ตอนที่ 2 เป็นห่วง
เสียงเห่าดังมาจากในบ้าน ทุกคนหันไปมอง เจ้าไซบีเรียนฮัสกี้สีน้ำตาลตัวใหญ่...สูงถึงเอว กระโดดโลดเต้นออกมาจากหลังบ้านเข้ามาหาแม่หนูน้อย
"เวตาล.."
น้องขวัญข้าวเรียกเสียงใส เธอดิ้นลงจากอ้อมกอดตา วิ่งเข้าหาเจ้าสี่ขาด้วยความดีใจ เจ้าเวตาลแสนรู้ มันดม ๆ ตัวหนูน้อยแล้วเห่า
นำพลอุ้มน้องขวัญข้าวขึ้นขี่หลังเจ้าเวตาล มีลูกน้องคนหนึ่งเอาสายจูงมาผูกคอให้ แล้วพาเจ้าเวตาลไปเดินเลียบชายหาด นำพลเดินตามไปดูหลาน
"ขวัญข้าวโตขึ้นมากเลยนะลูก"
จริยาพูดกับศลิษา
"5 ขวบแล้วนี่คะแม่"
"เรียนชั้นไหนแล้วล่ะ"
"อนุบาล 3 แล้วค่ะ อีกไม่นานนุ่นต้องหาโรงเรียนใหม่ให้อีกแล้ว"
"เอามาเรียนที่นี่ไหม...นุ่นจะได้ไม่ต้องลำบาก"
"ไม่เป็นไรค่ะแม่ นุ่นไม่ได้ลำบากอะไร น้องขวัญข้าวเลี้ยงง่ายค่ะ
จริยาลูบหัวลูกสาว พยักหน้าเบา ๆ
"ตามใจ...แล้วนี่จะมาสักกี่วันล่ะ"
"ก็...คงอยู่ถึงแค่เย็นวันอาทิตย์ค่ะ นุ่นมีงานต้องทำ ขวัญข้าวก็ต้องเรียนด้วย...ใกล้สอบแล้วค่ะ"
จริยาพยักหน้ารับรู้
"ขับรถมาตั้งนาน ขึ้นห้องไปพักผ่อนเถอะลูก"
ศลิษาเดินขึ้นห้องตัวเองที่ชั้นสอง ห้องของเธอยังเหมือนเดิมทุกอย่าง ข้าวของเครื่องใช้ก็ยังเหมือนเดิม ศลิษาเดินไปหยิบรูปที่หัวเตียงขึ้นมาดู เป็นรูปหญิงสาวสวยคนหนึ่ง...ยิ้มตาเป็นประกาย
"พี่ฝ้าย...นุ่นกลับมาแล้วค่ะ"
ในภาพคือพี่สาวแท้ ๆ ของเธอ ชื่อศิวิกาหรือฝ้าย เธอเป็นแม่แท้ ๆ ของน้องขวัญข้าว เธอเสียชีวิตหลังจากที่คลอดน้องขวัญข้าวได้แค่ 5 ชั่วโมง หมอบอกว่าเธออ่อนแอมาก และเสียเลือดจากการคลอด
ศลิษาจึงรับหลานสาวเป็นลูกบุญธรรม เพื่อไม่ให้เด็กน้อยต้องขาดแม่จนโดดเดี่ยวไปมากกว่านี้ น้องขวัญข้าวก็คิดว่าเธอเป็นแม่ โดยไม่เคยรู้ความจริงเลยว่าซลิศสเป็นแค่น้า
สิ่งที่ศลิษาข้องใจคือ ใครเป็นพ่อของน้องขวัญข้าว ก่อนที่ศิวิกาจะตาย เธอไม่ยอมบอกใครถึงเรื่องพ่อของเด็ก
ศลิษาเคยค้นเจอรูปชายหนุ่มหน้าตาดีจากกองข้าวของของพี่สาว เธอคิดว่าเขาอาจเป็นพ่อของน้องขวัญข้าว
แต่มันตั้ง 5 ปีมาแล้ว เธอไม่มีเบาะแสอะไรนอกจากรูปใบเดียว จึงไม่รู้จะสืบค้นหาจากที่ไหน แม้แต่เพื่อน ๆ ของศิวิกาก็ไม่รู้ นี่จึงยังเป็นปริศนาที่ศลิษาต้องแก้ไข
ศลิษาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมาข้างล่าง เห็นพ่อแม่เล่นกับน้องขวัญข้าว โดยมีเจ้าเวตาลกระโดดโลดเต้นอยู่ข้าง ๆ
"น้องขวัญข้าว...เลิกเล่นได้แล้วค่ะลูก ไปอาบน้ำเร็ว"
น้องขวัญข้าววิ่งเข้ามาหาศลิษา
"คุณแม่ขา...ข้าวขี่เวตาลสนุกมากเลยค่ะ"
หนูน้อยบอกเธอเสียงใส ศลิษาเช็ดความมอมแมมจากแก้มลูกสาว
"ดูสิ...มอมแมมเชียว ไปอาบน้ำกับพี่มะลินะคะคนดี"
หนูน้อยพยักหน้า ยอมให้พี่เลี้ยงจูงไปแต่โดยดี จริยาส่ายหัวเอ็นดูหลานสาวตัวน้อย หญิงสาวลงนั่งข้างแม่
"เฮ้อ...น้องขวัญข้าวน่ารักขึ้นทุกวัน กว่าจะโต...นุ่นต้องเลี้ยงอีกนานนะลูก แล้วครอบครัวของนุ่นเองล่ะลูก จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน"
ศลิษาก้มหน้าถอนใจ
"ถ้าน้องขวัญข้าวยังหาพ่อไม่เจอ นุ่นก็คงต้องเลี้ยงแกไปเรื่อย ๆ แบบนี้ค่ะแม่"
"นี่ก็ตั้ง 5 ปีแล้วนะนุ่น...เราไม่มีเบาะแสอะไร...จะไปหาที่ไหนได้ล่ะ พ่อว่า...นุ่นเอาน้องขวัญข้าวมาให้พ่อกับแม่เลี้ยงเถอะ ลูกจะได้มีเวลาหาคนดี ๆ สักคน...มาสร้างครอบครัวของตัวเอง"
นำพลลูบหัวบอกลูกสาว ศลิษาส่ายหัวอย่างดื้อดึง
"นุ่นอายุยังน้อย ยังไม่คิดจะรีบมีครอบครัวหรอกค่ะ พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ นุ่นต้องหาพ่อให้น้องขวัญข้าวได้แน่ ๆ ค่ะ"
ศลิษาพูดแล้วเดินขึ้นข้างบนไปดูลูกสาว นำพลกับจริยาได้แต่ส่ายหัวให้กัน พวกเขาเป็นห่วงลูกสาวมาก ศลิษารักน้องขวัญข้าวจนไม่คิดถึงอนาคตตัวเอง นำพลกับจริยาได้แต่เป็นห่วง
ตอนที่ 2 เรือนหอ
"ครับ...ได้ครับ...ไม่ต้องห่วงนะครับ สินค้าส่งทันตามวันเวลาแน่นอนครับ...ขอบคุณมากครับ"
ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้ม...เป่าปากเบา ๆ แล้ววางสาย
"ค่อยยังชั่ว...เสร็จอีกรายแล้ว"
เสียงเคาะประตูเบา ๆ ชายหนุ่มเงยหน้ามอง พอเห็นว่าเป็นใคร เขาก็ยิ้มลุกมาหา
"ทำแต่งาน...พักบ้างนะคะจุ้น"
"งานกำลังยุ่งเลยครับ มีลิลลี่มาเป็นกำลังใจให้...ผมสู้ตาย"
คีตภัทรหรือจุ้น ชายหนุ่มรูปหล่ออายุ 26 ปี โอบไหล่คนรักมานั่งที่โซฟา หญิงสาวถือถุงมาหลายถุง เธอวางมันลงบนโต๊ะ
"ซื้ออะไรมาเยอะแยะครับเนี่ย"
ลิลลี่หรือลีลาวดี สาวสวยวัย 25 ยิ้มให้คนรัก
"ของชอบจุ้นทั้งนั้นแหละค่ะ ลิลลี่ซื้อมาให้ รู้ว่าจุ้นคงยังไม่ทานอะไรแน่ ๆ...ใช่ไหมคะ"
"ใช่ครับ...เห็นแล้วหิวเลยล่ะ ขอบคุณมากนะลิลลี่"
ชายหนุ่มหอมแก้มคนรัก ทั้งสองนั่งกินกันเงียบ ๆ
"จุ้นไปดูเรือนหอบ้างหรือยังคะ ไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้"
"เพิ่งไปดูมาเมื่อวันก่อนครับ จวนเสร็จแล้ว กำลังทาสี...ขาดแต่ตกแต่งภายใน"
"อื้อ...จะหาใครมาทำตรงนี้ล่ะคะ มัณฑนากรเก่ง ๆ ก็หายาก ถึงมีก็ค่าตัวแพงมากเลยค่ะ"
"ไม่เป็นไรครับ เรื่องนี้ผมจัดการเอง ยังไงก็ทันวันแต่งเราแน่นอนครับ...ไม่ต้องห่วง"
ลีลาวดียิ้มเขิน เธอกับเขาเป็นแฟนกันมา 3 ปี และมีกำหนดจะแต่งงานกันสิ้นปีนี้
"ทุกอย่างพร้อมแล้ว เหลือแต่เวลาเท่านั้น"
ชายหนุ่มบอกแฟนสาวยิ้ม ๆ
"ค่ะจุ้น...ลิลลี่ตื่นเต้นจังเลยค่ะ"
คีตภัทรยิ้ม...เขาไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนลีลาวดี เขากังวลมากกว่า เพราะแม่ของเธอเป็นคนเรื่องมาก ชอบติโน่นตินี่อยู่เสมอ สินสอดทองหมั้นก็เรียกจนเขาแทบจะหมดตัว คีตภัทรจึงค่อนข้างกังวลกับการแต่งงานครั้งนี้ ไม่รู้ว่า...ว่าที่แม่ยายจะเรียกร้องอะไรเขาอีก
