บทที่ 7 อยู่ด้านหลัง
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่ออยู่ดีๆ ก็มีเสียงดังขึ้นจากโต๊ะด้านหลังของผม
“เพล้ง!”
อ๊าก!
“นังนี่กล้าดียังไงถึงมาทำคนอย่างข้า!”
เสียงของไอ้เสี่ยเฒ่าคนหนึ่งโวยวายขึ้นมาเสียงดังกู่ก้องร้านทำให้คนแถวๆ นั้นต่างพากันหลบหลีกหนีเพราะความกลัว เว้นเพียงแต่กลุ่มของผมเท่านั้นที่ยังนั่งทานข้าวต่อด้วยความไม่สะทกสะท้าน
ผมเดาได้โดนไม่ต้องหันกลับไปมองให้เสียเวลาไอ้เสี่ยคนนั้นคงโดนผู้หญิงที่ชื่อเจนิสเอาอะไรอย่างหนึ่งทุ่มลงบนหัวแน่
“ปล่อยฉันนะไอ้เฒ่าหัวงู ปล่อย! ช่วยด้วยค่ะ ช่วยที ใครก็ได้ช่วยด้วย ผู้ชายคนนี้เขาลวนลามฉัน เมื่อกี้เขาจับก้นฉันด้วย”
เจนิสพยายามร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ที่มองอยู่รอบนอกตัวเธอ ในขณะที่มีชายคนหนึ่งพยายามเข้าไปเพื่อช่วยเหลือ ไอ้เสี่ยคนนั้นก็พูดขึ้นมา
“อย่ามายุ่งนังนี่มันเด็กของข้าดื้อจริงนะแอบหนีมาเที่ยวกับผู้ชายคนอื่นใช่ไหม?”
คำพูดของเจนิสมันไม่ได้ผลเมื่อไอ้เสี่ยเฒ่าหัวงูคนนั้นกับกระชากแขนของเธอก่อนที่จะเดินออกจากร้าน
“ไม่จริงนะคะ ฉันไม่ได้เป็นเด็กเขาไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำแล้วฉันทำงานอยู่ที่ร้านนี้ไม่ได้หนีออกมาเที่ยวอย่างที่เขาพูด ช่วยฉันด้วยนะคะ ช่วยด้วย!”
เสียงอันสั่นเครือของเธอลั่นวาจาออกมาอีกครั้ง รู้ได้ทันทีว่าเธอจะต้องร้องไห้อยู่แน่ในขณะนี้เพราะดูท่าทางจะไม่มีใครฟังที่พูดเลย
“จะเอาเมียกูไปไหน!”
จนกระทั่งในขนาดนี้ความอดทนของผมได้หมดลงแล้ว ผมจึงตะคอกขึ้นไปแบบนั้น
ความจริงผมไม่ชอบเสือกเรื่องของคนอื่นหรอกแต่กับเธอแล้วผมยอมรับว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ผมประทับใจไม่น้อย ไม่แต่งตัวโป๊เปลือยทำตัวติดดิน ผมลุกขึ้นจากโต๊ะตัวเองก่อนจะเดินไปประจันหน้ากับไอ้เสี่ยคนนั้นอย่างเปิดเผยแต่ยังไม่วายได้ยินไอ้เพื่อนเวรของผมพูดขึ้น
“คราวนี่ไอ้โซฟัสเอาจริงวะ” ไอ้เทลพูด
“รักแรกพบของมันป่าววะ” ไอ้แวนเดอร์พูด
“มันแอบซุกเมียไว้หรือวะ” ไอ้คิวพีพูด
“คนอย่างมันจะเป็นพลเมืองดีโดยไม่หวังผลยากวะ” ปิดท้ายด้วยไอ้รูธพูด
พอเจนิสเห็นผมก็สะบัดแขนออกจากการจับกุมของไอ้เสี่ยนั้นหลุดก็วิ่งมากระชากแขนของผมทันที
“ช่วยฉันด้วย ฉันไม่ได้เป็นเด็กเขานะ”
เธอรีบพูดก่อนจะกระชากแขนผมด้วยความขอร้อง
“ยุ่งอะไรด้วยวะไอ้หนู!” เสียงไอ้เสี่ยตัณหากลับที่อยู่ตรงหน้าผมถามขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
“แล้วยุ่งอะไรกับเมียกูวะ!”
เสียงของผมตอบกลับบ้างแล้วก็ส่งสายตาไปให้มันด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งๆ ที่ผมพูดไปแล้วนะว่าเธอคนนั้นเป็นเมียของผมแต่พวกมันก็ไม่ถอย แถมยังพูดขึ้นมาอีกครั้งในเชิงคำสั่ง
“ถ้าไม่อยากมีเรื่องส่งนังนั้นมาให้ข้า!”
ไอ้เสี่ยตัณหากลับคนเดิมพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“แต่กูอยากมีถ้าไม่อยากเข้าโลงตอนนี้ก็รีบไสหัวไปซะ”
ผมตอบพวกมันไปด้วยอารมณ์ที่ฉุนกว่าเก่าด้วยแรงโทสะที่เริ่มจะมากขึ้นแล้วผมยังไม่รู้ว่าจะควบคุมมันได้ขนาดไหน
“งั้นมึงก็ได้มีสมใจแน่แน่ไม่ใช่กับข้าแต่เป็นลูกน้องข้าต่างหาก เฮ้ย! มานี่หน่อย”
ไอ้เสี่ยตัณหากลับคนนั้นพูดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มเหยียดอย่างเหนือกว่าส่งมาให้กับผมก่อนที่มันจะเรียกลูกน้องทั้งสามคนให้วิ่งเข้ามาหา บอกได้เลยว่ามันกระจอกสำหรับคนอย่างผม
พวกมันคงยังไม่รู้สินะว่าผมเป็นใคร ร้ายกว่า เลวกว่า พวกมันขนาดไหน ทำไมต้องกลัวเพียงแค่ลูกน้องกระจอกสามคน!
“ครับเสี่ย มีอะไรให้พวกผมรับใช้ครับ”
“จัดการไอ้หน้าอ่อนนี้หน่อยมึงไม่ตายดีแน่ไอ้หนูเพราะลูกน้องข้าแต่ละคนเก่งด้านต่อสู้ทั้งนั้น ฮ่าๆ”
ผมเกือบจะตอบพวกมันไปแล้วแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีมือเล็กๆ เข้ามากระชากที่ต้นแขนใหญ่ของตัวเอง ก่อนที่เธอจะพูดขึ้น
“นายแบบนี้ไม่ไหวหรอก หนีเถอะสู้ไปก็เจ็บตัวเปล่าๆ นะ ขอบคุณมากนะที่ช่วยฉัน”
ผมมองลงไปที่ตาของเธออย่างอัตโนมัติ สายตาเธอมีแววความเป็นห่วงและความกลัวอยู่อย่างชัดเจน
ดวงตาระริกระรี่ตื่นตระหนกอยู่ตลอดเวลา
“เธอกลัวหรออยู่ข้างหลังไว้ก็แล้วกัน”
