ตอนที่ 16 ให้ข้าอยู่ที่นี่สิบชาติก็ไม่ชินกับความหล่อนี่จริงๆ
ซิงอีหลังจากโดนจางเหว่ยไล่ก็ตรงกลับที่พักของตน แต่กลับพบว่าถุงหอมที่ข้างเอวของตนหายอีกแล้ว ทุกครั้งที่ไปตำหนักจวี๋ฮวาเหตุใดถุงหอมมักหายทุกครั้ง นางเสียค่าปรับถุงหอมไปแล้วถึง 2 ครั้ง ครานี้นางไม่มีเงินจะเสียค่าปรับแล้ว เลยเลือกจะกลับไปหาถุงหอม
"ถ้าแอบเข้าไปคงไม่เป็นไรหรอก" หญิงสาวกล่าวกับตนเองอย่างหมายมั่น จากนั้นจึงเดินไปทันที
ณ ตำหนักจวี๋ฮวา
หญิงสาวแอบลอบเข้ามาที่ห้องอาบน้ำแทน เพราะทางนี้มีประตูทางเข้าอีกด้าน เพราะจะได้ไม่ต้องยกน้ำเข้าออกที่ด้านหน้า "ดีจังไม่มีคนเฝ้า" หญิงสาวกล่าวกับตนเองในใจ เพราะปกติประตูจะมีคนเฝ้าทุกทางแต่ตอนนี้เป็นช่วงเที่ยง น่าจะเป็นเพราะสับเปลี่ยนเวรยามเป็นแน่
หญิงสาวย่างเท้าอย่างเงียบกริบก่อนจะปิดประตูให้เบาที่สุด จากนั้นย่องเพื่อจะไปดูว่าในห้องมีชายหนุ่มอยู่หรือเปล่า
ปึก!
เสียงสิ่งของกระทบกับอะไรสักอย่างจากด้านหลังของนาง ในขณะที่กำลังจะเปิดประตูไปที่ห้องนอน ซิงอีค่อยๆหันหลังมาพบจางเหว่ยนอนเปลือยกายอยู่ในอ่างอาบน้ำ
"ข้าไม่ได้แอบเข้ามานะเจ้าคะ ขะ..ข้าแค่มาหาของเชยๆ"
หญิงสาวพูดพลางก้มไปหมอบที่พื้นอย่างหวาดกลัวเล็กน้อย เพราะก่อนหน้านี้เขาพึ่งโกรธนาง หญิงสาวพูดจบแล้ว แต่ผ่านไปสักพักกลับยังไม่ได้ยินเสียงตอบรับใดๆจากชายหนุ่มเลย หญิงสาวจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นกลับพบว่าชายหนุ่มยังหลับตาอยู่ท่าเดิม
"คุณชาย คุณชายเจ้าคะ"
หญิงสาวเอ่ยเรียกจางเหว่ยแต่กลับยังไม่มีเสียงตอบรับจากชายหนุ่มเช่นเดิม จึงลุกขึ้นและเดินไปหาชายหนุ่มใกล้ๆ
"จางเหว่ย~~"
หญิงสาวเอ่ยเรียกพรางเขย่าตัวชายหนุ่มไปด้วย แต่ก็พบว่าเขาไม่ได้สติเช่นเดิม
"หรือเพราะผื่นนั้น...."
หญิงสาวกล่าวกับตัวเองเมื่อนึกได้ แต่เมื่อมองที่หน้าอกกว้างกลับพบว่าตอนนี้ไม่ได้มีผื่นนั่นแล้ว หญิงสาวเอามืออังหน้าผากชายหนุ่มพบว่าตัวร้อนมาก จึงทำท่าว่าจะเดินไปเรียกบ่าวรับใช้ชายด้านหน้าให้มาช่วยพาชายหนุ่มไปที่เตียง แต่เดินไปได้แค่ 2 ก้าวก็ต้องหยุดลง "แค่ผื่นขึ้นยังให้ใครรู้ไม่ได้ ถ้าคนอื่นเห็นบาดแผลที่ยังไม่หายนี้คงเป็นเรื่องใหญ่แน่" หญิงสาวกล่าวกับตนเองในใจ ซิงอีมองหน้าชายหนุ่มที่หลับใหลในอ่างน้ำใบหน้าซีดเซี่ยวจึงถอนหายใจ
"เฮ้ออออ กรรมของข้าจริงๆเลย ท่านทำตัวเบาๆหน่อยแล้วกัน" ซิงอีพูดเสร็จก็เข้าไปประคองชายหนุ่มให้ลงจากอ่างและไปที่เตียงอย่างทุลักทุเล
"ปัง"
เสียงไหล่ชายหนุ่มกระทบกับขอบประตูเสียงดัง
"ขะ...ขออภัย ท่านตัวหนักเกินไป"
ตุบ! เสียงของตัวชายหนุ่มกระทบกับเตียงเมื่อหญิงสาวประลองกึ่งลากมาถึงเตียง จากนั้นจึงจัดท่าทางให้ชายหนุ่มนอนอย่างดี ซิงอีสูดลมหายใจเข้าอย่างเต็มปอด เพราะขั้นตอนหลังจากนี้คือเปลี่ยนกางเองที่ยังเปียกน้ำของชายหนุ่มใหม่ เมื่อทำใจได้แล้วจึงใช้ผ้าปิดช่วงล่างจากนั้นดึงกางเกงที่ปิดส่วนล่างและสับเปลี่ยนตัวใหม่ให้
"ถ่ายรูปแบล็คเมล์ดีไหมเนี่ย"
ซิงอีมองชายหนุ่มที่ยังคงนอนหลับสนิทบนเตียง หากเป็นในโลกเก่าหน้าตาดีขนาดนี้ แถมหุ่นยังขาวจั๊วะน่าเจี๊ยเช่นนี้คงไม่พ้นได้เป็นดาราเป็นแน่ จากนั้นหญิงสาวเดินไปหยิบกล่องยามานั่งที่ข้างเตียงและลงมือทำแผลให้ชายหนุ่มจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"เฮ้ออ"
หญิงสาวถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยล้า และเลื่อนสายตาไปที่หน้าท้องและหน้าอกกว้างที่ยังเปลือยเปล่าเพราะพึ่งทำแผลเสร็จ กล้ามเนื้อที่เต็มมัดกล้ามและขาวเนียนทำให้หญิงสาวไม่อาจละสายตาไปได้ หญิงสาวค่อยๆเอื้อมมือไปสัมผัสที่หน้าอกกว้างอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ จากนั้นลากนิ้วลงมาที่ซิกแพค
" เอิ่ม~ แน่นดีจัง"
หญิงสาวพึมพำออกมาเบาๆ แต่ขณะนั้นเองกลับมีเลือดหยดกระทบกับซิกแพคของชายหนุ่ม ซิงอีรีบเงยหน้าและเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากจมูกทันที "บ้าเอ่ย! ใครมาเห็นเจ้าทำแบบนี้มีหวังอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไหนเป็นแน่" หญิงสาวกล่าวกลับตนเองในใจจากนั้นรีบสวมใส่ชุดชายหนุ่มให้เรียบร้อย เพราะหากนานกว่านี้นางคงได้จับชายหนุ่มกินเป็นแน่ คนอะไรข๊าวขาว
.
ซิงอีเดินออกมาจากตำหนักจวี๋ฮวา เมื่อไม่มีอะไรที่ตนต้องทำแล้ว จึงคิดว่าจะไปพักและกินอาหารเที่ยงเพราะเลยเวลามาเกือบ 1 ชั่วยามแล้ว ตอนนี้หญิงสาวค่อนข้างสนิทกับพ่อครัวเพราะสูตรอาหารที่นางขายให้ไปหลายสูตรแล้ว ฉะนั้นนางสามารถไปทำอาหารทานเองได้ ว่าก็ว่าเถอะอาหารในยุคนี้ไม่มีรสนิยมเลยสักนิด จืดชืดมาก ไข่เจียวที่นางทำยังอร่อยกว่าอาหารบางอย่างที่เลิศหรูของที่นี่เสียอีก
"ชิงอี"
เสียงทุ้มดังมาจากด้านหลังของหญิงสาว ซิงอีรีบหันไปตามทิศทางทันทีพบว่าคือผู่เย่ว ชายหนุ่มยิ้มกว้างมาแต่ไกล ซิงอีถึงกลับตะลึงกับความหล่อเหลาและอ่อนโยน
"ให้ข้าอยู่ที่นี่สิบชาติก็ไม่ชินกับความหล่อนี่จริงๆ" หญิงสาวเอ่ยแซวชายหนุ่มสหายของตน
"เจ้าทำงานเสร็จแล้วหรือ"
"คารวะเจ้าค่ะคุณชาย" หญิงสาวรีบเอ่ยทักและทำท่าคารวะ เพราะตอนนี้ยังอยู่ในเวลางานและยังมีบ่าวรับใช้อยู่แถวนี้ ดูไม่ดีนักหากนางจะทำตัวสนิทสนมกับชายหนุ่ม
"ยังเจ้าค่ะ อีก 1 ชั่วยาม" หญิงสาวพูดพลางยิ้มให้ชายหนุ่ม
"แล้วเจ้าจะไปที่ใดหรือ"
"ข้าจะไปทานข้าวเจ้าค่ะ นี่เลยเวลามามากแล้ว"
"เหตุใดถึงได้มาทานเวลานี้กัน" ชายหนุ่มพูดพลางมองพระอาทิตย์ที่เลยกลางหัวไปมากแล้ว
"ข้าพึ่งทำงานเสร็จเจ้าค่ะ" หญิงสาวเพียงตอบสั้นๆ ไม่ได้ให้เหตุผลว่าทำไมเพราะไม่อยากที่จะเอาเรื่องของเจ้านายมาพูด และคิดว่ามันคงไม่ดีนักถึงจะเป็นสหายกันแต่ก็ไม่ควรไว้วางใจใครบอกความลับไป
"เสียดาย ข้านึกว่าเจ้าทำงานเสร็จหมดแล้วจึงคิดว่าจะชวนไปทานของอร่อยที่ตลาดเสียหน่อย" สิ้นคำชายหนุ่มซิงอีตาลุกวาวทันที เพราะตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่นี่ก็ยังไม่ได้ออกไปไหนเลย ถึงแม้ว่าตลาดจะอยู่นอกกำแพงจวนแค่นี้ก็ตาม
"ท่านอย่างพึ่งเปลี่ยนใจสิเจ้าคะ ข้าย่อมสนใจ"
"แล้วงานเจ้า...."
ชายหนุ่มเอ่ยถามอีกครั้ง เพราะเมื่อสักครู่นางยังบอกว่าอีก 1 ชั่วยามถึงจะทำงานเสร็จ
"ที่จริงงานข้าเสร็จแล้วเจ้าค่ะ" หญิงสาวเอ่ยตอบเมื่อนึกถึงชายหนุ่มที่นอนหลับอยู่บนเตียงในเรือนจวี๋ฮวา นางทำแผลและนำยาไปไว้ให้เรียบร้อยแล้ว อีกหลายชั่วยามเขาถึงตื่นเป็นแน่
"เช่นนั้นก็ไปกันเลยดีหรือไม่"
"คุณชายไปรอข้าที่ตลาดดีหรือไม่ หากใครพบว่าเราออกไปพร้อมกันคงมิดีแน่"
ซิงอีเอ่ยบอกอย่างใช้ความคิด นายกับบ่าวหากสนิทกันจนเกินไปอาจทำให้คนอื่นสงสัยและนำไปนินทาอย่างเสียๆหายๆได้ นางเคยได้ยินเหล่าบ่าวรับใช้หญิงคุยกัน หากเป็นเช่นนั้นคงดูไม่ดีทั้งตัวชายหนุ่มและนางเป็นแน่
"ได้ ข้าจะไปรอเจ้าที่ตลาด"
"เจ้าค่ะ ข้าจะทำตามให้เรียบร้อย"
หญิงสาวขานรับเสียงดังขึ้นมาหน่อยจากที่พูดกับชายหนุ่มเมื่อสักครู่ และย่อกายเล็กน้อยอย่างแนบเนียนเหมือนอย่างบ่าวรับใช้กำลังทำตามที่เจ้านายสั่ง และทั้งคู่ก็แยกย้ายกันออกไป
ซิงอีกลับมาเปลี่ยนชุดหลังจากที่ดูมอมแมมเพราะลากจางเหว่ยและทำแผลให้เขา แต่ไม่ลืมที่จะหยิบผ้าขาวบางมาปิดหน้าก่อนที่จะออกไป ป้องกันเผื่อบ่าวรับใช้ในจวนพบเห็นว่านางกำลังเดินอยู่กับคุณชายผู่เย่วแล้วเจ้านายได้
ณ ตลาด
เสียงพ่อข้าแม่ขายตะโกนเรียกลูกค้ากันอย่างครึกครื้น เป็นบรรยากาศที่แตกต่างไปจากตลาดที่นางเคยเห็นในโลกปัจจุบันเป็นอย่างมาก ตลาดเหมือนกันแต่กลับดูมีเสน่ห์ต่างกัน มีกลิ่นอายของความดั้งเดิมไม่ว่าจะเป็นการตกแต่ง การเรียกลูกค้าที่ในยุคปัจจุบันหาดูได้ยาก ยิ่งในเมืองที่นางเคยอยู่ การค้าเริ่มเป็นแบบเดลิเวอรี่ไปหมดแล้ว
ซิงอีเดินหาสหายที่ตนนัดอยู่ชั่วครู่ก็พบ จึงเดินเข้าไปสะกิดที่ด้านหลังชายหนุ่ม ผู่เย่วตกใจที่จู่ๆก็มีคนมาสะกิดแถมยังปิดหน้าตา ทำให้เขาถึงกลับล็อกแขนทันที
"โอ๊ย~~ คุณชายข้าซิงอีเองเจ้าค่ะ" หญิงสาวร้องออกมาด้วยความเจ็บ
"ขออภัย ข้าไม่นึกว่าเป็นเจ้า"
ผู่เย่วเอ่ยขอโทษรีบปล่อยหญิงสาวทันที เขามองหน้าหญิงสาวที่มีผ้าขาวปิดหน้าเห็นเพียงแค่ตาก็เข้าใจและไม่ได้ถามอันใด นางคงปิดไว้เพื่อไม่ให้ใครจำได้เป็นแน่
"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียงเอง"
"เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ"
"ไปไหนเจ้าคะ" หญิงสาวเอ่ยถามพลางเอียงคอเล็กน้อย
"เจ้าจะทานอาหารกลางวันมิใช่หรือ"
ชายหนุ่มเอ่ยเสียงอ่อนโยนอย่างเอ็นดูเพราะท่าทางของนาง และเดินนำนางไปก่อน ซิงอีจึงรีบเดินตามไป
ผู่เย่วเดินนำหญิงสาวจนมาหยุดที่โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งที่นับว่าไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ดูสะอาดคนไม่พลุ่งพล่านหรือแออัดมากนัก มีป้ายหน้าร้านว่า "โรงเตี๊ยมหลัวเหลียว"
"คารวะคุณชาย โรงเตี๊ยมเรายินดีตอนรับขอรับ" ทันทีที่ทั้งสองเดินเข้าไปก็มีบ่าวพนักงานชายออกมาต้อนรับคนทั้งคู่
"ขอที่นั่งเงียบๆ"
"ได้ขอรับ เชิญทางนี้" บ่าวรับใช้ชายพูดขึ้นพลางเดินนำคนทั้งคู่ไปที่ชั้นสอง บรรยากาศด้านบนแยกเป็นห้องส่วนตัว แต่ที่หน้าต่างกลับมองเห็นวิวของตลาดด้านล่างได้
"ห้องนี้เลยขอรับ" พนักงานพูดพลางยืนรอรับรายการอาหาร
"เจ้าอยากทานอันใดหรือ สั่งได้เลยสหายคนนี้เลี้ยงเจ้าได้ไม่ต้องห่วง" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเช่นเดิม
"ป๋าม๊ากกกก" หญิงสาวเอ่ยแซวชายหนุ่มทันที
"ปะ...ปะอะไรนะ?"
"เปล่าเจ้าค่ะ ข้าหมายถึงท่านดูแลสหายดีจังเลยนะเจ้าคะ"
ทั้งคู่นั่งทานอาหารและพูดคุยกันอย่างสนิทสนมเพลิดเพลิน เหมือนอย่างเคยรู้จักกันมานานอย่างไรอย่างนั้น หลังทานอาหารเสร็จก็ยังเดินเล่นดูของต่างๆในตลาด เพราะเป็นตลาดยุคนี้จึงมีการแสดงไม่ว่าจะเป็น เล่นมายากล ทุบหินกลางหน้าอก ฟันดาบ แสดงละครและอื่นๆอีกมากมายล้วนมีให้พบเห็นอย่างละลานตา ชายหญิงทั้งคู่ดูจะเพลิดเพลินกันจนลืมเวลากว่าจะรู้ตัวก็เริ่มค่ำแล้ว จึงแยกย้ายกันกลับจวนเพราะหากทั้งคู่กลับด้วยกันดูจะไม่เหมาะนัก
