะ..” ทั้งฉัตรและวาริสทำเสียงล้อเลียนคนรักเมียและก็ได้สายตาดุๆ ของสามีเพื่อนรักตอบแทนมา
“นี่ถ้าไม่เห็นว่าพวกนายเป็นเพื่อนอิ่มอุ่นนะโดนเตะไปแล้ว”
“พี่สิงโต..” หญิงสาวทำเสียงดุๆ ใส่สามีที่หน้าม่อยลงทันทีเช่นกัน
“คนเกเรคืนนี้นอนนอกห้องเลย”
“ไม่เอานะ อิ่มอุ่นจะทำแบบนี้กับพี่ไม่ได้”
“ทำไมจะไม่ได้คะ ก็พี่สิงโตจะทำร้ายเพื่อนอิ่มอุ่น อิ่มอุ่นต้องลงโทษ..” หญิงสาวทำหน้าขึงขัง
“งั้นลงโทษแบบเมื่อเช้าได้รึเปล่า..” คราวนี้อัจฉรียาพรหน้าแดงรีบทุบอกกว้างของสามีอย่างขัดเขินและอายสายตาล้อเลียนของเพื่อนรักทั้งสอง
“แหมคงลงโทษกันเพลินนะ ถึงว่าเกือบมาไม่ทันงาน..”
“ฉัตรน่ะ อิ่มอุ่นโกรธแล้วนะ” ฉัตรกับวาริสหัวเราะเบาๆ แล้วเดินไปรับแขกโต๊ะอื่นๆ ปล่อยให้สามีภรรยาเง้างอดกันไป...
“น้องอิ่มอุ่นครับพี่ขอคุยกับไอ้สิงโตสักครู่นะ” ชัชซึ่งก็มาร่วมงานด้วยเดินมาหาสิงหราชด้วยท่าทาร้อนรน หญิงสาวพยักหน้าช้าๆ แล้วหันไปยิ้มให้สองสาวที่เดินตามชัชมาเงียบๆ คนหนึ่งเธอจำได้ว่าเป็นเพื่อนของปานชนกและอีกคนเธอไม่เคยเห็นหน้า
“อ้อ.. พี่ขอแนะนำนิดหนึ่งนะ นี่ศศิเพื่อนพี่เองอิ่มอุ่นคงเคยเห็นแล้ว แล้วนี่น้องรัน น้องสาวของศิ ศิ น้องรันนี่คืออิ่มอุ่นเมียของไอ้สิงโต..” ชัชเห็นแววตาของอัจฉรียาพรก็กลัวว่าจะทำให้หญิงสาวเกิดความระแวงจึงเอ่ยแนะนำ
“อ้อ ค่ะ..”
“พี่ขอตัวสักครู่นะครับ..” สิงหราชกับชัชเดินออกไปคุยกันเงียบทิ้งให้สาวๆ อยู่กันตามลำพัง
“สวัสดีค่ะพี่อิ่มอุ่น รันเป็นแฟนคลับพี่เลยนะคะ” ศรัญรัตน์เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มสดใส
“อ้อ เหรอจ๊ะ น้องรันน่าจะอายุเท่ากับกระต่าย มาทางนี้สิ พอดีน้องกระต่ายก็มาด้วยพี่จะแนะนำให้รู้จัก คุณศิมาด้วยกันสิคะ” อัจฉรียาพรยิ้มบางๆ ให้สองพี่น้องแม้จะรู้สึกแปลกๆ ที่เห็นศศิมาด้วยเพราะปกติเธอจะเห็นปานชนกกับศศิอยู่ด้วยกันเสมอ แต่วันนี้กลับไม่เห็นปานชนกและเธอไม่ได้ข่าวของปานชนกเลยนับตั้งแต่นายเกรียงไกรติดคุก...
อัจฉรียาพรพาสองพี่น้องไปคุยกับครอบครัวของสิงหราชและครอบครัวของตนที่มาร่วมงานด้วยเพราะต่างก็สนิทสนมกับฉัตรและวาริสดี สิริรดากับศรัญรัตน์คุยกันอย่างถูกคอกลายเป็นเพื่อนกันในที่สุดในขณะที่ศศิดูจะเกร็งๆ ท่าทางไม่ค่อยสบายใจ
“คุณศิมีอะไรรึเปล่าคะ เหมือนจะอึดอัด...” ออัจฉรียาพรถามขึ้นเมื่อเดินมาหยิบเครื่องดื่มด้วยกัน
“เอ่อ ศิ ทำตัวไม่ค่อยถูกเมื่อก่อนเคยทำไม่ดีกับคุณไว้เยอะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ อิ่มอุ่นไม่ถือ มันผ่านมาแล้วนี่คะ”
“ขอบคุณนะคะ หากศิไม่ขอมากไปขอแทนตัวเองว่าพี่นะคะน้องอิ่มอุ่น”
“ยินดีค่ะพี่ศิ” อัจฉรียาพรยิ้มให้ศศิอย่างจริงใจ
“ขอบคุณนะคะ” ศศิเองก็ยิ้มรับไมตรีนั้นอย่างจริงใจเช่นกัน ที่ผ่านมาเธอรู้แล้วว่าตนเองหลงไปกับเปลือกนอกของคนและตัวเองมานาน ตอนนี้เธอกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่และเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่กับ กานต์ หนุ่มข้างบ้านที่เธอเคยมองข้ามมานานและตอนนี้เธอกับกานต์ก็ได้จดทะเบียนแต่งงานกันเงียบๆ และใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่ายทว่ามีความสุข
“อิ่มอุ่นคงสงสัยใช่ไหมคะว่าทำไมยายนกไม่มาด้วย”
“ก็ ค่ะ..” อัจฉรียาพรยอมรับอย่างตรงไปตรงมา
“พี่เองก็ติดต่อนกไม่ได้มาหลายเดือนแล้วค่ะ..”
“จริงหรือคะ..” อัจฉรียาพรขมวดคิ้วรู้สึกกังวลไปด้วย
“ชัชบอกว่าครั้งสุดท้ายยายนกโทร. มาบอกว่าสบายดี แล้วก็เงียบหายไป โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง อยู่ที่ไหนกับใคร เพราะเพื่อนๆ ที่รู้จักสนิทสนมกันก็มีไม่กี่คน..”
“จะเกิดเรื่องไม่ดีมั้ยคะ”
“อันนี้พี่ไม่รู้เลยค่ะ แต่ดูท่าชัชจะได้ข่าวนกรึเปล่าเห็นท่าทางเครียดๆ มาหลายวันแล้ว” ตอนนี้ทุกคนรู้ฐานะที่แท้จริงของชัชแล้วนั่นเอง
“หวังว่าเธอคงไม่ได้รับอันตรายอะไรนะคะ” แม้จะไม่ชอบหน้าปานชนกเท่าไหร่นักแต่อัจฉรียาพรก็ไม่เคยเคืองแค้นหรืออยากจะให้ใครได้รับความเดือดร้อนหรือได้รับอันตราย
“ก็ได้แต่หวังอย่างนั้นล่ะค่ะ” สองสาวคุยกันไปเงียบๆ และอยู่ร่วมงานเลี้ยงจนถึงเวลาเลิกงานซึ่งก็เลิกไม่ดึกนัก บ่าวสาวหนุ่มหล่อต่างมาส่งเพื่อนๆ และญาติๆ กลับบ้านด้วยความสุข...
อัจฉรียาพรลอบมองเสี้ยวหน้าของสิงหราชอย่างสงสัยและกังวล ตั้งแต่คุยกับชัชท่าทางของเขาก็ดูเคร่งขรึมและเงียบจนเธออึดอัดครั้งจะถามก็ไม่รู้จะเริ่มต้นถามอย่างไรจนมาถึงบ้านต่างก็เดินเข้าบ้านด้วยกันเงียบๆ โดยไม่พูดอะไรและท่าทางเงียบขรึมของเขาทำให้เธอรู้สึกน้อยใจอย่างเสียไม่ได้...
“อิ่มอุ่นเข้าบ้านก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่ขอทำธุระแป๊บหนึ่ง”
“ค่ะ..” หญิงสาวรับคำเบาๆ แล้วเดินขึ้นห้องอย่างเลื่อนลอยในใจก็คิดไปต่างๆ นานาและอดระแวงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
สิงหราชอาจจะกำลังคิดถึงแฟนเก่าแต่เขาบอกว่าไม่เคยมีอะไรกับปานชนก แต่เขาบอกว่ารักเธอ... สิงหราชก็อาจจะแค่อยากเอาชนะ แค่พูดไปเพื่อเอาใจเธอเท่านั้น เขาไม่ได้รักเธอจริงๆ หรอก.. อัจฉรียาพรนั่งลงอย่างสับสนกับความคิดที่ตีกันวุ่นวายในหัว...
“มันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ ยายนกกระแตนั่นอาจจะกำลังมีปัญหา” อัจฉรียาพรบอกตัวเอง แล้วก็มีเสียงพูแทรกขึ้นในหัว
“หรืออาจจะกำลังวางแผนกลับมาหาพี่สิงโต.. ยายนั่นอาจจะกำลังเรียกร้องความสนใจ ทำหายตัวไปเพื่อให้พี่สิงโตเป็นห่วงให้พี่สิงโตสนใจก็ได้”
“ไม่หรอก มันอาจจะไม่มีอะไร..” หญิงสาวพยายามบอกตัวเองเช่นนั้นแต่กลับไม่มีความมั่นใจเลยสักนิดตลอดเวลา
