บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 12 เช่นนั้นข้าเป็นสหายของเจ้าได้หรือไม่

ด้านซิงอี หลังจากออกจากเรือนรุ่ยเซียงก็ได้เวลาพักทานอาหารกลางวัน บ่าวรับใช้ที่ไม่ได้คอยรับใช้เรื่องอาหารการกินก็จะทานอาหารตรงเวลาปกติ ซิงอีไม่ได้มีหน้าที่คอยนำอาหารไปให้เหล่าเจ้านายก็นั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนบริเวณที่ไม่ค่อยมีผู้คนมากนัก หญิงสาวก้มลงไปดูที่เท้า เพราะตอนนี้มันกลายเป็นสีแดงระรื่นไปแล้ว และรู้สึกแสบเล็กน้อยจากนั้นจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ขณะที่เอามือเท้าคางกับโต๊ะ “เหตุใดข้าถึงได้ซวยเช่นนี้” หญิงสาวกล่าวกับตนเองในใจ และถอนหายใจออกมาอีกครั้ง หยาดน้ำตาค่อยๆไหลลงมาเรื่อยๆโดยที่นางไม่รู้ตัว มันเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ทั้งเหงา โดดเดี่ยว และเหนื่อยไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือจิตใจ

“ใครทำเจ้าให้ร้องให้เช่นนี้หรือ”

เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ซิงอีมองไปตามทิศทางของเสียงทันที

“คารวะคุณชายผู่เย่วเจ้าค่ะ”

ซิงสาวพูดพลางรีบลุกขึ้นทำความเคารพทันที ผู่เย่วเพียงพยักหน้าเล็กน้อยให้นางและยิ้มด้วยความอ่อนโยน จากนั้นนั่งลงที่โต๊ะหินอ่อน ชายหนุ่มเหลือบตาไปเห็นเท้าของหญิงสาวที่แดงระเรื่อหลังจากที่ถอดรองเท้าดูและยังไม่ได้สวมกลับ เขาอยู่ที่นี่มานานแล้วเพราะบริเวณที่แห่งนี้เงียบสงบไม่ค่อยมีใครมามากนัก แต่ไม่คิดว่าจู่ๆหญิงสาวจะเข้ามานั่งที่นี่

“เจ้านั่งเถอะ”

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”

ซิงตอบและรีบใส่รองเท้ากลับให้เรียบร้อย

“นั่งเถอะ นั่งเป็นเพื่อนข้า”

ชายหนุ่มยังคงเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยนและยิ้มให้นาง ซิงอีที่มองท่าทีของชายหนุ่มที่ไม่ถือตัวและสีหน้าที่เเสดงถึงความจริงใจจึงเข้าไปนั่งในฝั่งตรงข้าม

“ท่านมาอยู่ที่นี่นานแล้วหรือเจ้าค่ะ”

หญิงสาวเอ่ยถาม ชายหนุ่มเพียงพยักหน้ารับ

“เช่นนั้นท่านก็เห็นทุกอย่างหมดแล้ว…”

สิ้นคำหญิงสาว ชายหนุ่มก็พยักหน้าอีกเช่นเคย

“ข้าทำเรื่องขายหน้าคุณชายแล้ว”

ซิงอีพูดขณะที่นึกถึงน้ำตาที่ไหลออกมาเองดื้อๆกับการถอดรองเท้าเมื่อสักครู่ คนที่นี่ถือเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ชายที่สามารถเห็นเท้าของหญิงสาวได้ต้องเป็นสามีของนางเพียงเท่านั้น ถือว่าเป็นวัฒนธรรมที่แปลกประหลาด

“ไม่เป็นอันใดหรอก บริเวณแห่งนี้ไม่ค่อยมีคนมามากนั้น เจ้าไม่คิดว่าข้าจะอยู่ที่นี่ก็มิแปลก”

“จริงเจ้าค่ะ”

“เมื่อสักครู่เจ้าร้องให้เพราะเรื่องอันใดหรือ”

ผู่เย่วเอ่ยชวนหญิงสาวคุยหลักจากบรรยากาศเงียบไปนาน

“อ่อ ข้าเพียงคิดถึงครอบครัว คิดถึงท่านพ่อท่านแม่ และน้องชายเจ้าค่ะ”

ซิงอีคิดถึงครอบครัวของนางในโลกใบเก่าที่จากมา นี่ก็เกือบเดือนแล้วที่นางจากมาไม่รู้ทุกคนจะเป็นเช่นไรบ้าง จะตกใจมากแค่ไหนเมื่อรู้ว่านางประสบอุบัติเหตุตกกำเเพงสูงเช่นนั้น หญิงสาวคิดไปก็ทำหน้าเศร้าออกมา

“ครอบครัวของเจ้าตายหมดแล้ว จึงทำให้เจ้าต้องมาเป็นขอทานเช่นนั้นหรือ”

ผู่เย่วเอ่ยถามหญิงสาว ซิงอีที่ได้ยินเช่นนั้นก็แทบจะลืมความเศร้าเมื่อได้ยินคำถามที่ชายหนุ่มถาม เขาจะคิดเช่นนั้นก็ไม่แปลกเพราะโลกใบนี้นางเคยเป็นแค่ขอทานมาก่อนเท่านั้น

“เจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นให้เจ้าคิดซะว่าข้าเป็นสหายของเจ้าก็ได้”

ชายหนุ่มเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง ดูจากหน้าตาลักษณะ ผิวพรรณ รวมถึงท่าทางกริยา ไหนจะไหวพริบที่เขาได้เห็นการต่อราคาสูตรอาหารของนางเมื่อเช้านี้ แต่ก่อนนางคงไม่ได้เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดาเช่นนี้แน่ เพราะอะไรกันที่ทำให้นางต้องลำบากจนถึงเช่นนี้ คิดมาถึงเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอดสงสารหญิงสาวไม่ได้ ครอบครัวตายจากไปหมดแล้วคงโดดเดี่ยวมากเป็นแน่

“ได้เช่นไรกันเจ้าคะ ข้าเป็นเพียงบ่าวรับใช้เท่านั้น”

ซิงอีรีบปฏิเสธทันที

“ข้าอยู่ที่นี่มานาน ยังไม่เคยมีสหายแม้สักคน”

ผู่เย่วเอ่ยออกไปตามตรง เขารู้สึกถูกชะตากับหญิงสาวเป็นอย่างมาก ซิงอีที่เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกสงสารชายหนุ่ม

“หลังเลิกจากงานที่เจ้าทำในแต่ละวัน หรืออยู่นอกจวนเราก็คือสหายกัน หากอยู่ในจวนเจ้าก็ทำงานของเจ้าไปเถอะ” ผู่เย่วคิดหาทางไม่ให้หญิงสาวปฏิเสธ

“เช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ”

หญิงสาวพูดพลางยิ้มให้ชายหนุ่ม นี่นับเป็นรอยยิ้มแรกของซิงอีที่ยิ้มออกมาจากข้างในจริงๆ หลังจากที่ได้เข้ามาอยู่ในโลกใบนี้

“ข้าต้องขอตัวก่อน นี่จะหมดเวลาพักของข้าแล้ว” หญิงสาวพูดพลางลุกขึ้นทำความเคารพเล็กน้อย ผู่เย่วพยักหน้าและยิ้มอ่อนโยนให้หญิงสาว ซิงอีจึงเดินออกไปทำงานของตนต่อ

ตลอดทั้งบ่ายซิงอีไม่รู้สึกลำบากมากนัก เพราะคุณชายหน้ายักษ์เจ้าของจวนไม่ได้อยู่ที่เรือนรุ่ยเซียงแล้ว หญิงสาวจึงเพียงแค่ยืนเฝ้าอยู่หน้าจวนจนหมดเวลางาน และกลับเข้าห้องพัก

“เฮ้อออออ”

ซิงอีถอนหายใจออกมาเมื่อล้มตัวลงไปนอนที่เตียงนุ่ม นางคิดว่าจะนั่งพักเล็กน้อยก่อนไปอาบน้ำ ถึงนี้จะเริ่มเข้าหน้าหนาวแล้วคนที่นี่จะอาบน้ำแค่วันละครั้ง แต่หญิงสาวก็เลือกจะตื่นแต่เข้ามาอาบน้ำทุกวันเช้าเย็น เพราะในโลกใบเก่านางอาบเช่นนี้ตลอด ต่อให้น้ำเย็นแค่ไหนก็เลือกที่จะอาบน้ำอยู่ดี หากตื่นเช้าหน่อยก็แอบต้มน้ำอาบตอนที่ทุกคนยังไม่ตื่น

ก๊อกๆ!

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ซิงอีจึงลุกจากเตียงรีบไปเปิดทันที

“มีอันใดหรือ”

ซิงอีเอ่ยถามบ่าวรับใช้หญิงหน้าห้อง

“นี่คือของที่บ่าวรับใช้เรือนคุณชายฝากมาให้ บอกว่าสหายเจ้าฝากมา”

ซิงอีรับมาและปิดประตูห้อง จากนั้นเปิดดูในกล่องทันที พบว่าเป็นยาทาผิวจึงทำให้หญิงสาวยิ้มออกมาทันที เขาน่าจะเห็นรอยแดงที่เท้านางเป็นแน่ จากนั้นจึงวางมันไว้และเดินออกไปอาบน้ำชำระร่างกายที่เรือนอาบน้ำรวม

ใข้เวลาอาบน้ำประมาณ 2 เค่อซิงอีก็กลับเข้าห้องพัก หญิงสาวหยิบตลับยาขึ้นมาเพื่อจะทาที่เท้า แต่ยังไม่ทันได้ทาก็ได้ยินเสียงเคาะห้องดังอีกครั้ง ซิงอีรีบไปเปิดประตูเห็นว่าเป็นบ่าวรับใช้คนเดิม

“สหายข้าฝากอันใดมาอีกงั้นหรือ”

“ครั้งนี้ไม่ใช่สหายของเจ้า แค่เป็นคุณชายจางเหว่ยเรียกเจ้าไปพบที่เรือน เจ้ารีบไปเดี๋ยวนี้เลยนะ”

บ่าวรับใช้พูดเสร็จก็เดินออกไปทันที

“นี่มันไม่ใช่เวลางานของข้านะ”

หญิงสาวพึมพำกับตนเอง เมื่อนึกถึงหน้าเจ้าของจวนที่ชอบทำหน้ายักษ์ข่มขู่นางตลอดเวลา จากนั้นเลือกที่จะเก็บตลับยาเข้าที่เเขนเสื้อ และเดินคอตกไปเรือนจวี๋ฮวาทันที หากช้ากว่านี้เกรงว่าจะทำให้ชายหนุ่มโมโหเป็นแน่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel