บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 ราเมนร้อน ๆ กับหัวใจที่เริ่มละลาย

เสียงฝีเท้าเบา ๆ ของฉันก้าวย่ำลงบนหิมะกรอบกรับในความเงียบ

เสียงนั้นเล็กน้อยนัก เมื่อเทียบกับความกว้างใหญ่ไร้ขอบเขตของลานหิมะที่แผ่ขยายอยู่รอบตัว

ฉันกอดกระเป๋าส่งอาหารแนบตัวแน่น เดินตามหลังชายหนุ่มผู้มีเรือนผมสีครามเข้มที่ปลิวลู่ตามแรงลมเบา ๆ อย่างสง่างาม

ร่างสูงโปร่งของเขาเป็นเหมือนเส้นทางนำทางเดียวในโลกที่ไร้จุดหมายนี้

ลมหิมะที่เคยเกรี้ยวกราด ราวกับโกรธเกรี้ยวเมื่อครู่ บัดนี้กลับสงบนิ่งอย่างประหลาด ราวกับธรรมชาติเองยังยอมสยบให้กับการปรากฏตัวของเขา

หลงอวิ๋น — ฉันยังไม่รู้จักชื่อจริงของเขาในตอนนี้

แต่ในใจของฉัน...ได้ตั้งชื่อให้เขาเงียบ ๆ ว่า "เจ้าชายน้ำแข็ง"

เมื่อก้าวผ่านประตูวังเข้าไป...

ฉันเผลออ้าปากค้างโดยไม่รู้ตัว

ภายในวังน้ำแข็ง...

ไม่ได้เยือกเย็นน่ากลัวเหมือนที่ฉันเคยจินตนาการเอาไว้เลย

ตรงกันข้าม — มันสวยงามจนแทบหยุดหายใจ

ห้องโถงใหญ่เบื้องหน้าสูงเสียดเพดาน ราวกับแผ่นฟ้าถูกยกมาครอบวังแห่งนี้

เสาหินน้ำแข็งบริสุทธิ์ตั้งตระหง่านแต่ละต้นแกะสลักลวดลายอย่างประณีต —

มังกรน้ำแข็ง พันตัวลอยละลิ่วขึ้นไปสู่ความสูง ราวกับจะทะยานสู่ท้องฟ้า

เพดานประดับด้วย คริสตัลน้ำแข็งนับพัน

แต่ละเม็ดเจียระไนเป็นรูปทรงดวงดาวและดอกไม้เรืองแสงจาง ๆ ส่องประกายระยิบระยับเหมือนดวงดาวที่จับต้องได้

แสงสีฟ้าจาง ๆ ลอดผ่าน หน้าต่างกระจกน้ำแข็งหนา รอบห้องโถง

สร้างเงาสะท้อนเลือนลางบนพื้นน้ำแข็งใสที่ขัดเงาจนเห็นเงาตัวเองสะท้อนอยู่ใต้ฝ่าเท้า

เงาของฉันเดินขนานไปกับเงาของเขา — คล้ายกับเราเป็นสองภาพเงาในโลกที่หยุดหมุนไปแล้ว

ทุกอย่างเงียบสงบ...

เงียบจนแม้แต่เสียงลมหายใจยังชัดเจน

อากาศเย็นจัด แต่แฝงด้วยความอบอุ่นลึก ๆ บางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้

เหมือนว่าที่นี่...ไม่ใช่สถานที่ธรรมดา แต่เป็นห้วงเวลาที่ถูกเก็บรักษาเอาไว้โดยฤดูหนาวนิรันดร์

'สวยเหมือน...โลกในเทพนิยายเลย'

ฉันคิดในใจอย่างตื่นตะลึง ดวงตากลมโตไล่มองไปรอบห้องอย่างตื่นตาตื่นใจ ไม่อาจละสายตาได้เลย

แต่ในความงามตระการตาเหล่านั้น...

กลับแฝงไว้ด้วยความเงียบเหงา และความเย็นยะเยือกที่ซึมลึกเข้าถึงกระดูก

มันเป็นความเงียบที่ไม่ใช่แค่ไร้เสียง

แต่มันคือความว่างเปล่าที่ชวนอ้างว้าง เหมือนกาลเวลาทั้งหมดถูกตรึงให้หยุดนิ่งอยู่ในห้วงหนาวนิรันดร์

เหมือนตัวเจ้าของวังแห่งนี้ — ผู้ซึ่งเดินนำฉันอยู่เบื้องหน้า

หลงอวิ๋น

ร่างสูงในชุดคลุมสีเงินนั้นหยุดลงตรงกลางโถงน้ำแข็งที่เงียบสงัด เขาหันกายกลับมาอย่างช้า ๆ — ผ้าคลุมหนาหนักสะบัดแผ่วในอากาศ ดวงตาสีฟ้าเข้มนิ่งสงบเย็นเฉียบ จ้องตรงมาโดยปราศจากคลื่นอารมณ์ใด ๆ เหมือนผิวน้ำแข็งที่แข็งตัวมาแล้วพันปี

"ส่งมันมา"

น้ำเสียงของเขาราบเรียบ — ไม่มีคำสั่ง ไม่มีความก้าวร้าว — แต่แผ่แรงกดดันอ่อน ๆ พอให้หัวใจฉันเต้นผิดจังหวะ

ฉันรีบถอดกล่องราเมนออกจากกระเป๋าส่งอย่างลนลาน สองมือสั่นน้อย ๆ ขณะยื่นกล่องเรืองแสงอ่อน ๆ ไปให้เขา

กล่องอาหารพิเศษของ Omnibite ยังแผ่ไออุ่นบางเบาออกมา — กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของราเมนร้อน ๆ ลอยอวลเป็นม่านบาง ๆ ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บของวัง

หลงอวิ๋นเอื้อมมือมารับอย่างสงบนิ่ง นิ้วเรียวยาว ขาวซีดอย่างกับน้ำแข็ง แตะเบา ๆ ลงบนฝากล่อง

เขาเปิดมันออกด้วยท่วงท่าเรียบง่าย —

เหมือนเปิดกล่องสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดในโลก

ทันใดนั้น...

กลิ่นราเมนอันหอมกรุ่นก็พวยพุ่งขึ้น

ไออุ่นร้อน ๆ กระทบกับอากาศเย็นจัดจนกลายเป็นม่านหมอกจาง ๆ ลอยขึ้นเหนือกล่อง ราวกับเวทมนตร์แห่งฤดูหนาวกำลังเต้นระบำ

ฉันเผลอกลั้นหายใจ — เฝ้าจับตามองเขาอย่างตื่นตระหนก

หลงอวิ๋นขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างลังเล

สายตาคู่นั้นเหมือนกำลังตัดสินใจอยู่ระหว่างความระแวงระวัง และความอยากรู้อย่างลึกซึ้งที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ทันรู้ตัว

ในที่สุด...

เขาก็ค่อย ๆ หยิบตะเกียบที่แนบมาในกล่อง จับเส้นราเมนอวบอิ่มขึ้นมาอย่างประณีต —เส้นราเมนสีแดงทอง เปล่งประกายเล็กน้อยในแสงสะท้อนของคริสตัลน้ำแข็ง ไออุ่นจากเส้นราเมนยังคงระเหยขึ้นเป็นม่านบาง ๆ ลมหายใจแผ่วเบาของเขาเป่าเส้นราเมนเบา ๆ — ทำให้ม่านไออุ่นนั้นเต้นระริก

ทุกกิริยาของเขาช่างระมัดระวัง อ่อนโยน จนฉันเกือบลืมหายใจตาม

แล้ว...

เขาก็ลิ้มรสเส้นราเมนคำแรก

หลงอวิ๋นเคี้ยวช้า ๆ ไม่รีบร้อน

แววตานิ่งเฉยตามแบบฉบับของเขา...แต่ชั่วขณะหนึ่ง —

ชั่วเสี้ยววินาทีที่แทบมองไม่ทัน

ดวงตาสีฟ้าเยือกแข็งคู่นั้นไหววูบลงเล็กน้อย

เศษเสี้ยวบางสิ่งแวะมาเยือนสายตาเขา —

บางสิ่งที่อบอุ่น อ่อนโยน และเปราะบาง...

เหมือนน้ำแข็งพันปีถูกแตะต้องด้วยไออุ่นจากวันวาน

แม้สีหน้าของเขาจะกลับมาเยือกเย็นดังเดิมในพริบตา

แม้ไม่มีถ้อยคำ ไม่มีรอยยิ้ม

แต่ฉันสัมผัสได้ —

ว่ามีรอยร้าวเล็ก ๆ เกิดขึ้นในหัวใจที่เคยแข็งทื่อของเขาแล้ว

เพราะเพียงราเมนชามหนึ่ง เพราะเพียงไออุ่นเล็ก ๆ จากอีกโลกหนึ่งที่เขาไม่เคยสัมผัสมานานแสนนาน

ฉันยืนกอดกระเป๋าแน่น ใจยังเต้นระรัวไม่หาย

ขณะที่หลงอวิ๋นวางตะเกียบลงข้างกล่องราเมนอย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางโถงน้ำแข็งที่เงียบงัน

สายตาเขาเหลือบต่ำลงเล็กน้อย —

จับจ้องไปยังอกเสื้อของฉันที่กระเพื่อมไหวอย่างน่าสงสัย

ฉันก้มตามสายตาเขา แล้วรีบเบิกตากว้าง

เจ้าก้อนขนขาวที่ฉันห่อไว้ในผ้าพันคอเริ่มขยุกขยิก ดิ้นน้อย ๆ ส่งเสียง "คิ๊ว~" เบา ๆ ราวกับกำลังงัวเงียตื่นจากฝัน

"เอ่อ..."

ฉันยิ้มแห้ง ๆ รีบคลี่ผ้าเผยให้เห็นเจ้าลูกจิ้งจอกน้อยตัวนั้น ขนสีขาวระยิบระยับราวเกล็ดหิมะ ท่ามกลางลมหายใจอุ่น ๆ ที่ไหลวนอยู่รอบตัวมัน

หลงอวิ๋นก้าวเข้ามาใกล้อีกนิด

สายตาของเขาจับจ้องลูกจิ้งจอกเล็กด้วยแววตานิ่งสงบ — แต่ในความนิ่งนั้นมีบางอย่างเปลี่ยนไป

ไม่ใช่ความเย็นชาอีกต่อไป

แต่เป็นแววระแวดระวัง...ปนกับความเศร้าลึก ๆ ที่แทบไม่สังเกตเห็น

"นั่นคือ..."

เขาพึมพำเสียงแผ่ว ราวกับพูดกับตัวเองมากกว่าพูดกับฉัน

"คะ?" ฉันถามเบา ๆ

"ลูก 'ไป๋หลิง'"

เขากล่าว ดวงตาสีน้ำแข็งสะท้อนประกายครุ่นคิดลึกซึ้ง

"สัตว์จิตวิญญาณประจำหิมะ...มีชีวิตอยู่ได้ด้วยการแบ่งลมหายใจจากแม่เท่านั้น"

ฉันเบิกตากว้าง หัวใจร่วงวูบ

"ถ้ามันหลงจากแม่...ไม่นานนัก มันจะ..."

เขาหยุดไปนิดหนึ่ง ก่อนจะกล่าวต่อด้วยเสียงเรียบเย็น

"...ตาย"

คำว่า "ตาย" สั้น เรียบ และหนักพอจะทำเอาอกของฉันปวดแปลบ

ฉันกอดเจ้าก้อนขนน้อยแน่นโดยไม่รู้ตัว เหมือนสัญชาตญาณกำลังพยายามปกป้องมันไว้

"ไม่ได้นะ..."

ฉันกระซิบ รู้สึกเหมือนน้ำตารื้นขึ้นมาที่ขอบตา

"นายต้องรอดนะ...เจ้าจิ้งจอกน้อย..."

หลงอวิ๋นยืนนิ่งอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะยกมือขึ้นช้า ๆ

ปลายนิ้วของเขาวาดเส้นเวทสีฟ้าอ่อนกลางอากาศ แสงเย็น ๆ ส่องสว่างเหมือนริบบิ้นน้ำแข็งที่ไหลเคลื่อนไปตามปลายนิ้วเรียวยาวนั้น

เส้นเวทค่อย ๆ ทอประกาย ร้อยเรียงกันกลายเป็น กรงน้ำแข็งใสกริบ ประดับด้วยเกล็ดหิมะละเอียดที่ระยิบระยับราวเพชร

กรงนั้น...สวยงามราวกับหลุดมาจากตำนาน

"ข้าจะผนึกพลังชีวิตจำลองของแม่มัน...ไว้ในกรงนี้"

เสียงของหลงอวิ๋น...นุ่มลง แทบสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ หลังผืนน้ำแข็งหนาแน่นนั้น

"มันจะอยู่ได้...จนกว่าจะพบแม่ตัวจริง"

ฉันจ้องเขาอย่างไม่เชื่อสายตา

"คุณ...ช่วยมันไว้จริง ๆ เหรอ..."

หลงอวิ๋นไม่ตอบ เขาเพียงเบือนหน้าหลบเบา ๆ อย่างไม่ต้องการรับคำขอบคุณหรือคำชมใด ๆ

ฉันประคองเจ้าจิ้งจอกน้อยเข้าไปวางลงในกรงเวท

กรงน้ำแข็งเปล่งไออุ่นจาง ๆ โอบล้อมเจ้าก้อนขนขาวราวกับอ้อมแขนอ่อนโยนของแม่

เจ้าตัวน้อยส่งเสียง "คิ๊ว~" อย่างพอใจ ขยับหูนิด ๆ แล้วขดตัวหลับปุ๋ย ท่ามกลางแสงเวทอันอบอุ่น

ฉันยิ้มกว้างอย่างโล่งใจ หัวใจอุ่นวาบเหมือนไฟเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ ลุกโชนขึ้นในอก

ก่อนจะเงยหน้ามองชายหนุ่มผู้เย็นเยียบตรงหน้า

"ขอบคุณค่ะ...จากใจจริง"

หลงอวิ๋นยังคงไม่ตอบ

แต่แค่การที่เขายืนนิ่ง ไม่เร่งรัด ไม่ผลักไส...

ก็เหมือนกับว่าเขากำลังฟัง — และรับรู้ความรู้สึกของฉันอย่างเงียบ ๆ

ฉันก้มมองเจ้าก้อนขนขาวในกรงเวทอีกครั้ง แล้วยิ้มบาง ๆ

"นายต้องมีชื่อนะ..."

ฉันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มกว้างอย่างตัดสินใจได้

"งั้น...เรียกว่า 'หยกหิมะ' ละกัน"

"เพราะนายตัวนุ่ม ๆ ขาว ๆ เหมือนก้อนหยกในหิมะเลย"

เจ้าก้อนน้อยขยับหูเบา ๆ เหมือนตอบรับอย่างอารมณ์ดี

ทุกอย่างในโถงน้ำแข็ง...เงียบสงบลง

หลงอวิ๋นสะบัดชายเสื้อเบา ๆ ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

"ตามข้ามา"

แล้วเขาก็หันหลัง เดินต่อไป

ราวกับทุกอย่างที่เพิ่งเกิดขึ้นเป็นเพียงภาพสะท้อนน้ำที่ปลิวหายไปกับสายลม

ฉันหอบเจ้ากรงน้ำแข็งแนบอก กระชับกระเป๋าอาหารไว้แน่น แล้วรีบก้าวเท้าตามเขาไป

ในใจฉันอบอุ่นแปลก ๆ ราวกับว่า...

ความเย็นยะเยือกที่เคยโอบล้อมตัวมาตลอด เริ่มมีแสงไฟดวงน้อย ๆ ค่อย ๆ ลุกขึ้นทีละนิด

❄️ ?❄️ ?❄️ ?❄️ ?❄️ ?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel