ขอเงิน
พอเลิกงานจูถานอิงก็พาเสี่ยวอันกลับบ้าน ท่ามกลางความปวดหลังปวดเอวถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ดีแน่ คนอย่างเธอจะต้องมาลำบากเย็บผ้าตลอดไม่ได้ ระหว่างนั่งรถกลับจูถานอิงครุ่นคิดมาตลอดทางว่าจะทำมาหากินอะไรดีในโลกใบใหม่ที่ไม่คุ้นเคยเลยแห่งนี้ อีกทั้งเย็บได้แค่ตัวละไม่กี่หยวนเอง
“แม่ ได้ยินข่าวหรือยังครับ ไม่น่าเชื่อว่าหล่อนจะโดนโจรปล้น”
เสี่ยวอันไม่ได้คิดสงสารแต่อย่างใด และเขาก็ไม่นับถือหล่อนว่าเป็นญาติของเขาด้วยซ้ำ แต่ทว่าเขารู้สึกเหมือนเรื่องราวมันค่อนข้างแปลกไป เพราะปกติมีแต่จูผิงเจียวที่ทำตัวเป็นโจรเสียเอง
จูถานอิงหลุดออกจากความคิดเมื่อลูกชายกล่าวถาม แต่เธอจะบอกลูกชายไม่ได้ว่าเธอเองที่ลงมือน่ะ อย่างไรก็ตามเธอต้องรักษาภาพลักษณ์ที่ดีต่อลูกชาย
“อาจจะเป็นเพราะหล่อนไปล่วงเกินคนอื่นมาก่อนหรือเปล่า”
จูถานอิงกล่าวแต่เธอไม่ได้โกหกลูกชายแต่อย่างใด เพราะหล่อนมาล่วงเกินคนอื่นไว้ก่อนเองช่วยไม่ได้
เด็กน้อยพยักหน้าเขาก็คิดอย่างแม่ว่า เพราะหล่อนไปล่วงเกินคนอื่นมาถึงมีจุดจบแบบนั้น
เมื่อมาถึงบ้านจูถานอิงจึงไปทำอาหารค่ำ เธอมองดูข้าวของที่มีอยู่ในตู้ว่าจะทำอะไรกินดี ผ่านไปไม่นานเธอจึงทำหมูผัดพริกหยวกและซุปไข่สำหรับเสี่ยวอัน
เสี่ยวอันเขามาถึงแล้วแม่ก็ให้ไปอาบน้ำก่อนและมากินข้าว เมื่อมาถึงโต๊ะอาหารพบว่ามีอาหารมากมายกว่าแต่ก่อน มันยิ่งกว่างานวันปีใหม่ที่เขาเคยเจอมาทั้งหมด
“แม่ทำไมวันนี้ถึงมีเนื้อมากมายล่ะครับ”
“ทำไม ไม่อยากกินเนื้อเหรอ” จูถานอิงตอบลูกชายที่ขี้สงสัยของเธอ
เสี่ยวอันรู้สึกแปลกใจตั้งแต่แม่ฟื้นขึ้นมาแล้ว ทว่าเขารู้ว่าแม่ที่เป็นแบบนี้ดีกว่าเดิมแม้ว่าจะสิ้นเปลืองไปหน่อย
“ทำไมจะไม่กินล่ะ ผมแค่แปลกใจ เพราะนาน ๆ ทีถึงจะได้กินเนื้อ”
จูถานอิงยิ้มให้ลูกชายพลางนึกสงสารชีวิตที่ผ่านมาของทั้งสองแม่ลูก หากพวกเขาไม่มีญาติที่คอยมารีดไถละก็คงไม่อดอยากขนาดนี้หรอก
“ถ้าอย่างนั้นก็กินเยอะ ๆ จะได้อวบอ้วนเร็ว ๆ”
เด็กชายพยักหน้าและรีบกินอาหารตรงหน้าอย่างรวดเร็ว เขาพบว่าอาหารตรงน่าอร่อยมากอย่างที่ไม่เคยกินมาก่อนในชีวิต…
จูถานอิงยังคงไปรับจ้างเย็บผ้าต่อแม้ว่าจะไม่ใช่ทางของเธอก็ตาม เมื่อมาถึงร้านเธอก็พบว่าวันนี้ญาติทั้งสองของเธอกลับมาทำงานแล้ว ทว่าจูถานอิงไม่ได้สนใจพวกหล่อนแต่อย่างใด
จนกระทั่งตอนเลิกงาน จูถานอิงต่างคนต่างไปกับสองพี่น้องนี้อยู่แล้วและไม่คิดจะนับญาติกับพวกหล่อนด้วย เพราะในความทรงจำทั้งสองคนนี้ต่างทำตัวน่ารังเกียจไม่ต่างกับแม่ของพวกเธอเลยสักนิด
ทว่าก่อนที่จูถานอิงจะจากไปพวกเธอก็มาขวางหน้าเอาไว้ แฝดผู้พี่เอ่ยขึ้นก่อน “เดี๋ยวพวกฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ”
จูถานอิงเหลือมองทั้งสองก่อนจะกล่าวขึ้น “มีอะไร”
จูซานฮวาเห็นว่าจูถานอิงไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวพวกเธออย่างเมื่อก่อนจึงรู้สึกแปลกใจ ก่อนพี่สาวของเธอจะเอ่ยตอบขึ้น
“ถานอิง พอจะมีเงินให้พวกเราไหม หรือไม่ก็วันที่ 15 เงินค่าแรงออกเธอก็เอาเงินส่วนนั้นมาให้พวกฉันแทนก็ได้”
นี่คือท่าทางคนมาขอเงินและไม่ได้บอกว่าจะยืมเลยด้วย หล่อนกล่าวขึ้นอย่างไม่สนใจว่าจูถานอิงกับลูกจะอยู่อย่างไรถ้าพวกเอาเงินไปหมดแล้ว
เสี่ยวอันเมื่อได้ยินเขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก ไม่กี่วันก่อนแม่ของพวกเธอเพิ่งจะมารีดไถเอาเงินจากแม่ของเขาอยู่เลย พวกเธอยังคิดจะมาขอเงินอีกเหรอ คนในครอบครัวนี้ช่างน่ารังเกียจเหลือทน
คำขอหน้าด้าน ๆ ของลูกพี่ลูกน้องสองคนนี้ ทำให้จูถานอิงได้ยินถึงกับอยากหัวเราะให้ความหน้าด้านไร้ยางอายของพวกเธอมาก
จูซานฮวาแฝดผู้น้องรีบเอ่ยขึ้น “ไม่ใช่ว่าพวกเราอยากจะได้เงินเธอหรอกนะ แต่ว่าเรื่องนี้พวกเราจำเป็นต้องเอาเงินไปเป็นค่ารักษาของแม่ที่เข้าโรงพยาบาล”
เหอะ! ไม่อยากได้เงินแล้วจะมาขอทำไมวะ
จูถานอิงมองท่าทางของพวกเธอทั้งสองก่อนจะโต้กลับไป “เมื่อต้นเดือนก่อนแม่ของพวกเธอยังมาเอาเงินของฉันไปจนหมด แล้วจะยังมาเอาเงินค่าแรงของฉันอีกเหรอ หน้าด้านทั้งแม่ทั้งลูกจริง ๆ”
จูอ้ายชุนและจูซานฮวาเมื่อได้ยินจูถานอิงกล่าวต่างโมโหหล่อนอย่างมาก ยัยนี่นับวันยิ่งแข็งข้อขึ้นเรื่อย ๆ ไม่เห็นเหรอว่าครอบครัวพวกเรากำลังลำบาก
“หน็อยนังถานอิง แกก็รู้ว่าพวกเราถูกโจรปล้นเงินไปและป้าแท้ ๆ ของหล่อนกำลังเข้าโรงพยาบาลอยู่นะ” จูอ้ายชุนกล่าวขึ้นอย่างโมโหจนเนื้อกระเพื่อม
“มาพูดอย่างนี้ได้ยังไงครับ พวกเราก็ไม่มีเงินเหมือนกัน” เสี่ยวอันโต้กลับอย่างโมโหเหมือนกัน
จูถานอิงไปคว้ามือลูกชายมาจับไว้และกล่าวขึ้นอย่างไม่แยแส “ต้องขอโทษด้วยนะคะพี่อ้ายชุนกับพี่ซานฮวาพวกเราไม่มีเงินให้หรอกค่ะ อีกอย่างเงินค่าแรงของฉันก็อย่าหวังว่าจะเอาไป”
ไม่รอให้พวกหล่อนได้กล่าวอะไรจูถานอิงก็กล่าวตัดบทและพาลูกชายกลับบ้านทันที เรื่องอะไรเธอต้องเอาเงินให้หมดให้ญาติเฮงซวยนั่นด้วย!
“ไปขึ้นรถกันเถอะเสี่ยวอัน”
“ครับแม่”
ทั้งสองคนได้แต่มองจูถานอิงเดินไปขึ้นรถอย่างโมโห ก่อนที่จูซานฮวาจะเอ่ยปลอบผู้เป็นพี่
“พี่อย่าโมโหไปเลย เมื่อเงินเดือนของมันออกพวกเราค่อยไปแย่งมาก็ได้ค่ะ”
เมื่อจูอ้ายชุนได้ยินน้องสาวเอ่ยขึ้นก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ใช่รอให้เงินเดือนออก นังนั่นจะปฏิเสธพวกเราก็เอามาจากหล่อนได้อยู่ดี”
ก่อนที่พวกเธอจะเดินกลับบ้านพร้อมกับเสนอแผนการว่าจะจัดการกับจูถานอิงอย่างไรต่อ
