2.เอาแล้วไง กามเทพแผลงศร
*** ทักทายคร้า ***
อุบลตั้งใจจะอยู่ที่บางกระโทกสามสี่วัน แต่ธรรมชาติ ความสงบ และผู้คนที่เต็มไปด้วยมิตรไมตรี โดยเฉพาะตาพุดกับสกุณาทำให้เธอไม่กลับกรุงเทพฯ จนโชติต้องตามมาหามารดาที่บางกระโทกพร้อมกับชลธิชาเพื่อนสนิท
“คุณแม่อยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ ร้อนก็ร้อน บ้านนอกก็บ้านนอก” ชลธิชาสาวนักเรียนนอกเบ้ปากเมื่อเห็นท้องทุ่งนาบ้านๆ
โชติเองเคยมารับมารดาที่นี่เมื่อสามปีก่อน หลังจากนั้นก็ไม่เลยมาอีกเลย จนกระทั่งวันนี้ดูที่นี่เปลี่ยนไปเยอะจนเขาจำแทบไม่ได้
“ที่นี่สงบท่านเลยชอบ” โชติบอกพลางมองร้านกาแฟข้างทางเพื่อแวะถามทางและซื้อกาแฟเย็นๆ ดื่มดับร้อน ทั้งสองลงจากรถเดินเข้าไปในร้าน ซึ่งเวลานั้นสกุณากำลังยืนเซ็นเอกสารอยู่หน้าเคาน์เตอร์พอดี
“อเมริกาโน่แก้วนึง”
เสียงเข้มห้วนสั่งกาแฟทำให้มือที่จับปากกาชะงัก แล้วค่อยๆ ไล่สายตาขึ้นมองเจ้าของเสียง โชติมองดวงหน้าผุดผ่องที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอยู่นานจนชลธิชาไม่พอใจ
“นี่หล่อน ไม่ได้ยินที่สั่งเหรอ รีบทำเร็วๆ ฉันร้อนจะตายอยู่แล้ว” ชลธิชาจิกเสียงใส่ขณะยกมือข้างหนึ่งพัดไปมา มืออีกข้างกอดแขนกำยำเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ
“ถ้าร้อนก็ไปนั่งรับลมที่ระเบียงก่อนได้นะคะ ลมกำลังเย็นสบายเลย เดี๋ยวฉันให้เด็กเอากาแฟไปเสิร์ฟ แล้วคุณผู้หญิงล่ะคะจะรับอะไร”
“ฉันไม่เอาหรอกย่ะ สกปรก” ชลธิชามองแก้วและอุปกรณ์ทำกาแฟที่คว่ำอยู่บนชั้นอย่างเหยียดๆ
สกุณาไม่ชอบใจเท่าไหร่แต่ก็ยิ้มให้
“ที่นี่สะอาดจนได้ใบประกาศค่ะ รับรองได้” กำนันสาวบอกอย่างใจเย็น
“แหวะ…สะอาดยังไงฉันก็ไม่กินของบ้านนอกๆ หรอกนะ เพราะมันไม่มีคลาส รสนิยมต่ำ” ชลธิชาลืมไปว่าโชติก็สั่งกาแฟของคนบ้านนอก ทำให้สกุณาหันไปมองหน้าคมเข้ม
“แฟนคุณก็คงไม่มีคลาสนะคะ เพราะเขาสั่งกาแฟบ้านนอกๆ ของที่นี่”
สกุณาตอบกลับจนโชติถึงกับสะอึก ชลธิชารู้ว่าตัวเองพลาดก็ยิ้มให้คนที่เธอทึกทักเอาเป็นแฟน เพราะความสนิทสนมตั้งแต่สมัยเรียน “ขอโทษค่ะโชติ ชลไม่ได้ตั้งใจว่าคุณเลยนะคะ” เธออ้อนเพื่อให้เขาไม่โกรธ
“ให้เกียรติลูกค้าหน่อยสิคุณ”
“คุณน่าจะบอกแฟนคุณมากกว่านะคะ หรือรักแฟนจนเห็นผิดเป็นชอบ” สกุณาไม่ขอทนเมื่อถูกตำหนิทั้งๆ ที่ไม่ผิด พนักงานสองคนเดินมายืนขนาบข้างเพื่อช่วยเหลือ
“ใช่น่ะสิยะ แฟนกันยังไงก็ต้องปกป้องกัน” ชลธิชาแว้ดเสียงใส่
สกุณามองเจ้าหล่อนด้วยหางตาทั้งๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน ก่อนจะสบตาคมเข้มใต้แว่นกันแดดหนา
“คุณผู้ชายสั่งอเมริกาโน่ รีบทำให้นะไม่ต้องคิดเงิน” สกุณาไม่อยากทะเลาะด้วยจึงตัดบทสนทนาแล้วเดินหนีไป
ชลธิชาเห็นท่าทีหยิ่งยโสของหญิงสาวก็อยากเอาชนะ ผู้หญิงบ้านๆ จะมองไม่เห็นหัวนักเรียนนอกอย่างเธอไม่ได้
“เดี๋ยว หล่อนจะไปไหนไม่ได้ มาชงกาแฟแล้วทำน้ำแตงโมปั่นให้ฉันก่อน”
เมื่อถูกจิกเรียก สกุณาก็เบรกตัวเองแล้วหันมาเผชิญหน้าอย่างไม่กลัวเช่นกัน พนักงานเดินมากุมมือกำนันสาวอย่างหวั่นๆ ว่าจะมีเรื่อง
“ไม่เป็นไรค่ะกำนัน หนูทำเอง”
“ไม่ได้ ฉันจะให้แม่นี่ทำ ถ้าไม่อยากถูกถอนใบประกาศอะไรของเธอก็ทำตามที่ฉันสั่ง ไม่งั้นเห็นดีกันแน่” ชลธิชาขู่แล้วกอดแขนโชติเดินไปที่โต๊ะริมระเบียง
สกุณาไม่อยากทำให้ร้านเสียชื่อจึงยอมไปปั่นน้ำแตงโมให้ เมื่อปั่นเสร็จก็เทใส่แก้วส่งให้เด็กเอาไปเสิร์ฟ แต่เด็กในร้านหมั่นไส้ เดินไปที่กระถางดอกไม้หยิบหนอนเขียวตัวใหญ่ใส่ลงไปด้วย
“มาแล้วค่ะ” พนักงานนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟยิ้มๆ แล้วเดินกลับไป
โชติดื่มกาแฟ ชลธิชาพัดโบกมือให้ตัวเองคลายร้อนแล้วยกแก้วน้ำปั่นขึ้นดื่ม ความกระหายทำให้เธอดื่มไปเกือบครึ่งแก้วจนรู้สึกมีอะไรนุ่มๆ แตะที่ริมฝีปากจึงยกแก้วออกดู หนอนตัวเขียวขนาดนิ้วชี้ดิ้นแด่วๆ เริงร่าอยู่ในน้ำแตงโมปั่น
“กรี๊ดดด…” แล้วก็ต้องร้องลั่นร้าน พร้อมกับซอยเท้าถี่ยิบเมื่อเห็นหนอนตัวเขียวอยู่ในแก้ว “นังกำนันบ้านนอก แกแกล้งฉัน” ชลธิชามองหาสกุณา โชติเองก็ตกใจไม่คิดว่าจะเจออะไรแบบนี้ แถมมาเจอนิสัยแย่ๆ ของเพื่อนสาวอีก
“ช่างเถอะชล เราไปกันดีกว่า” โชติหยิบเงินวางบนโต๊ะแล้วเดินไปก่อน ชลธิชาจำต้องเดินตามและจ้องพนักงานในร้านอย่างโมโห
“ฝากไว้ก่อนเถอะพวกบ้านนอก” เธอพึมพำด้วยแววตาลุกวาวขณะเดินไปขึ้นรถ พนักงานในร้านพากันอมยิ้มอย่างอดขำไม่ได้
สกุณาขับรถจี๊ปกลับมาที่บ้าน สีหน้าบอกบุญไม่รับทำให้คนเป็นพ่ออย่างอดีตกำนันชื่อดังต้องแปลกใจ หยุดการสนทนากับอุบลไปโดยปริยาย
“เอ้า นังหนู ทำไมหน้าบูดเหมือนตูดเป็ดอย่างนั้นล่ะ” นายพุดทักบุตรสาวด้วยสำเนียงเหน่อๆ
สกุณายกมือไหว้อุบลอย่างนอบน้อมแล้วกระแทกก้นนั่งลงข้างบิดา
“เจอพวกไฮโซชอบดูถูกคนน่ะสิพ่อ” สกุณาตอบบิดาด้วยสำเนียงพื้นบ้านเช่นกัน
อุบลขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าไฮโซที่ไหนมีเรื่องกับกำนันสาว
“ใครทำให้หนูนาโกรธ คงนิสัยแย่มากๆ นะป้าว่า”
“เขาสองคนนิสัยแย่มากๆ เลยค่ะคุณป้า ผู้ชายก็ขี้เก๊กหลับหูหลับตาเข้าข้างแฟนตัวเองอยู่นั่นแหละ พูดแล้วของขึ้น หนูนาขอไปอาบน้ำให้อารมณ์เย็นก่อนนะจ๊ะ” ร่างระหงลุกขึ้นยืนแล้วเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง
ตาพุดส่ายหัวกับอารมณ์หงุดหงิดของบุตรสาวซึ่งไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก
“เจ้าลูกคนนี้ บทจะร้ายก็เป็นซะอย่างนี้”
“ฉันว่าหนูนาเป็นคนจิตใจดีมากนะตาพุด” อุบลยกถ้วยน้ำชาขึ้นจิบแล้ววางลงที่เดิม “ตาพุดจะว่าอะไรมั้ย ถ้าฉันจะขอหนูนามาเป็นลูกสะใภ้”
“ฮะ! คุณอุบลว่าอะไรนะครับ” ตาพุดตกใจอุทานเสียงดังลั่นบ้านจนอุบลต้องยกมือทาบอก
“ฉันพูดจริงๆ นะกำนัน ฉันถูกชะตากับหนูนามาก เลยจะขอไปเป็นลูกสะใภ้ กำนันเรียกสินสอดเท่าไหร่ว่ามาได้เลย” น้ำเสียงจริงจังของอุบลทำเอาตาพุดรู้ว่าฟังไม่ผิด
“ยัยหนูนาเหมือนม้าดีดกะโหลก ลูกชายคุณอุบลจะยอมเหรอครับ” เมื่อหายตกใจตาพุดก็เข้าโหมดปกติ
อุบลยกมือโบกไปมา
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ฉันจัดการเอง ว่าแต่กำนันจะยกลูกสาวให้ฉันหรือเปล่า” อุบลมองตาพุดเพื่อรอเอาคำตอบ
คนเป็นพ่อมีหรือจะปฏิเสธเพราะอยากให้ลูกได้ดิบได้ดี
“หรือกำนันรังเกียจฉันใช่ไหม”
“เปล่าครับเปล่า แต่เรื่องใหญ่แบบนี้ผมคงขึ้นอยู่กับลูกครับ”
“ตาพุดตอบตกลงนะ” อุบลตอบเองอย่างยินดี และคนต้นเรื่องก็มาถึงบ้านกำนันพุดพร้อมกับชลธิชา
“ฉันรู้แล้วล่ะว่าไฮโซที่หนูนาพูดถึงเป็นใคร” อุบลมองบุตรชายกับชลธิชาพลางถอนหายใจเบาๆ
*** ขอบคุณคร้า ***
