บท
ตั้งค่า

ศาลาริมน้ำ

3 วันต่อมา จวนแม่ทัพต่างวุ่นวายกันตั้งแต่เช้ามืด รวมถึงเว่ยซีอิงและจิงอี่ด้วย วันนี้เป็นวันที่คุณชายใหญ่กลับมาที่จวน พวกนางต่างพากันไปช่วยจัดห้องโถง จัดระเบียงให้ดูสวยงามสะอาดตา จัดสวนด้วยต้นโม่ลี่เป็นส่วนใหญ่ และทั้งสองยังต้องไปช่วยโรงครัวทำขนมเพื่อรอต้อนรับคุณชายใหญ่อีกด้วย จวนแห่งนี้คือจวนแม่ทัพไป่ซือฮุ่ย ท่านแม่ทัพอายุ 50 ปีแล้วแต่ท่าทางยังภูมิฐาน หน้าตาราวกับชายหนุ่มอายุ 30 ปลายๆ มีฮูหยินเพียงหนึ่งเดียวคือฮูหยินไป๋หลิงฟาง มีบุตรชาย 2 คน คนแรกคือคุณชายใหญ่ นามว่าไป๋หลิงเฟิง อายุย่าง 18 ปี เป็นคนเงียบสุขุม เก่งทั้งบุ๋นและบู๋ จึงสอบเข้าไปเป็นศิษย์สำนักหลิงซานซึ่งเป็นอีกหนึ่งสำนักใหญ่ในเมืองหลวงว่ากันว่าสำนักนี้ส่วนใหญ่มีแต่เชื้อพระวงค์ที่เข้าไปศึกษา อีกคนคุณชายรองนามว่า ไป๋หลิงหมิง อายุ 12 ปีเท่านั้น คุณชายรองเป็นคนร่าเริง ชอบการต่อสู้แต่ไม่ชอบตำรา และด้วยอายุยังน้อยจึงยังไม่เข้าศึกษาที่ใด เมื่อทุกคนจัดเตรียมของเรียบร้อยจึงพาไปยืนเรียงกันรอรับคุณชายใหญ่หน้าประตูจวน

เวลาล่วงเลยมาถึงยามอู่ (11.00 - 12.59 น.) สิ่งที่ทุกคนรอคอยก็ปรากฎตัวขึ้น ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาเหมือนโอปป้าเกาหลี หน้านิ่ง ผิวขาว ยิ่งใส่ชุดขาวยิ่งขับผิวทำให้ขาวยิ่งขึ้น ในมือถือพัดที่พับเก็บไว้เดินเข้ามาพร้อมกับชายรับใช้คนสนิท 1 คน

“หลิงเฟิง ลูกแม่ ” ฮูหยินไป๋ร้องเรียกบุตรชาย พร้อมทั้งเดินเข้าไปโอบกอดบุตรชายของตนเอาไว้

“เจ้ากลับมาแล้ว แม่คิดถึงเจ้ายิ่งนัก เป็นอย่างไรบ้าง สบายดีหรือไม่ กินอันใดมาหรือยัง แม่ตะเตรียมของไว้ให้เจ้าเยอะเชียว” ฮูหยินกล่าวไม่หยุด ด้วยความดีใจที่พบหน้าบุตรชาย

“ฮูหยิน พาเฟิงเอ๋อเข้าเรือนก่อนดีกว่า ลูกเดินทางมาเหนื่อยๆ ” แม่ทัพไป๋เอ่ยบอกฮูหยินของตน

“ได้ได้ น้องลืมตัวเจ้าค่ะ คิดถึงลูกมากไปหน่อย” ฮูหยินหันไปตอบสามี

“เข้าเรือนกันเถอะลูกที่นี่แดดร้อน”ฮูหยินไป๋กล่าว

“ขอรับ ท่านแม่ ” ไป๋หลิงเฟิงยิ้มให้มารดาของตน จากนั้นชายหนุ่มหันหน้าไปมองบิดาของตนแล้วกล่าว

“คารวะท่านพ่อ” ไป๋หลิงเฟิงหันไปประสานมือกำลังจะคุกเข่า

“อย่าพึ่งกล่าวอันใดเลยเข้าเรือนกันก่อนเถอะ”ท่านแม่ทัพกล่าวกับบุตรชายพร้อมเอามือโอบไหล่เข้าเรือน ชายหนุ่มพยักหน้ารับเดินเข้าเรือนพร้อมกัน

ด้านเว่ยซีอิงพอคุณชายใหญ่เข้าเรือนไปคุยกับบิดามารดา นางจึงได้รับหน้าที่ไปเตรียมน้ำอาบไว้ให้เจ้าของเรือน และชงชาไว้รอรับเจ้านาย หลังจากเว่ยซีอิงเตรียมน้ำเสร็จ นางกำลังจะเดินออกจากห้อง เดินไม่ทันระวังชนเข้ากับไป๋หลิงเฟิงที่กำลังเดินเข้ามาพอดีพร้อมทาสรับใช้คนสนิท เว่ยซีอิงตกใจทำอันใดไม่ถูกจึงก้มหน้าลง

“ขออภัยเจ้าค่ะ คุณชายใหญ่บ่าวมิได้ตั้งใจเจ้าค่ะ” เว่ยซีอิงกล่าวเสียงสั่น ชายหนุ่มพยักหน้า

“ไม่เป็นไร เจ้าออกไปได้ ที่เหลือข้าจะให้จงเยียนทำเอง" ชายหนุ่มกล่าวเสร็จเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ โต๊ะริมหน้าต่าง

“เจ้าค่ะ” เว่ยซีอิงตอบแล้วรีบเดินออกจากห้องไปทันที

“เฮ้อ เกร็งชะมัด หัวใจเหมือนจะหลุดออกมาเลย คนอะไรหน้าตาดีก็จริงแต่ยามหน้านิ่ง น่ากลัวชะมัด” หญิงสาวบ่นแล้วเดินไปหาจิงอี่ที่ห้องโถงไม่ไกลจากห้องเจ้าของเรือนนัก เพราะกลัวเจ้าของเรือนเรียกใช้แล้วไม่ได้ยิน จนเวลาล่วงเลยไปในยามโหย่ว (17.00 -18.59 น.) เจ้าของเรือนก็ยังไม่ถูกเรียกใช้ ทั้งสองจึงเดินไปใกล้ ๆ ห้องเจ้าของเรือน เห็นจงเยียนออกจากห้องมาพอดี

“พวกเจ้าทั้งสองมาก็ดีแล้ว คุณชายบอกจะไปทานข้าวเย็นกับท่านแม่ทัพและฮูหยิน พวกเจ้าไปแจ้งเรือนนั้นที” จงเยียนกล่าว

"เจ้าค่ะ พวกเราจะรีบไปแจ้งทันทีเจ้าค่ะ" จิงอี่กล่าวแล้วจับมือซีอิงเดินไปยังห้องโถงใหญ่กลางจวน พอแจ้งข่าวเสร็จทั้งสองก็กลับเรือนหลิ่งกวาง ไปแจ้งข่าวแก่จงเยียน

“ท่านจงเยียน ฮูหยินแจ้งว่าให้คุณชายใหญ่ไปร่วมทานข้าวได้เลยเจ้าค่ะ อาหารพร้อมแล้วเจ้าค่ะ” เว่ยซีอิงกล่าวแล้วก้มหน้าลง

"ได้ ข้าจะไปเรียนคุณชายเดี๋ยวนี้" กล่าวเสร็จชายหนุ่มเคาะประตูห้องแล้วตะโกนบอกเจ้านายของตน

"รู้แล้ว” ไป๋หลิวเฟิงตอบแล้วเปิดประตูเดินออกมาจากห้อง เดินนำหน้าไปยังห้องโถงใหญ่ทันที

ตั้งแต่ไป๋หลิงเฟิงกลับมาอยู่ที่จวน ในหนึ่งวันเขาไม่ได้ไปไหนเลยอยู่แต่ในห้องและออกจากห้องเฉพาะเวลาไปทานข้าวกับท่านแม่ทัพและฮูหยินเท่านั้น ส่วนเว่ยซีอิงแทบจะไม่ได้รับใช้คุณชายใหญ่ผู้นี้เลย ในทุก ๆ วันแค่เตรียมชงชา เตรียมอาหารเช้า อาหารกลางวัน อาหารว่าง ต้มน้ำเตรียมน้ำอาบไว้ให้เท่านั้น ที่เหลือเป็นหน้าที่ของจงเยียน นางจึงสบายไม่เหนื่อยเหมือนคนที่อยู่เรือนใหญ่ เวลาผ่านไปได้ 2 เดือน คุณชายใหญ่ผู้ที่ไม่เคยออกไปไหน จู่ ๆ ก็อยากออกไปนอกจวน และออกไปนอกจวนวันเว้นวัน ซึ่งไม่รู้ว่าไปที่ใด แต่เว่ยซีอิงไม่สน นางรู้สึกว่าพอเจ้าของเรือนไม่อยู่นางรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก ไม่ต้องกังวลกลัวเจ้านายจะเรียกหา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเรียกหาเลยก็ตาม ภายในจวนแห่งนี้มีศาลาริมสระน้ำตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจวน สระน้ำนี้มีดอกบัวสีขาวขึ้นเต็มสระสีขาวสลับเขียวเป็นภาพที่สวยงาม ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ ๆ ยิ่งได้กลิ่นหอมของดอกบัวลอยมาตามอากาศ เว่ยซีอิงเดินเล่นมาเรื่อยๆ จนถึงศาลาแห่งนี้

“ว้าว สวยจัง ไม่เคยเห็นดอกบัวที่สวยแบบนี้มาก่อนเลย ดอกก็ใหญ่ สีก็สวย อยากได้จัง” นางจึงเดินไปตามริมสระ มองเห็นดอกบัวดอกหนึ่ง ยังไม่บานเต็มที่ กลีบดอกสีขาวสะอาดตา นางอยากได้ขึ้นมา จึงพยายามเอื้อมมือไป จะดึงดอกบัวนั้น ขณะที่มือเอื้อมกำลังจะถึงดอกบัว จู่ ๆ ก็มีเสียงของใครบางคนดังขึ้น

“เจ้ากำลังจะทำอะไร” เว่ยซีอิงได้ยินเสียงเกิดตกใจกะทันหัน ขาที่ประคองตัวเอาไว้ดันล้าขึ้นมาทันที จึงทำให้ร่างของหญิงสาวตกลงไปในสระน้ำ ร่างของหญิงสาวดำดิ่งลงไปใต้น้ำหัวชนเข้ากับหินใต้น้ำจึงทำให้นางหมดสติจมลงไปใต้น้ำ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel