ตอนที่16.
“แน่นอน ข้าไม่โง่ให้มนุษย์จับได้หรอกนะ” นางเบ้ปากใส่เขา “หากข้ามีพลังเต็มเปี่ยมย่อมสามารถควบคุมการกลายร่างของตนได้ และหากข้าได้กินพลังชีวิตจนมีพลังแก่กล้าอย่างบรรดาศิษย์พี่หรือท่านแม่ละก็...ข้าก็จะสามารถเปลี่ยนร่างเป็นผู้ใดก็ย่อมได้”
“แล้วที่ข้าเห็นหูจิ้งจอกโผล่ก็เพราะไม่ได้กินพลังชีวิตหรือพลังวิญญาณอะไรนั้นหรือ” เขาถามย้ำเพื่อความมั่นใจ
“เจ้าเป็นที่ปรึกษาได้อย่างไรกัน นี่ท่านฉลาดไม่พอหรือจ้าอธิบายให้ท่านไม่เข้าใจกันแน่” นางส่ายหน้าด้วยและมองเขาว่าช่างโง่เขลานัก “พลังชีวิตก็คือลมหายใจ คือทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นตัวเจ้า แต่พลังวิญญาณคือดวงจิตของเจ้า หากเจ้าสูญเสียพลังชีวิตก็คือร่างกายที่ไร้ลมหายใจ และหากเจ้าไร้ลมหายใจเจ้าก็กลายเป็นเพียงดวงวิญญาณ ดวงวิญญาณที่บริสุทธิ์เปี่ยมด้วยพลังวิญญาณเกิดจากเจ้าของดวงจิตนั้นประกอบคุณงามความดี สร้างสมบารมีให้ตนเอง จึงได้ครอบครองดวงจิตพิสุทธิ์ ยามไปถึงปรโลกก็จะถูกเลือกให้ไปอยู่แดนสวรรค์ไม่ต้องไปลงนรกอย่างไรเล่า”
“ข้าจำได้ว่า ผู้ดูแลหลิวบอกว่า ข้ามีวิญญาณพิสุทธิ์ นั้นหมายความว่าข้าเป็นคนดีหรือ?”
“ถูกต้อง” นางพยักหน้ายืนยัน “เหล่าภูตผีปีศาจชอบวิญญาณพิสุทธิ์ หากได้กลืนกินจะเพิ่มพลังให้แก่ตนเอง”
“เช่นนั้น เป็นคนดีย่อมไม่ปลอดภัยสินะ” เขายิ้มขำ คนอย่างเขานะหรือ?ที่เรียกว่า “คนดี” หากเรียกว่า “เจ้าเล่ห์เพทุบาย” น่าจะได้อยู่
“ไม่ๆ” นางส่ายหน้าไปมา “เพราะเป็นคนดี สวรรค์จึงคุ้มครอง ไม่ให้มารปีศาจตนใดจะแตะต้องได้ง่ายๆ”
“แล้วเจ้าเล่า ไม่ใช่ปีศาจหรือไร”
“ข้า... “ นางยิ้มเก้อเขินเล็กน้อย แล้วเอ่ยต่อ “เพราะร่างเดิมข้าคือจิ้งจอกแดง ท่านแม่ข้าเป็นจอมปีศาจชุบเลี้ยงข้าด้วยปราณปีศาจ ข้าจึงเป็นปีศาจ แต่ข้ายังไม่กล้าแกร่ง ไอปีศาจเบาบาง เจ้าเลยไม่รู้ว่าข้าเป็นปีศาจอย่างไรเล่า”
“เช่นนั้น ร่างกายนี้เป็นสิ่งที่ท่านแม่ของเจ้าสร้างขึ้น”
“ถูกต้อง ข้าถึงเรียกนางว่าท่านแม่อย่างไร” นาวพยักหน้ารับ “ศิษย์พี่ใหญ่เคยบอกว่า จริงๆ พวกเราต้องเรียกท่านแม่ว่าอาจารย์ แต่ท่านแม่ไม่ชอบ ท่านแม่แสดงให้เห็นว่ารักทุกตนเท่าเทียมกันจึงให้เรียกนางว่าท่านแม่ และปีศาจจิ้งจอกแดงในหุบเขาก็แซ่เดียกันหมดคือแซ่หลิว เท่ากับว่าเราทุกตนเป็นครอบครัวเดียวกัน มีอะไรต้องช่วยเหลือพึ่งพากันและกัน”
เขาอดกวาดตามองนางอีกครั้งไม่ได้ ใบหน้าเรียวรูปไข่ จมูกเชิดรั้น ดวงตากลมโตเป็นประกาย ริมฝีปากดุจผลอิงเถา ผิวขาวราวหิมะ เรือนร่างอรชร นางถูกสรรค์สร้างมาอย่างงดงาม ‘ท่านแม่’ ที่นางเรียกขานคงตั้งใจสร้างนางเพื่อยั่วยวนบุรุษเพศ ทว่ากลับมีนิสัยไร้เดียงดุจเด็กน้อย
และเพราะกวาดตามองทำให้สะดุดกับเสื้อผ้าที่นางสวม มันช่างบางเบาจนแทบปกปิดอะไรไม่ได้ หานหรงเหยากระแอมไอแล้วพูดกับนาง
“หากเจ้าเป็นสาวใช้ จะแต่งกายเช่นนี้ไม่ได้”
“ไม่ได้รึ?” นางก้มมองตัวแล้วเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาเศร้าหมอง “ศิษย์พี่มอบให้ ข้าคิดว่ามันสวยงามมาก เกิดมาข้าไม่เคยมีเสื้อผ้างดงามเช่นนี้มาก่อน เจ้าดูสิ ตรงนี้ปักลายดอกไม้เล็กๆ ด้วยนะ มันช่างน่ารักเหลือเกิน”
นางตัดใจจากเสื้อผ้าชุดงามนี้ไม่ลงจริงๆ ยังชี้ให้เขาดูที่ลายปักดอกไม้ที่หน้าอกอวบอิ่มของตน แต่เขากลับเบือนหน้าหนี นางจึงลุกขึ้นเดินไปเบื้องหน้า กางแขนแล้วหมุนตัว
“เจ้าทำอะไร” เขาดุนางแต่ก็อดยิ้มขำไม่ได้
“ก็...ข้าอยากให้เจ้าเห็นว่าชุดนี้มันสวยจริงๆ”
“ข้ารู้ แต่ไม่เหมาะกับสาวใช้”
หลิวเข่อซิงหยุดหมุนตัวแล้วจ้องหน้าเขา ดวงตางามกะพริบตาปริบๆ “แต่ข้ามีเสื้อผ้าแค่สามชุด ชุดที่สวมนี้ ชุดที่ท่านแม่ให้มาก่อนออกเดินทางและอีกชุดที่ท่านให้ข้า”
“เช่นนั้น เจ้าไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้มัน...เอ่อ...มิดชิดกว่านี้หน่อย เวลาทำงานจะได้สะดวก”
“เข้าใจแล้ว” ชุดงามก็จริงแต่ไม่เหมาะกับงานสาวใช้ นางเคยซักผ้ากองเท่าภูเขาย่อมๆ มาแล้ว ชุดงามที่สวมนี้ไม่เหมาะจริงๆ “แต่ข้าเสกใบไม้เป็นเงินไม่ได้”
“เอ่อ...ข้ามีเงินให้เจ้าซื้อเสื้อผ้า เจ้าเลือกมาหลายๆ ชุดหน่อย และเนื้อผ้าหนากว่านี้”
“แต่ข้าไม่เคยซื้อเสื้อผ้าเองเลย”
