
บทย่อ
เมื่อสกุณากำนันสาวนักพัฒนา ต้องโคจรมาพบกับโชติหนุ่มเมืองกรุงมาดเนี๊ยบทุกกระเบียดนิ้วความสนุกจึงบังเกิดขึ้น““ผมไม่ชอบบ้านอกแบบนี้เลยให้ตายสิ” โชติยกมือเท้าสะเอวขณะมองทุ่งนารอบๆ ตัว สกุณาเกิดหมั่นไส้ขึ้นมาจึงลดตัวลงไปกอบขี้โคลนเหลวๆ แล้วปาใส่“ยิ่งเกลียดยิ่งต้องโดนแบบนี้” “เฮ้ย…เธอ ทำอะไรเนี่ย” โชติยกแขนขึ้นขณะก้มมองขี้โคลนที่ติดเสื้อเชิ้ตราคาหลายหมื่น “เธอ ยัยกำนันอินดี้ตัวแสบ รังแกคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง” โชติตรงไปหาเพื่อเอาคืน แต่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ พากันปาขี้โคลนใส่ชายหนุ่มเพื่อปกป้องกำนันสาว“พอแล้วจ้ะพี่ป้าน้าอา” สกุณายกมือห้าม ชาวบ้านก็เชื่อฟังก้มลงไปดำนาอย่างเดิม หญิงสาวเห็นหน้าแดงก่ำของชายหนุ่มก็ปล่อยคิกออกมา“หัวเราะอะไร”“เปล๊า แค่เห็นหมีตัวใหญ่โดนปาโคลนใส่แล้วอดขำไม่ได้” เธอยืนกอดอกมองสภาพชายหนุ่ม เฮ้ย…คนอะไรขี้โคลนเปื้อนไปทั้งตัวผมยังไม่ตกทรงเล้ย…พอแกล้งกันไปแกล้งกันมาความรักใสๆ ที่ทำให้หัวใจพองโตก็เกิดขึ้นในหัวใจคนทั้งสอง แล้วสาวอินดี้จอมแสบก็เลยกลายเป็นที่รักของหนุ่มกรุงจนได้…
1.กำนันอินดี้
คำโปรย
เมื่อสกุณากำนันสาวนักพัฒนา ต้องโคจรมาพบกับโชติหนุ่มเมืองกรุงมาดเนี๊ยบทุกกระเบียดนิ้วความสนุกจึงบังเกิดขึ้น““ผมไม่ชอบบ้านอกแบบนี้เลยให้ตายสิ” โชติยกมือเท้าสะเอวขณะมองทุ่งนารอบๆ ตัว สกุณาเกิดหมั่นไส้ขึ้นมาจึงลดตัวลงไปกอบขี้โคลนเหลวๆ แล้วปาใส่“ยิ่งเกลียดยิ่งต้องโดนแบบนี้” “เฮ้ย…เธอ ทำอะไรเนี่ย” โชติยกแขนขึ้นขณะก้มมองขี้โคลนที่ติดเสื้อเชิ้ตราคาหลายหมื่น “เธอ ยัยกำนันอินดี้ตัวแสบ รังแกคนอื่นแบบนี้ได้ยังไง” โชติตรงไปหาเพื่อเอาคืน แต่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ พากันปาขี้โคลนใส่ชายหนุ่มเพื่อปกป้องกำนันสาว“พอแล้วจ้ะพี่ป้าน้าอา” สกุณายกมือห้าม ชาวบ้านก็เชื่อฟังก้มลงไปดำนาอย่างเดิม หญิงสาวเห็นหน้าแดงก่ำของชายหนุ่มก็ปล่อยคิกออกมา“หัวเราะอะไร”“เปล๊า แค่เห็นหมีตัวใหญ่โดนปาโคลนใส่แล้วอดขำไม่ได้” เธอยืนกอดอกมองสภาพชายหนุ่ม เฮ้ย…คนอะไรขี้โคลนเปื้อนไปทั้งตัวผมยังไม่ตกทรงเล้ย…พอแกล้งกันไปแกล้งกันมาความรักใสๆ ที่ทำให้หัวใจพองโตก็เกิดขึ้นในหัวใจคนทั้งสอง แล้วสาวอินดี้จอมแสบก็เลยกลายเป็นที่รักของหนุ่มกรุงจนได้…
*** ทักทายคร้า วันนี้เสิร์ฟนิยายสไตล์น่ารักๆ ท่ามกลางความเป็นลูกทุ่งคร้า เป็นเรื่องสาวสนุกๆ ของกำนันสาวกับหนุ่มนักเรียนนอก จะสนุกแค่ไหนไปติดตามกันเลยจ้า ***
รถเบนซ์สีดำคันหรูแล่นช้าๆ ไปบนถนนลูกรังที่สองข้างทางรายล้อมไปด้วยทุ่งนาเขียวขจี เพื่อให้ อุบล อัครเมฆ เจ้าของธุรกิจสินค้าเกษตรวัยใกล้หกสิบได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติงดงามของท้องทุ่งนา ดวงตายับย่นของผู้สูงวัยมองพื้นนาเขียวขจีสุดลูกหูลูกตา ความสุขกระจายอยู่เต็มใบหน้า จนคนขับรถเก่าแก่อย่างนายสนพลอยสุขใจไปด้วย
“ไม่ได้มาซะนาน ที่นี่เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะตาสน”
“ครับ ตอนนี้ลูกสาวตาพุดที่ได้รับเลือกเป็นกำนันตำบลบางกระโทก ได้ต่อยอดกิจกรรมจากตาพุดจนชาวบ้านไม่ว่างงานกันเลยครับ” ตาสนพื้นเพเป็นคนที่บางกระโทกแห่งนี้บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังอย่างมีความสุข
“เด็กสาวๆ รุ่นใหม่น้อยคนนักจะทำแบบนี้ โชคดีของชาวบ้าน” นางอุบลเปรย ขณะมองสองฟากถนนด้วยแววตาเปี่ยมสุข
“กำนันสกุณามีเลือดพ่อเต็มๆ ขยันขันแข็ง ชาวบ้านทั้งรักทั้งเคารพเลยล่ะครับ” ตาสนบอกพลางมองร้านกาแฟที่อยู่ไม่ไกล
“คุณท่านจะให้จอดที่ร้านกาแฟมั้ยครับ”
“จอดสิ ฉันก็คอแห้งเหมือนกัน”
ตาสนจอดรถเสร็จก็รีบลงไปเปิดประตูหลัง อุบลก้าวลงมายืนข้างรถพร้อมกับสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าจนเต็มปอด ในขณะที่สายตามองร้านกาแฟขนาดเล็กที่ถูกตกแต่งทันสมัย ผสมผสานกับบรรยากาศแบบบ้านทุ่ง มีพื้นที่กว้างขวางจัดแบ่งโซนไว้หลากหลายแนว เริ่มจากโซนขายเครื่องดื่มซึ่งสร้างเป็นบ้านแบบโมเดิร์น มีระเบียงยื่นออกไปรับลมด้านข้าง ด้านหน้าเป็นคาเฟ่สำหรับสั่งเครื่องดื่มและอาหาร โซนท้องทุ่งนามีกระท่อมและทางเดินไม้ไผ่เดินเรียบต้นข้าว พร้อมกับพื้นที่นั่งเล่นริมน้ำ เรียกได้ว่าถูกใจคอถ่ายภาพธรรมชาติยิ่งนัก เพราะมีมุมสวยให้ถ่ายภาพเพียบเลยทีเดียว ถ้าเดินเข้าไปข้างในสุดจะได้พบกับอีกบรรยากาศแนวบ้านทุ่ง
อุบลเดินข้ามสะพานไม้ที่ทอดไปถึงประตูร้านด้วยรอยยิ้มที่เจืออยู่บนใบหน้า เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักสองคนสวมเสื้อคอกระเช้าใส่โจงกระเบนเดินยิ้มแป้นออกมาต้อนรับ
“สวัสดีค่ะ คาเฟ่มีรักยินดีต้อนรับค่ะ” ทั้งสองพนมมือไหว้แล้วพูดพร้อมกันจนอุบลอดเอ็นดูไม่ได้
“สวัสดีจ้ะ วันนี้ไม่ไปโรงเรียนหรือไงเรา” คุณหญิงทักทายด้วยรอยยิ้ม
“วันนี้วันหยุดค่ะคุณป้า กำนันก็เลยให้มาหารายได้พิเศษ” เด็กคนหนึ่งบอกเสียงเจื้อยแจ้ว
“เชิญคุณป้าข้างในเลยค่ะ” สองหนูน้อยพาอุบลไปนั่งที่ระเบียงโล่งซึ่งมองเห็นวิวสวยๆ ของทุ่งนาเขียวขจีได้รอบทิศ
ขณะที่คุณหญิงอุบลนั่งชมความงามอยู่นั้น สกุณาหรือกำนันสกุณา ใจกล้าหาญ ยืนตรวจรายรับรายจ่ายของร้านเสร็จก็เตรียมตัวจะกลับ แต่เห็นลูกค้านั่งรออยู่จึงมองหาพนักงานร้าน แต่ทุกคนก็ติดลูกค้าคนอื่นกันหมด กำนันสาวจึงหยิบเมนูเดินไปหา
“สวัสดีค่ะ รับเครื่องดื่มอะไรดีคะ”
อุบลดึงสายตาจากทุ่งนามามองใบหน้าเรียวรูปไข่ที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม “มีเมนูแนะนำมั้ย ฉันเองก็ไม่ค่อยถนัดเครื่องดื่มเท่าไหร่”
“ร้านมีเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพหลายอย่างค่ะ ที่ขึ้นชื่อทางร้านก็มีอัญชันมะนาว น้ำเสาวรสสดๆ จากสวนของเราเอง” สกุณาเปิดภาพประกอบ
“น่ากินทั้งนั้นเลยนะ เอาน้ำอัญชันมะนาวก็แล้วกัน” คุณหญิงมองเมนูแล้วเงยหน้าไปสั่ง พอดีกับพนักงานร้านเดินกุมมือมารับออร์เดอร์
“ลูกค้าสั่งน้ำอัญชันมะนาวจ้ะ” สกุณาส่งเมนูให้พนักงานแล้วยิ้มให้ลูกค้าที่เธอออกจะคุ้นๆ หน้าอยู่ไม่น้อย แต่คิดไม่ออกว่าเคยเห็นที่ไหน
“ขอบคุณที่มาใช้บริการร้านเรานะคะ หนูขอตัวนะคะ”
อุบลพยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้
“กำนันจะกลับเลยเหรอจ๊ะ” พนักงานร้านเอ่ยถามหญิงสาวด้วยสำเนียงเหน่อแบบคนสุพรรณ
สกุณาก็ตอบกลับด้วยสำเนียงเดียวกันได้อย่างไพเราะ
“ใช่จ้ะ ฉันไปก่อนนะ”
สกุณาไม่ทันจะเดินออกไป อุบลก็เอ่ยถามขึ้นซะก่อน
“หนูคือกำนันสกุณาใช่ไหม”
สกุณายิ้มรับขณะมองอุบลอย่างแปลกใจ “ใช่ค่ะ…”
“ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าฉันรู้จักกำนันได้ยังไง เพราะตั้งแต่ฉันก้าวลงจากรถก็ได้ยินชื่อกำนันแล้ว” อุบลมองหญิงสาวอย่างชื่นชม จังหวะนั้นเองตาสนก็เดินกุมมือเข้ามา
“ลุงสนสวัสดีค่ะ” สกุณายกมือไหว้อย่างคุ้นเคย “ลุงมาเมื่อไหร่จ๊ะ ไปหาพ่อหรือยัง” หญิงสาวถามเพราะคุ้นเคยกับตาสนมาตั้งแต่เด็ก พอไปเรียนกรุงเทพฯ ก็ไม่ค่อยได้เจอกัน
“เพิ่งมาถึง พาคุณท่านมาพักที่บ้านไร่พวงชมพู” ตาสนมองอุบลทำให้สุกณารู้ได้ทันทีว่าคนตรงหน้าคือใคร “ท่านคือคุณอุบล เจ้าของบ้านไร่พวงชมพู” ตาสนแนะนำ สกุณายกมือไหว้อีกครั้ง
“สวัสดีค่ะคุณท่าน นาต้องขอโทษด้วยนะคะที่ต้อนรับได้ไม่ดีเลย”
“ใครว่า กำนันต้อนรับดีทีเดียวล่ะ พอมีเวลามั้ยนั่งคุยกันก่อนสิ” อุบลมองเก้าอี้ตรงข้าม
สกุณามองตาสนนิดหนึ่งแล้วค่อยๆ ก้าวเข้าไปนั่ง
“ตาสนหาเครื่องดื่มกินเลยนะ ฉันขอคุยกับกำนันสักครู่”
“ครับคุณท่าน” ว่าแล้วตาสนก็ไปนั่งคุยกับลูกหลานที่รู้จัก พนักงานร้านนำน้ำอัญชันมะนาวมาเสิร์ฟแล้วกลับไป อุบลยกขึ้นจิบแล้วยอมรับว่าอร่อยไม่แพ้เครื่องดื่มยี่ห้อดังๆ ตามโรงแรมเลยทีเดียว
“ที่นี่เปลี่ยนไปเยอะ ได้ข่าวว่าคนเปลี่ยนแปลงคือกำนันใช่ไหม”
“เพราะชาวบ้านพร้อมใจกันพัฒนามากกว่าค่ะคุณท่าน” กำนันสาวตอบอย่างถ่อมตัว ยิ่งทำให้อุบลชื่นชมกำนันมากขึ้นกว่าเดิม
“เรียกคุณป้าดีกว่านะ เรียกคุณท่านดูเหมือนฉันจะยิ่งใหญ่ไปสักหน่อย” อุบลบอกยิ้มๆ ขณะมองดวงหน้าหมดจดอย่างเอ็นดู “ชาวบ้านได้ผู้นำที่ดีนะฉันว่า บางกระโทกถึงได้เจริญแบบก้าวกระโดดขนาดนี้”
“คงไม่ทั้งหมดค่ะคุณป้า เพราะบางคนยังขาดที่ดินทำกิน รับจ้างไปเรื่อยๆ แล้วต้องมาซื้อข้าวกิน ครอบครัวใหญ่ก็ลำบากหน่อย ที่นาบางส่วนก็ถูกยึดเพราะเป็นติดนายทุนหน้าเลือดบางคน นาเองก็พยายามรณรงค์เรื่องนี้อยู่ แต่ก็ยากเพราะบางคนก็ไม่มีทางเลือก”
“อืม…ที่ทางฉันก็ว่างอยู่หลายร้อยไร่ ถ้าจะให้ชาวบ้านไปทำมาหากินคงไม่มีปัญหา บางทีฉันอาจจะหนีความวุ่นวายมาอยู่ที่นี่ก็ได้นะ”
อุบลถอนหายใจเบาๆ เพราะเธอเองก็เบื่อชีวิตในสังคมชั้นสูง อยากมาอยู่สงบๆ ที่นี่เพราะไม่มีห่วงอะไรแล้ว โชติลูกชายคนเดียวของเธอทำงานทุกอย่างแทนได้แล้ว
“ถ้าคุณป้ากรุณาก็เป็นบุญของชาวบ้านค่ะ ขอบพระคุณมากๆ นะคะ ยังไงนาจะคัดเลือกชาวบ้านที่อยากทำจริงๆ ด้วยตัวเองค่ะ” กำนันสาวพนมมือไหว้อย่างดีใจ อย่างน้อยเธอก็ช่วยให้ชาวบ้านมีที่ทำกินได้ไม่ต่ำกว่าสิบราย
*** ขอบคุณคร้า ***
