ตอนที่ 19 ข้าอยากกลับบ้าน ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว
ณ เรือนซักล้าง
"นี่คือชุดของคุณทั้งหมด เจ้าจัดการซักให้เรียบร้อย" บ่าวรับใช้คนสนิทของฟางเหนียงนามว่าเหยียนจิ๋นเอ่ยสั่งซิงอี และเดินออกไป
ซิงอีมองกองชุดที่ไม่ต่ำกว่า 30 ตัว และน้ำที่เย็นจัดนั้นอย่างท้อแท้ใจ "นี่สินะถึงเรียกว่าบ่าวรับใช้ของจริง" หญิงสาวกล่าวกับตนเองในใจ และถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย นางคิดอยู่แล้วว่าสักวันต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะตลอดระยะเวลาที่นางมาอยู่ที่นี่ก็พบเห็นเหตุการณ์ที่บ่าวรับใช้นางอื่นเจอเช่นกันตอนถูกทำโทษ ที่ผ่านมาไม่มีใครกล้ารังแกนางเพราะเป็นผู้ช่วยของจางเหว่ยสินะ อำนาจแม้แต่ในจวนเช่นนี้ยังสำคัญมากจริงๆ
ซิงอีตักน้ำมาเทใส่เสื้อผ้าและลงมือซักทันที ด้วยอากาศในตอนนี้ที่เข้าสู่หน้าหนาวแล้ว และคาดว่าอีกไม่กี่วันหิมะก็คงจะตกลงมาให้เห็น น้ำเย็นจัดเมื่อกระทบเข้ากับร่างกาย หญิงสาวถึงกับขนลุกซู่แต่นางก็ไม่ท้อ ยังนั่งซักต่อไป ซิงอีซักไปได้แค่ 10 กว่าตัวมือทั้งสองข้างกลับแดงอย่างกับลูกตำลึงสุก
"หนาวจัง"
หญิงสาวเอ่ยออกมาในที่สุดเพราะไม่สามารถทนไหวแล้ว แต่ก็ยังกัดฟันสู้ซักต่อไป เวลาผ่านไปถึง 3 ชั่วยามหญิงสาวก็ยังซักไม่เสร็จเพราะเหยียนจิ๋นนำชุดมาให้นางเพิ่มอีก 10 กว่าชุด
"โอ๊ย! ซี๊ดด~~"
หญิงสาวอุทานขึ้นมาเสียงดัง เพราะตอนนี้ที่มือของหญิงสาวมีโลหิตสีแดงไหลออกมาจึงรีบล้างน้ำทันที ซิงอีนั่งมองชุดที่เหลืออีกแค่ 2 ชุดกลับสภาพของตนเองตอนนี้ มือสองข้างที่แดงจัดเพราะสัมผัสกับน้ำเย็นๆเป็นเวลานาน บาดแผลที่นิ้วทั้งสองข้างและข้าวที่ตนไม่ได้กินทั้งวัน จู่ๆน้ำตาที่นางอดกลั้นมานานก็ไหลอาบแก้ม
"ข้าอยากกลับบ้าน ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว"
.
หลังจากจัดการซักชุดของฟางเหนียงเสร็จ ซิงอีก็ตรงกลับห้องพักเลยเพราะนางเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก แต่ก่อนที่จะถึงเรือนพักกลับเจอกับผู่เย่วสหายของตนเสียก่อน
"คารวะคุณชายผู่เย่วเจ้าค่ะ"
ซิงอีพูดพลางย่อกายเล็กน้อย ผู่เย่วยิ้มให้หญิงสาวทันทีแต่ตากลับเหลือบไปเห็นมือของนางที่แดงและยังมีบาดแผลอีกจึงรีบเข้ามาจับที่มือของหญิงสาวอย่างรวดเร็ว ซิงอีที่เห็นท่าทีของชายหนุ่มก็ตกใจเล็กน้อย
"ขออภัยที่ทำให้เจ้าตกใจ มือของเจ้าไปโดนอันใดมาหรือ"
ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเขายังไม่รู้ว่าหญิงสาวไม่ได้เป็นผู้ช่วยของจางเหว่ยแล้ว จึงคิดว่านางอาจได้รับบาดเจ็บมาจากจางเหว่ย ผู่เย่วพาหญิงสาวไปนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนบริเวณที่เขาและนางต่างตกลงเป็นสหายกันครั้งแรก และเป็นที่ๆไม่ค่อยมีคนผ่านไปผ่านมามากนัก หากมาที่นี่คงไม่มีใครเห็นว่าตนทำตัวสนิทสนมกัน ชายหนุ่มพันผ้าให้หญิงสาวอย่างเรียบร้อยหลังทำแผลเสร็จ
"ขอบคุณคุณชายเจ้าค่ะ"
หญิงสาวกล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ ชายหนุ่มเป็นคนแรกและคนเดียวที่ดีกับนางเช่นนี้ตั้งแต่มาอยู่ที่โลกแห่งนี้ พอได้รับความเอาใจใส่จิตใจที่เข้มแข็งของนางเมื่อสักครู่กลับอ่อนแอเสียอย่างงั้น เหมือนกับอย่างเมื่อตอนเด็กๆ เวลานางได้รับบาดเจ็บ เมื่ออยู่คนเดียวไม่เจ็บเท่ากับตอนอยู่กับแม่หรือพ่อ ตอนนี้ก็เช่นกันตอนนางกัดฟันซักผ้าให้เสร็จยังไม่เจ็บเท่าตอนชายหนุ่มถามว่าไปทำอันใดมา
น้ำตาของซิงอีค่อยๆไหลอาบแก้มทำให้ชายหนุ่มตกใจคิดว่าตนทำนางเจ็บจึงมีสีหน้าไม่ดีนัก ขณะนั้นเองกลับมีเกร็ดน้ำสีขาวหล่นลงมาจากฟากฟ้า
"หิมะตกแล้ว"
ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างเปลี่ยนบรรยากาศ ซิงอีมองหิมะที่ตกลงมาอย่างสวยงาม ทำให้อารมณ์ของนางดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด "ในวันที่แย่ก็ยังมีสิ่งดีๆเกิดขึ้น หิมะแรกของโลกที่นี่" หญิงสาวกล่าวกับตนเองในใจและยิ้มให้ชายหนุ่ม
"นี่นับเป็นครั้งแรกที่ข้าได้นั่งชมหิมะแรกกับสหาย" ชายหนุ่มพูดพลางหันมายิ้มให้หญิงสาว
"ข้าเองก็เช่นกัน" ซิงอีพูดพลางยิ้มให้ชายหนุ่ม และทั้งคู่ก็พูดคุยและหัวเราะกัน ทำให้หญิงสาวลืมความทุกข์ที่ผ่านมาในวันนี้ได้ แต่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองมาที่นั่งคู่อยู่ จางเหว่ยพึ่งกลับมาจากทำธุระข้างนอก เพราะนี้คือภารกิจลับจึงต้องแอบออกไปนอกจวนเพื่อไม่ให้ใครรู้ และทางที่ทั้งคู่นั่งอยู่นั้นคือทางที่จางเหว่ยใช้ออกไปบ่อยๆ จางเหว่ยเข้ามาทันเห็นตอนที่หญิงสาวกำลังร้องให้พอดี ชายหนุ่มมองชายหญิงที่กำลังคุยหัวเราะกันอย่างมีความสุขก็รู้สึกหงุดหงิดเสียอย่างนั้น จึงสะบัดแขนเสื้อตรงกลับตำหนักจวี๋ฮวาทันที
.
ณ ตำหนักจวี๋ฮวา
จางเหว่ยยกชาขึ้นดื่ม 3 ครั้งรวดแต่กลับไม่สามารถทำให้เขาใจเย็นลงได้
"ไปตามซิงอีมา" ชายหนุ่มสั่งเสียงดัง
