โจรร้าย
หลังจากทิ้งร่างไร้สติของจูผิงเจียวไว้ข้างทาง จูถานอิงก็เดินกลับบ้านด้วยท่าทีสบาย ๆ แทบจะไม่รู้เลยว่าเธอแอบไปทำร้ายคนมา
ดีที่ตรอกซอยในหมู่บ้านแห่งนี้เงียบมากคนส่วนใหญ่ยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ หญิงสาวสะพายกระเป๋า อัดแน่นไปด้วยข้าวของและเงินที่ควรเป็นของเธอตั้งแต่ต้น เธอใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้าน แล้วจัดการวางกระเป๋าลงถอดเสื้อคลุมแขวนไว้ตรงมุมห้อง
ก่อนจะค่อย ๆ สำรวจว่าของที่ยัยป้านั่นนำมาวันนี้มีอะไรบ้าง เธอสำรวจพบว่ามีข้าว 3 กิโลกรัม เนื้อหมู 2 กิโลกรัม รวมถึงผักสดและหมั่นโถวสี่ลูก
ขณะนั้น ลูกชายตัวน้อยกะพริบตาขึ้นช้า ๆ เมื่อได้กลิ่นอาหาร เขารู้สึกหิวเหลือเกินอีกทั้งเมื่อวานตอนเย็นเขายังไม่ได้กินอะไรรองท้องเลยสักนิด เพราะญาติใจร้ายมาขโมยเงินน้าไปหมด เด็กชายคิดอย่างสิ้นหวัง เขาคิดว่าเขาหิวจนเกินไปจึงได้กลิ่นอาหารโชยมาแล้ว
รอให้เขาโตขึ้นเขาจะไม่ยอมให้คนใจร้ายมาเอาของของเขาไปได้แน่
"แม่ไปไหนมาเหรอครับ?"
จูถานอิงหันไปมองเด็กชายที่กำลังมองมาด้วยแววตาอยากรู้ ดวงตาคู่นั้นไร้เดียงสาเกินกว่าจะต้องมารับรู้ว่าก่อนหน้านี้
แม่ของเขาเพิ่งไปทำร้ายคนมาทว่าจูถานอิงจะร้ายกาจแค่ไหน เมื่อเธอมาเป็นแม่แล้วต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่ลูกของเธอ
"แม่ไปเอาของที่ควรเป็นของเรากลับมา เอาล่ะตื่นแล้วรีบมากินหมั่นโถวกับข้าวต้มนี่ก่อน" เธอตอบลูกด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“ครับแม่”
เด็กชายยังสงสัยแต่เขาพยักหน้าอย่างว่าง่าย เพราะแม่ของเขาเป็นผู้หญิงที่จิตใจดีอ่อนโยน ไม่มีทางจะไปทำร้ายคนเพื่อแย่งสิ่งของมาแน่ บางทีแม่อาจไปขอร้องคนใจร้ายมา
เด็กชายลุกขึ้นมากินอาหารอย่างรวดเร็วด้วยความหิว และคิดว่าจะต้องโตเร็วกว่านี้เพื่อปกป้องผู้เป็นแม่จากคนไม่ดีพวกนั้น
จูถานอิงนั่งลงตรงข้าม ค่อย ๆ กินหมั่นโถวลูกหนึ่งข้างลูกชายตัวน้อย เธอจะต้องขุนเขาให้อวบอ้วนกว่านี้ให้ได้ นี่มันผอมเกินไปแล้ว เด็กน้อยต้องตัวอวบอ้วนกว่านี้ถึงจะน่ารัก
จนเมื่อเขากินเสร็จจึงนึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานแม่แทบไม่มีลมหายใจแล้ว เด็กชายจึงเงยหน้าขึ้น เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"แม่หายดีหรือยังครับ?"
จูถานอิงเงยหน้าขึ้นมองลูกชาย พบว่าเขาเป็นห่วงแม่เพราะว่าเมื่อวานจูถานอิงคนเก่าได้ตายไปแล้วจริง ๆ ถ้าหากเธอไม่มาอยู่ตรงนี้เด็กชายตรงหน้าจะเป็นอย่างไร? เมื่อคิดถึงตรงนี้ดวงตาของเธอก็ฉายแววโกรธเคือง ก่อนจะปั้นหน้าตอบลูกชายด้วยรอยยิ้ม
"แม่ไม่เป็นไรแล้วล่ะ"
เด็กชายยิ้มกว้างอย่างโล่งใจ เขานึกว่าแม่จะไม่ฟื้นขึ้นมา เมื่อวานเขากลัวมากว่าแม่จะไม่กลับมาอีกแล้ว
สำหรับจูถานอิงเธอจะต้องเอาคืนคนที่ทำร้ายร่างเดิมอย่างสาสม
หลังจากมื้อเช้าอิ่มท้อง จูถานอิงเก็บจานชามอย่างรวดเร็ว ล้างเสร็จแล้วก็จัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเพื่อไปทำงานเย็บผ้าอย่างเช่นทุกวัน
เป็นงานรับจ้างเย็บผ้าในตัวอำเภอ เป็นช่องทางเดียวที่เธอพอจะเกาะได้ตอนนี้ เป็นแค่การช่วยงานร้านตัดเสื้อเล็ก ๆ เย็บกางเกงนักเรียน เสื้อเชิ้ต ให้ค่าจ้างตามชิ้นงานที่ทำมากก็ได้มากตามปริมาณ
เธอจัดแจงนำหมั่นโถวที่เหลือสองชิ้นไปด้วยเพื่อกินในยามเที่ยง และเก็บข้าวของที่ได้มาจากจูผิงเจียวอย่างมิดชิด จากนั้นก็คว้ามือเล็ก ๆ ของลูกชายเดินออกไปข้างนอก
"ไปกันเถอะ"
สองแม่ลูกเดินไปยังปากซอยถนนใหญ่ ที่นั่นมีรถรับจ้างจอดรอผู้โดยสารอยู่ จูถานอิงพาลูกขึ้นไปนั่งตรงเบาะหลังทันที
“แม่ครับวันนี้จะนั่งรถไปเหรอครับ” เพราะปกติแม่จะเดินเท้าไปตลอดไม่ยอมขึ้นรถรับจ้างไปอย่างเด็ดขาด ทำให้เด็กชายสงสัยขึ้นมา
ทว่าจูถานอิงคนใหม่เป็นคนรักสบายเรื่องอะไรที่เธอจะต้องเดินทางไกลด้วยเล่า
เธอมองลูกชายขี้สงสัยแล้วยิ้มตอบ “ต่อไปนี้แม่จะไม่เดินอีกแล้ว จากวันนี้ไปแม่จะพาขึ้นรถตลอดเข้าใจไหม”
“ครับแม่ พวกเราจะนั่งรถตลอด”
รถโดยสารค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากท่าช้า ๆ เด็กชายเกาะแขนแม่แน่น มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยตาเป็นประกาย สำหรับการได้นั่งรถวันนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
จูถานอิงมองดูเด็กชายดูตื่นเต้นกับการได้นั่งรถ เขาโผล่หน้าออกไปมองวิวสองข้างทาง ตาเป็นประกาย เธอได้แต่โอบลูกเอาไว้ มืออีกข้างวางบนเข่าดวงตาจับจ้องถนนข้างหน้า
ผ่านไปไม่นานก็ถึงตัวอำเภอแล้ว จูถานอิงเดินไปจ่ายค่ารถและเดินไปยังร้านตัดเย็บตามความทรงจำ
เมื่อเธอมาถึงป้าโจวเจ้าของร้านรีบเข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงทันที เพราะว่าได้ยินข่าวจากญาติสองคนที่เป็นลูกสาวฝาแฝดของจูผิงเจียวมาว่าแม่ของพวกหล่อนถูกโจรปล้น จนตอนนี้นอนอยู่โรงพยาบาล ทำให้วันนี้พวกหล่อนไม่ได้มาทำงานในวันนี้
“ถานอิง เสี่ยวอันมากันแล้วเหรอ ป้าล่ะเป็นห่วงว่าจะเจอโจรร้ายเข้าอย่างผิงเจียวเมื่อเช้านี้”
เธอกล่าวอย่างตื่นตระหนกเพราะว่าทางที่โจรดักปล้นนั้นไม่ไกลจากบ้านของถานอิงเท่าไหร่
จูถานอิงพบว่าป้าโจวในความทรงจำเป็นคนที่มีบุญคุณของร่างนี้เพราะว่าสงสารเธอที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวและจึงรับเธอเข้ามาทำงานในร้านนี้
เธอสำรวจพบว่า แม้ว่าร้านแห่งนี้จะไม่ใหญ่เท่าไหร่แต่ก็สะอาดสะอ้านอย่างมาก อีกทั้งยังให้เสี่ยวอันลูกของเธอเล่นที่ร้านกับหลานของป้าโจวได้ ข้อนี้ถือว่าเป็นการดีอย่างมากสำหรับเธอในตอนนี้
ทว่าป้าโจวไม่รู้เลยว่าโจรที่ว่าอยู่ตรงหน้าหล่อนแล้ว จูถานอิงจึงรีบแสร้งว่าตนหวาดกลัวขึ้นมาในทันใด
“จริงเหรอคะ? ฉันไม่รู้มาก่อนเลย แล้วป้าเป็นอย่างไรบ้าง”
“เฮ้อ หล่อนเข้าโรงพยาบาลอยู่เลยตอนนี้อาการน่าจะหนักอยู่พอตัว ไม่รู้ว่าหล่อนไปล่วงเกินใครมา”
แม้ว่าพฤติกรรมของจูผิงเจียวจะน่ารังเกียจแต่เมื่อใครได้ยินคำว่าโจรก็กลัวกันทั้งนั้น และเพราะห่วงถานอิงป้าโจวจึงร้อนใจ
จูถานอิงรู้สึกซาบซึ้งใจที่ป้าโจวเป็นห่วง แม้ว่าญาติของเธอแท้ ๆ ยังเทียบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
จูถานอิงยังคงแสร้งตื่นตระหนกต่อไปพลางถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างหวาดกลัว ส่วนเสี่ยวอันเมื่อมาถึงร้านก็ไปเล่นกับเพื่อนแล้ว และเขาคงนึกไม่ถึงด้วยซ้ำว่าโจรจะเป็นแม่ของเขา อีกทั้งเมื่อเขาได้ยินข่าวก็ไม่ได้เป็นห่วงอย่างพร้อมทั้งสมน้ำหน้าไปด้วย คนชั่วอย่างนั้นสมควรได้รับกรรมแล้ว
ทว่างานของวันนี้กลับมีมากกว่าทุกวันเพราะอีกสองคนไม่มาทำงาน ทำให้จูถานอิงต้องเร่งทำงานจนหัวหมุน แม้ว่าจะมีความทรงจำของร่างเดิม ทว่าสายลับอย่างเธอไม่เคยเย็บผ้ามาก่อนทำให้งานล่าช้ากว่าที่คิด แต่ว่าป้าโจวก็ไม่ได้ตำหนิเธอแต่อย่างใดเพราะว่าคนงานขาดไปตั้งสองคน
