บท
ตั้งค่า

บทที่ 6. เข้าหอรอรัก...

แล้วในที่สุดงานแต่งงานสุดยิ่งใหญ่แห่งปีระหว่างทายาทนักธุรกิจชื่อดังทั้งสองตระกูลก็เกิดขึ้น ทุกอย่างยิ่งใหญ่งดงามสมศักดิ์ศรีของทั้งสองฝ่าย และเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็หล่อสวยเหมาะสมกันราวกิ่งทองใบหยก แขกเหรื่อมากมายต่างชื่นชมเจ้าสาวเจ้าบ่าวกันไม่ขาดปากว่าสวยหล่อเหมาะสมกัน ทั้งพ่อแม่เจ้าบ่าวเจ้าสาวก็ยังคงงามสง่าเป็นที่เคารพนับถือของทุกคนนั้นก็ยิ้มหน้าบานที่ลูกสาวลูกชายเป็นฝั่งเป็นฝาและได้เกี่ยวดองกันสมความปรารถนาของผู้เป็นพ่อแม่

และกว่างานเลี้ยงฉลองจะจบลงเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็แทบหมดแรงและกว่าจะรับพรจากบรรดาพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่เจ้าสาวก็แทบหลับพับ

“พ่อไม่นึกเลยว่าลูกสาวพ่อจะโตแล้ว และออกเรือนแล้ว” คุณอัคคียังคงอ้อยอิ่งกับการให้พรลูกสาวคนสวยและพยายามถ่วงเวลาเพื่อจะได้อยู่กับลูกสาวคนดีนานๆ เพื่อแกล้งเจ้าบ่าว

“อิ่มอุ่นไม่อยากจากคุณพ่อคุณแม่เลยค่ะ คืนนี้อิ่มอุ่นกลับไปนอนที่บ้านได้ไหมคะ” หญิงสาวทำตาแดงๆ ท่าทางเหมือนเด็กหญิงวัยแปดขวบขี้อ้อน

“ใจจริงพ่อก็อยากให้อิ่มอุ่นกลับไปนอนบ้านนะ”

“ไมได้นะครับ” สิงราชแย้งพ่อตาทันทีและผลที่ได้คือสองพ่อลูกหันไปมองตาขวางแต่ก่อนที่พ่อตาจะว่าอะไรคุณอโนมาก็เปิดประตูเข้ามาเรียกสามีด้วยแววตาดุๆ คุณอัคคีจำต้องผละจากลูกสาวสุดที่รักแล้วเดินออกไป สิงหราชเดินมาส่งพ่อตา สองหนุ่มเผชิญหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร

“หึ.. ให้โอกาสก็แค่ตอนเข้าหอละเว้ยไม่อยากขัดใจเมีย”

“ครับ ผมก็ไม่คิดจะปล่อยเมียไปไหนเพราะต้องเอาใจแม่ยายด้วยการหาหลานให้อุ้ม” สิงหราชยักคิ้วให้พ่อตาอย่างถือไพ่เหนือกว่า

“ไอ้กะล่อน...” คุณอัคคีสะบัดหน้าเดินออกไปสิงหราชก็ยิ้มร่าเพราะคิดว่าจะได้เข้าหอเสียที แต่พอหันกลับมาก็พบว่าเจ้าสาวของตนหลับไปทั้งชุดแต่งงาน...

“อะไรกันวะเนี่ย.. อิ่มอุ่นครับ ที่รักลุกขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเร็ว นอนแบบนี้อึดอัดไม่สบายตัวนะ..”

“...” ไร้เสียงตอบรับจากเจ้าสาวคนสวย ใบหน้างามพริ้มเพรานั้นบ่งบอกว่าเจ้าตัวหลับลึกไปแล้ว สิงหราชเกาหัวแกรกๆ อย่างไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดีที่คืนเข้าหอต้องอดเชยชมเจ้าสาวแสนสวย...

“ให้มันได้แบบนี้สิยายจอมแสบ..” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ แล้วรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจัดแจงถอดชุดเจ้าสาวแสนสวยออกพร้อมทั้งเช็ดเนื้อเช็ดตัวล้างเครื่องสำอางออกให้เจ้าสาวแสนสวยของตนอย่างอ่อนโยน แม้ร่างงามตรงหน้าจะเปลือยเปล่าแต่ด้วยห่วงใยสาวเจ้ามีมากกว่าสิงหราชจึงสามารถระงับอารมณ์ความต้องการของตนไว้ได้ เพราะอัจฉรียาพรหลับสนิทชนิดไม่หือไม่อือซึ่งมันทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าเจ้าสาวของเขาคงจะอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าจริงๆ เพราะขนาดว่าเขาเช็ดตัวให้ขนาดนี้เจ้าหล่อนยังไม่ลืมตาตื่นขึ้นมา นี่หากเป็นเวลาปกติป่านนี้เจ้าหล่อนคงโวยวายบ้านแตกไปแล้ว...

คุณอัคคีหัวเราะเบาๆ กับตัวเอง ป่านนี้ลูกเขยคนดีของเมียรักคงกำลังหัวเสียอยู่แน่ๆ ที่วันแต่งงานไม่ได้ร่วมหอกับเจ้าสาวคนสวย ก็เพราะเขาเอายานอนหลับผสมในน้ำดื่มให้อัจฉรียาพรดื่มก่อนที่จะออกมาจากห้องหลังจากที่พยายามถ่วงเวลาอยู่นาน คนอย่างสิงหราชไม่บังคับฝืนใจลูกสาวของตนแน่ๆ และยิ่งเห็นว่าน้องอิ่มอุ่นหลับสนิทก็คงไม่ล่วงเกินหักหาญน้ำใจและคงนึกเห็นใจสงสาร ซึ่งความจริงแล้วอัจฉรียาพรก็เหนื่อยล้ากับพิธีการต่างๆ มาตั้งแต่เมื่อวานวันนี้ก็เหนื่อยทั้งวัน เขาเองก็สงสารลูกสาวอยากให้ได้พักผ่อนเพราะโดยนิสัยผู้ชายที่ดูกันออกคุณอัคคีแน่ใจได้เลยว่าหากอัจฉรียาพรไม่หลับไปเสียก่อน ลูกเขยตัวดีคงจะรังแกลูกสาวของตนจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนแน่ๆ

“ยิ้มอะไรคะ”

“เอ่อ เอ้อ ก็ยิ้มสิ ลูกสาวได้ออกเรือนเป็นฝั่งเป็นฝา เมียก็ได้ลูกเขยถูกใจ ใครจะไม่ยิ้มล่ะครับ” คุณอัคคีรีบพูดเอาใจเมียรัก

“แหม ไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้” คุณอโนมาค้อนสามี

“โธ่ อ้อนจ๋า พี่ก็ดีใจนะที่ได้ตาสิงโตเป็นเขย อย่างน้อยเขาก็เหมาะสมกับอิ่มอุ่น และแม่ยายก็ปลื้มลูกเขย”

“ค่า.. อย่าให้รู้นะคะว่าแกล้งอะไรลูกเขยอ้อน”

“ไม่มี้ ไม่แกล้ง โธ่ เห็นพี่เป็นคนยังไงกัน” คุณอัคคีรีบเข้ามาโอบกอดภรรยาอย่างเอาใจ

“เรากลับบ้านกันเถอะค่ะ ปล่อยให้หนุ่มสาวเขาอยู่ด้วยกัน เรามารอรับขวัญหลานดีกว่า ไปน้องแซมวันนี้ไปนอนกับคุณย่านะคะ” คุณอโนมาจูงมือน้องแซมหลานชายที่รักลูกของอัครากับปลายฝนไป

“ฝากด้วยนะครับแม่อ้อน ผมกับปลายฝนจะได้มีเวลาส่วนตัวบ้าง”

“พี่ซัน คนบ้า..” ปลายฝนตีต้นแขนสามีเบาๆ อย่างขัดเขิน

“จ้ะ พ่อคนไฟแรง..” คุณอโนมาหันมาค้อนผู้เปรียบเสมือนลูกชายอีกคนอย่างหมั่นไส้ก่อนทั้งหมดจะเดินไปขึ้นรถกลับบ้าน...

อัจฉรียาพรตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ด้วยความสดใส ร่างบางบิดขี้เกียจช้าๆ แล้วปิดปากหาวเบาๆ แต่แล้วก็ต้องตาโตเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเช้านี้มันไม่เหมือนกับทุกๆ เช้าที่ผ่านมา...

“พี่สิงโต..”

“จ๋าเมียจ๋า...” ผู้ที่ถูกเรียกชื่อขานรับเสียงหวานนัยน์ตาพราวระยับ.. หญิงสาวเก้อไปทำอะไรไม่ถูกและพอนึกได้ถึงเหตุการณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้นมาเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาก็รีบก้มลงสำรวจตัวเองทันที...

“กรี๊ดดด.. พี่สิงโตทำอะไรอิ่มอุ่น..” อัจฉรียาพรไขว้มือปิดบริเวณหน้าอกของตนมองสามีหมาดๆ ของหน้าตาตื่น

“ก็อิ่มอุ่นหลับไปเฉยเลย ปลุกให้มาอาบน้ำก็ไม่ตื่น พี่ก็เลย.. โอ๊ยๆๆ” ยังไม่ทันจะพูดจบสิงหราชร้องออกมาเมื่อกำปั้นน้อยๆ

“นี่แน่ะๆ แอบแต๊ะอั๋งอิ่มอุ่นเหรอ”

“โอ๊ยๆ พอแล้วเมียจ๋า.. พี่ยังไม่ได้ทำไรอิ่มอุ่นเลยแม้อยากจะทำก็เถอะ” สิงหราชหัวเราะเบาๆ อย่างชอบใจแล้วรวบร่างงามไว้ใต้ร่างทันที

“ปล่อยนะ พี่สิงโตจะทำอะไร... นะ นี่เช้าแล้วนะคะ” อัจฉรียาพรหน้าเสียมองรอบกายเลิกลั่กท่าทางหวาดหวั่นของเธอทำให้สิงหราชอมยิ้มอย่างพอใจแต่ก็แสร้งทำท่าทางขึงขัง

“เช้าแล้วก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ ดีเสียอีก รักกันรับอรุณ” สิงหราชยิ้มเจ้าเล่ห์ อัจฉรียาพรเริ่มเห็นเค้าลางความไม่ชอบมาพากล แม้จะพอรู้ว่าคนแต่งงานกันแล้วจะต้องทำอะไรบ้างแต่เธอยังไม่พร้อมนี่นา.. หญิงสาวพยายามหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์หวามไหวตอนนี้

“แต่ แต่เรายังไม่ทานข้าวเลยนะคะ อิ่มอุ่นหิว..”

“พี่ก็หิว หิวมากก..”

“หิวก็ปล่อยสิคะ อิ่มจะอาบน้ำ..”

“พี่ก็อยากอาบน้ำแต่เราต้องทำอะไรบางอย่างกันก่อน..”

“ทะ ทำอะไรคะ..” หญิงสาวถามเสียงสั่นแผ่วหวิว

“ก็ทำแบบนี้ไง..” สิงหราชโน้มใบหน้าลงมาใกล้ อัจฉรียาพรนอนนิ่งมองเขาตาโตทั้งสะดุดลมหายใจตัวเองเมื่อใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนมาใกล้ ใบหน้าเรียวยาวได้รูปแบบบุรุษที่ประกอบด้วยดวงตายาวใหญ่ดำสนิทใต้คิ้วดกหนา จมูกโด่งเป็นสันรับกับเรียวปากหยักสีเข้มอย่างคนที่มีสุขภาพดี เธอรู้ดีว่าสิงหราชไม่สูบบุหรี่แม้จะมีดื่มบ้างตามประสาหนุ่มโสด สิงหราชเป็นคนที่ดูแลร่างกายตัวเองดีมากเธอมักเห็นเขากับอัคราไปออกกำลังด้วยกันเสมอๆ ซึ่งตอนนี้อัจฉรียาพรรับรู้ได้ดีเลยว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่แข็งแรงเพียงใด

“พะ พี่ สิง...” เสียงหวานขาดหายไปเพราะเรียวปากหยักสวยทาบลงมา ใจสาวเต้นกระหน่ำหวิวไหวทั้งรู้สึกว่าร่างเบาหวิวโบยบินไปบนท้องฟ้ากว้างทั้งรู้สึกร้อนรุ่มและหนาวเหน็บสลับกันไปมาจนร่างสาวสั่นสะท้านอย่างไม่อาจห้ามได้...

สิงหราชบดเคล้าจุมพิตดูดดื่มกับเรียวปากฉ่ำหวานอย่างหลงใหล มือร้อนผ่าวลูบไล้ไปตามร่างสาวชื่นชอบความเนียนนุ่มของเนื้อสาว มือร้ายจัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากกายของตนและกายสาวอย่างรวดเร็วไม่นานทั้งเขาและเธอก็เปลือยเปล่า ร่างงามขาวกระจ่างอยู่ตรงหน้าจนสิงหราชอดที่จะหยุดมองอย่างชื่นชมไม่ได้ รูปร่างระหงพอเหมาะพอเจาะไปทุกสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นทรวงอกกลมกลึงเอวเล็กคอดและสะโพกผายเต็มตึงน่ามอง...

“ห้ามมองนะ..” อัจฉรียาพรเบี่ยงกายตะแคงข้างทั้งยังยกมือปิดป้องทรวงสาวและจุดซ่อนเร้นของตนไว้จากสาวตาคมพราวพรายอย่างเอียงอาย แก้มสาวแดงก่ำน่าปรารถนาอย่างที่สุด...

“อิ่มอุ่นจ๋า คนดีของพี่..” สิงหราชกระซิบเสียงพร่าแล้วก้มลงจุมพิตแก้มเนียนเบาๆ พร้อมทั้งค่อยๆ ดึงมือเล็กที่ปิดทรวงสาวออกช้าๆ แล้วแทนทีมือน้อยนั้นด้วยปากของตน...

“อุ้ย.. อื้อออ..” หญิงสาวอุทานเบาหวิวสะดุ้งเฮือกเมื่อปากและมือร้อนๆ ลูบไล้เคล้าคลออยู่กับทรวงอกอวบอิ่มของตน อัจฉรียาพรครางแผ่วด้วยความเสียวกระสันที่ไม่เคยได้พบเจอ ร่างสาวไหวสะท้านด้วยความรัญจวนใจ ยิ่งเขาดูดกลืนยอดอกสีหวานอย่างหิวกระหายแผ่นหลังบางก็แอ่นโค้งเหนือที่นอนนุ่มด้วยความเสียวซ่านสุดใจ อัจฉรียาพรมึนงงกับอารมณ์หวามไหวที่พบเจอเหมือนว่าโลกทั้งใบหมุนติ้วๆ หกคะเมนตีลังการ่างถูกโยนไปโยนมาอยู่กลางอากาศล่องลอยอย่างไร้ทิศทาง...

“พะ พี่สิงโต อย่า..” ไม่รู้ว่ากำลังห้ามเขาหรืออะไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆ อัจฉรียาพรรู้สึกเหมือนว่าสะดุดลมหายใจตัวเองและกลัวว่าตนจะขาดอากาศหายใจอย่างไรอย่างนั้นเมื่อเรียวปากร้อนผ่าวเคลื่อนต่ำลงไปที่หน้าท้องเนียน

“อิ่มอุ่นจ๋า สวยเหลือเกินคนดีของพี่..” สิงหราชครางกระเส่าแล้วจูบหน้าท้องเนียนเบาๆ แล้วเผยอร่างแกร่งขึ้น เพื่อจ้องมองใบหน้าสวยแดงก่ำนั้นอย่างรักใคร่ หญิงสาวสบตาคมอย่างเคลิบเคลิ้ม ดวงตางามหรี่ปรือริมฝีปากบวมเจ่อน้อยๆ เผยอเหมือนเชิญชวน แต่แล้วดวงตาแสนซนก็เผลอมองต่ำลงไปกว่าแผงอกแกร่งของเขาแล้วอัจฉรียาพรก็ต้องกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออย่างยากลำบากหอบหายใจสะท้านขึ้นมาทันทีด้วยความหวาดหวั่น...

“พะ พี่สิงโต..” อัจฉรียาพรพยายามจะถอยหนีด้วยความหวาดหวั่นกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า แต่ก็ไม่สามารถจะขยับไปไหนได้เมื่อร่างแกร่งเปลือยเปล่าของเขาคร่อมร่างงามไว้ ไอความร้อนจากกายแกร่งแผ่ซ่านออกมากระทบผิวกายของเธอราวจะแผดเผาให้ไหม้เกรียม

“อิ่มอุ่นจ๋า คนดีของพี่ไม่ต้องกลัวนะครับ...” สิงหราชก้มลงจุมพิตเรียวปากงามอีกครั้งอย่างเร่าร้อน โลกของอัจฉรียาพรหมุนติ้วๆ เหมือนพายุทอนาโดความเสียวซ่านก็มีมากขึ้นเป็นทวีคูณ ร่างสาวส่ายสะบัดด้วยความเสียวซ่านรัญจวน ความร้อนแผ่ซ่านไปทั้งร่างเหมือนมีลาวาร้อนๆ ไหวเวียนอยู่ในเส้นเลือด เรียวขาเสลาแยกออกจากกันโดยอัตโนมัติเมื่อร่างแกร่งแทรกเข้ามาแนบชิดจนรับรู้ถึงบางอย่างที่ดุนดันอยู่กับหน้าท้องเนียนของตน แต่อัจฉรียาพรทำได้เพียงส่งเสียงครางแผ่วพร่าแทบขาดใจเมื่อปากร้อนผ่าวครอบครองยอดอกเธออีกครั้งและนิ้วร้ายกาจซอกซอนหยอกเย้าอยู่กับใจกลางร่างสาวฉ่ำชื้นยิ่งทำให้คนด้อยเดียงสาร้อนระอุราวไฟสุม

“อ๊ะ.. พะ พี่สิงโต.. อื้อออ..” หญิงสาวสะดุ้งเฮือกเมื่อนิ้วร้อนๆ แตะลงบนความอ่อนไหวใจกลางร่างสาวก่อนจะรุกล้ำสนิทสนมมากขึ้น อัจฉรียาพรครางแหบพร่าด้วยความเสียวซ่านที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต ร่างสาวส่ายสะบัดด้วยความทรมานอันแสนเร้าใจ ยิ่งเมื่อใบหน้าหล่อเหลาเลื่อนต่ำลงมายังหน้าท้องเนียนที่เกร็งสะท้านและลิ้นร้อนแตะแต้มลงบนนวลเนื้อนุ่มละมุนยิ่งทำให้อัจฉรียาพรร้อนผ่าวไปทั้งกายจนเธอกลัวว่าร่างของตนจะมอดไหม้ไปเพราะความร้อนจากเรียวลิ้นของเขา

“โอ.. อิ่มอุ่นจ๋า...” ชายหนุ่มครางแผ่วพร่า กับความหวานล้ำที่ได้ดื่มกินช่องท่องแสนคับแคบแสนบริสุทธิ์ทำให้เขาแทบคลั่ง ทั้งอยากจะฝากฝังตัวตนแข็งกระด้างเข้าไปในความอบอุ่นอ่อนนุ่มนั้นเสียเดี๋ยวนี้แต่ก็ไม่อาจหักหาญเอาแต่ใจได้ สิงหราชกัดกรามกราดด้วยความอดกลั้นและร้อนระอุ เลือดในกายหนุ่มเดือดพล่านจนยากจะทัดทานความปรารถนาที่ลุกโชน ชายหนุ่มค่อยๆ จรดแก่นกายเข้าหากายสาวฉ่ำชื้นด้วยความระมัดระวัง...

“โอ๊ย.. เจ็บ ฮือออ.. อิ่มอุ่นเจ็บ พี่สิโตออกไปนะ..” หญิงสาวหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อสิ่งปลอกปลอมล่วงล้ำเข้ามาในกายสาว อัจฉรียาพรน้ำตานองหน้าใบหน้านวลใสแดงก่ำเหยเกมือเล็กผลักไสทุบไหล่กว้างของเขาอย่างเอาเป็นเอาตายและพยายามขยับกายหนีจากความใหญ่โตนั้น ชายหนุ่มกัดกรามแน่นและพยายามปลอบโยนคนตัวบางด้วยจุมพิตหวานฉ่ำอีกครั้ง

“อิ่มอุ่นจ๋า อย่าเพิ่งขยับคนดี แล้วมันจะดีขึ้นเอง เชื่อพี่สิโตนะครับ..”

“อิ่มอุ่นเจ็บ.. พี่สิงโตอย่ารังแกอิ่มอุ่นนะคะ..” หญิงสาวสะอื้นบอกเสียงแผ่วอ้อนวอนทั้งน้ำตา ความหวาดกลัวฉายชัดอยู่ในดวงตากลมโตฉ่ำพราวด้วยหยาดน้ำใส สิงหราชเจ็บร้าวไปทั้งอกด้วยความสงสารตัวเองและสงสารคนตัวบางใต้ร่างแกร่งของตน แต่เขาจะหยุดไม่ได้...

“ใจเย็นๆ คนดี อย่าร้องไห้นะครับ เดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้น อา อิ่มอุ่นจ๋า.. คนดีของพี่..” สิงหราชพรมจุมพิตไปตามแก้มใสจูบซับน้ำตาจนเหือดแห้งแล้วมอบจูบเร่าร้อนให้เธออีกครั้งเพื่อให้สาวเจ้าหลงลืมความเจ็บปวดเมื่อครู่และเมื่อเห็นว่าเธอสามารถปรับร่างกายให้คุ้นชินกับตนได้แล้วสิงหราชก็ค่อยขยับสะโพกแกร่งช้าๆ และเร่งจังหวะเร็วขึ้นแรงขึ้นตามอารมณ์ที่คุโชนและอัจฉรียาพรก็ให้ความร่วมมือด้วยดีเมื่อเขาปรนเปรอล่อลวงเธอด้วยความหวานอันซ่านกระสัน

หนุ่มสาวขยับกายเข้าหากันด้วยจังหวะรักอันเร่าร้อนยิ่งอัจฉรียาพรตอบสนองบทรักของเขาด้วยความหลงลืมตัวสิงหราชก็แทบคลั่งไปกับความไร้เดียงสาทว่าร้อนแรงนั้น เสียงครางกระเส่าของคู่บ่าวสาวข้าวใหม่ปลามันดังก้องไปทั้งห้องหอ บทรักรับอรุณอันแสนเร่าร้อนดำเนินไปอย่างร้อนแรงครั้งแล้วครั้งเล่าและกว่าบ่าวสาวจะได้รับประทานอาหารเช้าก็เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ ซึ่งอาหารมื้อนั้นก็ถูกจัดส่งถึงห้องหอ สิงหราชปรนเปรอทั้งอาหารกายอาหารใจให้เมียสุดที่รักอย่างเอาอกเอาใจเต็มไปด้วยความเร่าร้อน ชายหนุ่มใช้บริการเตียงกว้างที่ยับย่นอยู่ตลอดเวลาอย่างคุ้มค่า...

และสิงหราชก็ทำตามความหมายมาดที่ตั้งไว้ นั่นคืออยู่ในห้องหอครบสามวันสามคืนตามที่แม่บัวบอกสอนไว้และกำชับนักกำชับหนาอย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง.. ให้มันรู้ไปว่าจะไม่มีลูกสิงโตน้อยๆ ในเร็ววันนี้...

สิงหราชยิ้มกว้างคอยโอบกอดเมียรักอยู่ตลอดเวลาทำตัวเป็นคนรักเมียหวงเมียตามเมียดังเงา ไม่ว่าอัจฉรียาพรจะไปไหนเขาก็ตามติดไปดังกลัวว่าเมียจะหายไป ตลอดสัปดาห์ของการฮันนีมูนเขาแทบไม่ปล่อยให้เมียรักห่างกาย ยิ่งเมียรักอยากจะห่างก็ยิ่งทำให้เขาอยากแนบชิดจนอัจฉรียาพรขัดเขินสายตาคนมอง แม้แต่กับคนในครอบครัวเธอเอง

“พี่สิงโต ปล่อยได้แล้วค่ะ อิ่มอุ่นอายคุณแม่คุณพ่อ” หญิงสาวกระซิบบอกสามีที่โอบกอดตนไว้ซ้ำยังจับเธอให้นั่งซ้อนตักหน้าตาเฉย ในขณะที่วันนี้เธอแวะมาเยี่ยมบิดามารดาที่บ้านพักตาอากาศหลังงาม ตอนนี้เธอได้ย้ายมาอยู่ที่เรือนหอหลังงาม แต่ก็ยังบริหารงานของตนผ่านอินเทอร์เน็ตและมีการขยายสำนักงานของตนมาที่เชียงใหม่ด้วย ซึ่งตอนนี้อัจฉรียาพรกำลังขยายตลาดโซนภาคเหนือและประเทศพม่ารวมไปถึงเขตสิบสองปันนาและสินค้ากลุ่มคอสเมติกและสกินแคร์ก็กำลังได้รับความนิยมจากสาวๆ ในภูมิภาคนี้ ตอนนี้สิงหราชก็ช่วยเธอขยายตลาดในประเทศจีนและมีนักธุรกิจจีนเข้ามาดูงานและสั่งผลิตสินค้าไปจำหน่ายที่จีนแล้วด้วย เรียกได้ว่าตอนนี้ธุรกิจของเธอกำลังไปได้ดีทีเดียว

“อายทำไม คุณพ่อคุณแม่เข้าใจเราน่าว่าคู่แต่งงานใหม่” ไม่พูดเปล่าแต่ทั้งกอดทั้งหอมแก้มแดงปลั่งอย่างหลงใหล

“ถ้าพี่สิงโตไม่หยุดทำแบบนี้อิ่มอุ่นจะไม่กลับบ้านด้วย จะนอนที่นี่” หญิงสาวพูดเสียงเข้ม

“ก็ได้ๆ” สิงหราชจำตั้งยกร่างระหงลงจากตักแต่ก็ให้เธอนั่งข้างๆ แล้วกุมมือเล็กไว้คลึงเล่นไปมา สักครู่คุณอโนมากับคุณอัคคีก็อุ้มน้องแซมเข้ามาที่ห้องนั่งเล่น

“คุณอาอิ่มอุ่นมาแล้ว..” น้องแซมเด็กชายวัยห้าขวบเศษวิ่งตึกๆ มาหาคุณอาคนสวยและไหว้อย่างอ้อนน้อมก่อนจะปีนขึ้นมาหอมแก้มของคุณอาทั้งซ้ายขวาอย่างไม่ให้น้อยหน้ากัน อัจฉรียาพรอุ้มเด็กชายแล้วลุกขึ้นไปหามารดาเพราะขืนอยู่ใกล้สามีจอมบงการมีหวังไม่ได้ไปไหน

“น้องแซมครับต่อไปนี้จะหอมแก้มคุณอาอิ่มอุ่นต้องขออนุญาตอาสิงโตรู้เปล่า”

“ทำไมอ่าค้าบ” เด็กชายทำหน้าสงสัยมองคุณอาสิงโตที มองคุณอาอิ่มอุ่นทีอย่างไม่เข้าใจ

“ก็เพราะคุณอาอิ่มอุ่นมีเจ้าของแล้ว” สิงหราชพูดอย่างอวดๆ ทั้งยังรู้สึกหวงหากผู้ชายอื่นจะมาหอมแก้มเมียรัก แม้จะเป็นเด็กก็เถอะ คุณอัคคีรู้ดีว่าลูกเขยตัวดีคิดอะไรจึงทำเสียงในลำคอ

“ไอ้ขี้หวง” เดินมานั่งข้างๆ แล้วพูดเบาๆ พอได้ยินกันสองคนพ่อตาลูกเขย

“ก็รักเมีย” สิงหราชเอนกายไปกระซิบตอบใกล้ๆ คุณอโนมาส่ายหน้ายิ้มๆ ระอาใจกับชายทั้งสองคนที่ยังคงชิงดีชิงเด่นกันอยู่

“หนุ่มๆ อยู่คุยกันไปก่อนนะคะ เดี๋ยวแม่กับอิ่มอุ่นจะเข้าไปช่วยฝนทำอาหารในครัว”

“น้องแซมมาหาพ่อซันครับ” อัคราเดินออกมาสมทบกับทุกคนรับน้องแซมมาอุ้ม อัจฉรียาพรกับคุณอโนมาจึงเดินเข้าไปหาปลายฝนซึ่งกำลังทำอาหารอยู่ในครัว วันนี้เป็นเหมือนวันรวมญาติอีกวันหนึ่งที่ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า...

หญิงสาวในชุดเสื้อยืดสีดำกลางเก่ากลางใหม่กับกางเกงผ้าหยาบๆ นั่งกอดเข่าอย่างเศร้าซึมอยู่กับความคิดของตนเอง น้ำตาใสๆ ไหลอาบแก้มซีดเผือดนั้นเหมือนว่ามันจะไม่มีวันหมด มือเรียวที่เคยเคลือบสีสันสดใสปาดน้ำตาออกจากแก้มครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่มีทีท่าว่าน้ำตามันจะหยุดไหลเสียที...

“นี่แม่คุณ นายให้มาเก็บเมล็ดกาแฟนะยะ ไม่ใช่ให้มานั่งเล่นบทนางเอกผู้น่าเวทนา แล้วมานั่งอู้งานกินแรงคนอื่นมันใช่เหรอ คนอื่นเขาทำงานกันหมดเธอจะมานั่งหลบแดดอยู่แบบนี้ได้ไง..” เสียงคนงานสาวพูดขึ้น สำเนียงเหน่อๆ นั้นทำให้ปานชนกเงยหน้าขึ้นมองคนพูดแล้วรีบปาดน้ำตาจากแก้มลุกขึ้นปัดฝุ่นออกจากตัวเบาๆ แล้วหยิบหมวกสานใบใหญ่ที่ครั้งแรกนึกรังเกียจมันขึ้นมาสวมเพื่อบดบังแดดอันแรงกล้า

“ขอโทษจ้ะ ฉะ ฉันจะทำงานแล้ว”

“หึ อย่าคิดว่าเป็นคนของนายแล้วจะเอาเปรียบคนอื่นได้นะยะ” พูดจบสาวคนงานผิวคล้ำตามลักษณะของคนภาคใต้ก็เดินไปทำงานของตน หญิงสาวถอนใจเบาๆ แล้วจ้องมองเมล็ดกาแฟสุกปลั่งตรงหน้าแล้วค่อยๆ เก็บมันอย่างระมัดระวัง

ก่อนหน้านี้เธอเคยแกล้งทำให้มันเสียหายเพราะโกรธแค้นที่ถูกหลอกและถูกบังให้ทำงานเหมือนคนงานคนอื่นๆ ที่เธอแสนจะรังเกียจและดูแคลนว่าเป็นคนชั้นล่าง เธออาละวาดโวยวายด่าทอคนที่พาเธอมายังที่แห่งนี้ด้วยความเกลียดชัง ทั้งความผิดหวังและความสูญเสียที่เกิดขึ้นในชีวิตพร้อมๆ กัน ทำให้ปานชนกทั้งเจ็บปวดและไร้ศักดิ์ศรีอย่างที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตของตนจะตกต่ำถึงเพียงนี้ ผลที่เธอทำลายเมล็ดกาแฟและทำร้ายคนงานสาวที่พยายามจะสอนงานตน ก็คือเธอถูกสุภาพบุรุษที่กลายร่างเป็นซาตานจับกดน้ำจนสำลักน้ำเกือบตาย แล้วปล่อยให้อดอาหารถึงสามมื้อ เธอหิวจนเป็นลมและทำให้ได้รับรู้ว่าการท้าทายเขามันจะเป็นอย่างไร ดังนั้นเธอจึงพยายามปรับตัวเพื่ออยู่ที่นี่ให้ได้และเพื่อ ชดใช้ ให้กับสิ่งที่บิดาของเธอทำ...

เกือบเดือนแล้วที่เธอมาอยู่ที่นี่ ไร่กาแฟและสวนผักปลอดสารพิษที่มีเนื้อที่หลายร้อยไร่ที่เธอไม่รู้ว่ามันเป็นของใครรู้แต่เพียงว่ามันอยู่ในจังหวัดหนึ่งทางภาคใต้ และรู้แต่เพียงว่าเธออยู่ที่นี่ในฐานะ เชลย...

แม้ในใจจะนึกเยาะหยันว่าสมัยนี้มันยังมีอีกหรือสำหรับคำว่าเชลย แต่ปานชนกก็ประจักษ์กับตัวเองแล้วว่าเธอนี่ล่ะคือ เชลยในยุคไอที 4.0

“นี่เธอ นายบอกให้เธอไปหาที่แปลงผักเดี๋ยวนี้” เสียงคนงานอีกคนร้องเรียกทำให้เธอต้องรีบวางงานตรงหน้าแล้วรีบเดินไปที่แปลงผักซึ่งอยู่ด้านล่างซึ่งเธอต้องเดินลงจากเนินเขาตรงนี้ไปยังแปลงผักเขียวขจีด้านล่างเกือบสองกิโลเมตร และต้องเดินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น...

ปานชนกปาดเหงื่อออกจากใบหน้างามแล้วเดินไปอย่างเร่งรีบซึ่งทุกย่างก้าวของเธอนั้นอยู่ในสายตาของใครคนหนึ่งอยู่ตลอดเวลา...

“เธอกำลังเดินไปแล้วครับ ครับ.. ไม่มีท่าทางผิดปกติครับ คงจะทำใจได้แล้ว” หนุ่มคนงานตัวสูงโปร่งผิวคล้ำอย่างคนใต้รายงานให้คนปลายสายสัญญาณได้รับรู้ความเคลื่อนไหวของหญิงสาวชาวกรุงผู้เย่อหยิ่งที่ดูจะเปลี่ยนไปมากจากวันแรกที่มาถึง...

“ครับ ผมว่าเธอไม่กล้าหนีหรอกครับ.. ครับนาย..” เหมือนอีกฝ่ายจะสั่งการบางอย่างมาซึ่งชายหนุ่มก็รับคำด้วยดีก่อนจะเดินตามหญิงสาวไปห่างๆ

ครูซเฝ้ามองหญิงสาวที่เดินลงเนินเขามาจากกล้องส่องทางไกลด้วยความพอใจ รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาแต่แววตาสีเทาเข้มไม่มีแววของรอยยิ้มเลยแม้แต่น้อย...

“สิ่งที่เธอเจอมันยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของความเจ็บปวดที่ฉันได้รับหรอกนิกกี้.. เธอจะต้องได้รับบทเรียนที่หนักและเจ็บปวดมากกว่านี้..”

ชายหนุ่มพูดกับตัวเองเบาๆ แล้วหันไปมองรูปของหญิงคนรัก.. นิราวัลย์ เคแมน คู่หมั้นสาวสวยลูกครึ่งไทยอิตาลี เช่นเดียวกับเขายิ้มหวานให้กล้องซึ่งภาพนี้เขาเป็นคนถ่ายให้เธอเองในวันที่เดินทางกลับมาเมืองไทยเพื่อจะแต่งงานกัน แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อนิราวัลย์ไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนๆ สมัยเรียนด้วยกันและหายตัวไปในคืนนั้น ทุกคนออกตามหาแต่ก็ไม่พบจนห้าวันผ่านไปมีข่าวการพบศพหญิงนิรนามลอยมาติดที่ท่าน้ำของชาวบ้าน สภาพศพที่พบนั้นเน่าเปื่อยจนแทบจะจำสภาพเดิมไม่ได้แต่ก็สามารถชันสูตรได้ว่าหญิงสาวคนนั้นถูกข่มขืนและทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตก่อนจะยัดศพใส่กระสอบโยนศพลงแม่น้ำเพื่อทำลายหลักฐาน และหญิงสาวเคราะห์ร้ายคนนั้นก็คือ นิราวัลย์คู่หมั้นของเขานั่นเอง

ตลอดห้าปีที่ผ่านมาที่เขาพยายามทำใจและพยายามหาหลักฐานเพื่อเอาผิดคนร้าย พยายามที่จะตามจับตัวคนร้ายมาลงโทษ แต่ก็ไร้วี่แววเพราะช่วงเวลานั้น คนร้าย อยู่ในช่วงเวลาที่มีอำนาจบารมีจนไม่มีใครเอื้อมมือเข้าไปถึง แต่ในที่สุดเวลาของเขาก็มาถึงเมื่อช่วงเวลารุ่งเรืองรุ่งโรจน์ของชายคนนั้นหมดลง และในที่สุดคนร้ายก็ได้รับผลกรรมของตน เขาเป็นคนให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีของนิราวัลย์ซึ่งนับว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญอยู่ไม่น้อย ในวันที่ชัชเข้าไปในโรงแรมแห่งนั้นครูซก็อยู่แถวๆ นั้นด้วย และคิดว่าหากแม่สาวน้อยคนนั้นกับเพื่อนตกที่นั่งลำบากตัวเขาเองก็พร้อมจะเข้าไปช่วยเหลือ แต่โชคดีที่ชัชกับคนของเขาเข้าไปเสียก่อน ครูซจึงเฝ้าดูเงียบๆ

แต่เขายังอยากจะสั่งสอนคนที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของชายคนนั้นให้ได้รับความเจ็บปวดเหมือนที่เขาเคยได้รับ.. ปานชนกจะต้องเจ็บปวดเหมือนที่เขาเคยเจ็บ

เมื่อสามวันที่แล้วเขาพาปานชนกไปเยี่ยมนายเกรียงไกรเงียบๆ และบอกให้ทั้งสองพ่อลูกว่าเขาคือใคร เรื่องราวเลวร้ายของนายเกรียงไกรทั้งหมดถูกถ่ายทอดให้ปานชนกได้รับรู้ สองพ่อลูกร้องไห้ปิ่มขาดใจ นายเกรียงไกรถึงกับล้มป่วยในห้องขังและตอนนี้ก็อาการทรุดหนัก ในขณะที่ปานชนกตามเขากลับมาที่ไร่กาแฟโดยไร้การขัดขืน...

แต่การยอมจำนนแต่โดยดีของปานชนกไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel