บทที่ 6 อดีตที่ยากจะลืม 1
SOFUS: TALK
สายฝนที่ต่างโปรยปรายลงมาจากฟากฟ้าอันแสนกว้างใหญ่ที่ในตอนนี้ไม่ว่าจะมองไปยังทิศทางไหนก็เห็นแต่ความมืดครึ้มสีเทาปนดำทั่วไปหมด
มันเป็นสีแห่งความเศร้าหมองดูไม่มีชีวิตชีวาเอาเสียเลยแต่ทำไมคนอย่างผมถึงชอบมันนะหรือเพราะว่ามันเป็นสีที่สามารถปกปิดความรู้สึกของตัวเองไม่ให้แสดงออกไปได้
ผมยืนมองออกไปภายนอกจากกระจกบานใหญ่และหนาภายในห้องทำงานของตัวเองที่อยู่ชั้นบนสุดของห้าง MISCREANT เป็นห้างของพวกผมกลุ่ม 5 MISCREANT ได้ร่วมหุ้นกันสร้างขึ้นมาเพียงเพราะแค่อยากทำธุรกิจแค่นั้นไม่เคยคิดเลยว่ามันจะได้ผลตอบรับที่มากล้นจนผลกำไรของแต่ละปีสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุดนิ่ง
เพราะเหตุนี้ละมั้งไอ้เพื่อนเวรพวกนั้นมันถึงทิ้งให้ผมบริหารอยู่แค่คนเดียวส่วนพวกมันกลับสุขสำราญกับธุรกิจของตัวเองแล้วคอยแต่อ้างว่าเบื่อกับพวกตัวเลขบ้าง เบื่อพวกพนักงานสาวๆ บ้าง ที่เอาแต่มองและสิ่งที่พวกมันใช้อ้างโดยไม่มีเหตุผลเลยนั่นก็คือว่าเพราะผมเป็นคนที่เย็นชาทำอะไรต้องเนี๊ยบพูดคำไหนคำนั้น
พนักงานจึงเกรงใจผมมากเหมาะที่เป็นผู้บริหาร
ดูข้ออ้างร้อยแปดของพวกมันสิครับไอ้พวกเพื่อนเวรของผม ส่วนพวกมันจะมาหาผมก็เป็นบ้างครั้งเท่านั้น ไม่ใช่ว่าคนอย่างผมไม่ได้มีธุรกิจเป็นของตัวเองนะ
ผมก็มีเหมือนกัน
ผมไม่ชอบเลยที่จะอยู่นิ่งๆ เหมือนคนไม่มีอะไรจะทำแบบนี้ มันเป็นสิ่งที่ชอบทำให้จิตใจของผมฟุ้งซ่าน ชอบคิดถึงแต่พวกเรื่องเดิมๆ อยู่เสมอ
มีคนเคยบอกว่าสิ่งที่ตัวเราพยายามที่จะลืมมันให้ได้แต่ทำไมเรากลับจำมันได้จนขึ้นใจส่วนสิ่งที่พยายามจำมันกลับลืมได้ มันคงจะถูกสำหรับความคิดของผม ทำไมผมถึงจำสิ่งนั้นได้ขึ้นใจตัวเองเลยนะ
จำได้ไม่มีวันลืม
“ทำไมยังไม่ลืม...”
ผมมองออกไปดูบรรยากาศภายนอกก่อนที่จะพูดเปรยออกมาเบาๆ กับเรื่องนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ทำไมผมยังคิดถึงมันอยู่เสมอ ในหัวของผมคิดถึงแต่เรื่องของผู้หญิงคนนั้น
ผู้หญิงที่เคยทำให้ผมรู้ว่าความรักเป็นยังไง เธอเป็นคนแรกที่เป็นคนสอนผมให้ได้รู้จักกับเรื่องแบบนี้ เธอเป็นกำลังใจให้ผมในทุกๆ เรื่อง รอยยิ้มที่แสนสดใสที่เธอยิ้มให้กับผมมันเป็นกำลังใจอย่างดีเลย
เมื่อผมเหนื่อยจากเรื่องต่างๆ นั้นเธอก็จะคอยปลอบใจอยู่เสมอแต่เรื่องมันก็ไม่เป็นแบบนั้น ความสุขมันอยู่กับผมได้ไม่นาน ไม่ยั้งยืนเหมือนกับคนอื่นๆ
เธอจากผมไปเมื่อสามปีก่อน...
สามปีก่อน
ตอนนั้นผมอายุเพียงแค่ยี่สิบเอ็ดปีเท่านั้นวันหนึ่งผมได้จัดเจอเพื่อนตัวเองในกลุ่มทั้งห้าคนไปนั่งอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเป็นร้านอาหารกึ่งคลับ ร้านอาหารแถวนี้เป็นที่นิยมของวัยรุ่นและไอ้พวกเสี่ยๆ ทั้งหลาย
“อาหารที่สั่งได้แล้วค่ะ”
มีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นสาวเสิร์ฟเข้ามาเสิร์ฟอาหารที่พวกผมสั่ง เมื่อผมมองการแต่งตัวของเธอมันต่างจากสาวเสิร์ฟคนอื่นๆ มาก
เธอสวมเพียงแค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนขายาวเท่านั้น หน้าตาก็ไม่แต่งจัดจ้านเหมือนกับคนอื่นๆ
“เจนิสเธอไปเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะห้าแทนฉันหน่อยสิ ฉันปวดท้องน่ะขอไปเข้าห้องน้ำก่อน”
เจนิส?
ผมรู้ชื่อของเธอแล้ว
ในขณะที่ผมได้แต่มองเธออยู่ก็มีเพื่อนของเธอเข้ามาพูดกับเธอเพื่อขอให้เธอไปเสิร์ฟโต๊ะห้าซึ่งโต๊ะนั่นเป็นไอ้เสี่ยเฒ่าหัวงูตัณหากลับอยู่ ดูก็รู้ว่าเธอถูกเพื่อนตัวเองหลอกเข้าแล้ว อยากดูต่อจริงๆ ว่าเธอจะเชื่อหรือป่าว?
“ได้สิจ๋า เดี๋ยวฉันไปเสิร์ฟแทนให้นะ ขอจัดการโต๊ะนี้ก่อน”
นั้นไง?
เธอเชื่อจริงๆ ด้วย
ทำไมถึงได้เป็นคนที่ซื่อบื้อได้ขนาดนี้วะ ดูแค่นี้ก็รู้ทำไมยังดูไม่ออกอีกหรือไงเมื่อเธอเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะผมเสร็จก็เดินออกไป
“มองอยู่ได้วะ สนใจหรือไงไอ้เชี่ยโซฟัส”
เสียงของไอ้แวนเดอร์พูดขึ้นมาพร้อมกับมองมายังผม ผมเพียงแค่ยิ้มให้กับมันไม่ได้สนใจอะไรนัก ก่อนจะก้มหน้าทานข้าวต่อ
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่ออยู่ดีๆ ก็มีเสียงดังขึ้นจากโต๊ะด้านหลังของผม
