ตอนที่ 7 เจ้ามาอาบน้ำให้ข้า
ซิงอีเดินเข้ามายืนข้างๆ ชายหนุ่มด้วยท่าทางหวาดกลัวเล็กน้อย จากนั้นเอื้อมมือไปผสมหมึกด้วยท่าทางเก้ๆกังๆ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่นางต้องมาฝนหมึก ในโลกใบเก่าก็มีทั้งดินสอและปากกาหมดแล้ว
“ยืนให้มันดีๆ หน่อย”
จางเหว่ยกล่าวเสียงเข้มเมื่อหญิงสาวยังยืนห่างตนในขณะที่ฝนหมึก มันทำให้ท่าทางของนางดูตลกเป็นอย่างมาก ซิงอีจึงค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ชายหนุ่ม “เอิ่ม~~~ผู้ชายอะไรกลิ่นตัวหอมชะมัดเลย” ซิงอีกล่าวขึ้นในใจ จากนั้นก้มลงสูดดมตัวเอง ก็พบว่าไม่มีกลิ่นหอมเลยแม้แต่น้อยแต่ก็ไม่มีกลิ่นเหม็น จากนั้นก็ตั้งใจฝนหมึกต่อไปเรื่อยๆ จางเหว่ยอ่านตำราบ้างจดบันทึกบ้าง จนเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วยามอย่างลืมตัว ปกติเขาใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วยามเท่านั้น ชายหนุ่มหันมามองหญิงสาวที่นั่งฝนหมึกให้เขาข้างๆ นางตั้งใจฝนหมึกอย่างเอาจริงเอาจัง จดจ่อที่แท่นฝนหมึกตลอดเวลา เวลากว่า2 ชั่วยามนางไม่ส่งเสียงหรือขยับตัวรบกวนเขาเลยแม้แต่น้อย น้ำหมึกที่นางฝนก็ไม่เข้มหรือบางเบาจนเกินไปอย่างคนที่ถูกฝึกการฝนหมึกมาอย่างไรอย่างนั้น
“วันนี้พอแค่นี้เถอะ”
ชายหนุ่มกล่าวขึ้นมาเสียงเรียบ แต่หญิงสาวกลับยังไม่ขยับตัวเลยแม้แต่น้อย
“เจ้ากลับไปได้”
ชายหนุ่มเพิ่มเสียงให้ดังขึ้น จนทำให้หญิงสาวที่แอบหลับในต้องสะดุ้งตื่น
“ท่านว่าอันใดนะเจ้าคะ”
ซิงอีเอ่ยถามอย่างมึนงง
“เจ้าหูหนวกหรือ อยากไม่ได้ยินอะไรไปตลอดชีวิตเลยหรือไม่”
จางเหว่ยเอ่ยข่มขู่หญิงสาว เมื่อสักครู่เขาอุตส่าห์เอ่ยชมนางในใจ แต่ที่ไหนได้นางแอบหลับเช่นนั้นหรือ
“ไม่เจ้าค่ะ”
ซิงอีรีบก้มหัวลงกับพื้นเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะทำอย่างที่พูดจริงๆ จางเหว่ยลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จากนั้นกางเเขนออก ซิงอีที่เห็นเช่นนั้นก็เข้าใจรีบลุกขึ้นจัดชุดของชายหนุ่มให้เข้าที่เข้าทาง
“เย็นนี้ห้ามเจ้ากินข้าว”
จางเหว่ยพูดพลางเดินไปจากเรือน ซิงอีที่ได้ยินเช่นนั้นก็ยืนเเข็งอยู่กับที่ ห้ามกินข้าวมื้อเย็นเช่นนั้นหรือ
จ๊อก!
เสียงท้องของหญิงสาวร้องออกมาเพราะความหิว ซิงอีจึงเดินกลับห้องพักของตนเองอย่างท้อใจ แต่ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องพัก กลับเหลือบไปเห็นต้นมะเขือเทศที่ถูกปลูกไว้อยู่หน้าเรือนพัก “ห้ามไม่ให้กินข้าว ไม่ได้ห้ามไม่ให้กินมะเขือเทศสักหน่อย” ซิงอีกล่าวใจจากนั้นเดินเข้าไปเก็บ มาเช็ดๆกับแขนเสื้อเล็กน้อยและเอาเข้าปากทันที
“แหวะ!"
ซิงอีคายออกมาทันทีที่กินเข้าไป
“ความหิวไม่สามารถทำให้ข้ากินเจ้าลงได้จริงๆ”
ซิงอีกล่าวขึ้นกับมะเขือเทศตรงหน้า จากนั้นถอดใจและเดินเข้าห้องพักของตนเองไป
.
เช้าวันต่อมา
ชิงอีถูกปลุกเพราะเสียงเคาะประตูหน้าห้อง หญิงสาวเดินงัวเงียไปเปิดประตูเพราะตอนนี้พึ่งต้นยามเหม่าเท่านั้นยังไม่ถึงเวลาที่ต้องเริ่มทำงานเลย
“นี่ขอเจ้า อี๋นัวบอกให้เจ้าไปทำงานที่แทนบ่าวรับใช้เมื่อวานถูกไล่ออก ที่ตำหนักจวี๋ฮวา”
“ห๊ะ? ข้าเนี้ยนะ”
ซิงอีเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ
“ใช่ นี่ปิ่นและถุงหอมของเจ้า คุณชายไม่ชอบคนที่มีกลิ่นตัว และเจ้าห้ามทำหายเด็ดขาด หากหายแล้วเจ้าต้องไปเสียข้าปรับกับพ่อบ้านหลิวเอง”
หญิงสาวมองปิ่นเงินที่บ่าวรับใช้อีกคนยื่นให้ พลางคิดในใจ “ไหนว่าต้องทำงานที่นี่จนชำนาญ ถึงจะได้เลื่อนขั้นไปเป็นปิ่นเงิน” เมื่อหญิงสาวเข้ามาในห้องก็เรียบล้างหน้าล้างตา ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า และรีบออกไปทันที
.
ณ เรือนจวี๋ฮวา
ซิงอีและบ่าวรับใช้อีก 5 คน เดินนำเครื่องหอมรวมถึงสมุนไพรต่างๆ ที่ใช้ในการอาบน้ำเข้าไปในเรือนจวี๋ฮวา เรือนแห่งนี้เป็นเรือนของเจ้าของจวนจางเหว่ย นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดถึงต้องรีบตื่นตั้งแต่ยามเหม่า เพราะของที่ใช้แค่ผสมน้ำอาบมีมากมายเหลือเกิน ไหนจะอุณหภูมิน้ำที่ต้องไม่เย็นเกินไปและร้อนเกินไป ซึ่งกว่าจะตระเตรียมเสร็จก็ใช้เวลาถึงครึ่งชั่วยาม และนั้นเป็นเวลาที่ชายหนุ่มตื่นพอดี จางเหว่ยเป็นคนที่อาบน้ำวันละ 2 ครั้งเมื่อเทียบกับคนที่นี่ ที่ไม่ค่อยอาบกันมากนัก ยิ่งถ้าเป็นช่วงหน้าหนาว 2-3 วันถึงอาบไม่ก็เป็นอาทิตย์บ้างก็มี ซิงอีที่พึ่งมาทำหน้าที่นี้ครั้งแรกจึงทำได้เพียงยืนดู และคอยส่งสิ่งของให้คนอื่นๆ ที่กำลังวิ่งวุ่นกันเตรียมของเท่านั้น เมื่อเตรียมของเรียบร้อยแล้วทุกคนจึงไปยืนเป็นแถวหน้ากระดาษอย่างเรียบร้อย ไม่นานก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของเจ้าของเรือนเดินเข้ามาในห้องอาบน้ำ
จางเหว่ยเดินมาหยุดที่หน้าบ่าวรับใช้ทั้ง 6 คน และกวาดตามองพวกนางทุกคน จากนั้นเดินไปทางอ่างน้ำไม้ที่ถูกเตรียมไว้อย่างดี
“ใครวัดความร้อนของน้ำ”
จางเหว่ยเอ่ยออกมาเสียงเรียบ
“บ่าวเองเจ้าคะ”
บ่าวรับใช้คนหนึ่งรีบพูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครือเพราะกลัวว่าจะทำอะไรไม่ถูกใจชายหนุ่ม
“ร้อนเกินไป”
สิ้นคำชายหนุ่ม บ่าวรับใช้ที่เอ่ยปากพูดเมื่อสักครู่รีบคุกเข่าลงไปที่พื้นทันที
“บ่าวขออภัยเจ้าค่ะ ที่ไม่ตรวจสอบให้ดีก่อน”
“พรุ่งนี้อย่าให้ข้าเห็นหน้าเจ้าอีก ข้าจะให้เวลาอีกแค่ครึ่งเค่อเท่านั้น”
ชายหนุ่มพูดเสียงเข้มจากนั้นเดินไปรอที่ห้องนอน เมื่อชายหนุ่มออกไปแล้ว บ่าวรับใช้ที่เหลือจึงรีบผสมน้ำใหม่ให้ได้ความร้อนตามที่ต้องการ ซิงอีที่เห็นเช่นนั้นก็ลอบกลืนน้ำลาย “ขื่นขมเหลือเกินรสชาติชีวิตของข้าตอนนี้ กวาดใบไม้อยู่ดีๆ ดันต้องมาทำเรื่องแบบนี้ สักวันต้องถึงตาข้าที่ต้องโดนบ้างเป็นแน่” ซิงอีกล่าวกับตนเองในใจ เมื่อครบเวลาครึ่งเค่อที่ชายหนุ่มบอก เขาก็เดินเข้ามาในห้องอาบน้ำอีกครั้ง จากนั้นก็ใช้มือสัมผัสน้ำในอ่างไม้อีกครั้ง เมื่อบ่าวรับใช้เห็นชายหนุ่มพยักหน้าก็พากันแอบลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก
“เจ้า”
จางเหว่ยชี้นิ้วไปทางซิงอี จากนั้นบ่าวคนที่เหลือก็รีบออกไปจากห้องทันที เหลือแค่เพียงจางเหว่ยและซิงอีในห้องอาบน้ำ ชายหนุ่มกางเเขนออกหญิงสาวจึงรับเข้าไปถอดชุดของชายหนุ่มออก จางเหว่ยมองท่าทางเก้ๆกังๆ ของหญิงสาว ที่หลับตาถอดชุดในเขาก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
