ตอนที่15.หนึ่งร้อยตำลึงทอง
“ผู้ดูแลหลิวแจ้งมาได้เลย”
“หนึ่งร้อยตำลึง”
“หนึ่งร้อยตำลึง!” ซุนเจ้าเฟิงเบิกตากว้างแล้วหันไปกวาดตามองสตรีที่ห่อตัวด้วยเสื้อคลุมของสหาย นางก็นับว่างดงามอยู่ไม่น้อย แต่นิสัยเช่นนี้ ..เหมือนรับเลี้ยงเด็กน้อยเสียมากกว่า
“หนึ่งร้อยตำลึงทอง”
“นี่เจ้า!” ซุนเจ้าเฟิงไม่เคยขึ้นเสียงใส่สตรีมาก่อน ครั้งนี้เขาโมโหจนหน้าดำคล้ำไปหมดแล้ว
“ตกลงตามนี้” หานหรงเหยาผงกศีรษะรับ “ข้ารับตัวนางไปได้เลยหรือไม่”
“เห็นแก่แม่ทัพซุนมาเยือนถึงหอชมบุหลันของเรา ข้าจะให้เข่อซิงติดตามท่านไปทันที ส่วนเรื่องเงินนั้นจะให้คนของข้าไปรับที่จวน”
“ตงลงตามนั้น” ซุนเจ้าเฟิงขบฟันแล้วหมุนตัวเดินออกไปทันที
หลิวชิงเซียงมั่นใจว่าแม่ทัพซุนเดินออกไปแล้ว จึงเอ่ยกับหานหรงเหยาและเข่อซิง
“ท่านคงรู้แล้วว่านางเป็น...”
“เขา เอ๊ย! นายท่านรู้แล้ว เขาเห็นข้าตอนกลายร่างด้วย” เข่อซิงชิงพูดขึ้น
“เช่นนั้นข้าคงไม่ต้องอธิบายมากว่านางต้องกินพลังชีวิตของมนุษย์”
“ข้าสละให้นางได้”
“เหตุใดต้องทำถึงเพียงนี้”
“แม่นางคงรู้ว่าร่างกายข้าไม่แข็งแรง ในเมื่ออยู่ได้อีกไม่นาน ก็ให้ชีวิตที่เหลือกับนางจะเป็นไรไป”
“ท่านนี่แปลกจริงๆ” นางโคลงศีรษะไปมา “ช่างเถิด แม้ท่านรับนางไปแล้วก็จริง แต่ข้าก็ต้องคอยดูนางอยู่ ปีศาจจิ้งจอกแดงสกุลหลิวของเราไม่เคยทอดทิ้งพี่น้อง นั้นคือสิ่งที่ท่านแม่สั่งสอนเสมอมา”
“เรื่องนั้นข้าเข้าใจ”
หลิวชิงเซียงถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพยักหน้าให้เข่อซิง “เจ้าติดตามนายท่านของเจ้าไปได้ อย่าสร้างเรื่องเดือดร้อนมาถึงที่นี่เด็ดขาด”
หญิงสาวยิ้มกว้างแล้วพยักหน้ารับยืนยัน
“ได้ ข้าจะพยายาม ข้าจะเป็นสาวใช้ที่ดีของนายท่าน”
เป็นอีกครั้งที่หลิวเข่อซิงกลับมาที่เรือนของหานหรงเหยา แต่ครั้งนี้ นางอยู่ที่นี้ในฐานะสาวใช้ของที่ปรึกษาหาน หญิงสาวนั่งประสานมือบนเก้าอี้กลมแต่ขยับตัวยุกยิก ดวงตาเป็นประกายวาววับจ้องมองอีกฝ่ายพร้อมริมฝีปากคลี่ยิ้มจนเห็นฟันขาวเรียงกันเป็นระเบียบ
“เจ้าไม่จำเป็นต้องเป็นสาวใช้ของข้า” หานหรงเหยาพยายามอธิบายรอบที่สาม เวลานี้ในเรือนหลังนี้มีเขาและนางอยู่กันตามลำพัง ปกติเขาไม่ชอบให้ใครมีผู้อื่นมาวุ่นวายอยู่ใกล้ แม้แต่คนรับใช้ก็ตาม
“ไม่ได้ เจ้า เอ่อ ท่านซื้อตัวข้ามาจากหอชมบุหลันแล้ว ข้าก็ต้องเป็นสาวใช้ของท่าน”
“ที่นี่ไม่ขาดแคลนทั้งคนและสิ่งของ เจ้าก็อยู่ที่นี่ให้สบายใจเถิด”
“ไม่ขาดแคลน” นางเอียงคอครุ่นคิดแล้วกลอกตามองรอบตัว “แต่ท่านไม่มีใครเลยนะ”
“เรื่องนั้น...” คิดจะอธิบายงรอบที่สี่ก็ถอนใจแล้ว “ช่างเถอะ หากเจ้าอยากเป็นสาวใช้ก็ตามใจเจ้า”
“อื้ม!” หลิวเข่อซิงฉีกยิ้มกว้าง “ท่านไม่ควรดื้อดึงตั้งแต่แรกแล้ว แค่เชื่อฟังข้า ข้าบอกว่าข้าเป็นสาวใช้ของท่าน ท่านก็ไม่ต้องมาพูดอะไรวกไปวนมาเช่นนี้แล้ว”
คราวนี้หานหรงเหยาอับจนถ้อยคำ เอาเถิด เขาตัดสินใจรับนางมาแล้ว คงเปลี่ยนแปลงอันใดมิได้อีก ได้แต่ยอมรับอย่างจำนน แต่เหตุใดเขากลับรู้สึกพึงพอใจกับน้ำเสียงเจื้อยแจ้วของนาง ทั้งที่ที่ผ่านมาเขาชอบความเงียบสงบ
“ท่านไม่ต้องห่วงนะ ตอนที่ข้าอยู่หุบเขาจื่อเซ่อ ข้าทำเป็นหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะซักเสื้อผ้า ล้างถ้วยชาม ทำความสะอาดเรือน ชงชา ฝนหมึก ข้าล้วนทำได้ยอดเยี่ยมที่สุด ปีศาจทุกตนในหุบเขาต่างยกย่องข้ามอบหมายงานเหล่านี้ให้ข้าทำแต่เพียงผู้เดียว”
“เจ้าชงชาเป็น?”
“ใช่ ยากตรงไหน แค่ต้มน้ำให้เดือด ใส่ใบชา เท่านี้ก็ได้น้ำชาแล้ว”
‘นั้นเรียกชงชาก็ได้รึ’
เป็นอีกครั้งที่หลิวเข่อซิงทำให้หานหรงเหยาอึ้งไป นางพูดด้วยน้ำเสียงโอ้อวดและยืดตัวตรงอย่างภูมิใจ คงเพราะเหตุนี้ นางจึงอยากเป็นสาวใช้ของเขานัก แต่เขาก็อายุไม่น้อย จู่ๆ มีสาวใช้ข้างกายก็รู้แปลกพิกล นางไร้เดียงสาถึงเพียงนี้ เกรงว่าเขาคงต้องตามใจนางแล้ว
“ตกลงเจ้าเป็นสาวใช้ของข้า...”
“ถูกต้อง” นางรีบชิงพูดขึ้น
เขานิ่งไปครู่หนึ่งลอบถอนหายใจอีกหนึ่งเฮือกแล้วเอ่ยต่อ “ช่างเถอะ ข้าอยากรู้ว่าเจ้าควบคุมการกลายร่างเป็นจิ้งจอกแดงได้หรือไม่ ข้าเกรงว่าผู้อื่นรู้เห็นเข้าจะตกใจ”
