ตอนที่ 5 เจ้าเป็นขอทานมาก่อนอย่างนั้นหรือ 1
หลังจากพูดคุยกับจางเหว่ยเรียบร้อยแล้ว ซิงอีก็ถูกพาให้ไปยังที่พักของตนเอง ที่นี่แบ่งที่พักหนึ่งห้องต่อหนึ่งคนแต่ภายในห้องไม่ได้กว้างมากมาย มีแค่เตียงนอน ชั้นเสื้อผ้า และโต๊ะ1ตัว เพราะไม่ค่อยมีบ่าวรับใช้มากนัก ทำให้มีห้องว่างค่อนข้างเยอะ ไม่ใช่เพราะจวนแห่งนี้ไม่มีเงินมากพอจะจ้างบ่าวรับใช้ แต่ชื่อเสียงที่ขึ้นว่าโหดร้ายของเจ้าของจวน ทำให้ไม่ค่อยมีใครอยากมาขายตัวเป็นบ่าวรับใช้มากนัก ถึงบ่าวรับใช้จะน้อยแต่ค่าตอบแทนก็นับว่ามากทีเดียว ในแต่ละเดือนได้ถึง 1 เหรียญเงิน เมื่อเทียบกับจวนอื่นๆ ที่ได้แค่ 80 เหรียญทองแดงเท่านั้น ได้เงินเยอะแล้วอย่างไรหากทำผิดจนต้องถูกฆ่าทิ้งก็ไม่คุ้มเสีย
ซิงอีเดินสำรวจของในห้องอย่างพึงพอใจ นางมีที่ซุกหัวนอนแล้ว ข้าวก็มีให้กินฟรี แถมเงินก็ได้อีกเสียด้วย ต่อไปนี้ก็แค่หลีกเลี่ยงไม่ให้เจอจางเหว่ย ตั้งใจทำงานแล้วหาทางกลับโลกใบเก่าให้ได้ หากกลับไม่ได้จริงๆก็เก็บเงินให้มากและออกไปจากที่นี่ ซิงอีกล่าวอย่างหมายมั่นในใจ
ก๊อกๆ!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นที่หน้าห้อง ซิงอีจึงเดินไปเปิดทันที
“นี่คือชุดของเจ้า เปลี่ยนเสร็จแล้วไปพบอี๋นัวที่เรือนเคร่งระเบียบด้วย”
หญิงสาวที่อยู่หน้าประตูเอ่ยปากบอกซิงอี จากนั้นเดินออกไปทันที หญิงสาวจะถามว่าไปทางไหนก็ไม่ทันเสียแล้ว ซิงอีมองชุดที่ถูกยื่นให้ จากนั้นนำไปสวมใส่ทันที
ซิงอีหมุนตัวหน้ากระจกด้วยความพึงพอใจ ถึงเป็นแค่ชุดสาวใช้แต่นับว่าดูดีเป็นอย่างมาก เป็นผ้าสีฟ้าขาวดูเรียบร้อยถึงเนื้อผ้าจะไม่ดีมากแต่ก็ถือว่าใช้ได้ ผมครึ่งบนถูกจัดแต่งทรงสวยเหมือนกับบ่าวที่นำชุดมาให้เธอเมื่อสักครู่ หญิงสาวสามารถทำตามได้ทันทีที่เห็น เพราะประสบการณ์ดูแลนางเอกชื่อดังที่เล่นซีรี่ส์ย้อนยุคมาไม่รู้กี่เรื่อง ทำให้นางชำนาญเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จากนั้นปักด้วยปิ่นไม้ที่ถูกนำมาให้พร้อมกับชุดเช่นกัน เมื่อตรวจดูความเรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วจึงเดินออกจากห้องพัก แต่ไม่ลืมที่จะล็อกห้องไว้เป็นอย่างดี
ซิงอีเดินมาตามทางที่บ่าวรับใช้ชายบอก ตอนที่นางเอ่ยถามก็ได้ยินว่ามาทางนี้ แต่ตอนนี้นางเดินหากว่า 1 เค่อแล้ว แต่ยังไม่เห็นเรือนที่ชื่อว่าเรือนเคร่งระเบียบเลย ตอนนี้นางอยู่ตรงหน้าเรือนตู้เจวียน หญิงสาวมองซ้ายทีขวาทีเพื่อหาคนที่สามารถจะบอกทางให้นางได้ แต่ก็พบว่าไม่เห็นมีเลยสักคน ซิงอีจึงเดินไปทางเรือนตู้เจวียน จากนั้นเปิดประตูชะโงกแค่หน้าเข้าไปในประตู แต่ก็ต้องชนกับอกกว้างที่ยืนอยู่
“โอ๊ยย จมูกข้า”
ซิงอีร้องออกมาและจับที่จมูกเมื่อเห็นว่าไม่เป็นอะไรก็สบายใจ พลางคิดในใจ “ดีที่ร่างนี้เป็นจมูกของจริง” แต่แล้วนางรู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงไอของคนที่นางเผลอไปชนเข้าเมื่อสักครู่
“บ่าวขออภัยเจ้าค่ะ”
ซิงอีรีบกล่าวขอโทษและก้าวถอยหลังออกมา 1 ก้าว
“เป็นบ่าวรับใช้คนใหม่ล่ะสิ”
เสียงทุ้มกล่าวถามอย่างอ่อนโยน ซิงอีจึงเงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า เมื่อนางเห็นหน้าของชายตรงหน้าก็ทำให้หญิงสาวตกตลึงทันที “โลกนี้มีแต่คนหน้าตาดีสินะ” ซิงอีคิดในใจ เพราะชายที่ยืนหน้าตนตอนนี้ผมดำยาวพริ้วไหวครึ่งบนถูกมัดรวบด้วยเชือกสีขาวยาวลงมากับผมครึ่งล่าง ผมด้านหน้าถูกปล่อยออกมาเล็กน้อยเครื่องหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบ แต่งกายด้วยชุดสีขาวยาวดูสง่างาม บวกกับน้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อสักครู่ยิ่งทำให้คนที่ได้ยินต่างต้องมนต์เมื่อพบเห็น
“เจ้าได้ยินหรือไม่”
เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอีกรอบ
“เอ่อ…คือว่าบ่าวพึ่งเข้ามาทำงานใหม่เจ้าค่ะ เลยทำให้หลงทาง ต้องขออภัยที่รบกวนคุณชายเจ้าค่ะ”
ซิงอีที่เหม่อลอยไปนานพึ่งหาเสียงตัวเองเจอแล้วกล่าวออกไป ดูจากการแต่งตัวไม่ใช่บ่าวรับใช้เป็นแน่
“เจ้าจะไปที่ใดหรือ”
ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยเสียงอ่อนโยนอีกครั้ง
“บ่าวจะไปเรือนเคร่งระเบียบเจ้าค่ะ”
ซิงอีบอกจุดหมายของตนเผื่อชายหนุ่มจะช่วยชี้ทางให้ได้
“เช่นนั้นก็ไปด้วยกันเถิด ข้าจะไปที่นั้นพอดี”
ชายหนุ่มพูดจบก็ยิ้มให้หญิงสาว เดินนำออกไปก่อน ซิงอีจึงเดินตามหลังไป ใช้เวลาประมาณครึ่งเค่อก็ถึง พบว่าเรือนเคร่งระเบียบหรือเรือนที่นางหานั้น นางเลี้ยวผิดทาง แทนที่จะเลี้ยวทางซ้ายและดันเลี้ยวมาทางขวาแทน ชายหนุ่มเดินเข้าไปในเรือนและตามด้วยซิงอี เมื่อชายหนุ่มเดินเข้าไปก็มีหญิงอายุราวๆ 50ปี เดินออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“คารวะคุณชายผู่เย่วเจ้าค่ะ มีอะไรให้บ่าวรับใช้เจ้าคะ” บ่าวหญิงกล่าวขึ้นทันที
“ข้าเพียงนำคนมาส่งเท่านั้น”
ผู่เย่วหรือชายหนุ่มที่เดินมากับซิงอีกล่าวขึ้น ซิงอีที่เห็นว่าชายหนุ่มเป็นถึงคุณชายก็รีบย่อกายทำความเคารพ ผู่เย่วหันมาพยักหน้าให้หญิงสาวเล็กน้อย ก่อนเดินออกจากเรือนเคร่งระเบียบไป
“เอาล่ะ เมื่อเจ้ามาแล้วก็เริ่มกันเลย ข้ามีนามว่าอี๋นัวเป็นหัวหน้าบ่าวรับใช้ของที่นี้ เจ้ามีนามว่าอันใดหรือเอาป้ายชื่อเจ้ามาให้ข้าดู”
หัวหน้าบ่าวรับใช้เอ่ยแนะนำตัว
“คือว่า ข้ามีนามว่าซิงอีเจ้าค่ะ เคยเป็นแค่ขอทานมาก่อน ไม่มีป้ายชื่อหรอกเจ้าค่ะ”
ซิงอีเอ่ยบอกความจริงไป
“ขอทานงั้นหรือ”
อี๋นัวถามด้วยความประหลาดใจ เคยเป็นขอทานเหตุใดรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณถึงได้ดีขนาดนี้
“เจ้าค่ะ”
