3เมิน
ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ เขานั้นฉวยโอกาสหอมแก้มหญิงสาวฟอดใหญ่ เฟื้องลดากลัวว่าจะมีคนผ่านมาเห็นจึงพยายามดันชายหนุ่มออก
“ถ้าใครมาเห็นจะทำยังไงคะ”
“ก็ไม่ต้องทำอะไร ผมไม่ได้คิดจะปิดอยู่แล้ว”
เฟื้องลดาไม่ค่อยสบายใจ เธอพยายามรักษาระยะห่างกับรองประธานหนุ่มมาโดยตลอด แม้จะเป็นคนรักกันมานานหลายปีก็ตามแต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ยังไม่มั่นใจที่จะเปิดตัว เพราะกลัวว่าจะมีผลกระทบต่อคนรัก
เธอเป็นแค่เลขาในขณะที่เขาเป็นลูกชายแท้ๆของประธานบริษัท ความแตกต่างทางฐานะทำให้หญิงสาวนั้นพยายามปิดบังเรื่องความสัมพันธ์เรื่อยมา
แต่ชานนท์ก็พยายามประกาศให้โลกรู้เช่นกัน
หญิงสาวไม่อยากให้ชายหนุ่มหุนหันพลันแล่นจนเกินไปจึงได้ยับยั้งเอาไว้ โชคดีที่เขาพอเชื่อฟังเธออยู่บ้าง
“คุณก็รู้ว่าแม่คุณไม่ค่อยชอบฉัน เราไม่ควรทำอะไรให้ท่านรู้สึกไม่สบายใจนะคะ”
เฟื้องลดาไม่อยากทำร้ายจิตใจคุณหญิงจรัสพร หลายครั้งที่อีกฝ่ายออกปากขอให้เธอไปจากชีวิต ชานนท์พร้อมทั้งเสนอเงินจำนวนมาก แต่เฟื้องลดาก็ปฏิเสธมาโดยตลอด โดยหวังว่าการกระทำของเธอจะทำให้คุณหญิงจรัสพรมองเธอในแง่ดีมากขึ้น แต่ กลับกลายเป็นว่ายิ่งสร้างเสริมความไม่พอใจให้
“ผมกำลังสู้กับแม่อยู่นะรู้ไหม แล้วผมก็ไม่อยากให้คุณยอมแพ้ สัญญากับผมได้ไหมว่าเราจะสู้ไปด้วยกัน”
ชายหนุ่มเอ่ยชิดติดใบหูทำให้หญิงสาวรู้สึกขนลุกขนชัน
“ฉันสู้แน่ค่ะ ถ้าความสัมพันธ์ของเราไม่ทำให้คุณต้องเดือดร้อน”
แต่พอเธอนั้นได้ฟังเหตุผลของคุณหญิงจรัสพรแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจ คนเป็นแม่ต้องการให้ชานนท์แต่งงานกับผู้หญิงที่เพียบพร้อม เพื่อส่งเสริมกันและกัน ซึ่งข้อนี้เธอไม่สามารถทำให้ได้
เธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงที่มาจากครอบครัวธรรมดา ไม่ได้มีชื่อเสียงในวงกว้าง ไม่ได้มีอิทธิพลหรืออำนาจที่จะช่วยผลักดันธุรกิจของชายหนุ่มให้เติบโตยิ่งขึ้นได้ ด้วยเหตุผลนี้หญิงสาวจึงรู้สึกผิดกับชายหนุ่มเสมอมา
เฟื้องลดามองว่าตัวเองเป็นภาระ ทำให้ชานนท์ต้องเดือดร้อน เป็นเพียงจุดด้อยในชีวิตเขา ไม่มีค่าไม่มีราคาให้ผู้คนจดจำใส่ใจ แต่หากชายหนุ่มได้แต่งงานกับผู้หญิงที่มาจากตระกูลร่ำรวยหรือมีชื่อเสียง ชีวิตของเขาอาจจะไปได้ไกลกว่านี้
“ผมรู้นะว่าคุณคิดอะไรอยู่ อย่าคิดมากได้ไหมลดา ไม่ว่าใครจะพูดอะไรก็เปลี่ยนใจผมไม่ได้ ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่ผมจะแต่งงานด้วยก็คือคุณ”
ไม่ว่าเวลาจะผ่านมากี่ปีเขาก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่าจะแต่งงานกับเฟื้องลดาเท่านั้น ชานนท์ไม่เคยสนใจ แม้ว่าแม่ของเขาจะพยายามแนะนำผู้หญิงมากมายให้รู้จัก ต่อให้มีคนสวยกว่า รวยกว่า หน้าที่การงานดีกว่าเฟื้องลดาผ่านเข้ามาในชีวิต ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหัวใจของเขาได้
คนพวกนั้นรวมถึงแม่กำลังดูถูกความรักที่มั่นคงของเขา ทำให้ชานนท์ไม่ชอบใจและพาตัวเองออกมาจากสังคมที่เคยอยู่
“เย็นนี้ไปกินข้าวที่บ้านผมนะ ผมอยากให้คุณเข้าหาแม่ผมบ่อยๆ ผมเชื่อว่าถ้าท่านได้ใกล้ชิดคุณ ท่านต้องรักคุณแน่นอน”
ชายหนุ่มเอ่ย แม้หญิงสาวจะรู้สึกคัดค้านในใจแต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้
หลังจากที่คีย์ข้อมูลในคอมพิวเตอร์ครบถ้วนเฟื้องลดาก็ออกเดินทางพร้อมชานนท์ ทั้งสองมาถึงคฤหาสน์ใหญ่ มีแม่บ้านออกมาต้อนรับ
ชานนท์พาคนรักเดินเข้ามาด้านใน ที่โต๊ะอาหารแม่ของเขานั่งรออยู่ นอกเหนือจากนี้ยังมีจาตุรงค์และจไมพรซึ่งเป็นน้าชายและน้าสาวร่วมโต๊ะอยู่ด้วย
“มาแล้วหรือนนท์ นั่งสิ”
ชายวัยกลางคนเอ่ยทักทายชานนท์ แต่เมื่อเฟื้องลดายกมือไหว้ทุกคนก็พร้อมใจกันเมิน หญิงสาวรู้สึกใจเสีย เธอสบตาคนรักก่อนที่เขาจะกระชับฝ่ามือสอดประสานแน่นขึ้น
“ไม่เป็นไรนะ ผมอยู่ตรงนี้”
ด้วยกำลังใจจากชายคนรักทำให้หญิงสาวนั้นกล้าที่จะนั่งร่วมโต๊ะกับแม่และญาติของเขา คุณหญิงจรัสพรหน้าตึง เธอปลายตามองลูกชายอย่างไม่พอใจ ขณะที่แม่บ้านกำลังจะตักข้าว จู่ๆหญิงวัยกลางคนก็เอ่ยขึ้น
“เฟื้องลดา เธอช่วยตักข้าวให้ทุกคนหน่อยได้ไหม”
หญิงสาวพยักหน้า รับโถข้าวจากแม่บ้านและค่อยๆตักใส่จานทุกคนอย่างระมัดระวัง แต่ขณะที่ เฟื้องลดากำลังจะนั่งคุณหญิงจรัสพรก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“วันนี้คนสวนไม่สบาย เลยไม่มีคนรดน้ำแปลงดอกไม้ให้ฉัน รบกวนเธอหน่อยก็แล้วกันนะ”
เฟื้องลดาที่ได้ยินแบบนั้นก็ลุกขึ้น เห็นสายตาของคนรักแล้วเธอก็ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆพร้อมกับแตะมือลงที่แขนของเขา ชานนท์พยายามจะปกป้องแต่หญิงสาวขอร้องไม่ให้เขาทำแบบนั้น ยิ่งชายหนุ่มออกตัวมากเท่าไหร่แม่ของเขาก็จะยิ่งเกลียดเธอมากขึ้น
“ไม่เป็นไรค่ะ ลดาทำได้”
เธอกระซิบบอกชายหนุ่มและเดินออกไปพร้อมแม่บ้าน ชานนท์มองตามร่างบางก่อนจะหันมองผู้เป็นแม่
“กินข้าวกันได้แล้วทุกคน หกโมงเย็นแล้ว ฉันหิวจนจะเป็นลม มัวแต่เสียเวลากับเรื่องไร้สาระ
ประโยคสุดท้ายจงใจกระแทกเสียงพร้อมกับปรายตามองลูกชาย เพื่อสื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าเรื่อง ไร้สาระที่ว่าเกี่ยวข้องกับเฟื้องลดาโดยตรง
ชานนท์พยายามข่มอารมณ์ ยังไงคนตรงหน้าก็เป็นแม่ของเขา แม้จะทำเรื่องไม่ถูกต้องแต่ถึงอย่างนั้นลูกอย่างเขาก็ไม่มีสิทธิ์ต่อว่า
กว่าจะรดน้ำต้นไม้เสร็จก็กินเวลานานเกือบชั่วโมง หญิงสาวนั่งลงปาดเหงื่อ เธอทั้งร้อนทั้งหิวแต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องอดทน แม่บ้านสาวเห็นใจที่เธอถูกกลั่นแกล้งจึงแอบนำน้ำมาให้ดื่ม
“ขอบคุณนะคะ”
เฟื้องลดายกมือไหว้ ทำให้แม่บ้านรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
“คุณลดาอย่าไหว้ฉันเลยค่ะ”
“ทำไมล่ะคะ”
หญิงสาวไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายหนึ่งถึงไม่ให้เธอไหว้ขอบคุณ
“อีกหน่อยคุณลดาก็ต้องเป็นสะใภ้บ้านนี้ คุณอย่าไหว้ฉันเลยนะคะ”
เฟื้องลดายกยิ้มในตาเศร้า เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เป็นสะใภ้บ้านนี้หรือเปล่า แม้ว่าชานนท์จะยืนหยัดรักเธอเพียงคนเดียวแต่อีกฝ่ายก็เป็นแม่ เขาคงจะรู้สึกลำบากใจไม่น้อยถ้าต้องขัดแย้งกับ ความต้องการของคุณหญิงจรัสพร
“คงอีกนานเลยล่ะค่ะกว่าที่คุณหญิงจะยอมรับฉัน”
“คุณหญิงไม่ใช่คนใจร้ายหรอกค่ะ คุณเป็นคนขยันขันแข็งนิสัยดี สักวันคุณหญิงก็ต้องใจอ่อน อย่ายอมแพ้นะคะ ฉันเชื่อค่ะว่าความดีจะชนะทุกสิ่งทุกอย่างได้”
แม่บ้านเอ่ยให้กำลังใจ เธออยากให้เฟื้องลดาเป็นเจ้านายคนต่อไป เพราะสัมผัสได้ว่าหญิงสาวเป็นคนอ่อนโยนจริงใจ ไม่ร้ายกาจเหมือนใครบางคน ที่มักจะแวะเวียนมาที่นี่อยู่เสมอ!
